สวัสดีค่ะสาวๆ ห้องแป้ง วันนี้มาทีเดียวสองกระทู้เลย หวังว่าคงไม่เป็นการรบกวนเพื่อนๆ กันเน้าะ ^ ^"
อย่างที่บอกว่า กระทู้ที่โมตั้งเป็นเพียงการแบ่งปันความรู้ที่โมได้เรียนมา เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสาวๆ บ้าง ผิดหรือถูกยังไง โมยอมรับคำแนะนำติชมและพร้อมที่จะแก้ไขค่ะ
Shading (เฉดดิ้ง) หรือการแรเงา เทคนิคการเฉดดิ้ง ไม่ใช่เพียงเป็นการเพิ่มมิติให้ใบหน้าเท่านั้น แต่ยังช่วยแก้ไขรูปหน้าให้ดูสวยงามและสมส่วนอีกด้วย
ขออธิบายง่ายๆ เกี่ยวกับไอเดียการเฉดดิ้ง การให้แสงและเงา กันก่อนนะคะ
จำได้มั้ยสมัยประถม วิชาศิลปะ ครูวางส้มหรือแอปเปิ้ลผลนึง แล้วให้เราวาดรูปจุดกระทบแสง จุดเกิดเงา และการไล่สีจากอ่อนไปเข้ม ดังภาพ

จากรูปจะเห็นว่ามีจุดกระทบแสง จุดเงา และการไล่สีจากสีอ่อนไปเป็นสีเข้ม ซึ่งนั่นคือมิติของภาพ ก็เหมือนกับการแต่งหน้า บนใบหน้าเราก็จะมีจุดกระทบแสงและจุดที่เป็นเงาอยู่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจุดที่มาของแสง ในที่นี้เราจะกล่าวถึงแสงปกติที่จุดที่มาของแสงส่วนใหญ่จะมาจากด้านบน
มาดูจุดที่แสงกระทบบนใบหน้ากันดีกว่า (ขอใช้หน้าตัวเองนะคะ ริ้วรอย ร่องรอยอารยธรรมเยอะมาก อายจัง T_T) จุดที่เป็นรูปดาวโดยส่วนใหญ่ของหลายๆ คนแล้วคือจุดที่แสงมากระทบค่ะ ซึ่งจุดเหล่านั้นในการแต่งหน้าคือ ตำแหน่งที่เราจะลง Highlight นั่นเอง

ส่วนการเฉดดิ้ง คือ การเพิ่มเงาเข้าไป เพื่อให้จุดเราที่ Highlight นั้น ชัดเจนมากขึ้น ช่างแต่งหน้าหลายๆ ท่านจึงนิยมลง Highlight ก่อนแล้วค่อยเฉดดิ้งทีหลัง การเฉดดิ้งมีความสำคัญมากในการแต่งหน้าถ่ายรูป เพราะแสงส่วนใหญ่จะมาจากด้านหน้า ซึ่งทำให้การเกิดแสงเงาบนใบหน้าน้อยหรือแทบจะไม่มีเลย โดยเฉพาะการถ่ายรูปภาพขาวดำ การเฉดดิ้งนี้มีมาตั้งแต่สมัยเริ่มต้นของการแต่งหน้าแล้ว นึกย้อนไปถึงภาพยนตร์ขาวดำ การถ่ายรูปภาพขาวดำ นำเทคนิคการเฉดดิ้งมาใช้แทบทั้งสิ้น แล้วโมจะหาเวลาแชร์เรื่องประวัติการแต่งหน้าและการแต่งหน้าในยุคต่างๆ นะคะ
วันนี้ โมใช้ Corrector เหล่านี้ในการปกปิดและเฉดดิ้งค่ะ เป็นยี่ห้อของโรงเรียนที่โมเรียนค่ะ

แนวของการเฉดดิ้ง เราจะพูดถึงแนวตั้งและแนวนอน เฉดดิ้งแนวตั้งเพื่อให้หน้ายาวหรือเรียวขึ้น ส่วนใหญ่จะใช้เทคนี้กับสาวหน้ากลม แก้มเยอะ เป็นต้น เฉดดิ้งแนวนอนเพื่อให้หน้ากว้างขึ้น เทคนิคนี้ใช้กับสาวแก้มตอบ หน้ายาว คางแหลม เป็นต้น

รูปนี้ลงรองพื้น และ corrector ใต้ตา ร่องข้างจมูก และรอยสิวต่างๆ เรียบร้อยแล้วค่ะ จะบอกว่าลืมถ่ายรูปตอนลง corrector เพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องเฉดดิ้งอย่างเดียวเลย ข้าน้อยขออภัย T_T
จากรูป
ด้านซ้ายคือ การเฉดดิ้งแนวตั้ง โดยแนวตั้งโมจะวัดจากจุดบนของหูที่เชื่อมกับศีรษะกับมุมปาก หรือบางคนจะดูดแก้มเข้าไปก็ได้ค่ะ รอยเดียวกัน ที่โมใช้วิธีนั้นก็เพราะบางทีไปแต่งหน้าให้นางแบบแล้วให้นางแบบดูดแก้มเข้าไป นางก็จะเขินๆ อายๆ บางคนแอบหลับก็ไม่อยากจะรบกวน อิอิ
ส่วนด้านขวาคือ การเฉดดิ้งแนวนอนค่ะ โมจะวัดจากส่วนบนของหูที่เชื่อมติดกับศีรษะกับปลายจมูกค่ะ

มองในลักษณะตรง...

พอจะเห็นความแตกต่างบ้างไหมเอ่ย ?? หน้าเหลี่ยมเชียว - -*
มาต่อกันด้วย Shade ข้างจมูก การ Shade ข้างจมูกที่ดีนั้น ตรงทำให้จมูกดูตรงและเรียวค่ะ ซึ่งเทคนิคนี้สามารถใช้ในการแก้ไขรูปจมูกที่ผิดรูป ใหญ่ หรือคดงอได้ดังนี้

การแก้ไขจมูกที่ไม่ได้รูป

อีกจุดนึงคือ เบ้าตาค่ะ เบ้าตาอยู่ตรงไหน ใครหาไม่เจอ ลองวิธีนี้ดูค่ะ ใช้นิ้ว ก้นแปรง หรือดินสอเขียนขอบตา จิ้มเบาๆ ไปที่ใต้หัวคิ้ว ส่วนที่บุ๋มลงไประหว่างหัวคิ้วกับลูกตา นั่นแลคือเบ้าตาของเรา เฮ่!

การลงเฉดดิ้งและ Highlight ทั่วหน้าแล้ว ในส่วนของ Highlight อาจจะเห็นไม่ชัดมากเพราะโมใช้แบบแมตต์ ไม่มีชิมเมอร์ค่ะ เลยไม่เกิดเงาวาววับจับจิต และอีกจุดนึงที่ลง Highlight ด้วยคือ ขอบปากด้านบนและข้างมุมปากด้านล่างค่ะ

จากรูป จะสังเกตุว่า โมเขียนคิ้วต่างกัน(มั้ย?) คือ ด้านที่ Shade แนวตั้งก็จะเขียนคิ้วให้เฉียงหรือโก่งขึ้นรับกับแนวตั้ง ส่วนด้านที่ Shade แนวนอนก็จะเขียนคิ้วโค้งต่ำลงเพื่อให้รับกับแนวนอน
อย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ คือ อะไรต้องการเน้นต้องการให้ดูใหญ่ขึ้นก็ Highlight มันซะ อะไรอยากให้เรียวอยากให้เล็กลง ก็ Shading มันซะ ง่ายๆ เท่านี้เอง

Before and After
หวังว่าความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่โมแชร์ในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์กับสาวๆ บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ และหากมีคำแนะนำหรือติชม ก็ยินดีและเป็นพระคุณมากค่ะ
ไอเดียการเฉดดิ้ง เพิ่มมิติให้หน้า แก้ไขรูปหน้า
อย่างที่บอกว่า กระทู้ที่โมตั้งเป็นเพียงการแบ่งปันความรู้ที่โมได้เรียนมา เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสาวๆ บ้าง ผิดหรือถูกยังไง โมยอมรับคำแนะนำติชมและพร้อมที่จะแก้ไขค่ะ
Shading (เฉดดิ้ง) หรือการแรเงา เทคนิคการเฉดดิ้ง ไม่ใช่เพียงเป็นการเพิ่มมิติให้ใบหน้าเท่านั้น แต่ยังช่วยแก้ไขรูปหน้าให้ดูสวยงามและสมส่วนอีกด้วย
ขออธิบายง่ายๆ เกี่ยวกับไอเดียการเฉดดิ้ง การให้แสงและเงา กันก่อนนะคะ
จำได้มั้ยสมัยประถม วิชาศิลปะ ครูวางส้มหรือแอปเปิ้ลผลนึง แล้วให้เราวาดรูปจุดกระทบแสง จุดเกิดเงา และการไล่สีจากอ่อนไปเข้ม ดังภาพ
จากรูปจะเห็นว่ามีจุดกระทบแสง จุดเงา และการไล่สีจากสีอ่อนไปเป็นสีเข้ม ซึ่งนั่นคือมิติของภาพ ก็เหมือนกับการแต่งหน้า บนใบหน้าเราก็จะมีจุดกระทบแสงและจุดที่เป็นเงาอยู่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจุดที่มาของแสง ในที่นี้เราจะกล่าวถึงแสงปกติที่จุดที่มาของแสงส่วนใหญ่จะมาจากด้านบน
มาดูจุดที่แสงกระทบบนใบหน้ากันดีกว่า (ขอใช้หน้าตัวเองนะคะ ริ้วรอย ร่องรอยอารยธรรมเยอะมาก อายจัง T_T) จุดที่เป็นรูปดาวโดยส่วนใหญ่ของหลายๆ คนแล้วคือจุดที่แสงมากระทบค่ะ ซึ่งจุดเหล่านั้นในการแต่งหน้าคือ ตำแหน่งที่เราจะลง Highlight นั่นเอง
ส่วนการเฉดดิ้ง คือ การเพิ่มเงาเข้าไป เพื่อให้จุดเราที่ Highlight นั้น ชัดเจนมากขึ้น ช่างแต่งหน้าหลายๆ ท่านจึงนิยมลง Highlight ก่อนแล้วค่อยเฉดดิ้งทีหลัง การเฉดดิ้งมีความสำคัญมากในการแต่งหน้าถ่ายรูป เพราะแสงส่วนใหญ่จะมาจากด้านหน้า ซึ่งทำให้การเกิดแสงเงาบนใบหน้าน้อยหรือแทบจะไม่มีเลย โดยเฉพาะการถ่ายรูปภาพขาวดำ การเฉดดิ้งนี้มีมาตั้งแต่สมัยเริ่มต้นของการแต่งหน้าแล้ว นึกย้อนไปถึงภาพยนตร์ขาวดำ การถ่ายรูปภาพขาวดำ นำเทคนิคการเฉดดิ้งมาใช้แทบทั้งสิ้น แล้วโมจะหาเวลาแชร์เรื่องประวัติการแต่งหน้าและการแต่งหน้าในยุคต่างๆ นะคะ
วันนี้ โมใช้ Corrector เหล่านี้ในการปกปิดและเฉดดิ้งค่ะ เป็นยี่ห้อของโรงเรียนที่โมเรียนค่ะ
แนวของการเฉดดิ้ง เราจะพูดถึงแนวตั้งและแนวนอน เฉดดิ้งแนวตั้งเพื่อให้หน้ายาวหรือเรียวขึ้น ส่วนใหญ่จะใช้เทคนี้กับสาวหน้ากลม แก้มเยอะ เป็นต้น เฉดดิ้งแนวนอนเพื่อให้หน้ากว้างขึ้น เทคนิคนี้ใช้กับสาวแก้มตอบ หน้ายาว คางแหลม เป็นต้น
รูปนี้ลงรองพื้น และ corrector ใต้ตา ร่องข้างจมูก และรอยสิวต่างๆ เรียบร้อยแล้วค่ะ จะบอกว่าลืมถ่ายรูปตอนลง corrector เพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องเฉดดิ้งอย่างเดียวเลย ข้าน้อยขออภัย T_T
จากรูป
ด้านซ้ายคือ การเฉดดิ้งแนวตั้ง โดยแนวตั้งโมจะวัดจากจุดบนของหูที่เชื่อมกับศีรษะกับมุมปาก หรือบางคนจะดูดแก้มเข้าไปก็ได้ค่ะ รอยเดียวกัน ที่โมใช้วิธีนั้นก็เพราะบางทีไปแต่งหน้าให้นางแบบแล้วให้นางแบบดูดแก้มเข้าไป นางก็จะเขินๆ อายๆ บางคนแอบหลับก็ไม่อยากจะรบกวน อิอิ
ส่วนด้านขวาคือ การเฉดดิ้งแนวนอนค่ะ โมจะวัดจากส่วนบนของหูที่เชื่อมติดกับศีรษะกับปลายจมูกค่ะ
มองในลักษณะตรง...
พอจะเห็นความแตกต่างบ้างไหมเอ่ย ?? หน้าเหลี่ยมเชียว - -*
มาต่อกันด้วย Shade ข้างจมูก การ Shade ข้างจมูกที่ดีนั้น ตรงทำให้จมูกดูตรงและเรียวค่ะ ซึ่งเทคนิคนี้สามารถใช้ในการแก้ไขรูปจมูกที่ผิดรูป ใหญ่ หรือคดงอได้ดังนี้
การแก้ไขจมูกที่ไม่ได้รูป
อีกจุดนึงคือ เบ้าตาค่ะ เบ้าตาอยู่ตรงไหน ใครหาไม่เจอ ลองวิธีนี้ดูค่ะ ใช้นิ้ว ก้นแปรง หรือดินสอเขียนขอบตา จิ้มเบาๆ ไปที่ใต้หัวคิ้ว ส่วนที่บุ๋มลงไประหว่างหัวคิ้วกับลูกตา นั่นแลคือเบ้าตาของเรา เฮ่!
การลงเฉดดิ้งและ Highlight ทั่วหน้าแล้ว ในส่วนของ Highlight อาจจะเห็นไม่ชัดมากเพราะโมใช้แบบแมตต์ ไม่มีชิมเมอร์ค่ะ เลยไม่เกิดเงาวาววับจับจิต และอีกจุดนึงที่ลง Highlight ด้วยคือ ขอบปากด้านบนและข้างมุมปากด้านล่างค่ะ
จากรูป จะสังเกตุว่า โมเขียนคิ้วต่างกัน(มั้ย?) คือ ด้านที่ Shade แนวตั้งก็จะเขียนคิ้วให้เฉียงหรือโก่งขึ้นรับกับแนวตั้ง ส่วนด้านที่ Shade แนวนอนก็จะเขียนคิ้วโค้งต่ำลงเพื่อให้รับกับแนวนอน
อย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ คือ อะไรต้องการเน้นต้องการให้ดูใหญ่ขึ้นก็ Highlight มันซะ อะไรอยากให้เรียวอยากให้เล็กลง ก็ Shading มันซะ ง่ายๆ เท่านี้เอง
Before and After
หวังว่าความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่โมแชร์ในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์กับสาวๆ บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ และหากมีคำแนะนำหรือติชม ก็ยินดีและเป็นพระคุณมากค่ะ