คุณต้องการอะไรอีกครับ คุณบังยี
นายกลูกหนัง “บังยี” วรวีร์ มะกูดี ส่งหนังสือชี้แจงสโมสรสมาชิก ชี้ให้เห็นถึงเหตุผลที่ไม่สามารถดำเนินการจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ตามความต้องการของสโมสรชลบุรี เอฟซี ที่รวบรวมเสียงของสโมสรต่างๆยื่นให้สมาคมฯจัดเลือกตั้งภายใน 23 ก.ค.นี้ เพราะไม่ต้องการฝ่าฝืนคำสั่งของ “ฟีฟ่า” ที่ระบุมาอย่างชัดเจนให้สโมสรสมาชิกรับรองธรรมนูญมาตรฐานของฟีฟ่าก่อนเลือกตั้ง...
ตามที่นายอรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี ได้ยื่นหนังสือต่อสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อให้ทางสมาคมฯดำเนินการจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฯวาระใหม่ ภายใน 21 วัน นับจากวันยื่นหนังสือ คือไม่เกินวันที่ 23 ก.ค.โดยมีสโมสรสมาชิกที่ลงนามทั้งหมดจำนวน 108 ทีม
ล่าสุด “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ก.ค.ตนได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสโมสรสมาชิกทั้งหมด ว่าทางสมาคมฟุตบอลฯไม่อาจดำเนินการจัดเลือกตั้งภายในวันที่ 23 ก.ค.อย่างแน่นอน เนื่องจากที่ผ่านมาทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ “ฟีฟ่า” มีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรมาอย่างชัดเจน ให้สมาคมลูกหนังไทยต้องเปิดประชุมวาระพิเศษให้สโมสรสมาชิกรับรองธรรมนูญมาตรฐานของฟีฟ่า ก่อนจะมีการเลือกตั้งซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 23 ก.ย.โดยในวันที่ 8 ส.ค.นี้ ตัวแทนฟีฟ่าจะเดินทางมาชี้แจงทำความเข้าใจกับสโมสรสมาชิกทั้งหมดอีกรอบ
“สมาคมฟุตบอลฯเป็นสมาชิกฟีฟ่า ดังนั้นเราคงไม่อาจเลี่ยงที่จะทำตามคำสั่งของฟีฟ่า โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่เขาระบุชัดเจนว่าต้องยึดตามธรรมนูญใหม่เท่านั้น หากมีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามฟีฟ่าก็จะมีมาตรการลงโทษตามมา ซึ่งอาจจะส่งผลเสียหายของวงการฟุตบอลไทยต่อไปในอนาคต” นายวรวีร์กล่าว
ทางด้าน ส.ส.วิชัย ล้ำสุทธิ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลเอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สมาชิกสโมสรฟุตบอลบางส่วนร่วมเข้าชื่อ และมายื่นต่อสมาคมเพื่อขอให้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯคนใหม่โดยใช้ธรรมนูญเก่าของสมาคมนั้น ตนคิดว่า เรื่องของธรรมนูญใหม่ที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า กำหนดให้ทุกประเทศทั่วโลกนำไปปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน น่าจะเป็นเรื่องที่สโมสรสมาชิกควรจะเข้าใจกันดี เพราะทางฟีฟ่าได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงมาชี้แจงทำความเข้าใจในทุกประเด็นตามที่มีผู้ซักถาม รวมทั้งเปิดโอกาสให้มีการซักถามนอกรอบอีกต่างหาก และในวันนั้น ก็ไม่มีสโมสรใดติดใจสงสัย รวมทั้งออกมายอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆด้วยซ้ำไป แต่แล้วกลับมาเล่นเกมนอกสนามโดยการไปยื่นเรื่องต่อศาลแขวงมีนบุรี เพื่อมิให้มีการประชุมการลงรับมิติรับรองธรรมนูญใหม่ และยังมาเข้าชื่อจะให้มีการเลือกตั้งโดยไม่ใช้ธรรมนูญที่ฟีฟ่ากำหนดมาให้อีก ทั้งหมดนี้ก็คือการนำเอาเรื่องของกีฬาไปเป็นการเมือง พยายามขัดขวางไม่ให้สมาคมฟุตบอลฯเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งนายกสมาคมและสภากรรมการโดยการใช้ธรรมนูญใหม่ที่ฟีฟ่ากำหนดมา
ส.ส.วิชัยกล่าวต่อไปว่า หลังจากที่มีการเปิดเผยรายชื่อสโมสรสมาชิกต่างๆที่ไปยื่นเอกสารยังสมาคมฟุตบอลฯเมื่อวานที่ผ่านมานั้น ก็ปรากฏว่ามีหลายสโมสรออกมาขอถอนชื่อในทันที โดยชี้แจงว่าเกิดจากความเข้าใจผิดในวัตถุประสงค์ที่ผู้ไปเสนอขอรายชื่อสนับสนุนไม่ได้แจ้งว่าจะนำเอามาต่อรองกับทางสมาคมเพื่อให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่โดยใช้ธรรมนูญแบบเก่า สโมสรฟุตบอลที่เป็นภาคีสมาชิกของสมาคมที่เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพอย่างแท้จริงนั้นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เราอยู่ภายใต้กฎกติกาสากลโลก ซึ่งเราเป็นสมาชิกของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ เราต้องยึดถือกฎกติกาธรรมนูญใหม่ที่ฟีฟ่ากำหนดมา
“เรื่องนี้ สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนครับว่า วงการกีฬาบ้านเรา กำลังถูกการเมืองเข้ามาครอบงำ การแสดงออกถึงความไม่ยอมรับกติกาสากลที่ฟีฟ่ากำหนดมา ดึงทุกอย่างให้เป็นการเมือง ใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้องใส่ร้ายป้ายสีบุคคลอื่นให้เป็นที่เกลียดชังของคนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ รวมทั้งใช้วิธีการต่างๆ นานาในอันที่จะเอาชนะ โดยไม่คำนึงถึงผลเสียหายของวงการฟุตบอลของชาติและส่วนรวม เป็นพฤติกรรมที่ผู้มีน้ำใจเป็นนักกีฬาไม่พึงกระทำครับ”
จาก
http://www.thairath.co.th/content/sport/355146 
บังยี วรวีร์ส่งหนังสือแจงสมาชิกเหตุเลือกตั้ง23ก.ย.
นายกลูกหนัง “บังยี” วรวีร์ มะกูดี ส่งหนังสือชี้แจงสโมสรสมาชิก ชี้ให้เห็นถึงเหตุผลที่ไม่สามารถดำเนินการจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ตามความต้องการของสโมสรชลบุรี เอฟซี ที่รวบรวมเสียงของสโมสรต่างๆยื่นให้สมาคมฯจัดเลือกตั้งภายใน 23 ก.ค.นี้ เพราะไม่ต้องการฝ่าฝืนคำสั่งของ “ฟีฟ่า” ที่ระบุมาอย่างชัดเจนให้สโมสรสมาชิกรับรองธรรมนูญมาตรฐานของฟีฟ่าก่อนเลือกตั้ง...
ตามที่นายอรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี ได้ยื่นหนังสือต่อสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อให้ทางสมาคมฯดำเนินการจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฯวาระใหม่ ภายใน 21 วัน นับจากวันยื่นหนังสือ คือไม่เกินวันที่ 23 ก.ค.โดยมีสโมสรสมาชิกที่ลงนามทั้งหมดจำนวน 108 ทีม
ล่าสุด “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ก.ค.ตนได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสโมสรสมาชิกทั้งหมด ว่าทางสมาคมฟุตบอลฯไม่อาจดำเนินการจัดเลือกตั้งภายในวันที่ 23 ก.ค.อย่างแน่นอน เนื่องจากที่ผ่านมาทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ “ฟีฟ่า” มีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรมาอย่างชัดเจน ให้สมาคมลูกหนังไทยต้องเปิดประชุมวาระพิเศษให้สโมสรสมาชิกรับรองธรรมนูญมาตรฐานของฟีฟ่า ก่อนจะมีการเลือกตั้งซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 23 ก.ย.โดยในวันที่ 8 ส.ค.นี้ ตัวแทนฟีฟ่าจะเดินทางมาชี้แจงทำความเข้าใจกับสโมสรสมาชิกทั้งหมดอีกรอบ
“สมาคมฟุตบอลฯเป็นสมาชิกฟีฟ่า ดังนั้นเราคงไม่อาจเลี่ยงที่จะทำตามคำสั่งของฟีฟ่า โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่เขาระบุชัดเจนว่าต้องยึดตามธรรมนูญใหม่เท่านั้น หากมีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามฟีฟ่าก็จะมีมาตรการลงโทษตามมา ซึ่งอาจจะส่งผลเสียหายของวงการฟุตบอลไทยต่อไปในอนาคต” นายวรวีร์กล่าว
ทางด้าน ส.ส.วิชัย ล้ำสุทธิ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลเอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สมาชิกสโมสรฟุตบอลบางส่วนร่วมเข้าชื่อ และมายื่นต่อสมาคมเพื่อขอให้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯคนใหม่โดยใช้ธรรมนูญเก่าของสมาคมนั้น ตนคิดว่า เรื่องของธรรมนูญใหม่ที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า กำหนดให้ทุกประเทศทั่วโลกนำไปปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน น่าจะเป็นเรื่องที่สโมสรสมาชิกควรจะเข้าใจกันดี เพราะทางฟีฟ่าได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงมาชี้แจงทำความเข้าใจในทุกประเด็นตามที่มีผู้ซักถาม รวมทั้งเปิดโอกาสให้มีการซักถามนอกรอบอีกต่างหาก และในวันนั้น ก็ไม่มีสโมสรใดติดใจสงสัย รวมทั้งออกมายอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆด้วยซ้ำไป แต่แล้วกลับมาเล่นเกมนอกสนามโดยการไปยื่นเรื่องต่อศาลแขวงมีนบุรี เพื่อมิให้มีการประชุมการลงรับมิติรับรองธรรมนูญใหม่ และยังมาเข้าชื่อจะให้มีการเลือกตั้งโดยไม่ใช้ธรรมนูญที่ฟีฟ่ากำหนดมาให้อีก ทั้งหมดนี้ก็คือการนำเอาเรื่องของกีฬาไปเป็นการเมือง พยายามขัดขวางไม่ให้สมาคมฟุตบอลฯเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งนายกสมาคมและสภากรรมการโดยการใช้ธรรมนูญใหม่ที่ฟีฟ่ากำหนดมา
ส.ส.วิชัยกล่าวต่อไปว่า หลังจากที่มีการเปิดเผยรายชื่อสโมสรสมาชิกต่างๆที่ไปยื่นเอกสารยังสมาคมฟุตบอลฯเมื่อวานที่ผ่านมานั้น ก็ปรากฏว่ามีหลายสโมสรออกมาขอถอนชื่อในทันที โดยชี้แจงว่าเกิดจากความเข้าใจผิดในวัตถุประสงค์ที่ผู้ไปเสนอขอรายชื่อสนับสนุนไม่ได้แจ้งว่าจะนำเอามาต่อรองกับทางสมาคมเพื่อให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่โดยใช้ธรรมนูญแบบเก่า สโมสรฟุตบอลที่เป็นภาคีสมาชิกของสมาคมที่เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพอย่างแท้จริงนั้นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เราอยู่ภายใต้กฎกติกาสากลโลก ซึ่งเราเป็นสมาชิกของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ เราต้องยึดถือกฎกติกาธรรมนูญใหม่ที่ฟีฟ่ากำหนดมา
“เรื่องนี้ สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนครับว่า วงการกีฬาบ้านเรา กำลังถูกการเมืองเข้ามาครอบงำ การแสดงออกถึงความไม่ยอมรับกติกาสากลที่ฟีฟ่ากำหนดมา ดึงทุกอย่างให้เป็นการเมือง ใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้องใส่ร้ายป้ายสีบุคคลอื่นให้เป็นที่เกลียดชังของคนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ รวมทั้งใช้วิธีการต่างๆ นานาในอันที่จะเอาชนะ โดยไม่คำนึงถึงผลเสียหายของวงการฟุตบอลของชาติและส่วนรวม เป็นพฤติกรรมที่ผู้มีน้ำใจเป็นนักกีฬาไม่พึงกระทำครับ”
จาก http://www.thairath.co.th/content/sport/355146