Pacific Rim อีกซักกระทู้ ทำไมต้องสร้างหุ่นยนต์ไปสู้กับไคจู น่าจะมีทางเลือกอื่นที่ฉลาดกว่า ?

ลองหาการ์ตูนเล่มนี้มาอ่านดูครับ มันมีคำตอบที่เสริมจากตัวหนังอยู่หลายอย่าง ทั้งเรื่องที่เลือดของไคจูเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตและสภาพแวดล้อมทั้งปวง ทั้งเรื่องที่ไคจูมีพัฒนาการขึ้นทุกครั้งที่ปรากฏตัวเพื่อต้านทานการตอบโต้ของเหล่ามนุษย์ ทั้งเรื่องระบบบังคับควบคุมของตัวหุ่น ที่มีคนบอกว่าสามารถใช้อาวุธในปัจจุบันหรือแผนการรบกำจัดพวกไคจูได้นั้น ผมบอกว่าทำได้ครับแต่ไม่สำเร็จในทุกครั้งแถมความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจไม่สามารถควบคุมขอบเขตได้ด้วย ที่หุ่นเยเกอร์นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีนั้นเพราะตัวหุ่นสามารถยืดหยุ่นในการต่อสู้ได้ตามแต่สถานะการณ์ที่เผชิญอยู่แถมยังสามารถดัดแปลงให้หลากหลายเพื่อตอบโต้กับไคจูพันธุ์ใหม่ได้อีก และที่สำคัญหุ่นพวกนี้มันสามารถจำกัดขอบเขตความเสียหายได้พอควรครับ

***** หนังไซไฟที่ดี ต้องมีเหตุผลมารองรับความเป็นไปได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ตามเนื้อเรื่องนั้นๆ ให้มากทีุ่สุด ถึงจะเป็นหนังไซไฟที่ดี ซึ่งหนังไซไฟหลายต่อหลายเรื่องที่เป็นที่กล่าวถึงจนถึงปัจจุบัน ก็เพราะ สามารถถกเถียงกันว่าสามารถเป็นไปได้ในความเป็นจริงได้ ฤ ไม่ ทั้งนั้น ส่วนหนังที่ไม่สามารถตอบคำถามเรื่องความเป็นไปได้ในความเป็นจริง เอาแต่ความมันอย่างเดียว ส่วนใหญ่มักจะเจ๊งกันเป็นแถว ซึ่งถ้าเรื่องนี้ไม่สามารถตอบได้ว่า เพราะอะไรถึงทำอย่างนั้น ทำไมไม่ทำอย่างนี้แทน ก็คงเจ๊งตามหนังที่สร้างเอามันอย่างเดียวตามเรื่องก่อนๆไปแน่นอน เพราะ คนที่ดูหนังเอามันอย่างเดียว ห้ามถามเหตุผล ห้ามเอาความจริงมาปนกับหนังเด็ดขาดนั้น ก็มีแค่กลุ่มเล็กๆเท่านั้น และกลุ่มนี้ัมักจะดูแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเอง ส่วนกลุ่มคนที่ดูหนังแล้วเอามาโต้เถียงกันตามความเป็นจริงที่เป็นไปได้ ฤ ไม่นั้น มักจะดูหนังไซไฟกันหลายรอบ เพื่อวิเคราะห์่ความเป็นไปได้ในหนังให้ลึกซึ้งขึ้น และถ้าหนังดีก็จะมีการบอกต่อกันไป ซึ่งหนังไซไฟพวกนี้มักจะเป็นตำนานสามารถเอามาดูใหม่ได้อีกหลายๆ รอบ ต่างจากพวกหนังไซไฟที่ไม่ไำด้สร้างจากพื้นฐานความเป็นไปได้ในความเป็นจริง มักจะเป็นหนังเก็บขึ้นหิ้งไม่เซ็งไม่งัดมาดูอีกเลย เพราะ ไม่รู้จะดูแล้ววิเคราะห์อะไรได้เลย 666

***** ลองหาสารคดีวิเคราะห์เรื่อง star war, matrix มาดู ก็จะรู้เลยว่า แทบทุกอย่างในหนังแฝงความเป็นไปได้ในความเป็นจริงและมีการล้อเลียนสังคมในช่วงนั้นๆ แทบจะทุกฉากเลยก็ว่าได้ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมองมุมไหน ก็สามารถเอามาโต้เถียงวิเคราะห์กันได้สนุกจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่นับการชำแหละตำนานความเป็นไปได้ในหนังทั้งหลายว่าสามารถเป็นไปได้ ฤ ไม่ในความเป็นจริง โดย 2 เฮีย mythbuster เป็นผู้ชำแหละตำนานทั้งหลาย  ...  หนังจะสนุกถ้ามีความเป็นไปได้ในหลักความเป็นจริง ทั้งในแนวความคิดและตามหลักวิทยาศาสตร์ ถ้าหนังเรื่องไหนไม่ได้สร้างบนพื้นฐานความจริงเหล่านี้เลย ก็คงเป็นได้แค่หนังไซไฟตีหัวเข้าบ้านเหมือนกับหนังผีตลกไทย เท่านั้นเอง 666

***** ส่วนใครดูหนังไซไฟ แล้ววิเคราะห์ตามหนังไม่เป็น ดูเอามันอย่างเดียว ไม่เข้าใจที่มาที่ไปในหลายๆอย่างในหนัง ทั้งๆ ที่ตัวหนังก็บอกไว้แล้วนั้น ก็คงเป็นอีกเรื่อง 666

ความรู้สึกคล้ายๆตอนเจอคำถามว่า "ทำไมโฟรโดไม่ขี่พญาเหยี่ยวบินเอาแหวนไปทิ้งที่ปากภูเขาไฟเลยล่ะ" ขนาดนั้นนิยาย lord คงมีประมาณ30หน้าจบ
คือแบบว่า... จุดขายของหนังไม่ได้อยู่ตรงนั้นน่ะสิครับ หนังแอคชันไซไฟมันต้องบวกจินตนาการเข้าไปเยอะและทิ้งเหตุผลไปบ้างน่ะครับ
ผมเองก็ยังข้องใจว่าทำไมตรงสันหมัดเยเกอร์ไม่มีสนับแข็งๆหรือใบมีดคมๆที่ต่อยแล้วหัวแบะเลย ต้องรอชักดาบทำไมให้เสียเวลาเกะกะอีกต่างหาก

ถ้าตอนก่อนสร้าง. ค่ายหนังบอกว่า "เอ้าคิดเหตุผลที่ make sense มาซิว่าทำไมต้องเอาหุ่นยักษ์ มาต่อยกับสัตว์ประหลาด  ถ้าเหตุผลฟังไม่ขึ้น. ไม่ให้สร้าง". ผมว่า del toro อดสร้างแน่นอนครับ
   ผมเข้าใจทุกท่านที่เห็นแย้ง. แต่คงต้องอธิบายประมาณที่หลายๆท่านพยายามบอก คือ concept มันต้องเป็นอย่างนั้น จุดเริ่มต้นของทุกสิ่งทุกอย่างคือหุ่นยักษ์ฟัดกับสัตว์ประหลาด. อาวุธอื่นๆมีครับแต่ต้องค่อยๆตามมา.  อย่างตอนที่ฟัดกับไคจูจนจะแย่แล้ว นางเอกเช็คอาวุธแล้วบอกว่าเรายังเหลือดาบ.....ตอนนั้นหลายคนบอก โว้้้้!!!แล้วไม่ใช้แต่แรกวะ. แต่กลับกัน.  เพื่อนผมบางคนกลับน้ำตาปริ่มเลย. ความปิติแทบจะเอ่อท้นออกมาจากสองดวงตา
   คือผมคิดว่า del toro จะทำหนังให้ออกมา "จริง"กว่านี้ มีเหตุผลรองรับมากกว่านี้ก็คงทำได้. ซึ่งก็อาจจะทำให้หลายคนชอบมากขึ้น. อาจจะทำให้รายได้หนังดีกว่านี้(โดยเฉพาะในอเมริกา) แต่กลับกันก็อาจจะทำให้หลายคนชอบน้อยลงก็เป็นได้เช่นกัน.  ถ้าหนังเรื่องนี้สุดท้ายไม่ประสบความสำเร็จในวงกว้าง แน่นอนเค้าคงเสียใจไม่น้อย    
      แต่ทำไงได้ ......ในเมื่อเค้าเติบโตมากับการนั่งจ้องอุลตร้าแมนกระโดดถีบมนุษ์ดาวบัลตั้น. และในตอนนี้ก็ยังเป็นคนอายุ 50ที่ดวงตาลุกวาวเสมอเมื่อพูดถึงยอดมนุษย์ หุ่นยนตร์และสัตว์ประหลาดยักษ์.    ผมมั่นใจว่าการได้มีโอกาสระดับครั้งเดียวในชีวิต สร้างหนังที่ถ่ายทอดความคลั่งไคล้ ความหลงใหลที่มีในตัวมาตั้งแต่เด็ก ถ้าเค้าไม่ได้ถ่ายทอดออกมาในมุมมองที่ฝังใจมาตลอด. หรือออกมาแล้วมันไม่ใช่จิตวิญญานของ super robot  ผมว่าเค้าคงตายตาไม่หลับแน่นอน.

    ผมพูดเหมือนรู้จัก del toro เลยแฮะ. มันเป็นเพื่อนผมรึก็เปล่า5555.

via Pantip Talk