ไปคันเดียว บินเดี่ยว บูรพา
สวัสดีชาว 2 ล้อ พันทิป วันนี้จะขอเล่าเรื่องเก่าๆ ของคนแก่ๆ ให้ฟังสักเรื่อง ก็แค่บันทึกการเดินทางหน้าเก่าๆ และมันอยู่ในความทรงจำที่ไม่อยากลืม ผมไม่ใช่คนที่จะว่างมากนัก ด้วยหน้าที่การงานที่รัดตัว งาน IT ที่ต้องดูแลระบบของบริษัทที่มีการปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง
ทำให้วันหยุดของผมมันไม่เหมอืนวันหยุดมากนัก งานเก่าๆ คนกากๆ เวลาแต่ละวันเดินไปอย่างช้าๆ ในขณะที่เวลาของวันเริ่มหมดลง
ความเครียดก็เริ่มสะสมเพิ่มมากขึ้นเช่่นกัน
ผมอยู่กับวงจรเดิมๆ นี้ทุกวัน เพียงเพื่อสิ่งเดียว คือ "เงิน" ที่จะมาสนองตัญหาจากสันดานดิบของผม แน่นอนที่สุด มันคงไม่มีอะไรตอบโจทย์สันดานดิบ ของผมได้ไปกว่้าเงินอีกแล้ว เงินบันดาลไอ้เข้ไซส์ขนาดกลาง(Suzuki Katana) มาไห้ผม เงิน... บันดาลค่าอาหารไอ้เข้(เบนซิน 95) เพื่อไห้ผมได้ควบมันโลดแล่น ทยานไปบนเส้นทางฝัน เงิน...ช่่วยให้ผมมีบ้านอยู่ มีอาหารประทังชีวิต เงิน ... ช่วยให้ทุกอย่างที่ผมฝันเป็นจริง.. ... ..
ผมจมอยู่กับ งานเก่าๆ คนกากๆ อยู่นานจนกระทั่งวันหนึ่ง ความอดทนก็ถึงที่สุด ผม .. ผม.. .. ระเบิด ระเบิดความเครียดออกมา บอกหัวหน้าไปตรงๆ ตอนเลิกงานว่า "ขอกลับบ้านครับ" จากนั้น ก็ปิดเครื่อง เดินออกจาก office โดยไม่สนใจฟังเสียงใคร แม้เวลาเลิกงานผมจะเป็น 5 โมง แต่ทุกคนตรงนั้น ก็ไม่เคยได้กลับบ้านก่อน 1 ทุ่มเลย เว้นเสียแต่วันที่มีการเผาเมืองนั่นแหละ ถึงได้กลับบ้านตั้งแต่ 3 โมงเย็น เป็นวันที่เลิกงานเร็วที่สุดในชีวิตกากๆ ของผม
ผมนั่งรถ 2 แถว กลับมาถึงบ้านในย่านนิคมลาดกระบัง ทานข้าวเย็นร้านเดิม เมนูเดิมๆ ผมไม่ค่อยพิถีพิถันนักเรื่องการกินในวันธรรมดา แต่มักจะชอบลองอะไรแปลกหากมีโอกาศอยู่เสมอ
คืนนั้น หลังจากทานข้าว อาบน้ำ แต่งตัว จิบเบียร์บนม้าหินอ่อนหน้าบ้านเสร็จ ใจผมลังเลอยู่นาน กับความเครียดที่ยังเกาะกุมจิตใจ ใช่ครับ .. มันยังไม่หายไป ใจนึงอยากพัก อีกใจนึงอยากปลดปล่อย นั่งเถียงกับตัวเองอยู่ในใจ จนเบียร์จันไรหมดไป 3 ขวด ผมก็จัดแจงตรวจสอบรถ เช็คแบ็ท เช็คน้ำกลั่น น้ำมันเครื่อง ไฟ ครัช เบรค ยาง ลอง start 1 ที แล้วก็เข้าบ้านจัดแจงเตรียมชุดรอรุ่งสาง..
นาฬิกาปลุกผมตอนตี 5 ในหน้าฝน ผมงัวเงียจากที่นอน อาบน้ำ แปรงฟัน จิบกาแฟ และแต่งองค์ทรงเครื่อง จัดแจง lock ประตูบ้าน แล้วจูงคอไอ้เข้ขนาดกลางออกมา ลูบหัวมันสองที "พาพ่อไปดีๆ นะลูก ไปให้ถึงฝัน กลับมากันไห้ถึงบ้าน" ผมออกจากมีนบุรี ขับมุ่งหน้าไปทางวังน้ำเขียว ใช่แล้วคัรบ จุดหมายครั้งนี้คือ วังน้ำเขียว ครั้งแรงของผม
ผมเคยฝันมานานแล้ว ว่าอยากไปวังน้ำเขียวสักครั้ง จากคำบอกเล่าของ google แหล่งของ OZONE อันดับต้นๆ ของโลก ทุ่งหญ้าเขียวขจีสุดลูกหูลูกตา เส้นทางโค้งที่ห้อมล้อม ด้วยดอกหญ้าตลอดสองข้างทาง จินตนาการผมเตลิดไปไกล ฝันของผม... เส้นทางในฝัน ที่ใฝ่หามานาน วันนี้ มันอยู่ข้างหน้าผมแล้ว!!
ฟ้าสางที่บ้านนา ณ กบินบุรี ผมแวะจีบกาแฟสดที่นี่ และตรวจสอบความเรียบร้อยของไอ้เข้ .. มันยังอยู่ดี แม้เครื่องจะร้อนจัด ขนาดวิ่งฝ่าฝนปรอยๆ แล้วเป็นรถจักรไอ้น้ำก็ตาม กาแฟที่นี่อร่อย.. เอสเพรสโซ่ ดับเบิ้ลชอต ช่วยปลุกผมให้หายงัวเงียในช่วงเช้าของวันใหม่ จุดเริ่มต้นแห่งการไล่ล่าความฝัน
ไปคันเดียว บินเดี่ยว บูรพา
สวัสดีชาว 2 ล้อ พันทิป วันนี้จะขอเล่าเรื่องเก่าๆ ของคนแก่ๆ ให้ฟังสักเรื่อง ก็แค่บันทึกการเดินทางหน้าเก่าๆ และมันอยู่ในความทรงจำที่ไม่อยากลืม ผมไม่ใช่คนที่จะว่างมากนัก ด้วยหน้าที่การงานที่รัดตัว งาน IT ที่ต้องดูแลระบบของบริษัทที่มีการปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง
ทำให้วันหยุดของผมมันไม่เหมอืนวันหยุดมากนัก งานเก่าๆ คนกากๆ เวลาแต่ละวันเดินไปอย่างช้าๆ ในขณะที่เวลาของวันเริ่มหมดลง
ความเครียดก็เริ่มสะสมเพิ่มมากขึ้นเช่่นกัน
ผมอยู่กับวงจรเดิมๆ นี้ทุกวัน เพียงเพื่อสิ่งเดียว คือ "เงิน" ที่จะมาสนองตัญหาจากสันดานดิบของผม แน่นอนที่สุด มันคงไม่มีอะไรตอบโจทย์สันดานดิบ ของผมได้ไปกว่้าเงินอีกแล้ว เงินบันดาลไอ้เข้ไซส์ขนาดกลาง(Suzuki Katana) มาไห้ผม เงิน... บันดาลค่าอาหารไอ้เข้(เบนซิน 95) เพื่อไห้ผมได้ควบมันโลดแล่น ทยานไปบนเส้นทางฝัน เงิน...ช่่วยให้ผมมีบ้านอยู่ มีอาหารประทังชีวิต เงิน ... ช่วยให้ทุกอย่างที่ผมฝันเป็นจริง.. ... ..
ผมจมอยู่กับ งานเก่าๆ คนกากๆ อยู่นานจนกระทั่งวันหนึ่ง ความอดทนก็ถึงที่สุด ผม .. ผม.. .. ระเบิด ระเบิดความเครียดออกมา บอกหัวหน้าไปตรงๆ ตอนเลิกงานว่า "ขอกลับบ้านครับ" จากนั้น ก็ปิดเครื่อง เดินออกจาก office โดยไม่สนใจฟังเสียงใคร แม้เวลาเลิกงานผมจะเป็น 5 โมง แต่ทุกคนตรงนั้น ก็ไม่เคยได้กลับบ้านก่อน 1 ทุ่มเลย เว้นเสียแต่วันที่มีการเผาเมืองนั่นแหละ ถึงได้กลับบ้านตั้งแต่ 3 โมงเย็น เป็นวันที่เลิกงานเร็วที่สุดในชีวิตกากๆ ของผม
ผมนั่งรถ 2 แถว กลับมาถึงบ้านในย่านนิคมลาดกระบัง ทานข้าวเย็นร้านเดิม เมนูเดิมๆ ผมไม่ค่อยพิถีพิถันนักเรื่องการกินในวันธรรมดา แต่มักจะชอบลองอะไรแปลกหากมีโอกาศอยู่เสมอ
คืนนั้น หลังจากทานข้าว อาบน้ำ แต่งตัว จิบเบียร์บนม้าหินอ่อนหน้าบ้านเสร็จ ใจผมลังเลอยู่นาน กับความเครียดที่ยังเกาะกุมจิตใจ ใช่ครับ .. มันยังไม่หายไป ใจนึงอยากพัก อีกใจนึงอยากปลดปล่อย นั่งเถียงกับตัวเองอยู่ในใจ จนเบียร์จันไรหมดไป 3 ขวด ผมก็จัดแจงตรวจสอบรถ เช็คแบ็ท เช็คน้ำกลั่น น้ำมันเครื่อง ไฟ ครัช เบรค ยาง ลอง start 1 ที แล้วก็เข้าบ้านจัดแจงเตรียมชุดรอรุ่งสาง..
นาฬิกาปลุกผมตอนตี 5 ในหน้าฝน ผมงัวเงียจากที่นอน อาบน้ำ แปรงฟัน จิบกาแฟ และแต่งองค์ทรงเครื่อง จัดแจง lock ประตูบ้าน แล้วจูงคอไอ้เข้ขนาดกลางออกมา ลูบหัวมันสองที "พาพ่อไปดีๆ นะลูก ไปให้ถึงฝัน กลับมากันไห้ถึงบ้าน" ผมออกจากมีนบุรี ขับมุ่งหน้าไปทางวังน้ำเขียว ใช่แล้วคัรบ จุดหมายครั้งนี้คือ วังน้ำเขียว ครั้งแรงของผม
ผมเคยฝันมานานแล้ว ว่าอยากไปวังน้ำเขียวสักครั้ง จากคำบอกเล่าของ google แหล่งของ OZONE อันดับต้นๆ ของโลก ทุ่งหญ้าเขียวขจีสุดลูกหูลูกตา เส้นทางโค้งที่ห้อมล้อม ด้วยดอกหญ้าตลอดสองข้างทาง จินตนาการผมเตลิดไปไกล ฝันของผม... เส้นทางในฝัน ที่ใฝ่หามานาน วันนี้ มันอยู่ข้างหน้าผมแล้ว!!
ฟ้าสางที่บ้านนา ณ กบินบุรี ผมแวะจีบกาแฟสดที่นี่ และตรวจสอบความเรียบร้อยของไอ้เข้ .. มันยังอยู่ดี แม้เครื่องจะร้อนจัด ขนาดวิ่งฝ่าฝนปรอยๆ แล้วเป็นรถจักรไอ้น้ำก็ตาม กาแฟที่นี่อร่อย.. เอสเพรสโซ่ ดับเบิ้ลชอต ช่วยปลุกผมให้หายงัวเงียในช่วงเช้าของวันใหม่ จุดเริ่มต้นแห่งการไล่ล่าความฝัน