++++++++++++++++++++++++
......บางทีคุณสมบัติหลักๆของคนที่อยากเก่งและคนประสบความสำเร็จพึงมีที่สุดก็คือ คือการยอมรับว่ามัน"ผิดพลาด"ได้
และก็ลองหาทางแก้ไขมันใหม่ แม้จะต้องทำมันอีกเป็นร้อยๆครั้งก็ตาม
วันนี้เราเองเพิ่งได้รู้ว่าความพยายามของเราทั้งหมดที่ผ่านมา มันก็ยังเป็นความพยายามแบบอาการติดความ"สมบูรณ์แบบนิยม"อยู่
อาการที่ว่านี้ก็คือ...เป็นการพยายามเพื่อหวังผลเลิศอย่างเดียวเท่านั้น และใจไม่เหลือเผื่อเป็นสิ่งอื่นไว้บ้างเลย
พอไม่เป็นไปดังคิด ก็เกิดอาการ"โลกสลาย" และรู้สึกว่าตัวเองสูญสิ้นทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย...
แม้ความต้องการพัฒนาตัวเองเพื่อการแก้ไขเป็นสิ่งที่ดีก็จริง
แต่ถ้าหากผลลัพธ์ปลายทางที่เราคาดไว้นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า”ต้องดีที่สุด” “ต้องไม่พลาด”
มันคือความคาดหวัง ที่ทำให้เราไม่เป็นอิสระ เมื่อผลของการกระทำไม่เป็นไปอย่างที่ใจคิด
แต่การ"การยอมให้มันผิดพลาดไปซะ" ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย กับแค่ความผิดพลาด....กลับทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจมากกว่า
เราเพิ่งมารู้ว่าคุณสมบัติที่เรายังขาดอยู่ ไม่ใช่ไม่พยายาม ไม่ใช่ตั้งใจไม่พอ
แต่มันคือการยอมได้หากสิ่งที่เราทำลงไปนั้นมันจะยังไม่ดี หรือผิดพลาดมากกว่า
ความแตกต่างของคนธรรมดากับคนประสบความสำเร็จก็คงต่างกันตรงนี้ด้วย คนธรรมดา ไม่อยากทำเพราะกลัวผิดพลาดกลัวเจ็บปวด แต่คนประสบความสำเร็จกลับมองว่าความผิดพลาดเป็นแค่เรื่องธรรมดาที่ทำให้เราต้องคิดใหม่อีกครั้งว่าจะทำอย่างไรต่อไป
และยิ่งเรื่องบางเรื่อง เราไม่สามารถเปลี่ยนคน เปลียนสถานการณ์ หรือเปลี่ยนผลลัพธ์ให้เป็นได้ดั่งใจเรา และถึงแม้เราจะพยายามแค่ไหนก็ตาม ในบางเรื่อง ถ้าไม่ได้ก็คือไม่ได้ ถ้ามันไม่เปลี่ยนก็คือไม่เปลี่ยน
เรื่องบางเรื่องต้องแก้ที่ตัวเราก็จริงอยู่ แต่การแก้ที่ตัวเรามันก็ใช่ว่าจะคาดหวังว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนได้อย่างใจคิด
...ถ้างั้น ......เปลี่ยนไปมองว่าเหตุการณ์เดิมที่ผ่านไปแล้วนี้ในมุมใหม่
.........ลองตั้งชื่อให้มันใหม่ดู……
ไม่แน่....สุดท้าย คำว่า”ความผิดพลาด”มันก็อาจจะถูกลบล้างออกจากใจเราไปด้วย
มันอาจจะกลายเป็นแค่เหตุการณ์ธรรมดาๆเหตุการณ์หนึ่งที่เคยเกิดขึ้นกับเราเพียงเท่านั้น....
การยอมรับความผิดพลาด
......บางทีคุณสมบัติหลักๆของคนที่อยากเก่งและคนประสบความสำเร็จพึงมีที่สุดก็คือ คือการยอมรับว่ามัน"ผิดพลาด"ได้
และก็ลองหาทางแก้ไขมันใหม่ แม้จะต้องทำมันอีกเป็นร้อยๆครั้งก็ตาม
วันนี้เราเองเพิ่งได้รู้ว่าความพยายามของเราทั้งหมดที่ผ่านมา มันก็ยังเป็นความพยายามแบบอาการติดความ"สมบูรณ์แบบนิยม"อยู่
อาการที่ว่านี้ก็คือ...เป็นการพยายามเพื่อหวังผลเลิศอย่างเดียวเท่านั้น และใจไม่เหลือเผื่อเป็นสิ่งอื่นไว้บ้างเลย
พอไม่เป็นไปดังคิด ก็เกิดอาการ"โลกสลาย" และรู้สึกว่าตัวเองสูญสิ้นทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย...
แม้ความต้องการพัฒนาตัวเองเพื่อการแก้ไขเป็นสิ่งที่ดีก็จริง
แต่ถ้าหากผลลัพธ์ปลายทางที่เราคาดไว้นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า”ต้องดีที่สุด” “ต้องไม่พลาด”
มันคือความคาดหวัง ที่ทำให้เราไม่เป็นอิสระ เมื่อผลของการกระทำไม่เป็นไปอย่างที่ใจคิด
แต่การ"การยอมให้มันผิดพลาดไปซะ" ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย กับแค่ความผิดพลาด....กลับทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจมากกว่า
เราเพิ่งมารู้ว่าคุณสมบัติที่เรายังขาดอยู่ ไม่ใช่ไม่พยายาม ไม่ใช่ตั้งใจไม่พอ
แต่มันคือการยอมได้หากสิ่งที่เราทำลงไปนั้นมันจะยังไม่ดี หรือผิดพลาดมากกว่า
ความแตกต่างของคนธรรมดากับคนประสบความสำเร็จก็คงต่างกันตรงนี้ด้วย คนธรรมดา ไม่อยากทำเพราะกลัวผิดพลาดกลัวเจ็บปวด แต่คนประสบความสำเร็จกลับมองว่าความผิดพลาดเป็นแค่เรื่องธรรมดาที่ทำให้เราต้องคิดใหม่อีกครั้งว่าจะทำอย่างไรต่อไป
และยิ่งเรื่องบางเรื่อง เราไม่สามารถเปลี่ยนคน เปลียนสถานการณ์ หรือเปลี่ยนผลลัพธ์ให้เป็นได้ดั่งใจเรา และถึงแม้เราจะพยายามแค่ไหนก็ตาม ในบางเรื่อง ถ้าไม่ได้ก็คือไม่ได้ ถ้ามันไม่เปลี่ยนก็คือไม่เปลี่ยน
เรื่องบางเรื่องต้องแก้ที่ตัวเราก็จริงอยู่ แต่การแก้ที่ตัวเรามันก็ใช่ว่าจะคาดหวังว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนได้อย่างใจคิด
...ถ้างั้น ......เปลี่ยนไปมองว่าเหตุการณ์เดิมที่ผ่านไปแล้วนี้ในมุมใหม่
.........ลองตั้งชื่อให้มันใหม่ดู……
ไม่แน่....สุดท้าย คำว่า”ความผิดพลาด”มันก็อาจจะถูกลบล้างออกจากใจเราไปด้วย
มันอาจจะกลายเป็นแค่เหตุการณ์ธรรมดาๆเหตุการณ์หนึ่งที่เคยเกิดขึ้นกับเราเพียงเท่านั้น....