ขณะที่พระภิกษุหลายรูปต้องเผชิญข่าวฉาวโฉ่ที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่อีกด้านหนึ่งก็มีพระภิกษุบางรูปที่มีศีลาจารวัตรที่แตกต่างไปมาก
ขณะที่วงการสงฆ์ไทยมีปัญหาข่าวฉาวโฉ่ของพระภิกษุหลายรูปที่ไม่เหมาะสมต่อเพศสมณะออกมาให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง แต่อีกด้านหนึ่งก็มีพระภิกษุบางรูปที่มี ศีลาจารวัตร ที่แตกต่างไปมาก เช่น หลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน แห่ง วัดป่าโสตถิผล บ้านหนองโดก ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
เมื่อเร็วๆนี้คณะศิษยานุศิษย์ได้จัดงานครบรอบวันเกิดอายุ 82ปีให้กับหลวงปู่บุญหนา ปรากฎว่าเมื่อถึงเวลาที่ญาติโยมได้นำปัจจัยขึ้นถวายต่อท่าน ท่านก็ปฏิเสธไม่ยอมรับเงินปัจจัยที่ญาติโยมนำมาถวาย
ท่านว่า "หลวงปู่ไม่รับปัจจัยแล้ว เราเป็นหลวงปู่พอเพียง"
มีผู้ถามหลวงปู่บุญหนาว่าทำไมถึงไม่รับปัจจัยที่ญาติโยมถวาย ท่านก็ตอบว่า "ไม่มีเหตุให้ต้องใช้ปัจจัยทำอะไร ไม่รู้จะรับมาทำไม"
จริงๆแล้วการไม่รับปัจจัยของหลวงปู่บุญหนานั้นเกิดขึ้นมานานแล้ว โดยท่านได้ให้ยกเอาตู้รับบริจาคออกไปจากวัดทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ที่วัดป่าโสตถิผลจึงไม่มีตู้รับบริจาคปัจจัยให้เห็น
ลูกศิษย์คนหนึ่งเล่าถึงเหตุการณ์ในงานครบรอบวันเกิดเมื่อปีที่แล้วว่า หลังจากหลวงปู่บุญหนา ฉันจังหันเสร็จและกลับไปยังกุฏิ ก็จะมีญาติโยมติดตามท่านไปด้วย ซึ่งหลวงตาก็มักจะเมตตาแจกพระเครื่องให้ทุกปี โดยครั้งนี้เจ้าหน้าที่วัดขอความร่วมมือให้ญาติโยมที่ติดตามหลวงปู่มาเป็นจำนวนมากเข้าแถวให้เรียบร้อย เพื่อความเป็นระเบียบ แต่ปรากฏว่าพอหลวงปู่เริ่มแจกพระ ทุกคนต่างกรูกันเข้าไป ทำให้เกิดการแตกแถวไม่เป็นระเบียบ หลวงปู่บุญหนาท่านหยุดแจกทันทีและกลับเข้ากุฏิ ปิดประตูหนีเลย
หลวงปู่บุญหนานับเป็นหนึ่งในศิษย์รุ่นสุดท้ายของ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ที่ยังดำรงขันธ์อยู่ในปัจจุบัน และได้ชื่อว่าเป็นพระสายวิปัสสนากรรมฐานที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยรูปหนึ่งแห่ง เมืองสกลนคร ท่านเป็นหลานแท้ๆ ของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร แห่งวัดป่าอุดมสมพร ต.พรรณา อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เมื่ออายุ 12 ปีได้เข้าพิธีบรรพชาที่ วัดแจ้ง บ้านหนองโดก ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร อันเป็นบ้านเกิดของท่าน
สามเณรบุญหนาได้มีโอกาสปฏิบัติอุปัฏฐากรับใช้พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ ศิษย์พระอาจารย์มั่น เนื่องจากด้วยพระอาจารย์อ่อนเดินธุดงค์มาพำนักหาความสงบวิเวกอยู่ที่บริเวณป่าช้าบ้าน หนองโดก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดที่สามเณรบุญหนาพำนักอยู่
ด้วยเหตุนี้สามเณรบุญหนาจึงได้มีโอกาสติดตามพระอาจารย์อ่อนไปกราบนมัสการพระอาจารย์มั่น ณ วัดป่าบ้านหนองผือ บ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เป็นประจำ นอกจากนี้ ท่านยังได้ปฏิบัติอุปัฏฐากรับใช้ครูบาอาจารย์อื่นๆ อีก เช่น พระอาจารย์ชอบ ฐานสโม พระอาจารย์ตื้อ อจลธมฺโม พระอาจารย์ลี ธัมมธโร พระอาจารย์แหวน สุจิณโณ พระอาจารย์สิม พุทธาจาโร และพระอาจารย์จาม มหาปุญโญ
หลวงปู่บุญหนา มักให้สติแก่ญาติโยมผู้เดินทางมากราบนมัสการเสมอว่า ให้เป็นผู้มีสติ ระลึกรู้ในกาย สติระลึกรู้ในวาจาคำพูด สติระลึกรู้ในใจ เมื่อสติรู้ซักซ้อมอยู่ภายในกาย วาจา และใจแล้ว ทำ พูด คิด ถูกและผิด ก็ระลึกรู้อยู่ ปรับปรุงอยู่อย่างนี้เสมอ ซึ่งเป็นคำสอนของพระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ ที่ได้เล่าเรื่องของท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล เทศน์แสดงธรรมสั้นๆ ในช่วงที่เคยเดินทางไปกราบนมัสการพระอาจารย์มั่นครั้งนั้นว่า "กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต กายบริสุทธิ์ วาจาบริสุทธิ์ ใจบริสุทธิ์"
ภาพจาก
http://www.dhammajak.net/
ข่าว โพสต์ทูเดย์
"หลวงปู่พอเพียง"
ขณะที่พระภิกษุหลายรูปต้องเผชิญข่าวฉาวโฉ่ที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่อีกด้านหนึ่งก็มีพระภิกษุบางรูปที่มีศีลาจารวัตรที่แตกต่างไปมาก
ขณะที่วงการสงฆ์ไทยมีปัญหาข่าวฉาวโฉ่ของพระภิกษุหลายรูปที่ไม่เหมาะสมต่อเพศสมณะออกมาให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง แต่อีกด้านหนึ่งก็มีพระภิกษุบางรูปที่มี ศีลาจารวัตร ที่แตกต่างไปมาก เช่น หลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน แห่ง วัดป่าโสตถิผล บ้านหนองโดก ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
เมื่อเร็วๆนี้คณะศิษยานุศิษย์ได้จัดงานครบรอบวันเกิดอายุ 82ปีให้กับหลวงปู่บุญหนา ปรากฎว่าเมื่อถึงเวลาที่ญาติโยมได้นำปัจจัยขึ้นถวายต่อท่าน ท่านก็ปฏิเสธไม่ยอมรับเงินปัจจัยที่ญาติโยมนำมาถวาย
ท่านว่า "หลวงปู่ไม่รับปัจจัยแล้ว เราเป็นหลวงปู่พอเพียง"
มีผู้ถามหลวงปู่บุญหนาว่าทำไมถึงไม่รับปัจจัยที่ญาติโยมถวาย ท่านก็ตอบว่า "ไม่มีเหตุให้ต้องใช้ปัจจัยทำอะไร ไม่รู้จะรับมาทำไม"
จริงๆแล้วการไม่รับปัจจัยของหลวงปู่บุญหนานั้นเกิดขึ้นมานานแล้ว โดยท่านได้ให้ยกเอาตู้รับบริจาคออกไปจากวัดทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ที่วัดป่าโสตถิผลจึงไม่มีตู้รับบริจาคปัจจัยให้เห็น
ลูกศิษย์คนหนึ่งเล่าถึงเหตุการณ์ในงานครบรอบวันเกิดเมื่อปีที่แล้วว่า หลังจากหลวงปู่บุญหนา ฉันจังหันเสร็จและกลับไปยังกุฏิ ก็จะมีญาติโยมติดตามท่านไปด้วย ซึ่งหลวงตาก็มักจะเมตตาแจกพระเครื่องให้ทุกปี โดยครั้งนี้เจ้าหน้าที่วัดขอความร่วมมือให้ญาติโยมที่ติดตามหลวงปู่มาเป็นจำนวนมากเข้าแถวให้เรียบร้อย เพื่อความเป็นระเบียบ แต่ปรากฏว่าพอหลวงปู่เริ่มแจกพระ ทุกคนต่างกรูกันเข้าไป ทำให้เกิดการแตกแถวไม่เป็นระเบียบ หลวงปู่บุญหนาท่านหยุดแจกทันทีและกลับเข้ากุฏิ ปิดประตูหนีเลย
หลวงปู่บุญหนานับเป็นหนึ่งในศิษย์รุ่นสุดท้ายของ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ที่ยังดำรงขันธ์อยู่ในปัจจุบัน และได้ชื่อว่าเป็นพระสายวิปัสสนากรรมฐานที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยรูปหนึ่งแห่ง เมืองสกลนคร ท่านเป็นหลานแท้ๆ ของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร แห่งวัดป่าอุดมสมพร ต.พรรณา อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เมื่ออายุ 12 ปีได้เข้าพิธีบรรพชาที่ วัดแจ้ง บ้านหนองโดก ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร อันเป็นบ้านเกิดของท่าน
สามเณรบุญหนาได้มีโอกาสปฏิบัติอุปัฏฐากรับใช้พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ ศิษย์พระอาจารย์มั่น เนื่องจากด้วยพระอาจารย์อ่อนเดินธุดงค์มาพำนักหาความสงบวิเวกอยู่ที่บริเวณป่าช้าบ้าน หนองโดก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดที่สามเณรบุญหนาพำนักอยู่
ด้วยเหตุนี้สามเณรบุญหนาจึงได้มีโอกาสติดตามพระอาจารย์อ่อนไปกราบนมัสการพระอาจารย์มั่น ณ วัดป่าบ้านหนองผือ บ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เป็นประจำ นอกจากนี้ ท่านยังได้ปฏิบัติอุปัฏฐากรับใช้ครูบาอาจารย์อื่นๆ อีก เช่น พระอาจารย์ชอบ ฐานสโม พระอาจารย์ตื้อ อจลธมฺโม พระอาจารย์ลี ธัมมธโร พระอาจารย์แหวน สุจิณโณ พระอาจารย์สิม พุทธาจาโร และพระอาจารย์จาม มหาปุญโญ
หลวงปู่บุญหนา มักให้สติแก่ญาติโยมผู้เดินทางมากราบนมัสการเสมอว่า ให้เป็นผู้มีสติ ระลึกรู้ในกาย สติระลึกรู้ในวาจาคำพูด สติระลึกรู้ในใจ เมื่อสติรู้ซักซ้อมอยู่ภายในกาย วาจา และใจแล้ว ทำ พูด คิด ถูกและผิด ก็ระลึกรู้อยู่ ปรับปรุงอยู่อย่างนี้เสมอ ซึ่งเป็นคำสอนของพระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ ที่ได้เล่าเรื่องของท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล เทศน์แสดงธรรมสั้นๆ ในช่วงที่เคยเดินทางไปกราบนมัสการพระอาจารย์มั่นครั้งนั้นว่า "กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต กายบริสุทธิ์ วาจาบริสุทธิ์ ใจบริสุทธิ์"
ภาพจาก http://www.dhammajak.net/
ข่าว โพสต์ทูเดย์