ในทุกๆปี กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาต้องเสียงบประมาณในการว่าจ้างให้ดำเนินการฟ้องร้องกับลูกหนี้ที่ผิดนัดชำระหนี้
ซึ่งกว่ากยศ.จะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับลูกหนี้ ก็มีการออกหนังสือเตือน เปิดโครงการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง ฯลฯ เพื่อให้โอกาส
ก็มีลูกหนี้หลายคนที่มีรายได้แล้ว ก็จะชำระเงินกู้ดังกล่าวคืนให้แก่กยศ. แต่ก็มีอีกหลายคนที่ยังคงเพิกเฉยไม่ชำระเงินกู้ดังกล่าว
จึงทำให้ปีๆนึงกยศ.ต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีกับลูกหนี้จำนวนมหาศาล
บางคนกู้ยืมเพียง 1 ภาคการศึกษา ถ้าเป็นระดับมัธยมก็เป็นเงินไม่กี่พันบาท แต่ถ้ารวมกันทั่วประเทศก็จะเป็นยอดเงินจำนวนมาก
มากพอที่จะนำไปปล่อยกู้ให้แก่รุ่นน้องๆ เพื่อให้มีโอกาสทางการศึกษาได้อีกหลายคน หากผู้กู้ได้ชำระเงินกู้คืน
นี่ยังไม่รวมถึงคนที่กู้ตั้งแต่มัธยมจนถึงจบมหาวิทยาลัย ซึ่งมีทั้งรัฐบาลและเอกชน
วงเงินที่ขอกู้ของบางคนอาจมียอดเกือบๆ 1 ล้านบาทเลยทีเดียว
เมื่อท่านทั้งหลายได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง ซึ่งจะนำส่งให้ท่านกับผู้ค้ำประกัน ณ ภูมิลำเนา
จึงขอให้ท่านเดินทางไปศาลตามวันและเวลาที่ระบุไว้หน้าหมายเรียกฯ
หากท่านไม่ว่างก็สามารถมอบอำนาจให้ผู้ค้ำทำการแทนได้ หรือ ถ้าผู้ค้ำไม่ว่างก็สามารถมอบอำนาจให้ท่านดำเนินการแทนได้
อีกทั้งยังต้องแนบสำเนาบัตรปชช.ผู้มอบ+ผู้รับมอบ พร้อมติดอากรแสตมป์บนหนังสือมอบอำนาจให้เรียบร้อย
เมื่อตระเตรียมเอกสารให้เรียบร้อย ก็จะทำให้ไม่เสียเวลาจร้าา
หากท่านตกลงทำสัญญษประนีประนอมยอมความ เพื่อผ่อนชำระหนี้ตามฟ้องแล้ว ขอให้ท่านปฏิบัติให้ได้ตามสัญญา
อย่าเพียงแค่ทำไปเพียงผ่านๆ ไม่คิดที่จะผ่อนชำระจริงจัง แม้จะผ่อนชำระต่อเดือนไม่สูงมาก
ต่ำสุด หากเงินต้นไม่เกิน 30.000 บาท ยอดผ่อนชำระต่อเดือนๆละ 400 บาท
สูงสุด เงินต้นตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไป ยอดผ่อนชำระต่อเดือนๆละ 5,100 บาท
ซึ่งแต่ละคนจะจ่ายเท่าไหร่นั้น ก็จะดูจากเงินต้นของแต่ละคนว่ากู้มาคนละเท่าไหร่
แล้วจึงนำมาเทียบกับเกณฑ์ของกยศ. ออกมาเป็นยอดเงินที่ต้องผ่อนชำระคะ
จะเห็นว่ายอดผ่อนชำระต่อเดือนนั้นจะต่ำมากๆ ดังนั้นควรชำระให้ถูกต้องและครบถ้วนตามสัญญา
เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมกันคะ



เทศกาล กยศ. '56 อย่าลืม!!!! ไปศาลกันนะพี่น้อง
ซึ่งกว่ากยศ.จะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับลูกหนี้ ก็มีการออกหนังสือเตือน เปิดโครงการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง ฯลฯ เพื่อให้โอกาส
ก็มีลูกหนี้หลายคนที่มีรายได้แล้ว ก็จะชำระเงินกู้ดังกล่าวคืนให้แก่กยศ. แต่ก็มีอีกหลายคนที่ยังคงเพิกเฉยไม่ชำระเงินกู้ดังกล่าว
จึงทำให้ปีๆนึงกยศ.ต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีกับลูกหนี้จำนวนมหาศาล
บางคนกู้ยืมเพียง 1 ภาคการศึกษา ถ้าเป็นระดับมัธยมก็เป็นเงินไม่กี่พันบาท แต่ถ้ารวมกันทั่วประเทศก็จะเป็นยอดเงินจำนวนมาก
มากพอที่จะนำไปปล่อยกู้ให้แก่รุ่นน้องๆ เพื่อให้มีโอกาสทางการศึกษาได้อีกหลายคน หากผู้กู้ได้ชำระเงินกู้คืน
นี่ยังไม่รวมถึงคนที่กู้ตั้งแต่มัธยมจนถึงจบมหาวิทยาลัย ซึ่งมีทั้งรัฐบาลและเอกชน
วงเงินที่ขอกู้ของบางคนอาจมียอดเกือบๆ 1 ล้านบาทเลยทีเดียว
เมื่อท่านทั้งหลายได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง ซึ่งจะนำส่งให้ท่านกับผู้ค้ำประกัน ณ ภูมิลำเนา
จึงขอให้ท่านเดินทางไปศาลตามวันและเวลาที่ระบุไว้หน้าหมายเรียกฯ
หากท่านไม่ว่างก็สามารถมอบอำนาจให้ผู้ค้ำทำการแทนได้ หรือ ถ้าผู้ค้ำไม่ว่างก็สามารถมอบอำนาจให้ท่านดำเนินการแทนได้
อีกทั้งยังต้องแนบสำเนาบัตรปชช.ผู้มอบ+ผู้รับมอบ พร้อมติดอากรแสตมป์บนหนังสือมอบอำนาจให้เรียบร้อย
เมื่อตระเตรียมเอกสารให้เรียบร้อย ก็จะทำให้ไม่เสียเวลาจร้าา
หากท่านตกลงทำสัญญษประนีประนอมยอมความ เพื่อผ่อนชำระหนี้ตามฟ้องแล้ว ขอให้ท่านปฏิบัติให้ได้ตามสัญญา
อย่าเพียงแค่ทำไปเพียงผ่านๆ ไม่คิดที่จะผ่อนชำระจริงจัง แม้จะผ่อนชำระต่อเดือนไม่สูงมาก
ต่ำสุด หากเงินต้นไม่เกิน 30.000 บาท ยอดผ่อนชำระต่อเดือนๆละ 400 บาท
สูงสุด เงินต้นตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไป ยอดผ่อนชำระต่อเดือนๆละ 5,100 บาท
ซึ่งแต่ละคนจะจ่ายเท่าไหร่นั้น ก็จะดูจากเงินต้นของแต่ละคนว่ากู้มาคนละเท่าไหร่
แล้วจึงนำมาเทียบกับเกณฑ์ของกยศ. ออกมาเป็นยอดเงินที่ต้องผ่อนชำระคะ
จะเห็นว่ายอดผ่อนชำระต่อเดือนนั้นจะต่ำมากๆ ดังนั้นควรชำระให้ถูกต้องและครบถ้วนตามสัญญา
เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมกันคะ