นับวันเบื้องหลังโครงการงบเงินกู้เพื่อป้องกันน้ำท่วมมูลค่า 3.5 แสนล้านบาท
จะถูกเปิดโปงฉาวโฉ่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทสุดฉาวเควอเตอร์
ของเกาหลีใต้ที่เพิ่งชนะการประมูลคว้าเค้กก้อนโตที่สุดท่ามกลางการถูกตั้ง
ข้อสงสัยว่ามีการล็อกโผตามใบสั่งและเป็นการสมคบฮั้วผลประโยชน์ต่างตอบแทน
ซึ่งกันและกันของผู้มีอำนาจทางการเมืองทั้งไทยและเกาหลีใต้
จากการประมูลโครงการงบเงินกู้ป้องกันน้ำท่วม 3.5
แสนล้านบาทแบบรวบรัดตัดความจนบริษัทเควอเตอร์ได้รับคัดเลือกให้กินเค้ก
ก้อนโต 2 โมดูลซึ่งมีมูลค่ามากที่สุดคือ โครงการสร้างแก้มลิงมูลค่างบ 10,000 ล้านบาท
ซึ่งเควอเตอร์เสนอราคา 9,999.99 ล้านบาท ต่ำกว่างบแค่ 10,000 บาทและโมดูล
สร้างฟลัดเวย์ซึ่งมีมูลค่ามากที่สุดถึง 153,000 ล้านบาท ซึ่งเควอเตอร์เสนอราคาพอดี
เท่ากับงบโครงการคือ 153,000 ล้านบาท สรุปทั้งสองโมดูลที่เควอเตอร์ชนะประมูล
เสนอราคาประมูลต่ำกว่างบแค่ 10,000 บาทเท่านั้น
การชนะการประมูลของบริษัทเควอเตอร์ถูกเปิดโปงในเวลาต่อมาเมื่อ นายยัม
ยูงโซ ผู้อำนวยการสมาพันธ์สิ่งแวดล้อมของเกาหลีใต้ ซึ่งเดินทางมาศึกษาผลกระทบ
ด้านสิ่งแวดล้อมจากโครงการป้องกันน้ำท่วมของไทยออกมาเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริง
ของบริษัทเควอเตอร์ว่า ที่ผ่านมาบริษัทนี้ทำแค่โครงการขนาดเล็กในเกาหลีใต้ ไม่เคย
ผ่านงานโครงการขนาดใหญ่อย่างโครงการฟลัดเวย์มาก่อน จึงเชื่อมั่นว่าบริษัทเควอเตอร์
ไม่สามารถทำโครงการฟลัดเวย์ที่ชนะการประมูลในประเทศไทยได้แน่
นายยัม ยังแฉประวัติของบริษัทเควอเตอร์ว่าดำเนินธุรกิจในเกาหลีใต้ในลักษณะ
ปกปิดความลับและเคยตกเป็นข่าวอื้อฉาวการติดสินบน แต่สามารถดำเนินธุรกิจได้เพราะ
ผู้บริหารบริษัทมาจากนักการเมืองที่แต่งตั้งโดยอดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้
นายยัม แฉอีกว่า บริษัทเควอเตอร์มีหนี้ท่วมสูงขึ้นกว่า 700 % และแทบจะ
ไม่มีงานในเกาหลีใต้แล้ว จึงน่าแปลกใจที่รัฐบาลไทยกลับเลือกบริษัทเควอเตอร์มาทำ
โครงการขนาดใหญ่โดย นายยัม ให้ความเห็นว่า “ ผมไม่แน่ใจว่ารัฐบาลไทยไปตกลง
หรือมีเงื่อนไขพิเศษไว้กับรัฐบาลเกาหลีใต้หรือไม่ และผมเชื่อว่าเขาไม่มีศักยภาพ
เพียงพอที่จะทำโครงการขนาดใหญ่ “
และจากการตรวจสอบประวัติของบริษัทเคเวอร์เตอร์ประเทศไทยจำกัดพบว่าจดทะเบียน
ก่อตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2556 ทุนจดทะเบียนแค่ 3 ล้านบาท และพิรุธน่างสงสัยก็
คือมีการยื่นทะเบียนจัดตั้งบริษัทก่อนหน้าการเปิดซองประมูลโครงการป้องกันน้ำท่วมมูลค่า
3.5 แสนล้านบาท9 โมดูล 10 โครงการซี่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2556 เพียง 20 วันเท่านั้น
พิรุธประการต่อมาก็คือหลังจากที่ข่าวอื้อฉาวปูมหลังบริษัทเควอเตอร์ถูกเปิดโปงจนฉาว
กระฉ่อนแทนที่จะรัฐบาลจะตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ
แต่กลับมาตรงกันข้ามผู้มีหน้าที่รับผิดชอบของรัฐบาลยิ่งลักษณ์กลับเรียงหน้าออกมา
ปกป้องบริษัทเควอเตอร์ ขณะที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 สั่งระงับการออกอากาศ
สกู๊ปที่แฉประวัติอันอื้อฉาวของบริษัทเควอเตอร์อย่างกระทันหันผิดปกติท่ามกลางข่าว
เป็นใบสั่งทางการเมือง
ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ก่อนหน้าการชนะประมูลได้โครงการมูลค่ามากที่สุด
ถึง 163,000 ล้านบาทของกลุ่มเควอเตอร์ของเกาหลีใต้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ผู้มีบารมีเหนือรัฐบาล บินไปเกาหลีใต้ใต้ถึง 2 ครั้งซึ่งที่สำคัญและเป็นหลักฐานใบเสร็จ
ชัดเจนก็คือภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ เยี่ยมชมบริษัทเควอเตอร์และถ่ายภาพร่วมกับผู้บริหาร
ของบริษัทด้วย
เช่นเดียวกับ นายกฯหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ ก็บินไปเยือนเกาหลีใต้ถึงสองครั้ง
โดยได้ไปเยี่ยมชมบริษัทเควอเตอร์เหมือนพี่ชาย รวมทั้งได้พบหารือกับอดีตประธานาธิบดี
ลียองบัคของเกาหลีใต้ ขณะที่อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ก็บินมาเยือนไทยอย่างเป็น
ทางการในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งถือเป็นผู้นำเกาหลีใต้ที่มาเยือนไทยในรอบหลายสิบปี
ท่ามกลางเสียงร่ำลือว่ามีการเจรจาฮั้วในลักษณะผลประโยชน์ต่างตอบแทนระหว่าง
ผู้นำสองประเทศ
การเยี่ยมบริษัทเควอเตอร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และ นายกฯยิ่งลักษณ์
ถูกตั้งข้อสังเกตุว่าเหมือนบอกเป็นนัยล่วงหน้าว่าบริษัทเควอเตอร์จะได้เค้กก้อนโตใน
การประมูลโครงการป้องกันน้ำท่วมมูลค่า 3.5 แสนล้านบาทของไทย
เพราะฉะนั้นขอให้เจ้าของประเทศและเจ้าของเงินของแผ่นดินทั้งหลายช่วยกัน
จับตาและขัดขวางมหกรรมส่อโกงบ้านกินเมืองในโครงการอย่างถึงที่สุด
เพราะอ้อยกำลังจะเข้าปากช้างคงไม่ยอมคายออกมาง่ายๆแน่
http://www.naewna.com/politic/columnist/7451
แบบนี้ เขาเรียก เล่นไม่เลิกไหม 3 วันติดกันแล้ว กับเรื่อง เค วอเตอร์ เปลี่ยนไป
วันละคอลัมน์ เหมือนเป็น theme จัดไว้ วันนี้จะวางไว้ที่ คอลัมน์ไหน เรื่องเดียว
กัน ข้อมูลเหมือนกัน เปลี่ยนสำนวนนิดหน่อย เท่านั้น
แล้วมาดูข้อเท็จจริงกัน ... ว่าอะไรเป็นอะไร ?
สำนักงานบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี (สบอช.) ร่อน
จดหมายแทน 'เค วอเตอร์' แจง 6 ข้อ โต้ข้อกล่าวหา มีหนี้ 700% ยัน ผ่านคุณสมบัติ
ประมูลโครงการน้ำรัฐบาลครบถ้วน ......ข่าวไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 27 มิ.ย.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ได้มีข่าวในหนังสือพิมพ์หลายฉบับว่า
นายยัม ยุง โซ ผู้อำนวยการสมาพันธ์สิ่งแวดล้อมเกาหลีใต้ ระบุถึง บริษัท เค วอเตอร์ฯ
ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับงานทำโครงการมูลค่า 1.63 แสนล้านบาทของรัฐบาลไทย
เป็นบริษัทที่สถานะการเงินย่ำแย่ มีหนี้กว่า 700%
ไม่มีประสบการณ์บริหารงานพื้นที่ขนาดใหญ่นับล้านไร่ ไม่มีศักยภาพในการทำโครงการ
ซึ่งขณะนี้ไม่มีงานในเกาหลีใต้แล้ว และพยายามปกปิดข้อมูลตลอดเวลานั้น
สำนักงานบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) ขอชี้แจงข้อเท็จจริง
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการยื่นข้อเสนอโครงการออกแบบและก่อสร้างระบบบริหาร
จัดการน้ำอย่างยั่งยืนและระบบการแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย ดังนี้
1. บริษัท เค วอตอร์ฯ เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลี
ซึ่งรัฐบาลถือหุ้น 100%
2. บริษัท เค วอเตอร์ฯ ได้เข้าร่วมการยื่นข้อเสนอ โดยมีคุณสมบัติครบถ้วน ดังนี้
ต้องเคยมีผลงานด้านการออกแบบหรือก่อสร้างระบบป้องกัน
หรือแก้ไขปัญหาอุทกภัยหรือภัยแล้ง ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2545-2555
ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ มูลค่าก่อสร้างไม่น้อยกว่า 30,000 ล้านบาท
3. ในการแข่งขันในขั้นเสนอกรอบแนวคิด บริษัท เค วอเตอร์ฯ
ได้ยื่นผลงานที่ดำเนินการในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2545-2555 มีมูลค่าสูงถึง 682,840
ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ามูลค่าในเงื่อนไขมาก
4. สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำไทยได้รับรองคุณสมบัติของ บริษัท เค
วอเตอร์ฯ ตาม TOR ของรัฐบาลไทยทุกประการ
5. ในการแข่งขันขั้นออกแบบและก่อสร้างบริษัท เค วอเตอร์ฯ
ได้วางเงินค้ำประกันซองร้อยละ 5 ของงบประมาณการก่อสร้าง เป็นจำนวนเงิน 14,550
ล้านบาท เป็นหนังสือค้ำประกัน ของธนาคาร สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน)
6. บริษัท เค วอเตอร์ ได้รับการจัดอันดับการประกอบการจากสถาบันจัดอันดับนานาชาติ 2
แห่ง ประกอบด้วย Moody 'S ในระดับ A1 และ S&P ในระดับ A และมีสินทรัพย์ทั้งสิ้น
23,425 พันล้านวอน (650,000 ล้านบาท) มีรายได้ 6,325.8 พันล้านวอน
(176,000 ล้านบาท)
http://www.thairath.co.th/content/pol/353841
คงจะกระแนะกระแหน ต่อ ทำไมต้องชี้แจงแทนด้วย...
อ้าว ... ก็ดูที่กล่าวหา เขาสิ ใจคอจะไม่ให้เขาชี้แจงเหตุผลเลยหรือ ?
6พิรุธปูมหลังเควอเตอร์ โยงใยทักษิณ-ยิ่งลักษณ์? ...... แนวหน้าออนไลน์ ..
จะถูกเปิดโปงฉาวโฉ่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทสุดฉาวเควอเตอร์
ของเกาหลีใต้ที่เพิ่งชนะการประมูลคว้าเค้กก้อนโตที่สุดท่ามกลางการถูกตั้ง
ข้อสงสัยว่ามีการล็อกโผตามใบสั่งและเป็นการสมคบฮั้วผลประโยชน์ต่างตอบแทน
ซึ่งกันและกันของผู้มีอำนาจทางการเมืองทั้งไทยและเกาหลีใต้
จากการประมูลโครงการงบเงินกู้ป้องกันน้ำท่วม 3.5
แสนล้านบาทแบบรวบรัดตัดความจนบริษัทเควอเตอร์ได้รับคัดเลือกให้กินเค้ก
ก้อนโต 2 โมดูลซึ่งมีมูลค่ามากที่สุดคือ โครงการสร้างแก้มลิงมูลค่างบ 10,000 ล้านบาท
ซึ่งเควอเตอร์เสนอราคา 9,999.99 ล้านบาท ต่ำกว่างบแค่ 10,000 บาทและโมดูล
สร้างฟลัดเวย์ซึ่งมีมูลค่ามากที่สุดถึง 153,000 ล้านบาท ซึ่งเควอเตอร์เสนอราคาพอดี
เท่ากับงบโครงการคือ 153,000 ล้านบาท สรุปทั้งสองโมดูลที่เควอเตอร์ชนะประมูล
เสนอราคาประมูลต่ำกว่างบแค่ 10,000 บาทเท่านั้น
การชนะการประมูลของบริษัทเควอเตอร์ถูกเปิดโปงในเวลาต่อมาเมื่อ นายยัม
ยูงโซ ผู้อำนวยการสมาพันธ์สิ่งแวดล้อมของเกาหลีใต้ ซึ่งเดินทางมาศึกษาผลกระทบ
ด้านสิ่งแวดล้อมจากโครงการป้องกันน้ำท่วมของไทยออกมาเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริง
ของบริษัทเควอเตอร์ว่า ที่ผ่านมาบริษัทนี้ทำแค่โครงการขนาดเล็กในเกาหลีใต้ ไม่เคย
ผ่านงานโครงการขนาดใหญ่อย่างโครงการฟลัดเวย์มาก่อน จึงเชื่อมั่นว่าบริษัทเควอเตอร์
ไม่สามารถทำโครงการฟลัดเวย์ที่ชนะการประมูลในประเทศไทยได้แน่
นายยัม ยังแฉประวัติของบริษัทเควอเตอร์ว่าดำเนินธุรกิจในเกาหลีใต้ในลักษณะ
ปกปิดความลับและเคยตกเป็นข่าวอื้อฉาวการติดสินบน แต่สามารถดำเนินธุรกิจได้เพราะ
ผู้บริหารบริษัทมาจากนักการเมืองที่แต่งตั้งโดยอดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้
นายยัม แฉอีกว่า บริษัทเควอเตอร์มีหนี้ท่วมสูงขึ้นกว่า 700 % และแทบจะ
ไม่มีงานในเกาหลีใต้แล้ว จึงน่าแปลกใจที่รัฐบาลไทยกลับเลือกบริษัทเควอเตอร์มาทำ
โครงการขนาดใหญ่โดย นายยัม ให้ความเห็นว่า “ ผมไม่แน่ใจว่ารัฐบาลไทยไปตกลง
หรือมีเงื่อนไขพิเศษไว้กับรัฐบาลเกาหลีใต้หรือไม่ และผมเชื่อว่าเขาไม่มีศักยภาพ
เพียงพอที่จะทำโครงการขนาดใหญ่ “
และจากการตรวจสอบประวัติของบริษัทเคเวอร์เตอร์ประเทศไทยจำกัดพบว่าจดทะเบียน
ก่อตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2556 ทุนจดทะเบียนแค่ 3 ล้านบาท และพิรุธน่างสงสัยก็
คือมีการยื่นทะเบียนจัดตั้งบริษัทก่อนหน้าการเปิดซองประมูลโครงการป้องกันน้ำท่วมมูลค่า
3.5 แสนล้านบาท9 โมดูล 10 โครงการซี่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2556 เพียง 20 วันเท่านั้น
พิรุธประการต่อมาก็คือหลังจากที่ข่าวอื้อฉาวปูมหลังบริษัทเควอเตอร์ถูกเปิดโปงจนฉาว
กระฉ่อนแทนที่จะรัฐบาลจะตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ
แต่กลับมาตรงกันข้ามผู้มีหน้าที่รับผิดชอบของรัฐบาลยิ่งลักษณ์กลับเรียงหน้าออกมา
ปกป้องบริษัทเควอเตอร์ ขณะที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 สั่งระงับการออกอากาศ
สกู๊ปที่แฉประวัติอันอื้อฉาวของบริษัทเควอเตอร์อย่างกระทันหันผิดปกติท่ามกลางข่าว
เป็นใบสั่งทางการเมือง
ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ก่อนหน้าการชนะประมูลได้โครงการมูลค่ามากที่สุด
ถึง 163,000 ล้านบาทของกลุ่มเควอเตอร์ของเกาหลีใต้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ผู้มีบารมีเหนือรัฐบาล บินไปเกาหลีใต้ใต้ถึง 2 ครั้งซึ่งที่สำคัญและเป็นหลักฐานใบเสร็จ
ชัดเจนก็คือภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ เยี่ยมชมบริษัทเควอเตอร์และถ่ายภาพร่วมกับผู้บริหาร
ของบริษัทด้วย
เช่นเดียวกับ นายกฯหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ ก็บินไปเยือนเกาหลีใต้ถึงสองครั้ง
โดยได้ไปเยี่ยมชมบริษัทเควอเตอร์เหมือนพี่ชาย รวมทั้งได้พบหารือกับอดีตประธานาธิบดี
ลียองบัคของเกาหลีใต้ ขณะที่อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ก็บินมาเยือนไทยอย่างเป็น
ทางการในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งถือเป็นผู้นำเกาหลีใต้ที่มาเยือนไทยในรอบหลายสิบปี
ท่ามกลางเสียงร่ำลือว่ามีการเจรจาฮั้วในลักษณะผลประโยชน์ต่างตอบแทนระหว่าง
ผู้นำสองประเทศ
การเยี่ยมบริษัทเควอเตอร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และ นายกฯยิ่งลักษณ์
ถูกตั้งข้อสังเกตุว่าเหมือนบอกเป็นนัยล่วงหน้าว่าบริษัทเควอเตอร์จะได้เค้กก้อนโตใน
การประมูลโครงการป้องกันน้ำท่วมมูลค่า 3.5 แสนล้านบาทของไทย
เพราะฉะนั้นขอให้เจ้าของประเทศและเจ้าของเงินของแผ่นดินทั้งหลายช่วยกัน
จับตาและขัดขวางมหกรรมส่อโกงบ้านกินเมืองในโครงการอย่างถึงที่สุด
เพราะอ้อยกำลังจะเข้าปากช้างคงไม่ยอมคายออกมาง่ายๆแน่
http://www.naewna.com/politic/columnist/7451
แบบนี้ เขาเรียก เล่นไม่เลิกไหม 3 วันติดกันแล้ว กับเรื่อง เค วอเตอร์ เปลี่ยนไป
วันละคอลัมน์ เหมือนเป็น theme จัดไว้ วันนี้จะวางไว้ที่ คอลัมน์ไหน เรื่องเดียว
กัน ข้อมูลเหมือนกัน เปลี่ยนสำนวนนิดหน่อย เท่านั้น
แล้วมาดูข้อเท็จจริงกัน ... ว่าอะไรเป็นอะไร ?
สำนักงานบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี (สบอช.) ร่อน
จดหมายแทน 'เค วอเตอร์' แจง 6 ข้อ โต้ข้อกล่าวหา มีหนี้ 700% ยัน ผ่านคุณสมบัติ
ประมูลโครงการน้ำรัฐบาลครบถ้วน ......ข่าวไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 27 มิ.ย.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ได้มีข่าวในหนังสือพิมพ์หลายฉบับว่า
นายยัม ยุง โซ ผู้อำนวยการสมาพันธ์สิ่งแวดล้อมเกาหลีใต้ ระบุถึง บริษัท เค วอเตอร์ฯ
ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับงานทำโครงการมูลค่า 1.63 แสนล้านบาทของรัฐบาลไทย
เป็นบริษัทที่สถานะการเงินย่ำแย่ มีหนี้กว่า 700%
ไม่มีประสบการณ์บริหารงานพื้นที่ขนาดใหญ่นับล้านไร่ ไม่มีศักยภาพในการทำโครงการ
ซึ่งขณะนี้ไม่มีงานในเกาหลีใต้แล้ว และพยายามปกปิดข้อมูลตลอดเวลานั้น
สำนักงานบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) ขอชี้แจงข้อเท็จจริง
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการยื่นข้อเสนอโครงการออกแบบและก่อสร้างระบบบริหาร
จัดการน้ำอย่างยั่งยืนและระบบการแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย ดังนี้
1. บริษัท เค วอตอร์ฯ เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลี
ซึ่งรัฐบาลถือหุ้น 100%
2. บริษัท เค วอเตอร์ฯ ได้เข้าร่วมการยื่นข้อเสนอ โดยมีคุณสมบัติครบถ้วน ดังนี้
ต้องเคยมีผลงานด้านการออกแบบหรือก่อสร้างระบบป้องกัน
หรือแก้ไขปัญหาอุทกภัยหรือภัยแล้ง ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2545-2555
ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ มูลค่าก่อสร้างไม่น้อยกว่า 30,000 ล้านบาท
3. ในการแข่งขันในขั้นเสนอกรอบแนวคิด บริษัท เค วอเตอร์ฯ
ได้ยื่นผลงานที่ดำเนินการในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2545-2555 มีมูลค่าสูงถึง 682,840
ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ามูลค่าในเงื่อนไขมาก
4. สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำไทยได้รับรองคุณสมบัติของ บริษัท เค
วอเตอร์ฯ ตาม TOR ของรัฐบาลไทยทุกประการ
5. ในการแข่งขันขั้นออกแบบและก่อสร้างบริษัท เค วอเตอร์ฯ
ได้วางเงินค้ำประกันซองร้อยละ 5 ของงบประมาณการก่อสร้าง เป็นจำนวนเงิน 14,550
ล้านบาท เป็นหนังสือค้ำประกัน ของธนาคาร สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน)
6. บริษัท เค วอเตอร์ ได้รับการจัดอันดับการประกอบการจากสถาบันจัดอันดับนานาชาติ 2
แห่ง ประกอบด้วย Moody 'S ในระดับ A1 และ S&P ในระดับ A และมีสินทรัพย์ทั้งสิ้น
23,425 พันล้านวอน (650,000 ล้านบาท) มีรายได้ 6,325.8 พันล้านวอน
(176,000 ล้านบาท)
http://www.thairath.co.th/content/pol/353841
คงจะกระแนะกระแหน ต่อ ทำไมต้องชี้แจงแทนด้วย...
อ้าว ... ก็ดูที่กล่าวหา เขาสิ ใจคอจะไม่ให้เขาชี้แจงเหตุผลเลยหรือ ?