อดีตมิสทิฟฟานี่ยอมเฉือนนมห่มจีวรเพราะใคร...?

จากชื่อหัวข้อกระทู้เลยค่ะ ดิฉันมีความรู้สึกอย่างแบ่งปันเรื่องราวดีๆ เพื่อให้ทุกท่านได้อ่าน ท่ามกลางกระแสที่มีแต่ทำให้พุทธศาสนาเสื่อมเสียลงทุกวัน แต่ก็ยังมีเรื่องราวดีๆ คนดีๆ ที่มีความศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้าอยู่ มีความกตัญญูกตเวทีอย่างมาก เป็นที่น่ายกย่องสรรเสริญบุคคลหนึ่ง

  ดิฉันได้อ่านเรื่องราวนี้จากหนังสือ The secret  ฉบับหน้าปก ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ฉบับวันที่  10 ก.ค. 56 มีพาดหัวเรื่องหน้าปกตามชื่อกระทู้ที่ตั้งไว้
เรื่องราวของพระรูปนี้อยู่ที่หน้า 36-40 ใครอยากอ่านฉบับจริง ติดตามหาอ่านได้ค่ะ

บวชเพราะรัก

เรื่องราวของพระมหาวิริโยภิกขุ (สรวีย์ นัดที)  เรียบเรียงโดย เสาวลักษณ์  ศรีสุวรรณ

     ย้อนไปราวกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หนึ่งในข่าวโด่งดังซึ่งเป็นที่โจษขานกันทั่วไป คือข่างของมิสทิฟฟานี่ปี 2009 ตัดสินใจบวชตลอดชีวิต ณ วัดเลียบ อำเภอเมืองฯ จังหวัดสงขลา ทันทีที่ข่าวออกมาก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมาย บ้างก็อนุโมทนาสาธุ บ้างก็กระหายใคร่รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าอะไรทำให้คนที่ครั้งหนึ่งเคยอยากเป็นผู้หญิงถึงขั้นยอมผ่าตัดเต้านมกลับใจโกนหัวบวชไม่สึกตลอดชีวิต!

     ท่ามกลางกระแากข่าวที่ถาโถมเข้ามาน้อยคนนักจะรู้จักตัวตนที่แท้จริงของ พระมหาวิริโยภิกขุ หรืออดีตที่รู้จักกันในชื่อ
แจส-สรวีย์ นัดที นางงามสาวประเภทสอง วัย 25 ปี ผู้มีรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าสวยเก๋ ยิ่งเมื่อเรื่องราวแต่หนหลังครั้งครองมงกุฎนางงามถูกขุดคุ้ยขึ้นมาอีกครั้ง โดยเฉพาะในด้านลบ หลายคนจึงใช้ข้อมูลนี้ "พิพากษาตัดสิน" พระบวชใหม่รูปนี้ไปเรียบร้อยแล้ว

    อะไร....ทำให้ท่านตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวได้ถึงเพียงนี้ เราไปฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากท่านเองเลยดีกว่า

ชีวิตนี้จะไม่ทำให้พ่อแม่ร้องไห้แม้แต่ครั้งเดียว
    
    ก่อนที่อาตมาจะเล่าเรื่องราวชีวิตของตนเอง ได้คิดพิจารณาอยู่นาน รวมถึงได้ปรึกษาทั้งโยมพ่อ โยมแม่ และท่านเจ้าอาวาส เมื่อทั้งสามท่านอนุญาต อาตมาก็ตั้งใจที่จะให้การเล่าครั้งนี้ยังประโยชน์กับคนอื่นๆ และเป็นธรรมทานให้กับทุกคน

    อาตมาเกิดในครอบครัวที่ยากจน โยมพ่อ (บุญศิริ นัดที) ขับมอเตอร์ไซด์รับจ้าง โยมแม่ (อารีย์  นัดที) เป็นแม่บ้าน และหารายได้พิเศษด้วยการเป็นพี่เลี้ยงเด็ก รวมถึงขายข้าวแกง อาตมาเป็นลูกคนที่สามในบรรดาลูก 4 คน ชีวิตวัยเด็กแม้ไม่สะดวกสบาย แต่ได้รับความรักเต็มเปี่ยม ทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน ภาพที่เห็นจนชินตาคือภาพที่โยมพ่อไปซืื้อผักกำละ 5 บาทมาผัดให้ลูกๆกิน อาตมากับพี่ๆน้องๆก็จะนั่งล้อมวงกินผัดผักจานเดียวกันด้วยความเอร็ดอร่อย  ส่วนโยมพ่อกับโยมแม่ค่อยกินหลังจากลูกๆกินอิ่มแล้ว ภาพที่เห็นทำให้อาตมาซึมซับความรักความเสียสละของท่านมาโดยตลอด

    อาตมาไม่รู้ว่าตัวเองรักโยมพ่อโยมแม่มากแค่ไหน รู้แต่ว่าวันหนึ่งโยมพ่อตีพี่ชายแล้วโยมแม่ร้องไห้ มันเป็นพลังอำนาจมหาศาลที่ผลักดันให้อาตมาเป็นเช่นในวันนี้ วันนั้นพี่ชายซึ่งกำลังเป็นวัยรุ่นไปแอบสูบบุหรี่ แล้วโยมพ่อจับได้ จึงถูกลงโทษด้วยการตีต่อหน้าโยมแม่และอาตมา โยมแม่สงสารจึงลงนั่งกอดพี่ชายแล้วร้องไห้ อาตมาเห็นแล้วก็สะเทือนใจจึงเดินไปกอดโยมแม่และบอกตัวเองว่า "นับจากวันนี้ไปจะไม่ทำให้คนคนนี้ต้องร้องไห้อย่างเด็ดขาด"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่