วันนี้เราขอเอาเรื่องราวของลูกศิษย์ตัวเอง มาเล่าเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคนที่กำลังท้อแท้นะคะ อยากบอกก่อนเลยว่า บางทีคนที่เรามองว่าเขาดีกว่าเรา เขาเองก็ไม่ได้เก่งไปกว่าเราทุกเรื่องหรอก...
อย่างน้อง "ต๊อบ" เจ้าของตำแหน่งนางงามขวัญใจจากการโหวตในเวทีการประกวดMiss Thailand Universeปี2009 และผู้เข้ารอบ10คนสุดท้ายในเวทีMiss Thailand Worldปี2012ที่ผ่านมา เธอทั้งสูง สวย หุ่นดี มั่นใจ แถมพ่วงด้วยอาชีพนางแบบ ณ ต่างประเทศอีกต่างหาก
แต่ทำไม เธอถึง
"ตกรอบแรกทุกรอบ" เมื่อไปสมัครแอร์???
วันนี้แอ็บส์เลยขออนุญาตสัมภาษณ์เรื่องราวของลูกศิษย์คนนี้มาลงให้ทุกท่านที่สนใจและเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในFanpage (
http://www.facebook.com/crewabscabincrew)ได้อ่านกัน ซึ่งต๊อบยินดีที่จะแบ่งปันเรื่องของเธอเป็นวิทยาทาน เป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนที่คิดว่าตัวเองไม่สวย ไม่เก่ง ไม่ดีพอแบบใครเขา ให้ลองมาดูคนสวย คนเก่งแบบเธอ ว่าบางทีกว่าจะได้อะไรมา ชีวิตก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แม้สวรรค์จะได้ประทานความสวยมาให้เธอก็ตาม
แต่ก่อนอื่นคงต้องแสดงความยินดีกับว่าที่ แอร์โฮสเตสสาวสายการบินKorean Airคนนี้ด้วยค่ะ เพิ่งได้มาหมาดๆเลย
พอดีวันนี้แอ็บส์ได้มาสอนน้องต๊อบก่อนจบคอร์สภาษาอังกฤษและแอร์สจ๊วตระยะยาวที่ตัวเองสอนอยู่ เลยได้มีโอกาสขอคุยกับเธอนะคะ
ก่อนอื่นรบกวนต๊อบแนะนำตัวหน่อยจ้ะ?
-ต๊อบค่ะ จันทร์นิพา แก่นสาร อายุ 22 ปี เพิ่งผ่านการคัดเลือกลูกเรือสายการบิน Korean air ค่ะ
แล้วทำไมถึงอยากมาเป็นแอร์คะ ได้ข่าวว่าต๊อบเคยเป็นนางงามแล้วก็นางแบบ ไม่ชอบเหรอ
-ใช่ค่ะพี่แอ็บส์ ต๊อบเคยได้รางวัลขวัญใจในเวทีการประกวด Miss Thailand universe 2009 และก็ได้เข้ารอบ10คนสุดท้ายMiss Thailand World 2012ค่ะ ต๊อบว่าอาชีพแอร์โฮลแตส คงเป็นอาชีพในฝันของเด็กผู้หญิงหลายๆคน ต๊อบก็เหมือนกัน ตอนเด็กๆเวลาใครถามก็จะบอกว่าอยากเป็นแอร์ ต๊อบรู้สึกว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ท้าทาย และน่าสนุกค่ะ เจอคนเยอะแยะดี555 แต่พอโตขึ้นความคิดก็มีเปลี่ยนไปบ้าง เพราะรู้ตัวเรื่องจุดด้อยของตัวเองคือเรื่องภาษา แต่ด้วยนิสัยความกล้าแสดงออกของต๊อบ ต๊อบก็ผลักตัวเองเข้ามาในการประกวดนางงามเวทีแรกที่ต๊อบประกวดคือ Miss Thailand Universeค่ะ หลังจากนั้นต๊อบก็มีโอกาสทำงานด้านนี้มาขึ้น แล้วก็เริ่มทำงานเดินแบบ จนต๊อบได้มีโอกาสได้ไปเดินแบบต่างประเทศค่ะ ครั้งแรกที่ไปภาษาอังกฤษก็พูดไม่ได้ต้องมีล่ามตลอด ตอนนั้นก็เริ่มรู้สึกแล้วว่าเราจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ มันเหมือนเป็นปมด้อยยังไงไม่รู้ เลยพยายามฝึกพูดเองค่ะ งูๆ ปลาๆ กับเพื่อนนางแบบต่างชาติบ้าง เขาก็งงๆ5555 พอมีโอกาสได้พูดเยอะขึ้น มันก็เริ่มพูดได้เองค่ะ (แต่ก็ยังมั่วแกรมม่านะคะ55) คราวนี้พอรู้สึกตัวว่าตัวเองเริ่มพูดภาษาอังกฤษได้แล้ว และตัวเองก็มีประสบการณ์การทำงานเป็นทีม และมีบุคลิกภาพที่ดีจากการทำงาน ความฝันในตอนเด็กมันก็ย้อนกลับมาอีกครั้งค่ะ
ได้ข่าวว่าสมัครมาหลายที่ ตกรอบทุกที่จริงเหรอคะเนี่ย สวยๆอย่างต๊อบ แถมสูงอีกต่างหาก ไม่น่าพลาดนะ เกิดอะไรขึ้น?
-ครั้งแรกที่คิดจะเริ่มสมัครแอร์ต๊อบดูแต่สาย Middle East ทั้งนั้นเลยค่ะ เหตุผลเพราะ
1.มั่นใจว่าบุคลิกภาพของตัวเองพร้อมแล้ว จากประสบการณ์การประกวดนางงามหรือการเป็นนางแบบ
2.คือหนีผลคะแนนโทอิคค่ะ เพราะต๊อบเป็นคนที่อ่อนแกรมม่าภาษาอังกฤษมาก(ถึงมากที่สุด) สอบโทอิคมาคะแนนก็ต่ำกว่าเกณฑ์ที่สายการบินต้องการมาก จึงเลือกไปสมัครสายที่เขาไม่เอาโทอิค
สายการบินแรกที่ต๊อบสมัครคือ การ์ต้าค่ะ รอบนั้นเขาให้ส่งCVไป แล้วจะcall เรียกอีกที แต่ผลคือไม่มีcallค่ะ สายที่สองคือ Royal Jordan เขาให้ส่งCVไปและจะเรียกcallอีกทีเช่นกัน แต่ผลคือ ไม่มีcall เหมือนเดิมค่ะ สายที่สาม คือ Fly Dubai ค่ะ แต่ครั้งนี้คือการ walk in ต๊อบก็มั่นใจมากเลยค่ะว่าจะได้เจอกับกรรมการสักที แต่...ก็ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะก่อนที่จะได้เข้าห้องสัมภาษณ์นั้นผู้สมัครต้องผ่านการสอบข้อเขียนก่อนค่ะ ซึ่งที่เขาสอบคือ Essay, Grammar, และก็เลขค่ะ และผลก็คือ ต๊อบไม่ผ่านการสอบข้อเขียน!! หลังจากนั้นต๊อบคิดเลยว่า “ต๊อบหนีภาษาอังกฤษต่อไปไม่ได้แล้ว” ถ้าอยากจะเป็นแอร์ก็ต้องสู้ค่ะ
ทั้งสวยหุ่นดี พ่วงด้วยตำแหน่งนางงามแบบนี้ ยังมีจุดอ่อนด้วยเหรอเนี่ย
-จริงๆแล้วต๊อบว่ามันเป็นเรื่องปกติค่ะ ทุกคนมีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันออกไป จุดเด่นของต๊อบคงเป็นเรื่องความกล้าแสดงออก ความมั่นใจในตัวเอง เพราะด้วยประสบการณ์การทำงานนางแบบ หรือการประกวดนางงาม สอนให้เป็นคนมีจุดเด่นในด้านนี้ แต่เรื่องจุดด้อยของต๊อบก็ยังมีอีกเยอะค่ะ หนึ่งในนั้นคงไม่พ้นเรื่องภาษาอย่างที่บอกไป
พี่แอ๊บส์เชื่อมั้ย อย่างที่ต๊อบบอกไปด้วยประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาของต๊อบ การเป็นนางงามหรือนางแบบ มันทำให้มีความเชื่อผิดๆอยู่อย่างหนึ่งว่า การสอบสัมภาษณ์แอร์คงไม่ใช่เรื่องยาก แค่มีบุคลิกภาพที่ดี หน้าตาดี หรือประสบการณ์ทำงานที่ดี ก็เป็นแอร์ได้แล้ว พอต๊อบได้เจอพี่แอ๊บส์และพี่ริโกะเพียงวันเดียว ต๊อบเปลี่ยนความคิดและทัศนะคติไปเยอะเลยค่ะ ยังจำได้เลย พี่แอ๊บส์กับพี่ริโกะสอนต๊อบว่า “บุคลิกแบบนางแบบอาจจะไม่เหมาะกับการสมัครแอร์ เวลาต๊อบยิ้ม ต๊อบจะยิ้มแบบแข็งๆ เหมือนยังไม่ได้ออกมาจากใจ เหมือนการถ่ายแบบที่บางทีเราจะดูทื่อๆ บางคนก็ว่าต๊อบดูหน้าหยิ่งบ้าง” การสอนครั้งนั้นทำให้ต๊อบเข้าใจว่าเราต้องปรับอีกเยอะค่ะ สายการบินไม่ได้ต้องการนางแบบที่สวยหุ่นดีอย่างเดียวไปบริการ เขามองหาคนมีไหวพริบ ภาษาดี และมีใจบริการ ดังนั้น เวลายิ้มมันต้องสื่อออกจากใจ มันต่างจากเวลาต๊อบถ่ายแบบโดยสิ้นเชิง
ส่วนอีกปัญหาหนึ่งของต๊อบที่พี่แอ๊บส์และพี่ริโกะเป็นห่วงในการสมัครแอร์ คือเรื่องภาษาค่ะ ซึ่งต๊อบก็ห่วงตัวเองเหมือนกัน555 ต๊อบเลยตัดสินใจเรียนภาษาเพิ่ม
ว่าแต่พี่อยากรู้อะนะ เคยเดินแฟชั่นงานอะไรบ้าง เล่าให้ฟังหน่อย
-งานในไทยก็เป็นพวกแฟชั่นโชว์ Grand Opening แบรน์สินค้า-เสื้อผ้าต่างๆ หรือ Grand Opening ห้างสรรพสินค้า ล่าสุดคงเป็นงานเปิดตัว Siam Center อะค่ะ ส่วนแฟชั่นโชว์ในต่างประเทศ ต๊อบมีโอกาสได้ทำงานใน South of Korea คืองาน Seoul Fashion Week ต๊อบเริ่มเดินแบบกับ Seoul Fashion Week ตั้งแต่ปี2010 ค่ะ หลังจากนั้น ก็ได้กลับไปเดินแบบกับเขาในทุกๆปีค่ะ นอกจากการเดินแบบใน Seoul Fashion Week แล้ว ต๊อบก็ได้มีโอกาสถ่ายแบบให้กับนิตสารต่างๆในประเทศเกาหลีคะ
โอเช งั้นเจ๊ขอถาม ถ้าเป็นแอร์แล้วมีผู้โดยมาทักหละ ว่าเคยเห็นรูปในนิตยสาร จะรู้สึกไง
-คงยิ้มๆ เขิลๆมั้งค่ะ55555 แต่ก็แอบดีใจที่เขาจำเราได้^^
อาฮะ คำถามนี้เด็ด นางแบบ VS แอร์ คิดว่ามีอะไรที่ต่างกัน เหมือนกัน
-ต๊อบว่ามีทั้งข้อเหมือนและ ข้อต่างนะคะ เรื่องที่เหมือนกันในความคิดต๊อบ คือเวลาที่ต๊อบทำงานเป็นนางแบบ ต๊อบก็เหมือนตัวแทนของแบรนด์ ของดีไซน์เนอร์ค่ะ ในการพรีเซนเสื้อผ้า เครื่องประดับให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าประทับใจในโชว์และซื้อสินค้าจากแบรนด์นั้นๆ เช่นกันค่ะ เวลาที่ต๊อบทำหน้าที่เป็นแอร์ ต๊อบก็คือตัวแทนของสายการบินในการต้อนรับ และให้บริการผู้โดยสาย เพื่อให้ผู้โดยสารประทับใจในสายการบิน แต่สิ่งที่ต่างไปมากกว่านั้น คือเรื่องของความปลดภัยค่ะ สิ่งที่สำคัญที่สุดของหน้าที่การเป็นแอร์ คือดูแลเรื่องความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร
เดี๋ยวมาต่อนะคะ ใครอ่านอยู่ขอกำลังใจกด+กดยิ้มสักหน่อยนะคะ เดี๋ยวมารีวิวต่อค่า^^
เรื่องยาวหน่อย แต่เชื่อว่ามันจะทำให้คุณเข้าใจ "คนสวย คนรวย คนขาวกว่า ไม่ได้แปลว่าพวกเราไม่มีคุณค่าเท่าเขา เราเองก็มีคุณค่าและความสวยในแบบของเรา" น้องต๊อบอยากให้ทุกคนมองเธอเป็นตัวอย่างว่า เธอสวย เธอเป็นถึงนางงาม แต่ทุกคนล้วนแล้วแต่มีจุดอ่อน ดังนั้น อย่าสบประหม่าตัวเองนะคะ เธอเองก็ยอมรับว่าจุดอ่อนของเธอคือภาษา แต่เธอก็เลือกที่จะสู้ และพยายามไปให้ถึงฝัน....
จาก"นางงามขวัญใจMiss Thailand Universe"มาสมัคร"แอร์โฮสเตส" แต่กลับตกรอบแรกทุกรอบ เรื่องจริงของน้องต๊
อย่างน้อง "ต๊อบ" เจ้าของตำแหน่งนางงามขวัญใจจากการโหวตในเวทีการประกวดMiss Thailand Universeปี2009 และผู้เข้ารอบ10คนสุดท้ายในเวทีMiss Thailand Worldปี2012ที่ผ่านมา เธอทั้งสูง สวย หุ่นดี มั่นใจ แถมพ่วงด้วยอาชีพนางแบบ ณ ต่างประเทศอีกต่างหาก
แต่ทำไม เธอถึง "ตกรอบแรกทุกรอบ" เมื่อไปสมัครแอร์???
วันนี้แอ็บส์เลยขออนุญาตสัมภาษณ์เรื่องราวของลูกศิษย์คนนี้มาลงให้ทุกท่านที่สนใจและเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในFanpage (http://www.facebook.com/crewabscabincrew)ได้อ่านกัน ซึ่งต๊อบยินดีที่จะแบ่งปันเรื่องของเธอเป็นวิทยาทาน เป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนที่คิดว่าตัวเองไม่สวย ไม่เก่ง ไม่ดีพอแบบใครเขา ให้ลองมาดูคนสวย คนเก่งแบบเธอ ว่าบางทีกว่าจะได้อะไรมา ชีวิตก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แม้สวรรค์จะได้ประทานความสวยมาให้เธอก็ตาม
แต่ก่อนอื่นคงต้องแสดงความยินดีกับว่าที่ แอร์โฮสเตสสาวสายการบินKorean Airคนนี้ด้วยค่ะ เพิ่งได้มาหมาดๆเลย
พอดีวันนี้แอ็บส์ได้มาสอนน้องต๊อบก่อนจบคอร์สภาษาอังกฤษและแอร์สจ๊วตระยะยาวที่ตัวเองสอนอยู่ เลยได้มีโอกาสขอคุยกับเธอนะคะ
ก่อนอื่นรบกวนต๊อบแนะนำตัวหน่อยจ้ะ?
-ต๊อบค่ะ จันทร์นิพา แก่นสาร อายุ 22 ปี เพิ่งผ่านการคัดเลือกลูกเรือสายการบิน Korean air ค่ะ
แล้วทำไมถึงอยากมาเป็นแอร์คะ ได้ข่าวว่าต๊อบเคยเป็นนางงามแล้วก็นางแบบ ไม่ชอบเหรอ
-ใช่ค่ะพี่แอ็บส์ ต๊อบเคยได้รางวัลขวัญใจในเวทีการประกวด Miss Thailand universe 2009 และก็ได้เข้ารอบ10คนสุดท้ายMiss Thailand World 2012ค่ะ ต๊อบว่าอาชีพแอร์โฮลแตส คงเป็นอาชีพในฝันของเด็กผู้หญิงหลายๆคน ต๊อบก็เหมือนกัน ตอนเด็กๆเวลาใครถามก็จะบอกว่าอยากเป็นแอร์ ต๊อบรู้สึกว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ท้าทาย และน่าสนุกค่ะ เจอคนเยอะแยะดี555 แต่พอโตขึ้นความคิดก็มีเปลี่ยนไปบ้าง เพราะรู้ตัวเรื่องจุดด้อยของตัวเองคือเรื่องภาษา แต่ด้วยนิสัยความกล้าแสดงออกของต๊อบ ต๊อบก็ผลักตัวเองเข้ามาในการประกวดนางงามเวทีแรกที่ต๊อบประกวดคือ Miss Thailand Universeค่ะ หลังจากนั้นต๊อบก็มีโอกาสทำงานด้านนี้มาขึ้น แล้วก็เริ่มทำงานเดินแบบ จนต๊อบได้มีโอกาสได้ไปเดินแบบต่างประเทศค่ะ ครั้งแรกที่ไปภาษาอังกฤษก็พูดไม่ได้ต้องมีล่ามตลอด ตอนนั้นก็เริ่มรู้สึกแล้วว่าเราจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ มันเหมือนเป็นปมด้อยยังไงไม่รู้ เลยพยายามฝึกพูดเองค่ะ งูๆ ปลาๆ กับเพื่อนนางแบบต่างชาติบ้าง เขาก็งงๆ5555 พอมีโอกาสได้พูดเยอะขึ้น มันก็เริ่มพูดได้เองค่ะ (แต่ก็ยังมั่วแกรมม่านะคะ55) คราวนี้พอรู้สึกตัวว่าตัวเองเริ่มพูดภาษาอังกฤษได้แล้ว และตัวเองก็มีประสบการณ์การทำงานเป็นทีม และมีบุคลิกภาพที่ดีจากการทำงาน ความฝันในตอนเด็กมันก็ย้อนกลับมาอีกครั้งค่ะ
ได้ข่าวว่าสมัครมาหลายที่ ตกรอบทุกที่จริงเหรอคะเนี่ย สวยๆอย่างต๊อบ แถมสูงอีกต่างหาก ไม่น่าพลาดนะ เกิดอะไรขึ้น?
-ครั้งแรกที่คิดจะเริ่มสมัครแอร์ต๊อบดูแต่สาย Middle East ทั้งนั้นเลยค่ะ เหตุผลเพราะ
1.มั่นใจว่าบุคลิกภาพของตัวเองพร้อมแล้ว จากประสบการณ์การประกวดนางงามหรือการเป็นนางแบบ
2.คือหนีผลคะแนนโทอิคค่ะ เพราะต๊อบเป็นคนที่อ่อนแกรมม่าภาษาอังกฤษมาก(ถึงมากที่สุด) สอบโทอิคมาคะแนนก็ต่ำกว่าเกณฑ์ที่สายการบินต้องการมาก จึงเลือกไปสมัครสายที่เขาไม่เอาโทอิค
สายการบินแรกที่ต๊อบสมัครคือ การ์ต้าค่ะ รอบนั้นเขาให้ส่งCVไป แล้วจะcall เรียกอีกที แต่ผลคือไม่มีcallค่ะ สายที่สองคือ Royal Jordan เขาให้ส่งCVไปและจะเรียกcallอีกทีเช่นกัน แต่ผลคือ ไม่มีcall เหมือนเดิมค่ะ สายที่สาม คือ Fly Dubai ค่ะ แต่ครั้งนี้คือการ walk in ต๊อบก็มั่นใจมากเลยค่ะว่าจะได้เจอกับกรรมการสักที แต่...ก็ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะก่อนที่จะได้เข้าห้องสัมภาษณ์นั้นผู้สมัครต้องผ่านการสอบข้อเขียนก่อนค่ะ ซึ่งที่เขาสอบคือ Essay, Grammar, และก็เลขค่ะ และผลก็คือ ต๊อบไม่ผ่านการสอบข้อเขียน!! หลังจากนั้นต๊อบคิดเลยว่า “ต๊อบหนีภาษาอังกฤษต่อไปไม่ได้แล้ว” ถ้าอยากจะเป็นแอร์ก็ต้องสู้ค่ะ
ทั้งสวยหุ่นดี พ่วงด้วยตำแหน่งนางงามแบบนี้ ยังมีจุดอ่อนด้วยเหรอเนี่ย
-จริงๆแล้วต๊อบว่ามันเป็นเรื่องปกติค่ะ ทุกคนมีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันออกไป จุดเด่นของต๊อบคงเป็นเรื่องความกล้าแสดงออก ความมั่นใจในตัวเอง เพราะด้วยประสบการณ์การทำงานนางแบบ หรือการประกวดนางงาม สอนให้เป็นคนมีจุดเด่นในด้านนี้ แต่เรื่องจุดด้อยของต๊อบก็ยังมีอีกเยอะค่ะ หนึ่งในนั้นคงไม่พ้นเรื่องภาษาอย่างที่บอกไป
พี่แอ๊บส์เชื่อมั้ย อย่างที่ต๊อบบอกไปด้วยประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาของต๊อบ การเป็นนางงามหรือนางแบบ มันทำให้มีความเชื่อผิดๆอยู่อย่างหนึ่งว่า การสอบสัมภาษณ์แอร์คงไม่ใช่เรื่องยาก แค่มีบุคลิกภาพที่ดี หน้าตาดี หรือประสบการณ์ทำงานที่ดี ก็เป็นแอร์ได้แล้ว พอต๊อบได้เจอพี่แอ๊บส์และพี่ริโกะเพียงวันเดียว ต๊อบเปลี่ยนความคิดและทัศนะคติไปเยอะเลยค่ะ ยังจำได้เลย พี่แอ๊บส์กับพี่ริโกะสอนต๊อบว่า “บุคลิกแบบนางแบบอาจจะไม่เหมาะกับการสมัครแอร์ เวลาต๊อบยิ้ม ต๊อบจะยิ้มแบบแข็งๆ เหมือนยังไม่ได้ออกมาจากใจ เหมือนการถ่ายแบบที่บางทีเราจะดูทื่อๆ บางคนก็ว่าต๊อบดูหน้าหยิ่งบ้าง” การสอนครั้งนั้นทำให้ต๊อบเข้าใจว่าเราต้องปรับอีกเยอะค่ะ สายการบินไม่ได้ต้องการนางแบบที่สวยหุ่นดีอย่างเดียวไปบริการ เขามองหาคนมีไหวพริบ ภาษาดี และมีใจบริการ ดังนั้น เวลายิ้มมันต้องสื่อออกจากใจ มันต่างจากเวลาต๊อบถ่ายแบบโดยสิ้นเชิง
ส่วนอีกปัญหาหนึ่งของต๊อบที่พี่แอ๊บส์และพี่ริโกะเป็นห่วงในการสมัครแอร์ คือเรื่องภาษาค่ะ ซึ่งต๊อบก็ห่วงตัวเองเหมือนกัน555 ต๊อบเลยตัดสินใจเรียนภาษาเพิ่ม
ว่าแต่พี่อยากรู้อะนะ เคยเดินแฟชั่นงานอะไรบ้าง เล่าให้ฟังหน่อย
-งานในไทยก็เป็นพวกแฟชั่นโชว์ Grand Opening แบรน์สินค้า-เสื้อผ้าต่างๆ หรือ Grand Opening ห้างสรรพสินค้า ล่าสุดคงเป็นงานเปิดตัว Siam Center อะค่ะ ส่วนแฟชั่นโชว์ในต่างประเทศ ต๊อบมีโอกาสได้ทำงานใน South of Korea คืองาน Seoul Fashion Week ต๊อบเริ่มเดินแบบกับ Seoul Fashion Week ตั้งแต่ปี2010 ค่ะ หลังจากนั้น ก็ได้กลับไปเดินแบบกับเขาในทุกๆปีค่ะ นอกจากการเดินแบบใน Seoul Fashion Week แล้ว ต๊อบก็ได้มีโอกาสถ่ายแบบให้กับนิตสารต่างๆในประเทศเกาหลีคะ
โอเช งั้นเจ๊ขอถาม ถ้าเป็นแอร์แล้วมีผู้โดยมาทักหละ ว่าเคยเห็นรูปในนิตยสาร จะรู้สึกไง
-คงยิ้มๆ เขิลๆมั้งค่ะ55555 แต่ก็แอบดีใจที่เขาจำเราได้^^
อาฮะ คำถามนี้เด็ด นางแบบ VS แอร์ คิดว่ามีอะไรที่ต่างกัน เหมือนกัน
-ต๊อบว่ามีทั้งข้อเหมือนและ ข้อต่างนะคะ เรื่องที่เหมือนกันในความคิดต๊อบ คือเวลาที่ต๊อบทำงานเป็นนางแบบ ต๊อบก็เหมือนตัวแทนของแบรนด์ ของดีไซน์เนอร์ค่ะ ในการพรีเซนเสื้อผ้า เครื่องประดับให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าประทับใจในโชว์และซื้อสินค้าจากแบรนด์นั้นๆ เช่นกันค่ะ เวลาที่ต๊อบทำหน้าที่เป็นแอร์ ต๊อบก็คือตัวแทนของสายการบินในการต้อนรับ และให้บริการผู้โดยสาย เพื่อให้ผู้โดยสารประทับใจในสายการบิน แต่สิ่งที่ต่างไปมากกว่านั้น คือเรื่องของความปลดภัยค่ะ สิ่งที่สำคัญที่สุดของหน้าที่การเป็นแอร์ คือดูแลเรื่องความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร
เดี๋ยวมาต่อนะคะ ใครอ่านอยู่ขอกำลังใจกด+กดยิ้มสักหน่อยนะคะ เดี๋ยวมารีวิวต่อค่า^^
เรื่องยาวหน่อย แต่เชื่อว่ามันจะทำให้คุณเข้าใจ "คนสวย คนรวย คนขาวกว่า ไม่ได้แปลว่าพวกเราไม่มีคุณค่าเท่าเขา เราเองก็มีคุณค่าและความสวยในแบบของเรา" น้องต๊อบอยากให้ทุกคนมองเธอเป็นตัวอย่างว่า เธอสวย เธอเป็นถึงนางงาม แต่ทุกคนล้วนแล้วแต่มีจุดอ่อน ดังนั้น อย่าสบประหม่าตัวเองนะคะ เธอเองก็ยอมรับว่าจุดอ่อนของเธอคือภาษา แต่เธอก็เลือกที่จะสู้ และพยายามไปให้ถึงฝัน....