นักโบราณคดีตีพิมพ์แผนที่เลเซอร์ พบ 'อังกอร์' เมืองหลวงของอารยธรรมเขมร มีพื้นที่ 70 ตร.กม. มีผู้อยู่อาศัยถึง 1 ล้านคน เฉพาะในศูนย์กลางพระนครมี 5 แสนคน นับเป็นนครโบราณที่มีประชากรหนาแน่นที่สุด
แผนที่นี้สร้างภาพด้วยเทคนิคไลดาร์ (LIDAR-light detection and ranging data) ซึ่งใช้อุปกรณ์ยิงแสงเลเซอร์จากเฮลิคอปเตอร์ ทะลุผ่านป่ารกชัฏและเรือนยอดไม้ เผยให้เห็นร่องรอยของถิ่นฐาน, เนินดิน, สระน้ำ, ถนน และหย่อมย่านบ้านเมือง
@ ส่วนหนึ่งของ มเหนทรบรรพต นครโบราณที่สร้างเมื่อ 1,200 ปีก่อน นักวิจัยเพิ่งเปิดเผยว่า เมืองอันตรธานแห่งนี้ ตั้งอยู่บนเขาพนมกุเลน
"เป็นเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยค่อนข้างหนาแน่น พื้นที่ตัวเมืองมีขนาดใหญ่กว่าที่เราคาดมากทีเดียว" คริสตอฟ พอตติเยร์ นักโบราณคดี ผอ.โครงการ Greater Angkor Project บอกในงานวิจัยที่เพิ่งตีพิมพ์ในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences เมื่อวันจันทร์
รายงานชิ้นนี้บอกว่า อังกอร์ หรือเมืองพระนคร ในจังหวัดเสียมเรียบของกัมพูชา อาจมีผู้อยู่อาศัยถึง 1 ล้านคน นับเป็นนครที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองนี้เจริญรุ่งเรืองอยู่จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 ก่อนจะร้างไปอย่างเป็นปริศนา
@ ภาพแสดง เมืองเกาะแกร์ เมื่อศตวรรษที่ 10
เพชรยอดมงกุฏของอังกอร์ คือ ปราสาทนครวัด ซึ่งสร้างขึ้นระหว่างปีค.ศ.1113-1150 มีความสูง 65 เมตร กินเนื้อที่ 1,250 ไร่
@ แผนที่ไลดาร์ กลุ่มปราสาทเกาะแกร์
ในอดีต นักวิจัยได้พยายามศึกษาขนาดของตัวเมืองโดยใช้เรดาร์และภาพถ่ายดาวเทียม แต่พื้นที่หลายส่วนได้ถูกบดบังด้วยต้นไม้ที่ขึ้นหนาทึบ จนกระทั่งเมื่อปี 2555 พอตติเยร์กับทีมงานได้เริ่มทำแผนที่ภูมิประเทศโดยใช้อุปกรณ์กราดตรวจด้วยเลเซอร์
แผนที่ไลดาร์ได้เผยให้เห็นว่า เมืองพระนครมีการเพาะปลูกอย่างมาก และมีเทคนิคการกักเก็บน้ำหลายแบบ ศูนย์กลางของเมืองมีพื้นที่ 70 ตร.กม. ซึ่งอาจมีคนอาศัยอยู่ราว 500,000 คน
@ ภาพถ่ายไลดาร์ แสดงปราสาทต่างๆ เช่น ปราสาทบากอง, ปราสาทบาเค็ง, ปราสาทแปรรูป,
ปราสาทบึงเมเลีย, ปราสาทนครวัด, ปราสาทพระขรรค์, ปราสาทตาพรหม, ปราสาทบายน
เส้นสีแดง คือ ถนนในปัจจุบัน
แผนที่นี้ยังบ่งบอกด้วยว่า เหตุใดเมืองพระนครจึงได้ถูกทิ้งร้างไป ชีวิตความเป็นอยู่ของเมืองต้องพึ่งพาระบบชลประทานอย่างมาก ระบบนี้ย่อมขึ้นต่อปริมาณน้ำฝนในฤดูมรสุม ผลการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมพบว่า ฤดูมรสุมได้เกิดการคลาดเคลื่อนในช่วงศตวรรษที่ 14-15
พอตติเยร์บอกว่า ฤดูกาลเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่ปัจจัยปิดฉากความรุ่งโรจน์ของเมืองพระนคร แต่ก็อาจเป็นตัวแปรอย่างหนึ่ง.
http://news.voicetv.co.th/global/75004.html
---------------------------------------------------------------------------------------
อารยธรรม 1 พันกว่าปียังสาปสูญได้ขนาดนี้แล้ว 1 หมื่นปี จะหายากส์ปานไหน เกินหนึ่งล้านปีมันคงไม่เหลือซากอะไรให้เห็นละ แต่ว่ามันจะมีหรือปล่าวนะ อารยธรรม ที่ถูกซ่อนเอาไว้ ณะ ช่วงเวลาใด เวลาหนึ่ง ของโลกที่มีอายุ กว่า 4 พันล้านปี
พบ 'เมืองพระนคร' ใหญ่เกินคาด
แผนที่นี้สร้างภาพด้วยเทคนิคไลดาร์ (LIDAR-light detection and ranging data) ซึ่งใช้อุปกรณ์ยิงแสงเลเซอร์จากเฮลิคอปเตอร์ ทะลุผ่านป่ารกชัฏและเรือนยอดไม้ เผยให้เห็นร่องรอยของถิ่นฐาน, เนินดิน, สระน้ำ, ถนน และหย่อมย่านบ้านเมือง
@ ส่วนหนึ่งของ มเหนทรบรรพต นครโบราณที่สร้างเมื่อ 1,200 ปีก่อน นักวิจัยเพิ่งเปิดเผยว่า เมืองอันตรธานแห่งนี้ ตั้งอยู่บนเขาพนมกุเลน
"เป็นเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยค่อนข้างหนาแน่น พื้นที่ตัวเมืองมีขนาดใหญ่กว่าที่เราคาดมากทีเดียว" คริสตอฟ พอตติเยร์ นักโบราณคดี ผอ.โครงการ Greater Angkor Project บอกในงานวิจัยที่เพิ่งตีพิมพ์ในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences เมื่อวันจันทร์
รายงานชิ้นนี้บอกว่า อังกอร์ หรือเมืองพระนคร ในจังหวัดเสียมเรียบของกัมพูชา อาจมีผู้อยู่อาศัยถึง 1 ล้านคน นับเป็นนครที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองนี้เจริญรุ่งเรืองอยู่จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 ก่อนจะร้างไปอย่างเป็นปริศนา
@ ภาพแสดง เมืองเกาะแกร์ เมื่อศตวรรษที่ 10
เพชรยอดมงกุฏของอังกอร์ คือ ปราสาทนครวัด ซึ่งสร้างขึ้นระหว่างปีค.ศ.1113-1150 มีความสูง 65 เมตร กินเนื้อที่ 1,250 ไร่
@ แผนที่ไลดาร์ กลุ่มปราสาทเกาะแกร์
ในอดีต นักวิจัยได้พยายามศึกษาขนาดของตัวเมืองโดยใช้เรดาร์และภาพถ่ายดาวเทียม แต่พื้นที่หลายส่วนได้ถูกบดบังด้วยต้นไม้ที่ขึ้นหนาทึบ จนกระทั่งเมื่อปี 2555 พอตติเยร์กับทีมงานได้เริ่มทำแผนที่ภูมิประเทศโดยใช้อุปกรณ์กราดตรวจด้วยเลเซอร์
แผนที่ไลดาร์ได้เผยให้เห็นว่า เมืองพระนครมีการเพาะปลูกอย่างมาก และมีเทคนิคการกักเก็บน้ำหลายแบบ ศูนย์กลางของเมืองมีพื้นที่ 70 ตร.กม. ซึ่งอาจมีคนอาศัยอยู่ราว 500,000 คน
@ ภาพถ่ายไลดาร์ แสดงปราสาทต่างๆ เช่น ปราสาทบากอง, ปราสาทบาเค็ง, ปราสาทแปรรูป,
ปราสาทบึงเมเลีย, ปราสาทนครวัด, ปราสาทพระขรรค์, ปราสาทตาพรหม, ปราสาทบายน
เส้นสีแดง คือ ถนนในปัจจุบัน
แผนที่นี้ยังบ่งบอกด้วยว่า เหตุใดเมืองพระนครจึงได้ถูกทิ้งร้างไป ชีวิตความเป็นอยู่ของเมืองต้องพึ่งพาระบบชลประทานอย่างมาก ระบบนี้ย่อมขึ้นต่อปริมาณน้ำฝนในฤดูมรสุม ผลการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมพบว่า ฤดูมรสุมได้เกิดการคลาดเคลื่อนในช่วงศตวรรษที่ 14-15
พอตติเยร์บอกว่า ฤดูกาลเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่ปัจจัยปิดฉากความรุ่งโรจน์ของเมืองพระนคร แต่ก็อาจเป็นตัวแปรอย่างหนึ่ง.
http://news.voicetv.co.th/global/75004.html
---------------------------------------------------------------------------------------
อารยธรรม 1 พันกว่าปียังสาปสูญได้ขนาดนี้แล้ว 1 หมื่นปี จะหายากส์ปานไหน เกินหนึ่งล้านปีมันคงไม่เหลือซากอะไรให้เห็นละ แต่ว่ามันจะมีหรือปล่าวนะ อารยธรรม ที่ถูกซ่อนเอาไว้ ณะ ช่วงเวลาใด เวลาหนึ่ง ของโลกที่มีอายุ กว่า 4 พันล้านปี