'หมอพรทิพย์' ไม่เชื่อมือหมอพื้นที่ ชันสูตรศพ 'เอกยุทธ' ..... ข่าวไทยรัฐออนไลน์ ... วันนี้ที่รอคอย

กระทู้สนทนา
คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ตรวจราชการ ปลัดยธ. เข้าให้การ กมธ.พัฒนาการเมืองฯ
รับ ไม่เชื่อมือหมอพื้นที่ชันสูตรศพ “เอกยุทธ” ดักคอ ตร.ก่อนสรุปสำนวนให้รอผล
นิติวิทยาศาสตร์ ก่อน กมธ.ปชป.เล็งเข้ารีดข้อมูล 2 ผู้ต้องหาในเรือนจำ

วันที่ 5 ก.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะอนุกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง
และการสื่อสารมวลชนสภาผู้แทนราษฎร มีนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ
พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานฯ เพื่อพิจารณาความคืบหน้าคดีฆาตกรรม นายเอกยุทธ
อัญชันบุตร โดยเชิญ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์
ผู้ตรวจราชการสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม อดีตผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นพ.สมบูรณ์
คุโรปกรณ์พงษ์ รองผอ. ด้านบริหารปฐมภูมิและทุติยภูมิ โรงพยาบาลพัทลุง นายสุวัตร
อภัยภักดิ์ ทนายความ นายเอกยุทธ และ พ.ต.อ.อภิชัย ธิยามาตย์
รองผู้บังคับการกองปราบปราม

โดยนพ.สมบูรณ์ ชี้แจง ถึงผลการชันสูตรพลิกศพ นายเอกยุทธ ว่า
ไม่พบร่องรอยของการถูกรัดคอ และถูกมัดมือมัดเท้า มีเพียงรอยช้ำขนาดเท่าเหรียญบาท
ที่บริเวณคอ ซึ่งเป็นลักษณะเพียงร่องรอยของการถูกกระแทก หรือ กดเท่านั้น และรอยยุบ
บริเวณศีรษะไม่มีรอยแตก สาเหตุการเสียชีวิตคาดว่า เกิดจากการที่สมองขาดอากาศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ จะชี้แจงเพิ่มเติม นายวัชระ
ได้สอบถามถึงสาเหตุ ที่ถูกโยกย้าย โดย พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า
สาเหตุมาจากปัญหาความไม่สงบพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่า
ในฐานะแพทย์ควรมีหน้าที่ชันสูตรพลิกศพเท่านั้น ไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับ
การวิเคราะห์หาแนวร่วมในพื้นที่ และการให้ความช่วยเหลือผู้นำฝ่ายค้านของมาเลเซีย
ตามหลักมนุษยธรรมโดยไม่นำเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง

ซึ่งเรื่องดังกล่าว ได้รับหนังสือตำหนิว่า ควรจะให้ความช่วยเหลือด้านการเมือง
เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่มากกว่าเรื่องของมนุษยธรรม จากนั้นจึงได้ชี้แจงถึง
หลักการและแนวทางการหาสาเหตุการเสียชีวิตของ นายเอกยุทธ
โดยตั้งข้อสังเกตหลายประเด็น อาทิ การตั้งประเด็นในคดีน้อยเกินไป
การใช้รถคันเกิดเหตุ ทำภารกิจอื่น และจำลองแผนคำรับสารภาพ
แทนการตรวจสอบหาร่องรอยคนร้าย และเห็นว่า
แพทย์ที่เข้าไปชันสูตรพลิกศพไม่สามารถปฏิบัติงานได้เต็มที่
เพราะมีผู้กำกับในที่เกิดเหตุ ซึ่งคดีนี้ควรใช้แพทย์นิติเวช มากกว่าแพทย์ในพื้นที่
ขณะที่ ไม่มีความคืบหน้าที่จะเร่งติดตามทรัพย์สินผู้ตายที่หายไปกลับคืนมา

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า มองว่า ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสรุปสำนวนคดี
ต้องรอผลการพิสูจน์จาก นิติวิทยาศาสตร์ พร้อมกับการสอบปากคำพยาน
และหลักฐานให้ชัดเจนมากกว่านี้ และรูปคดีลักษณะดังกล่าวในปัจจุบันเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
หากรัฐบาลยังไม่สามารถสร้างความโปร่งใส ในการสืบสวนสอบสวนให้เกิดขึ้น
ก็จะมีเหยื่อในคดีแบบนี้เกิดขึ้นอีกจำนวนมาก
และไม่มีหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเข้ามาคานอำนาจได้

ขณะที่ นายสุวัตร ได้ตั้งข้อสังเกตถึงสาเหตุการเสียชีวิตโดยเชื่อว่า
มีสาเหตุมาจากประเด็นทางการเมือง มากกว่าการประสงค์ต่อทรัพย์
ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเร่งปิดคดี
เนื่องจากคนร้ายหวังเพียงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์เท่านั้น และก่อนที่จะเสียชีวิต
นายเอกยุทธ เคยระบุว่า หากต้องเสียชีวิตก็มีเพียงประเด็นเดียว คือ ความขัดแย้ง
กับผู้มีอำนาจทางการเมืองเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมาธิการฯ
จะขอมติฯเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการชุดใหญ่ลงพื้นที่ เรือนจำ
เพื่อพูดคุยกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนต่อไป.

http://www.thairath.co.th/content/pol/355453
  
แล้วก็มาลองอ่าน  ที่สื่อเขาเขียน  เรื่องเดียวกันนี้   ดูเหมือนอยากให้คดีนี้เกี่ยวกับการเมือง
หรือว่ากันตรงๆ  เกี่ยวกับ  คุณทักษิณ  และ รัฐบาลนี้ให้ได้
เพราะฟืนที่มีเปียก   หาเชื้ออะไร  พอที่จะทำให้เกิดไฟปะทุขึ้นมาให้ได้  ต้องรีบใส่เข้าไป
    หัวเราะ

หลักฐานใหม่ คดีเอกยุทธ โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน    คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่12   มติชนออนไลน์  

(มติชนรายวัน 5 ก.ค.2556)



มักได้ยินได้ฟังเสียงท้วงติงตำรวจว่า อย่ารีบปิดคดี นายเอกยุทธ อัญชันบุตร
ว่าเป็นเพียงแค่คดีฆ่าเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ อยากให้มีการสืบสวนสอบสวนให้
กระจ่างกว่านี้ ว่าเป็นการฆาตกรรมอำพรางหรือไม่ มีการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่

จนล่าสุด มี พ.ต.ท.ปิยพงษ์ สาครเย็น หนึ่งในคณะกรรมการผ่าพิสูจน์ศพของ
สถาบันนิติเวชตำรวจ ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับวิธีฆ่านายเอกยุทธ โดย
ไม่ตรงกับคำสารภาพของผู้ต้องหา

บรรดานักการเมืองและทีมทนายความกลุ่มหนึ่งพากันตื่นเต้น เรียกร้องให้ตำรวจนำ
"หลักฐานใหม่" นี้ไปพิจารณา

ฟังแล้วน่าสงสัยในคำว่าหลักฐานใหม่

การเป็นนักการเมือง เป็นบุคคลในวงการกฎหมาย ควรเข้าใจคำว่าหลักฐานกับ
ความคิดเห็นในทางส่วนตัวให้กระจ่างชัด

อันที่จริง ฟังแพทย์นิติเวชคนนี้แสดงความเห็น ก็ต้องดูให้ละเอียดก่อนว่า เขาเป็นแพทย์
เจ้าของรายงานการตรวจพิสูจน์ศพนายเอกยุทธใช่หรือไม่

คำตอบคือ เป็นเพียงหนึ่งในคณะกรรมการผ่าพิสูจน์ และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงชื่อรับรองผลพิสูจน์นั้น

ประการต่อมา แพทย์นิติเวชรับรู้คดีฆ่านายเอกยุทธอย่างไรบ้าง คำตอบคือ รับรู้เมื่อทำหน้าที่
ผ่าพิสูจน์ศพเพียงเท่านั้น

แพทย์นิติเวชตำรวจ ไม่เคยไปร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาและพยาน ไม่ได้ร่วมตรวจสอบพยาน
หลักฐานอื่นๆ เพราะไม่ใช่หน้าที่

คำถามที่น่าถามที่สุดคือ แล้วแพทย์นิติเวชที่ได้เห็นศพนายเอกยุทธ ได้ตรวจพิสูจน์ทุกซอกทุกมุมของศพ

เพียงแค่เห็นศพและตรวจศพ จะรู้ได้อย่างไรว่า เขาฆ่ากันด้วยวิธีไหน

เป็นไปได้มากว่า พ.ต.ท.ปิยพงษ์อาจจะเป็นผู้ใส่ใจใคร่รู้ในคดีอาชญากรรมต่างๆ
เมื่อชันสูตรศพคนดังในคดีฆาตกรรม ก็อาจมุ่งมั่นนั่งคิดวิเคราะห์จินตนาการ
หลังจากสรุปผลพิสูจน์ว่า

"สันนิษฐานว่าขาดอากาศหายใจ จากการกดบีบบริเวณลำคอ

ร่วมกับการอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนนอก"

ก็มานั่งคิดต่อเอาเองว่า หรืออาจจะฆ่าด้วยวิธีนั้นวิธีนี้ มากกว่าแค่การบีบคอและใช้เชือก
ผูกรองเท้ารัดคอ

แต่ความคิดและจินตนาการดังกล่าว เป็นความสุขสนุกท้าทายส่วนตัวของ พ.ต.ท.ปิยพงษ์
ไม่เกี่ยวกับผลการตรวจพิสูจน์ศพ

เพราะผลตรวจพิสูจน์ศพจะบอกว่า พบบาดแผลบริเวณไหนในศพนายเอกยุทธบ้าง
ส่วนกะโหลกศีรษะ ซี่โครงต่างๆ มีร่องรอย

อะไรไหม ในกระเพาะอาหาร กระเพาะปัสสาวะ เป็นเช่นไร

ไปจนถึงมีสารพิษหรือไม่ มีเนื้อเยื่อมีดีเอ็นเอของคนร้ายในเล็บของผู้ตายหรือไม่

แล้วขมวดด้วยข้อสันนิษฐานถึงสาเหตุการตาย

ไม่มีผลนิติเวชไหนในโลก ที่อธิบายวิธีการฆ่าด้วยหรอก เพราะแค่ผ่าศพจะบอก
อย่างอื่นนอกเหนือจากนั้นไม่ได้

ผลการตรวจของแพทย์นิติเวช จะนำไปใช้เปรียบเทียบกับคำให้การของผู้ต้องหา
กับผลการสอบพยานหาข้อเท็จจริงของพนักงานสืบสวนสอบสวน

หรือผลนิติเวชอาจจะช่วยไขปริศนาบางอย่างได้ หากการสืบสวนสอบสวนไม่กระจ่างชัด

แต่สำหรับคดีนายเอกยุทธ ผลการสืบสวนสอบสวนกระจ่างหมด ผลการตรวจของนิติเวช
เป็นเครื่องตรวจสอบเปรียบเทียบ โดยพบว่าตรงกับคำสารภาพทั้งหมด

กรณี พ.ต.ท.ปิยพงษ์จึงเป็นเรื่องความคิดจินตนาการส่วนตัว

ไม่ได้มีผลเป็นทางการในคดีแม้แต่น้อย

เพราะนี่ไม่ใช่หลักฐานใหม่

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1373018321&grpid=&catid=02&subcatid=0207





สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่