ตอนแรกกระจิดริด คิดอยู่นานว่าจะตั้งกระทู้ดีไหม
แต่มันอึดอัดใจ ขอตั้งหน่อยละกัน ถือว่าเล่าสู่กันฟัง
ขอแบ่งเป็น 2 พาท ขาไป และขากลับ นะคะ
ขาไป
ศุกร์เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมากระจิดริดได้วางแผน กับครอบครัวญาติพี่น้องว่าเราจะบินไปไหว้พระที่ พม่ากัน
เย็นวันศุกร์ ทุกคนพร้อมกันเพื่อรอขึ้นเครื่องที่ สุวรรณภูมิ แน่นอน ว่าชาวต่างชาติเยอะแยะตาแปะขายหมู
เชคอินเรียบร้อย เดินไป เกจ กันระหว่างทางก็มีร้านดิวตี้ฟรีเยอะแยะไปหมด แล้วก็มีห้องน้ำอยู่ด้วย กระจิดริดก็เดินไปเข้าห้องน้ำ เพราะใกล้จะถึงเกจละ เราต้องเตรียมตัว กระจิดริดไปกับป้า เดินนำหน้า เข้าห้องน้ำไป ต่อคิว ตรงนั้นมีชาวต่างชาติหรือคนไทย (ไม่แน่ใจ) ต่อแถวกันอยู่แล้ว 2 คน แต่ข้างหน้าสองคนนั้น มีแขกขาว 3 คน คุยเล่นกันอยู่ คุยไปล้างมือไป เดินไปเดินมา กระจิดริดก็ คิดว่าเค้าคงเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วมาล้างมือ
กระจิดริดก็ต่อแถว สองคนนั้นไปตามปกติโดยที่กระจิดริดให้ป้าอยู่ข้างหน้า
ก็เข้าแถวกันไปตามคิวปกติ พอสองคนข้างหน้าป้าเข้าห้องน้ำไป (ก็เท่ากับป้ากระจิดริด อยู่หัวแถวล้ะ) หนึ่งคนในแขกขาวนั้น ที่ล้างมืออยู่ที่อ่างล้างหน้า นางได้กระทำการถอดรองเท้า "ยกเท้า" ขึ้นมาล้างบนอ่างล้างหน้าเลยจ้าาา
ป้ากระจิดริดมองหน้านางจากกระจก (ยืนอยู่ด้านหลัง อะคะนึกออกป้ะ) คือมองแบบ พยามจะให้รู้ว่า มันน่าเกลียดนะที่ทำแบบนี้ แต่ไม่จ่ะ นางยิ้มให้ แล้วแบะปาก คือแบบ ประมาณว่าทำไมหรอ แล้วเพื่อนๆ นางก็หัวเราะชอบใจ คือเข้าใจนะว่าไม่มีป้ายเขียนห้าม หรือประเทศเค้าสามารถทำแบบนี้ได้
ซักพักคนที่เข้าห้องน้ำก่อนหน้า ออกมา ก็ถึงคิว ที่ ป้ากระจิดริดจะต้องเข้า แต่ป้ากระจิดริดยังคงมองนางที่ เอาเท้าขึ้นไปล้างบนอ่างล้างหน้าอย่างภาคภูมิใจอยู่ เมื่อห้องน้ำว่าง มีเพื่อนของนางล้างเท้าคนนึงเข้ามาถามป้า กระจิดริดประมาณว่า อ่าวไม่เข้าหรอ ถ้าไม่เข้านางจะเข้านะ (คือถ้าจะเข้าทำไมไม่ต่อแถว ที่บ้านไม่สอนรึอะไร)
ป้ากระจิดริดยืนมองนางจนซักพักนางเริ่มหน้าเจื่อน เลยเอาเท้าลง พอ เข้าห้องน้ำกันเสร็จ กระจิดริดเดินออกมา เหนว่า พวกนั้นมากับไกด์ เลยเข้าไปคุยกับไกด์ เค้า ให้รู้ว่า ลูกทัวร์เค้าแย่มากนะ "uncivilize people" ฝากบอกเรื่องมารยาทด้วยนะ ไม่รู้ว่าเค้าได้บอกกันรึป่าว แต่ก็ถือว่าเราได้ทำหน้าที่ล่ะ ไม่ปล่อยผ่าน
ขากลับ
ณ สนามบินย่างกุ้ง ถ้าใครที่เคยไปจะทราบว่าสนามบินเค้าเล็กน้อยกระจ่อยร่อยมาก พอเช็คอินเสด กระจิดริด คิดว่าจะไปหาข้างกินซะหน่อย ไปกัน11 คน แต่คนที่จะกินข้าวมี แค่ 4 คน นี่ขนาดคัดเลือกคนที่มีความหิวระดับไฮเลเวลมาแล้วนะ 55 พอมาที่ร้าน ปรากฏ ไม่มีโต๊ะว่างเลย ทุกโต๊ะเต็ม ฝรั่งนั้งกันโต๊ะละคนๆ กางโต๊ะบุ๊ค กันคนละเครื่อง สั่งน้ำคนล้ะแก้ว ทั้งๆที่เกือบทุกโต๊ะจะมี เก้าอี้สี่ตัว แหม่ะ นึกว่าจะมีปรากฏการแบบนี้แต่ที่สตาบัค
กระจิดริด เดินไปถามพนักงาน ว่ามากัน 4 คนมีที่นั่งไหม พนักงานเลยถามว่านั่งรวมกับท่านอื่นได้ไหม เราก็ โอเค เพราะเราหิวมาก บอกเลยย
พนักงานเดินนำหน้าไป โต๊ะที่มี แหม่ม หนึ่งนางนั่งอยู่ กางแมคบุ๊คเครื่องนึง ของวางบนโต๊ะเกะกะไปหมด รอบข้าง เก้าอี้อีก 5 ตัวยังว่า พนักงานสนทนากับแหม่ม บอกประมาณ มีคนนั่งไหม จะให้แขกคนอื่นนั่งนะ นางทำหน้าไม่ค่อยพอใจ แต่ก็จำใจพยักหน้า (แน่สิ จะนั่งคนเดียวยังไงเก้าอี้หกตัว) พอพนักงานเอาเมนูมาให้ เราก็คุยกัน ย้ำว่าคุยไม่ได้ตะโกน แบบประมาณ กินอะไรดี บลาๆ เรื่องที่คนเค้าพึงจะคุยกันในร้านอาหาร
ซักพัก แหม่ม หยิบโทรศัพท์ ขึ้นมา แนบหู พอปลายสายในโทรศัพท์รับ นางชี้หน้าอาเราที่กำลังคุยอยู่ บอกว่าให้เงียบๆ แล้วทำหน้าเหวี่ยงใส่ ทุกคนอึ้งงง แต่ไม่เป็นไร ปล่อยผ่าน เข้าสู่โหมดเดิม เพราะหิวมาก นางชี้หน้าใหม่ บอกเงียบๆ ได้ไหมจะคุยโทรศัพท์ ตอนนี้ทุกคนเลือดขึ้นหน้า พนักงานเห็นท่าไม่ดี เลยรีบเดินมาที่โต๊ะเรา แล้วบอกให้เราย้ายไปที่โต๊ะใหม่ มีคนกำลังเช็คบิล
จริงๆแล้วกระจิดริดก็ไม่ได้จะคิดมากอะไร แค่มาเล่าสู่กันฟัง กระจิดริดได้เดินทางไปต่างประเทศอยู่บ้าง ถึงจะไม่ทั่วโลกก็เถอะ บอกได้เลย
ว่าไม่มีคนประเทศไหนดีเท่าคนไทยอีกแล้ว ไม่รู้ว่าคิดเข้าข้างตัวเองมากไปรึป่าว 55555
----ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ----
นี่หรอคนที่เรียกตัวเองว่า มีอารยะธรรม "ศิวิไลซ์" กว่าคนไทย
แต่มันอึดอัดใจ ขอตั้งหน่อยละกัน ถือว่าเล่าสู่กันฟัง
ขอแบ่งเป็น 2 พาท ขาไป และขากลับ นะคะ
ขาไป
ศุกร์เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมากระจิดริดได้วางแผน กับครอบครัวญาติพี่น้องว่าเราจะบินไปไหว้พระที่ พม่ากัน
เย็นวันศุกร์ ทุกคนพร้อมกันเพื่อรอขึ้นเครื่องที่ สุวรรณภูมิ แน่นอน ว่าชาวต่างชาติเยอะแยะตาแปะขายหมู
เชคอินเรียบร้อย เดินไป เกจ กันระหว่างทางก็มีร้านดิวตี้ฟรีเยอะแยะไปหมด แล้วก็มีห้องน้ำอยู่ด้วย กระจิดริดก็เดินไปเข้าห้องน้ำ เพราะใกล้จะถึงเกจละ เราต้องเตรียมตัว กระจิดริดไปกับป้า เดินนำหน้า เข้าห้องน้ำไป ต่อคิว ตรงนั้นมีชาวต่างชาติหรือคนไทย (ไม่แน่ใจ) ต่อแถวกันอยู่แล้ว 2 คน แต่ข้างหน้าสองคนนั้น มีแขกขาว 3 คน คุยเล่นกันอยู่ คุยไปล้างมือไป เดินไปเดินมา กระจิดริดก็ คิดว่าเค้าคงเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วมาล้างมือ
กระจิดริดก็ต่อแถว สองคนนั้นไปตามปกติโดยที่กระจิดริดให้ป้าอยู่ข้างหน้า
ก็เข้าแถวกันไปตามคิวปกติ พอสองคนข้างหน้าป้าเข้าห้องน้ำไป (ก็เท่ากับป้ากระจิดริด อยู่หัวแถวล้ะ) หนึ่งคนในแขกขาวนั้น ที่ล้างมืออยู่ที่อ่างล้างหน้า นางได้กระทำการถอดรองเท้า "ยกเท้า" ขึ้นมาล้างบนอ่างล้างหน้าเลยจ้าาา
ป้ากระจิดริดมองหน้านางจากกระจก (ยืนอยู่ด้านหลัง อะคะนึกออกป้ะ) คือมองแบบ พยามจะให้รู้ว่า มันน่าเกลียดนะที่ทำแบบนี้ แต่ไม่จ่ะ นางยิ้มให้ แล้วแบะปาก คือแบบ ประมาณว่าทำไมหรอ แล้วเพื่อนๆ นางก็หัวเราะชอบใจ คือเข้าใจนะว่าไม่มีป้ายเขียนห้าม หรือประเทศเค้าสามารถทำแบบนี้ได้
ซักพักคนที่เข้าห้องน้ำก่อนหน้า ออกมา ก็ถึงคิว ที่ ป้ากระจิดริดจะต้องเข้า แต่ป้ากระจิดริดยังคงมองนางที่ เอาเท้าขึ้นไปล้างบนอ่างล้างหน้าอย่างภาคภูมิใจอยู่ เมื่อห้องน้ำว่าง มีเพื่อนของนางล้างเท้าคนนึงเข้ามาถามป้า กระจิดริดประมาณว่า อ่าวไม่เข้าหรอ ถ้าไม่เข้านางจะเข้านะ (คือถ้าจะเข้าทำไมไม่ต่อแถว ที่บ้านไม่สอนรึอะไร)
ป้ากระจิดริดยืนมองนางจนซักพักนางเริ่มหน้าเจื่อน เลยเอาเท้าลง พอ เข้าห้องน้ำกันเสร็จ กระจิดริดเดินออกมา เหนว่า พวกนั้นมากับไกด์ เลยเข้าไปคุยกับไกด์ เค้า ให้รู้ว่า ลูกทัวร์เค้าแย่มากนะ "uncivilize people" ฝากบอกเรื่องมารยาทด้วยนะ ไม่รู้ว่าเค้าได้บอกกันรึป่าว แต่ก็ถือว่าเราได้ทำหน้าที่ล่ะ ไม่ปล่อยผ่าน
ขากลับ
ณ สนามบินย่างกุ้ง ถ้าใครที่เคยไปจะทราบว่าสนามบินเค้าเล็กน้อยกระจ่อยร่อยมาก พอเช็คอินเสด กระจิดริด คิดว่าจะไปหาข้างกินซะหน่อย ไปกัน11 คน แต่คนที่จะกินข้าวมี แค่ 4 คน นี่ขนาดคัดเลือกคนที่มีความหิวระดับไฮเลเวลมาแล้วนะ 55 พอมาที่ร้าน ปรากฏ ไม่มีโต๊ะว่างเลย ทุกโต๊ะเต็ม ฝรั่งนั้งกันโต๊ะละคนๆ กางโต๊ะบุ๊ค กันคนละเครื่อง สั่งน้ำคนล้ะแก้ว ทั้งๆที่เกือบทุกโต๊ะจะมี เก้าอี้สี่ตัว แหม่ะ นึกว่าจะมีปรากฏการแบบนี้แต่ที่สตาบัค
กระจิดริด เดินไปถามพนักงาน ว่ามากัน 4 คนมีที่นั่งไหม พนักงานเลยถามว่านั่งรวมกับท่านอื่นได้ไหม เราก็ โอเค เพราะเราหิวมาก บอกเลยย
พนักงานเดินนำหน้าไป โต๊ะที่มี แหม่ม หนึ่งนางนั่งอยู่ กางแมคบุ๊คเครื่องนึง ของวางบนโต๊ะเกะกะไปหมด รอบข้าง เก้าอี้อีก 5 ตัวยังว่า พนักงานสนทนากับแหม่ม บอกประมาณ มีคนนั่งไหม จะให้แขกคนอื่นนั่งนะ นางทำหน้าไม่ค่อยพอใจ แต่ก็จำใจพยักหน้า (แน่สิ จะนั่งคนเดียวยังไงเก้าอี้หกตัว) พอพนักงานเอาเมนูมาให้ เราก็คุยกัน ย้ำว่าคุยไม่ได้ตะโกน แบบประมาณ กินอะไรดี บลาๆ เรื่องที่คนเค้าพึงจะคุยกันในร้านอาหาร
ซักพัก แหม่ม หยิบโทรศัพท์ ขึ้นมา แนบหู พอปลายสายในโทรศัพท์รับ นางชี้หน้าอาเราที่กำลังคุยอยู่ บอกว่าให้เงียบๆ แล้วทำหน้าเหวี่ยงใส่ ทุกคนอึ้งงง แต่ไม่เป็นไร ปล่อยผ่าน เข้าสู่โหมดเดิม เพราะหิวมาก นางชี้หน้าใหม่ บอกเงียบๆ ได้ไหมจะคุยโทรศัพท์ ตอนนี้ทุกคนเลือดขึ้นหน้า พนักงานเห็นท่าไม่ดี เลยรีบเดินมาที่โต๊ะเรา แล้วบอกให้เราย้ายไปที่โต๊ะใหม่ มีคนกำลังเช็คบิล
จริงๆแล้วกระจิดริดก็ไม่ได้จะคิดมากอะไร แค่มาเล่าสู่กันฟัง กระจิดริดได้เดินทางไปต่างประเทศอยู่บ้าง ถึงจะไม่ทั่วโลกก็เถอะ บอกได้เลย
ว่าไม่มีคนประเทศไหนดีเท่าคนไทยอีกแล้ว ไม่รู้ว่าคิดเข้าข้างตัวเองมากไปรึป่าว 55555
----ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ----