วันอาทิตย์ตอนบ่ายๆกับเรื่องเบาๆนำมาเล่าสู่กันฟังเช่นเคยครับคุณผู้ชม
วันศุกร์ที่ผ่านมานี่เอง จขกท.มีธุระต้องไปติดต่อกับหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งในตัวจังหวัด
หลังจากคุยกับหัวหน้าสำนักงานงานเสร็จ ก็ต้องออกไปดูสถานที่ด้านนอกกัน
และเพื่อความสะดวก จึงตกลงจะเอารถของสำนักงานไป
แต่ปรากฏว่าวันนี้คนขับรถลางาน หัวหน้าก็เลยมอบหมายให้นักการภารโรงเป็นผู้ขับรถพาไปให้
ซึ่งภารโรงท่านนี้กับจขกท.ก็พอคุ้นเคยกันอยู่บ้าง ขอสมมุติชื่อท่านว่าลุงดำก็แล้วกันนะ
ด้วยลุงดำเป็นคนอัธยาศัยดีก็เลยรู้สึกชื่นชมแกเป็นการส่วนตัว
จำได้ว่าครั้งแรกที่มาติดต่อหน่วยงานแห่งนี้ ลุงดำเป็นคนจัดแจงหาที่จอดรถให้เป็นอย่างดี
ทั้งที่วันนั้นขับรถกระบะเก่าๆมา แถมใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ ที่สำคัญแกเรียกเราว่า นายหัว
ก็เลยรู้สึกถูกชะตาลุงดำ ณ.บัดนาว แหม..ก็เล่นอัพเลเวลให้ซะขนาดนั้น
หลังจากนั้น จขกท.ก็มาติดต่อที่หน่วยงานนี้อีกหลายครั้ง ทุกครั้งก็จะคุยทักทายกันอย่างคุ้นเคยทีเดียว
ครั้งล่าสุดเจอลุงดำกับภรรยาและลูกสาวซึ่งกำลังเรียนพยาบาลอยู่ เค้าก็แนะนำให้รู้จัก
จำได้ว่าได้ยินสามคนพ่อแม่ลูกเค้าคุยกัน ประโยคนึงที่ลูกสาวเค้าพูดกับพ่อคือ ถ้าไม่เจอใครที่ดีเหมือนพ่อเธอจะไม่มีแฟน
วันนั้นได้ฟังก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้น่ารักจัง เพราะเธอศรัทธาในตัวของพ่อ ทั้งที่พ่อก็เป็นเพียงนักการคนนึง
หลังจากเสร็จธุระ หัวหน้าก็แยกไปกับคนรู้จัก จขกท.ก็เลยกลับกับลุงดำสองคน
ด้วยเป็นเวลาเกือบบ่ายแล้ว แต่เรายังไม่ได้กินข้าวเที่ยงกัน ก็เลยแวะร้านอาหารข้างทาง
ร้านที่แวะเป็นร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ ไปถึงปรากฏว่าคงขายดี เลยเหลือแต่ไก่ ส่วนหมู หมึก กุ้ง หมดเกลี้ยง
ก็เลยจำต้องสั่งเป็นเมนูยอดฮิตกะเพราไก่ไข่ดาว และเพื่อความไวก็เลยสั่งเหมือนกัน
สักครู่ป้าคนขายก็เอามาเสริฟ แต่คุณป้าคงมีปัญหาทางสายตา เพราะจานของลุงดำไก่เพียบ แต่จานของจขกท.มีแต่กะเพรา
ลุงดำคงสังเกตุเห็นสายตาที่อาลัยอาวรณ์เนื้อไก่ในจานลุงดำของจขกท. ก็เลยรีบสลับจาน บอกว่าลุงเป็นเกาต์กินไก่มากไม่ได้
เราก็จะเปลี่ยนกลับ แต่ลุงดำไม่ยอม จขกท.ก็เลยจำยอมต้องยอมรับจานที่มีไก่เยอะด้วยความซาบซึ้งในน้ำใจของลุงดำ
ยังไม่ทันเริ่มกิน ลุงดำก็หันไปสั่งกะเพราไก่ไข่ดาวราดข้าวใส่กล่อง เพื่อนำไปฝากเมียซึ่งขายของอยู่ใกล้ๆที่ทำงานแก
ปรากฏว่า ป้าคนขายบอกว่า ไข่หมดแล้ว (ขายดีจริงๆ)
ลุงดำเลยบอกป้าคนขายว่า งั้นเอาไข่ดาวในจานของแกใส่กล่องไปให้เมียแทนแล้วกัน
ลุงดำบอกว่า เมียชอบไข่ดาวไม่สุกแบบนี้มาก เอาไว้ให้เมียกินดีกว่า
จขกท.ได้ยินแล้วรู้สึกปลื้มลุงดำคนรักเมียจนบอกไม่ถูกทีเดียว
พอกลับมาถึงสำนักงาน จอดรถเสร็จลุงดำคว้าจักรยานประจำตัว บอกว่าขอตัวเอาข้าวกล่องไปให้เมียก่อนนะ
เราก็ถามว่าที่ไหน ปรากฏว่าที่ที่เมียลุงดำขายของเราเพิ่งผ่านมาเมื่อสักครู่เอง แต่อยู่คนละฝั่งถนนต้องยูเทิร์น
ถามลุงดำว่า ทำไมเมื่อกี๊ไม่แวะให้ล่ะ ลุงดำบอกมันต้องยูเทิร์นไกล ใช้รถหลวง มันดูไม่ดีน่ะ
ได้ยินอย่างนี้ ทำให้ไม่แปลกใจเลย ที่วันนั้นลูกสาวของลุงดำบอกลุงดำว่า ถ้าไม่เจอใครที่ดีเหมือนพ่อเธอจะไม่มีแฟน
วันนั้นขับรถกลับบ้านด้วยความปลาบปลื้มใจเหลือเกิน
นอกจากคุยเรื่องงานประสบความสำเร็จแล้ว ยังได้รู้จักกับสุภาพบุรุษจุฑาเทพอีกด้วยล่ะ
เอาน่า ถึงภาพลักษณ์และคุณสมบัติต่างๆของลุงดำจะยังห่างคุณชายทั้งหลาย
แต่จขกท.มั่นใจแหละ ว่าคุณชายดำของจขกท. ก็เป็นสุภาพบุรุษไม่แพ้ใครเช่นกัน
เล่าสู่กันฟัง...สุภาพบุรุษจุฑาเทพ
วันศุกร์ที่ผ่านมานี่เอง จขกท.มีธุระต้องไปติดต่อกับหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งในตัวจังหวัด
หลังจากคุยกับหัวหน้าสำนักงานงานเสร็จ ก็ต้องออกไปดูสถานที่ด้านนอกกัน
และเพื่อความสะดวก จึงตกลงจะเอารถของสำนักงานไป
แต่ปรากฏว่าวันนี้คนขับรถลางาน หัวหน้าก็เลยมอบหมายให้นักการภารโรงเป็นผู้ขับรถพาไปให้
ซึ่งภารโรงท่านนี้กับจขกท.ก็พอคุ้นเคยกันอยู่บ้าง ขอสมมุติชื่อท่านว่าลุงดำก็แล้วกันนะ
ด้วยลุงดำเป็นคนอัธยาศัยดีก็เลยรู้สึกชื่นชมแกเป็นการส่วนตัว
จำได้ว่าครั้งแรกที่มาติดต่อหน่วยงานแห่งนี้ ลุงดำเป็นคนจัดแจงหาที่จอดรถให้เป็นอย่างดี
ทั้งที่วันนั้นขับรถกระบะเก่าๆมา แถมใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ ที่สำคัญแกเรียกเราว่า นายหัว
ก็เลยรู้สึกถูกชะตาลุงดำ ณ.บัดนาว แหม..ก็เล่นอัพเลเวลให้ซะขนาดนั้น
หลังจากนั้น จขกท.ก็มาติดต่อที่หน่วยงานนี้อีกหลายครั้ง ทุกครั้งก็จะคุยทักทายกันอย่างคุ้นเคยทีเดียว
ครั้งล่าสุดเจอลุงดำกับภรรยาและลูกสาวซึ่งกำลังเรียนพยาบาลอยู่ เค้าก็แนะนำให้รู้จัก
จำได้ว่าได้ยินสามคนพ่อแม่ลูกเค้าคุยกัน ประโยคนึงที่ลูกสาวเค้าพูดกับพ่อคือ ถ้าไม่เจอใครที่ดีเหมือนพ่อเธอจะไม่มีแฟน
วันนั้นได้ฟังก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้น่ารักจัง เพราะเธอศรัทธาในตัวของพ่อ ทั้งที่พ่อก็เป็นเพียงนักการคนนึง
หลังจากเสร็จธุระ หัวหน้าก็แยกไปกับคนรู้จัก จขกท.ก็เลยกลับกับลุงดำสองคน
ด้วยเป็นเวลาเกือบบ่ายแล้ว แต่เรายังไม่ได้กินข้าวเที่ยงกัน ก็เลยแวะร้านอาหารข้างทาง
ร้านที่แวะเป็นร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ ไปถึงปรากฏว่าคงขายดี เลยเหลือแต่ไก่ ส่วนหมู หมึก กุ้ง หมดเกลี้ยง
ก็เลยจำต้องสั่งเป็นเมนูยอดฮิตกะเพราไก่ไข่ดาว และเพื่อความไวก็เลยสั่งเหมือนกัน
สักครู่ป้าคนขายก็เอามาเสริฟ แต่คุณป้าคงมีปัญหาทางสายตา เพราะจานของลุงดำไก่เพียบ แต่จานของจขกท.มีแต่กะเพรา
ลุงดำคงสังเกตุเห็นสายตาที่อาลัยอาวรณ์เนื้อไก่ในจานลุงดำของจขกท. ก็เลยรีบสลับจาน บอกว่าลุงเป็นเกาต์กินไก่มากไม่ได้
เราก็จะเปลี่ยนกลับ แต่ลุงดำไม่ยอม จขกท.ก็เลยจำยอมต้องยอมรับจานที่มีไก่เยอะด้วยความซาบซึ้งในน้ำใจของลุงดำ
ยังไม่ทันเริ่มกิน ลุงดำก็หันไปสั่งกะเพราไก่ไข่ดาวราดข้าวใส่กล่อง เพื่อนำไปฝากเมียซึ่งขายของอยู่ใกล้ๆที่ทำงานแก
ปรากฏว่า ป้าคนขายบอกว่า ไข่หมดแล้ว (ขายดีจริงๆ)
ลุงดำเลยบอกป้าคนขายว่า งั้นเอาไข่ดาวในจานของแกใส่กล่องไปให้เมียแทนแล้วกัน
ลุงดำบอกว่า เมียชอบไข่ดาวไม่สุกแบบนี้มาก เอาไว้ให้เมียกินดีกว่า
จขกท.ได้ยินแล้วรู้สึกปลื้มลุงดำคนรักเมียจนบอกไม่ถูกทีเดียว
พอกลับมาถึงสำนักงาน จอดรถเสร็จลุงดำคว้าจักรยานประจำตัว บอกว่าขอตัวเอาข้าวกล่องไปให้เมียก่อนนะ
เราก็ถามว่าที่ไหน ปรากฏว่าที่ที่เมียลุงดำขายของเราเพิ่งผ่านมาเมื่อสักครู่เอง แต่อยู่คนละฝั่งถนนต้องยูเทิร์น
ถามลุงดำว่า ทำไมเมื่อกี๊ไม่แวะให้ล่ะ ลุงดำบอกมันต้องยูเทิร์นไกล ใช้รถหลวง มันดูไม่ดีน่ะ
ได้ยินอย่างนี้ ทำให้ไม่แปลกใจเลย ที่วันนั้นลูกสาวของลุงดำบอกลุงดำว่า ถ้าไม่เจอใครที่ดีเหมือนพ่อเธอจะไม่มีแฟน
วันนั้นขับรถกลับบ้านด้วยความปลาบปลื้มใจเหลือเกิน
นอกจากคุยเรื่องงานประสบความสำเร็จแล้ว ยังได้รู้จักกับสุภาพบุรุษจุฑาเทพอีกด้วยล่ะ
เอาน่า ถึงภาพลักษณ์และคุณสมบัติต่างๆของลุงดำจะยังห่างคุณชายทั้งหลาย
แต่จขกท.มั่นใจแหละ ว่าคุณชายดำของจขกท. ก็เป็นสุภาพบุรุษไม่แพ้ใครเช่นกัน