วันที่ 6 – 12 มิถุนายน ได้ไปนั่งรถชมเมืองเสียมเรียบ เป็นที่ตั้งของอุทยานประวัติศาสตร์ นครวัต นครธม มรดกโลก หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ฝรั่งสั่งเสียว่าไปดูให้ได้สักครั้งหนึ่งก่อนที่จะจากโลกนี้ไป ซึ่งผมเห็นด้วยมันเป็นความรู้สึกตื่นตาตื่นใจจริงๆ อารยธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา ไม่ได้เป็นรองอารยธรรมใดเลยในโลกในยุคสมัยเดียวกัน
กัมพูชาเป็นแผ่นดินแห่งความอุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่บนทุ่งราบชุ่มน้ำเขียวขจี และเหลืองอร่ามในยามเก็บเกี่ยว แต่ไม่อยากเชื่อเลยว่าแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์แห่งนี้ มีประชาชนเป็นจำนวนมากอดอยากยากจน แม้มีพรมแดนติดกับประเทศไทยและต่างรับประโยชน์จากผืนดินอันอุดมสมบูรณ์แห่งนี้ร่วมกัน แต่ความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อกัน ดูเหมือนเหินห่างกันมาก ต่างฝ่ายต่างว่ากล่าวต่อกัน ทั้งที่จริงๆ แล้วเราเป็นพี่น้องกัน ใช้พื้นนาที่ดินอันอุดมของลุ่มแม่น้ำโขงและลุ่มแม่น้ำเจ้ายา ซึ่งมีต้นสายเดียวกัน แผนที่ทางภูมิศาสตร์บ่งชี้ว่า ไทยกับเขมรมีสัมพันธภาพใกล้ชิดกว่าลาวด้วยซ้ำ เพราะมีแผ่นดินเป็นผืนนาเดียวกัน ในขณะที่ไทยกับลาว มีแม่น้ำโขงและป่าดงดิบเป็นตัวขวางกั้น ส่วนไทยกับพม่าก็มีเทือกเขาป่าสูงชันคั่นอยู่ คนไทยคนเขมรสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้โดยง่ายทั้งทางบกและเรือเลาะไปตามแม่น้ำ แต่กลายเป็นว่าเรารู้จักกันน้อยมาก คงเหมือนพี่น้องทะเลาะกัน ต่างอิจฉาและอคติต่อกันและกัน อคติเหล่านี้คงถูกถ่ายทอดรุ่นต่อรุ่น เป็นตะกรันแข็งเป็นดานที่สมควรถูกสกัดทิ้งออกไป
ผมไปพักบ้านเพื่อนชาวเขมร ซึ่งเป็นนายตำรวจเก่า สูญเสียแขนไปข้างหนึ่งด้วยเหตุจลาจล ครั้งเขมรแดงบุกพนมเปญ บ้านถูกเผาวอด ไปไหนผมชอบฟังเรื่องเล่าชีวิตชาวบ้าน ที่ผูกพันกับประวัติศาสตร์อย่างชายเขมรสองคนที่เพิ่งกลับมาจากอเมริกาเพื่อกลับมาตายในบ้านเรือนฐานถิ่นของตนเอง ทั้งคู่อายุ 50 ปีเศษ เป็นคนหนุ่มในช่วงสงครามอันเลวร้ายที่สุดของประวัติศาสตร์
คนแรก(ซ้าย) เพิ่งกลับมาจากอเมริกาทำงานให้กับองค์การสหประชาชาติด้านพัฒนามนุษย์ เขาเล่าว่าช่วงสงครามกับเขมรแดงรบอยู่ตามชายแดนไทย วันหนึ่งกำลังล้อมวงกินข้าว ระเบิดลูกหนึ่งปลิวใส่ เพื่อนในวงตายเกลี้ยง เขาบาดเจ็บ เนื้อตัวล่อนจ้อน เหมือนคนเสียสติ เขาทิ้งปืน ไม่สนฝ่ายไหนทั้งสิ้นเดินเข้าไปขอลี้ภัยที่ศูนย์อพยพเขาอีด่าง จากนั้นจึงอพยพไปอยู่อเมริกา ทำธุรกิจประสบความสำเร็จรุ่งเรือง เมื่อสามปีก่อน เขากลับมาเยี่ยมญาติที่เสียมเรียบ เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของพื่น้องชาวเขมร เขาทนไม่ได้ต่อภาพอดสูเหล่านั้น เขากลับไปอเมริกาขายทรัพย์สินโรงงาน ตกลงกับลูกเมียว่าจะขอกลับไปตายและพัฒนาบ้านเกิดเข้าทำงานที่ UNDP อเมริกาประเทศแห่งความใฝ่ฝันของคนหลายๆ คน สำหรับเขาแล้วมันเป็นเรื่องน่าละอายที่ต้องเห็นคนในชาติ อยู่อย่างยากจนแร้นแค้น ในขณะที่คนเขมรอีกฟากหนึ่งอยู่อย่างฟุ่มเฟือยอูฟู
คนที่สอง(ขวา)เป็นชาวจีนช่วงสงครามกลางเมืองเช่นเดียวกัน ตกเป็นเป้าหมายทั้งฝ่ายรัฐบาลและเขมรแดง ถูกทำลายทรัพย์สินย่อยยับจนเหลือแต่ตัว ลูกเมียหายสาบสูญ ตัวเองลี้ภัยไปอยู่อเมริกาเช่นเดียวกัน ที่อเมริกา ดินแดนแห่งโอกาส และความสะดวกสบายเขาเป็นช่างเครื่อง รายได้ดี แต่ที่สุดเขาก็พบว่าวิญญาณแห่งบรรพชนเรียกหาให้เขากลับไปตายที่บ้านเกิด สงครามเป็นอะไรที่น่ากลัวมากสำหรับคนเขมร ภาพแห่งความโหดร้ายทารุณยังติดตาและเป็นฝันร้ายของเขาทุกคืน ที่สุดเขาบอกว่าอยากกลับมาตายที่บ้านเกิด และใช้เวลาให้หมดไปวันๆ
ทำไมชายคนหนึ่งยังเปี่ยมด้วยความหวัง ในขณะที่ชายอีกคนหนึ่งหมดอาลัยตายอยากชีวิต ผมว่าชีวิตมันไม่มีสูตรสำเร็จ มันไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุผลด้วยซ้ำ ปัจจุบันคนเขมรขยาดกลัวสงครามมาก มากจนกระทั่งไม่กล้าออกมายืนรวมตัวกันที่ถนนประท้วงถึงความอยุติธรรมในสังคม เขากลัวจะกลับไปสู่วังวนสงครามกลางเมืองอันน่าสยดสยอง ในสมัยเขมรแดงเรืองอำนาจเพื่อนเขาหายไปทีละคนสองคนหลังจากที่แสดงความคิดทางการเมืองไม่นาน ได้ยินเพื่อนเล่าแล้วสะท้อนถึงภาพของสังคมไทยเมื่อสองปีก่อน เราโชคดีเหลือเกินที่ผ่านวิกฤตินั้นมาได้ หรือเรากำลังเข้าสู่วังวนอย่างที่เขมร เคยประสบมาแล้วด้วย ต่างถือดีจะเอาชนะคัดคานกัน...
ชวนไปนั่งรถเล่นที่เสียมเรียบกัน(ภาคปัจจุบัน)
กัมพูชาเป็นแผ่นดินแห่งความอุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่บนทุ่งราบชุ่มน้ำเขียวขจี และเหลืองอร่ามในยามเก็บเกี่ยว แต่ไม่อยากเชื่อเลยว่าแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์แห่งนี้ มีประชาชนเป็นจำนวนมากอดอยากยากจน แม้มีพรมแดนติดกับประเทศไทยและต่างรับประโยชน์จากผืนดินอันอุดมสมบูรณ์แห่งนี้ร่วมกัน แต่ความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อกัน ดูเหมือนเหินห่างกันมาก ต่างฝ่ายต่างว่ากล่าวต่อกัน ทั้งที่จริงๆ แล้วเราเป็นพี่น้องกัน ใช้พื้นนาที่ดินอันอุดมของลุ่มแม่น้ำโขงและลุ่มแม่น้ำเจ้ายา ซึ่งมีต้นสายเดียวกัน แผนที่ทางภูมิศาสตร์บ่งชี้ว่า ไทยกับเขมรมีสัมพันธภาพใกล้ชิดกว่าลาวด้วยซ้ำ เพราะมีแผ่นดินเป็นผืนนาเดียวกัน ในขณะที่ไทยกับลาว มีแม่น้ำโขงและป่าดงดิบเป็นตัวขวางกั้น ส่วนไทยกับพม่าก็มีเทือกเขาป่าสูงชันคั่นอยู่ คนไทยคนเขมรสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้โดยง่ายทั้งทางบกและเรือเลาะไปตามแม่น้ำ แต่กลายเป็นว่าเรารู้จักกันน้อยมาก คงเหมือนพี่น้องทะเลาะกัน ต่างอิจฉาและอคติต่อกันและกัน อคติเหล่านี้คงถูกถ่ายทอดรุ่นต่อรุ่น เป็นตะกรันแข็งเป็นดานที่สมควรถูกสกัดทิ้งออกไป
ผมไปพักบ้านเพื่อนชาวเขมร ซึ่งเป็นนายตำรวจเก่า สูญเสียแขนไปข้างหนึ่งด้วยเหตุจลาจล ครั้งเขมรแดงบุกพนมเปญ บ้านถูกเผาวอด ไปไหนผมชอบฟังเรื่องเล่าชีวิตชาวบ้าน ที่ผูกพันกับประวัติศาสตร์อย่างชายเขมรสองคนที่เพิ่งกลับมาจากอเมริกาเพื่อกลับมาตายในบ้านเรือนฐานถิ่นของตนเอง ทั้งคู่อายุ 50 ปีเศษ เป็นคนหนุ่มในช่วงสงครามอันเลวร้ายที่สุดของประวัติศาสตร์
คนแรก(ซ้าย) เพิ่งกลับมาจากอเมริกาทำงานให้กับองค์การสหประชาชาติด้านพัฒนามนุษย์ เขาเล่าว่าช่วงสงครามกับเขมรแดงรบอยู่ตามชายแดนไทย วันหนึ่งกำลังล้อมวงกินข้าว ระเบิดลูกหนึ่งปลิวใส่ เพื่อนในวงตายเกลี้ยง เขาบาดเจ็บ เนื้อตัวล่อนจ้อน เหมือนคนเสียสติ เขาทิ้งปืน ไม่สนฝ่ายไหนทั้งสิ้นเดินเข้าไปขอลี้ภัยที่ศูนย์อพยพเขาอีด่าง จากนั้นจึงอพยพไปอยู่อเมริกา ทำธุรกิจประสบความสำเร็จรุ่งเรือง เมื่อสามปีก่อน เขากลับมาเยี่ยมญาติที่เสียมเรียบ เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของพื่น้องชาวเขมร เขาทนไม่ได้ต่อภาพอดสูเหล่านั้น เขากลับไปอเมริกาขายทรัพย์สินโรงงาน ตกลงกับลูกเมียว่าจะขอกลับไปตายและพัฒนาบ้านเกิดเข้าทำงานที่ UNDP อเมริกาประเทศแห่งความใฝ่ฝันของคนหลายๆ คน สำหรับเขาแล้วมันเป็นเรื่องน่าละอายที่ต้องเห็นคนในชาติ อยู่อย่างยากจนแร้นแค้น ในขณะที่คนเขมรอีกฟากหนึ่งอยู่อย่างฟุ่มเฟือยอูฟู
คนที่สอง(ขวา)เป็นชาวจีนช่วงสงครามกลางเมืองเช่นเดียวกัน ตกเป็นเป้าหมายทั้งฝ่ายรัฐบาลและเขมรแดง ถูกทำลายทรัพย์สินย่อยยับจนเหลือแต่ตัว ลูกเมียหายสาบสูญ ตัวเองลี้ภัยไปอยู่อเมริกาเช่นเดียวกัน ที่อเมริกา ดินแดนแห่งโอกาส และความสะดวกสบายเขาเป็นช่างเครื่อง รายได้ดี แต่ที่สุดเขาก็พบว่าวิญญาณแห่งบรรพชนเรียกหาให้เขากลับไปตายที่บ้านเกิด สงครามเป็นอะไรที่น่ากลัวมากสำหรับคนเขมร ภาพแห่งความโหดร้ายทารุณยังติดตาและเป็นฝันร้ายของเขาทุกคืน ที่สุดเขาบอกว่าอยากกลับมาตายที่บ้านเกิด และใช้เวลาให้หมดไปวันๆ
ทำไมชายคนหนึ่งยังเปี่ยมด้วยความหวัง ในขณะที่ชายอีกคนหนึ่งหมดอาลัยตายอยากชีวิต ผมว่าชีวิตมันไม่มีสูตรสำเร็จ มันไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุผลด้วยซ้ำ ปัจจุบันคนเขมรขยาดกลัวสงครามมาก มากจนกระทั่งไม่กล้าออกมายืนรวมตัวกันที่ถนนประท้วงถึงความอยุติธรรมในสังคม เขากลัวจะกลับไปสู่วังวนสงครามกลางเมืองอันน่าสยดสยอง ในสมัยเขมรแดงเรืองอำนาจเพื่อนเขาหายไปทีละคนสองคนหลังจากที่แสดงความคิดทางการเมืองไม่นาน ได้ยินเพื่อนเล่าแล้วสะท้อนถึงภาพของสังคมไทยเมื่อสองปีก่อน เราโชคดีเหลือเกินที่ผ่านวิกฤตินั้นมาได้ หรือเรากำลังเข้าสู่วังวนอย่างที่เขมร เคยประสบมาแล้วด้วย ต่างถือดีจะเอาชนะคัดคานกัน...