สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ มาแล้วกับรีวิวตอนใหม่
เมื่อหลายเดือนที่แล้ว น้องสาวและคุณแม่มาเยี่ยมที่บ้าน (ดิฉันแต่งงานแล้วย้ายมาอยู่กับสามีค่ะ เลยไม่ได้เจอกันบ่อยๆ) แล้วทั้งสองท่าน(บังเอิญ)ไปเห็นคอลเลคชันของโจ มาโลน ที่ดิฉันมีอยู่ 12 ขวด
คำถามแรก
มันคืออะไร
คำถามต่อมา.....
ทำไมมีขวดเหมือนกัน ซื้อทำไมเยอะแยะ บลา บลา บลา
เลยสาธิตวิธีใช้ให้ดู ตั้งแต่ฉีดเดี่ยว จนถึงคอมไบน์แล้วได้กลิ่นใหม่ๆ ปรากฎว่ากลายเป็นเรื่องสนุกสนานในครอบครัวไป จนกระทั่ง .......
คุณแม่ถามถึงราคา!! คุณพระ!! เอาไงดี???
ดิฉันไม่กล้าบอก เลยส่งใบเสร็จให้ดู เท่านั้นแหละค่ะ จากตัวดอฉันที่เป็นโอ่งมังกร กลายเป็นไหหมักปลาร้าไปทันที เฮ้อ......
เลยได้โจทย์มานอนขบคิดเล่นๆว่า ถ้าไม่ใช้โจ มาโลน จะมีตัวไหนมาให้ใช้ได้ละเนี่ย...
จนกระทั้งมีคนมารีวิวน้ำหอม ที่ผลิตโดยคนไทย โอ้ว...ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้ ได้ลองของใหม่แล้ว
สืบไปสืบมา ไปเจอ Facebook กับ Web ของร้านเข้า เอาละ!! ดิฉันจะไปหาของใหม่ๆ มารีวิวให้เพื่อนๆดู
ปกติเค้ามีร้านออนไลน์นะคะ แต่อย่างว่า จอคอมพิวเตอร์ไม่สามารถส่งกลิ่นได้ ดิฉันเลยตัดสินใจไปดมที่ร้านเลย
ดิฉันจัดแจงถามเจ้าของร้านว่าร้านเปิดกี่โมง 555 เสร็จโจร สามีไม่อยู่ ทางสะดวกหาของรีวิว (จริงๆคือหาเรื่องช้อปแหละค่ะ ป่วยเป็นโรค Shopaholic แก้ไม่หายซักที)
ตื่นแต่เช้าในวันอาทิตย์ เพื่อเดินทางจากปลายอ่อนนุชไปจตุจักรเพื่อเสียตังค์ กร๊าก....กกก สามีรู้ โดนเจิมแน่นอน
ทางเข้าร้านค่ะ เดินหลงในจตุจักรตั้งนาน (แอบเมาท์ เดี๋ยวนี้ของจากสำเพ็งไปวางขายเยอะจังเลยค่ะ งานฝีมือจริงๆมีไม่ถึงครึ่งนะ ต่างจากเมื่อก่อนพอสมควรค่ะ เพื่อนๆไปช้อปก็เลือกกันดีๆหน่อยละกัน จะโดนดักทุบหัวมั้ยเนี่ย ตรู)
ทางเข้าไปหาร้านค่ะ
เดินเลยแล้วร้านด้วย ต้องค่อยๆเดินวนอีกรอบถึงเจอ อา.... มองชั้นวางของแล้ว เลือกไม่ถูกเลย
ทางนู้นก็ดี

ทางนี้ก็น่าสน

หรือจะเลือกจากตรงนั้นดีนะ

เอาไงดีฟระ

ระหว่างที่เลือกอยู่ มีชาวต่างชาติมาเลือกซื้อด้วยแฮะ ดีเนอะ ไม่ติดแบรนด์

โชคดีที่วันนี้เจอเจ้าของร้านพอดี เลยได้คุย แลกเปลี่ยนความรู้พอสมควร อยากบอกว่า ดูอายุน้อยแต่ความรู้เยอะมาก
นึกไป นึกมา รู้สึกว่าตัวดิฉันเอง ความรู้น้อยยิ่งกว่าหางอึ่งซะอีก แอบเตือนตัวเองเบาๆว่าต้องรีบกลับมาหาความรู้เพิ่มเติม อ๊าย อาย
[CR] เมื่อ gift1801...ถูกน้ำหอมไทยกระแทกใจ!! เกิดอะไรขึ้น เชิญชมโดยเร็วพลันค่ะ
เมื่อหลายเดือนที่แล้ว น้องสาวและคุณแม่มาเยี่ยมที่บ้าน (ดิฉันแต่งงานแล้วย้ายมาอยู่กับสามีค่ะ เลยไม่ได้เจอกันบ่อยๆ) แล้วทั้งสองท่าน(บังเอิญ)ไปเห็นคอลเลคชันของโจ มาโลน ที่ดิฉันมีอยู่ 12 ขวด
คำถามแรก
มันคืออะไร
คำถามต่อมา.....
ทำไมมีขวดเหมือนกัน ซื้อทำไมเยอะแยะ บลา บลา บลา
เลยสาธิตวิธีใช้ให้ดู ตั้งแต่ฉีดเดี่ยว จนถึงคอมไบน์แล้วได้กลิ่นใหม่ๆ ปรากฎว่ากลายเป็นเรื่องสนุกสนานในครอบครัวไป จนกระทั่ง .......
คุณแม่ถามถึงราคา!! คุณพระ!! เอาไงดี???
ดิฉันไม่กล้าบอก เลยส่งใบเสร็จให้ดู เท่านั้นแหละค่ะ จากตัวดอฉันที่เป็นโอ่งมังกร กลายเป็นไหหมักปลาร้าไปทันที เฮ้อ......
เลยได้โจทย์มานอนขบคิดเล่นๆว่า ถ้าไม่ใช้โจ มาโลน จะมีตัวไหนมาให้ใช้ได้ละเนี่ย...
จนกระทั้งมีคนมารีวิวน้ำหอม ที่ผลิตโดยคนไทย โอ้ว...ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้ ได้ลองของใหม่แล้ว
สืบไปสืบมา ไปเจอ Facebook กับ Web ของร้านเข้า เอาละ!! ดิฉันจะไปหาของใหม่ๆ มารีวิวให้เพื่อนๆดู
ปกติเค้ามีร้านออนไลน์นะคะ แต่อย่างว่า จอคอมพิวเตอร์ไม่สามารถส่งกลิ่นได้ ดิฉันเลยตัดสินใจไปดมที่ร้านเลย
ดิฉันจัดแจงถามเจ้าของร้านว่าร้านเปิดกี่โมง 555 เสร็จโจร สามีไม่อยู่ ทางสะดวกหาของรีวิว (จริงๆคือหาเรื่องช้อปแหละค่ะ ป่วยเป็นโรค Shopaholic แก้ไม่หายซักที)
ตื่นแต่เช้าในวันอาทิตย์ เพื่อเดินทางจากปลายอ่อนนุชไปจตุจักรเพื่อเสียตังค์ กร๊าก....กกก สามีรู้ โดนเจิมแน่นอน
ทางเข้าร้านค่ะ เดินหลงในจตุจักรตั้งนาน (แอบเมาท์ เดี๋ยวนี้ของจากสำเพ็งไปวางขายเยอะจังเลยค่ะ งานฝีมือจริงๆมีไม่ถึงครึ่งนะ ต่างจากเมื่อก่อนพอสมควรค่ะ เพื่อนๆไปช้อปก็เลือกกันดีๆหน่อยละกัน จะโดนดักทุบหัวมั้ยเนี่ย ตรู)
ทางเข้าไปหาร้านค่ะ
เดินเลยแล้วร้านด้วย ต้องค่อยๆเดินวนอีกรอบถึงเจอ อา.... มองชั้นวางของแล้ว เลือกไม่ถูกเลย
ทางนู้นก็ดี
ทางนี้ก็น่าสน
หรือจะเลือกจากตรงนั้นดีนะ
เอาไงดีฟระ
ระหว่างที่เลือกอยู่ มีชาวต่างชาติมาเลือกซื้อด้วยแฮะ ดีเนอะ ไม่ติดแบรนด์
โชคดีที่วันนี้เจอเจ้าของร้านพอดี เลยได้คุย แลกเปลี่ยนความรู้พอสมควร อยากบอกว่า ดูอายุน้อยแต่ความรู้เยอะมาก
นึกไป นึกมา รู้สึกว่าตัวดิฉันเอง ความรู้น้อยยิ่งกว่าหางอึ่งซะอีก แอบเตือนตัวเองเบาๆว่าต้องรีบกลับมาหาความรู้เพิ่มเติม อ๊าย อาย