“ยามก็อต วิศวะ มช.” ยามรูปหล่อ ดังจนได้ออกรายการทีวี พร้อมแจงข่าว “เอ ศุภชัย” อยากดูตัว แฟนสาวร้องไห้ไม่อยากให้ดัง

“ก็อต” ยามหนุ่มหล่อ ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไปออกรายการทีวี บอกถึงกับงงเต๊ก ดังได้ไง เผยวันแรก มีคนมาขอถ่ายรูปด้วยเป็นร้อยๆ แฟนสาวรู้เรื่อง ถึงขั้นร้องไห้โฮ เพราะไม่อยากให้ดัง ตอนนี้มีผู้จัดการส่วนตัวแล้ว ลั่นหากมีงานในวงการบันเทิงติดต่อเข้ามาก็สนใจ แต่ต้องขอดูก่อนว่าเป็นงานแบบไหน พร้อมชี้แจงข่าว ผู้จัดมือทอง “เอ ศุภชัย” อยากดูตัว
       


       โด่งดังเพียงชั่วข้ามคืนกลายเป็นยามที่ฟีเวอร์ที่สุดในตอนนี้ สำหรับเรื่องราวของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสุดหล่อ “ก็อต จักรพันธ์ นุพอ” ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีกลุ่มคนเปิดแฟนเพจในเฟซบุ๊กเพียงแค่ 4 วันคนแห่กดไลค์ยอดทะลุเกือบ 7 หมื่น จนกลายเป็นกระแสดัง จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมาต่อต้านทำให้สังคมเสื่อมเสีย รวมหัวกันบ้าผู้ชาย และมีเรื่องของธุรกิจอยู่เบื้องหลัง
       


       ล่าสุดรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ช่องสตาร์แม็กซ์ ก็พาหนุ่มก็อตมาเปิดใจพูดคุยในรายการ รวมไปถึง “บูม” หนึ่งในผู้ริเริ่มก่อตั้งแฟนเพจได้ออกมาชี้แจงถึงต้นเหตุในการเปิดกระแสในโซเชียลเพียงแค่ตั้งใจทำเล่นๆ กับเพื่อนในกลุ่มเท่านั้นเอง ด้านยามหนุ่ม “ก็อต” เปิดใจชีวิตหลังกลายเป็นคนดัง บอกช่วงแรกๆ มีคนเข้ามาขอมาถ่ายรูปเป็นร้อยๆคน
       


       “ตอนแรกไม่รู้เรื่องเลยว่าเขามาถ่ายรูปเราไปทำอะไร เพิ่งมารู้ทีหลังตอนมีคนมาบอกว่า พี่ๆ เป็นคนดังแล้ว แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองดัง ก็มีคนแต่งตัวสวยๆ มาขอถ่ายรูป มีคนมาแอบๆ ยืนตรงต้นไม้แล้วมามอง ผมก็ไม่ได้อะไรครับ ก็ทำตัวเฉยๆ ปกติผมเองก็มีเฟซบุ๊กส่วนตัวครับ ก็มีโอกาสได้เข้าไปดูเพจนี้อยู่ครับ ก็ไม่คิดว่าจะมีคนมากดไลค์เยอะขนาดนี้ ก็ไม่ได้โกรธเขานะที่เอารูปผมไปโพสต์สร้างเพจ”
       

       “เรื่องที่ทางบริษัทยามจะไล่ผมออกเพราะความวุ่นวายนี่ไม่ใช่เรื่องจริงเลยครับ ไม่มีพักงาน แต่มีแถลงข่าวคนเอากล้องมาถ่ายนิดหน่อย ก็งงๆ นะครับ หัวหน้าผมก็ไม่ได้ว่าอะไรผมนะ เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิด มีแต่แซวๆ ว่าดังแล้ว เวลาทำงานก็มีคนมาขอถ่ายรูปตลอดครับ เขาก็ให้ทำท่านั้นท่านี้ เขามาถ่ายรูปเสร็จก็ไปกัน ไม่ได้มีมาชวนคุยมากมาย ก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญอะไร ช่วงแรกๆ มีมาวันนึงเป็นร้อยคน หลังๆ ก็ไม่ค่อยมีแล้วเพราะผมโดนไปช่วยงานตรงอื่น เขาก็เลยไม่เจอผม อย่างที่มาลงสนามบินก็มีคนมาขอถ่ายรูป”
       


       ยันไม่ได้เป็นเกย์ มีแฟนแล้วเป็นผู้หญิง ลั่นหากมีงานในวงการบันเทิงติดต่อเข้ามาก็สนใจแต่ต้องขอดูก่อนว่าเป็นงานแบบไหน
       
       “ผมไม่ได้เป็นเกย์นะครับ ผมมีแฟนแล้วครับ คุยกันมาได้เดือนนึง ชื่อ เฟิร์น พอเขารู้ข่าวเขาก็ร้องไห้โฮเลย ไม่อยากให้ผมดัง ไม่อยากให้ออกทีวี แต่ก็ยังไม่รู้เลยว่าวันนึงทางมหาวิทยาลัยจะไล่ออกไหม แต่ก็คงไม่หรอกครับผมก็ทำงานตามหน้าที่ปกติ พื้นเพผมก็เป็นคนเชียงใหม่อยู่แล้ว บ้านอยู่เชียงดาว ก็เรียนหนังสือไม่ค่อยเยอะครับ เพราะออกช่วยพ่อแม่ทำงาน ครอบครัวแยกทางกัน ฐานะไม่ค่อยดีครับ พี่คนรู้จักพามาทำงานเป็นยาม เงินเดือนเป็นยามก็ไม่ได้เยอะครับ วันละ 300 บาท ใครจ้างให้ผมทำอะไร ผมก็ยอมทำหมดแหละครับ ถ้าวันนึงมีคนติดต่องานในวงการบันเทิงก็สนใจครับ แต่คงต้องดูก่อน”
       


       ด้าน “บูม” หนึ่งในผู้ริเริ่มก่อตั้งแฟนเพจได้ชี้แจงถึงเหตุผลที่เปิดแฟนเพจให้ก็อต ว่าตั้งใจทำเล่นๆ กับเพื่อนในกลุ่มเท่านั้นเอง

       บูม : “ก็ทำเล่นๆ กับในกลุ่มเพื่อน เริ่มจากมีคนแชร์รูปยามหล่อที่หลังมอ พอแชร์กันมาเรื่อยๆ คนก็เอ๊ะมีจริงเหรอ ก็เลยไปดูด้วยตัวเอง ก็ไปเจอแล้วก็ขอถ่ายรูปเขา ยืนยันว่ามีคนนี้อยู่จริงๆ อยู่หลังมอ แล้วก็มีเพื่อนอีกคนเอามาตั้งเป็นแฟนเพจ ชื่อ CMU Cute ยาม ก็ตกใจนะครับเพราะคืนเดียวมียอดคนมากดไลค์ 7 พัน 4 วัน 6 หมื่นกว่าไลค์ ก็ไม่ได้ตั้งใจให้ในขนาดนี้ กูทำเล่นๆ สนุกๆ ไม่รู้มาไลค์กันทำไมเพราะแค่เอามาทำเล่นๆ กันในกลุ่มเพื่อนเท่านั้นเอง”
       
       “คนส่วนใหญ่ที่มากดไลค์นี่ก็เป็นผู้หญิงกับผู้ชาย กะเทยน้อยมาก ตอนนี้ก็มีกระแสออกมาต่อว่า ว่าทำให้มหาวิทยาลัยเสื่อมเสีย ผมเองไม่ได้รู้สึกอะไรนะครับ พวกเราเป็นกลุ่มแรกที่กล้าเข้าไปคุยกับเขาเฉยๆ ไม่ได้ไปทำอะไรเสียหาย พวกชะนี เก้งกวางตามกันมาเอง เราแค่มีความกล้ามากกว่าเขา ความหื่นนี่มีเท่ากันหมดแหละครับ ไม่ได้สนใจอะไรกับคอมเม้นต์ หลายคนก็ต่างความคิดกัน มันก็เหมือนกับเราไปขอถ่ายรูปกับเดือนคณะอะไรทำนองนั้นไม่เห็นจะไปเกี่ยวกับความหื่นอะไรเลย”
       

       ไม่ธรรมดาตอนนี้ยามหนุ่มรูปหล่อ “ก็อต” มีผู้จัดการส่วนตัวแล้วจ้า ผู้จัดการส่วนตัว ชื่อ “หมอต้น” นายสัตวแพทย์ ธีรพัชญ์ สมณะ เจ้าตัวเผยเข้ามาช่วยดูแลยามหนุ่มโดยไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากต้องรับผิดชอบในส่วนที่ทำให้อีกฝ่ายประสบปัญหาในความโด่งดัง รวมไปถึงผลประโยชน์ของสถาบันเสริมความงามที่ตนเป็นหุ้นส่วนอยู่

       
       “พอดีว่าผมเป็นหุ้นส่วนคลินิกเสริมความงามที่เชียงใหม่อยู่ พอดีว่ามีวันนึงน้องเขาส่งรูปผู้ชายคนนึงมาให้ดู ภาพดูแล้วฟินมาก ละมุนมากสุดๆ ใครเห็นแล้วต้องร้องว่า มีรปภ.หล่อขนาดนี้เลยหรอ พอเห็นก็เลยโพสต์รูปในเฟซบุ๊กตัวเอง แล้วก็ประกาศว่ามียามหล่อขนาดนี้ด้วยเหรอ ใครติดต่อมาได้จะมีรางวัลให้ เราตั้งใจว่ากะจะพาเขามาทำหน้าเล็กๆ น้อยๆ อีกครึ่งชั่วโมงถัดมามีคลิปวิดิโอ จากนั้นก็เลยขับรถตามไปดู ก็แอบช็อตนิดนึง ว่าในรูปละมุนมาก แต่ตัวจริงก็ไม่ขนาดนั้น ก็เลยอยากจะมีส่วนร่วมแจมให้น้องเขาละมุนเหมือนในรูปจริงๆ ก็เลยไปร่วมแจมกับแฟนเพจด้วยอารมณ์อยากจะมีส่วนร่วม ไม่ได้ตั้งใจจะไปโปรโมตสถานเสริมความงามตัวเอง ก็ให้เขาถ่ายรูปกับบัตรที่เป็นคอร์สหน้าเลเซอร์จะให้เขาไปทำหน้าเท่านั้นเอง”
       

       “ก็กะจะถ่ายรูปพร้อมบัตรไปลงเฟซบุ๊กตัวเองว่าฉันเอาคอร์สเสริมความงามมาให้เขานะ จะได้หล่อละมุนเหมือนในรูป แต่เผอิญว่าแบตโทรศัพท์ผมหมด เลยให้น้องที่เป็นแอดมินแฟนเพจถ่ายให้ พอกลับบ้านตกในที่น้องแอดมินเอารูปนั้นไปลงในแฟนเพจ ตอนนั้นยอดกดไลค์น้องเขาแค่ร้อยกว่าไม่ได้เยอะจนเป็นกระแสขนาดนี้ แต่คนก็เลยไปเม้าท์ว่าผมฉวยโอกาสโฆษณาแอบแฝง เราเลยต้องรับผิดชอบน้องเขาไปในตัว ไม่ใช่อารมณ์ว่ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์นะ แต่รูปมันเผยแพร่ออกไปแล้ว แล้วมันก็มีผลกระทบกับสถาบันของผมและตัวน้องด้วย ก็เลยต้องเข้ามาช่วยน้องเขาดูแลไปโดยปริยาย”
       

       “ผมกับน้องก็ทำสัญญากันไว้ เป็นสัญญาในการดูแลงานกันเฉยๆ ที่ต้องทำแบบนี้เพราะเราจะต้องป้องกันเนื่องด้วยที่ส่วนที่คลินิกจะต้องเข้าดูแลน้องเขาด้วย เปอร์เซ็นต์ไม่มีหักเลยทักสิ้น 5 เปอร์เซ็นต์ที่หักในใบสัญญาเป็นการหักตามภาษีตามกฏหมายเท่านั้นเอง ผมไม่ได้อะไรสักอย่าง แค่อยากช่วยน้องเพราะเราถลำเข้ามาแล้ว ส่วนเรื่องที่พี่เอ ศุภชัย อยากให้ก็อตมาดูตัว คิดว่าคงไม่ใช่นะครับ อาจจะมีคนสัมภาษณ์พี่เอ เขาเองมากกว่า ไม่ได้จริงจังอะไร ส่วนเรื่องงานในวงการบันเทิง ถ้าเกิดมีคนติดต่อเข้ามาจริงๆ ก็คงจะให้น้อง ไปรับงานนะครับ”







       







       







       








        http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000085237

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่