สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
แปลกใจในบรรดาท่านที่นับถือศรัทธาอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะบางส่วน
ลักษณะการแสดงคห.บางทีก็เหมือนกันว่า ที่ท่านทำเป็นเรื่องปกติ ไม่เห็นแปลกเลย
ไปๆมาๆก็รวมใช้ตรกกะนี้ไปถึงภรรยาท่านด้วย .. ผมก็เป็นคนนึงที่เคารพศรัทธาท่านตอนอยู่ในผ้าเหลือง
และก็ชอบงานเขียนท่านหลายเล่มอยู่ แต่ผมว่าบางทีลูกศิษย์ก็ดู protect เกินไป
คล้ายๆกันว่าจริงๆศรัทธาเราสั่นคลอนอยู่ข้างในเหมือนกัน แต่ไม่อยากจะยอมรับในจุดนั้น
"อย่าไปยุ่งกับท่านเลย การสึกไปแต่งงานเป็นเรื่องปกติ ไม่เห็นแปลก"
"ขอให้ท่านมีความสุขในชีวิตคู่ ครองรักกันมั่นคง ร่วมสร้างบารมีกัน และเผยแพร่ธรรมะในฐานะฆราวาสต่อไป"
แน่นอนครับสิ่งที่ท่านทำไม่ผิด แต่ถึงขั้นไม่แปลกอะไรเลย ? ปกติ? ท่านทำถูกแล้วนี่ ? คิดแบบนี้กันจริงๆเหรอครับ
แน่นอนว่าท่านมีสิทธิเต็มที่ที่จะเลือกทางที่ท่านคิดว่าดีที่สุดสำหรับท่าน ซึ่งผมไม่ว่าท่านเลย สิ่งที่ผมงงคือท่าที่ของบรรดาศิษย์มากกว่า
ที่จะต่างไปในทางเดียวกันบอกว่าทุกอย่างปกติดี ไม่เห็นแปลกอะไร.. ลองนึกดูว่าหากพระผู้ใหญ่ที่บวชมานานปฏิปทางดงามทุกรูป
แห่กันสึกมาแต่งกัน มันสะท้อนอะไรครับ.. ในมุมนึงมันสะท้อนถึงความไม่มีประสิทธิภาพของพระธรรมหรือเปล่า
พระที่บวชหน้าที่หลักไม่ใช่เผยแพร่ธรรมะนะ แต่คือการมุ่งตรงต่อการทำลายอาสวกิเลส
ดังนั้นการเผยแพร่งานดีๆก็ส่วนนึงก็เป็นสิ่งที่ดี แต่อีกมุมที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ แล้วทำไมผู้เผยแพร่ระดับนี้ยังตัดกิเลสไม่ได้ล่ะ
แน่นอนว่าผมเข้าใจว่าไม่ได้เกี่ยวกับบวชนานไม่นาน การย้อนกลับมาสู่ฆราวาสไม่ใช่เรื่องน่าตำหนิ แต่คงไม่ถึงกับว่าเป็นเรื่องปกติ
หรือถึงขั้นกับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีกับคู่สามีภรรยามั้งครับ กรณีแบบนี้ยังไงก็มีผลต่อศาสนาไม่มากก็น้อยโดยเฉพาะกับคนทั่วไป
.. ตอนนี้ก็ดูจะ protect ไปถึงภรรยาท่านด้วยแล้ว ลองถามตัวเองดูดีๆนะครับว่าปกป้องอะไรปกป้องท่านหรือความมั่นคงในจิตใจที่จริงสั่นไหวไปบ้างแล้ว
ผมแค่แปลกใจน่ะครับ ไม่ได้ชวนทะเลาะกับใคร ลองพิจารณาดูแล้วกันครับว่าใจเรารู้สึกอย่างไรกับกรณีนี้ จากใจจริงๆของท่าน
ตัดท่านมิตซูโอะออกไป เป็นพระผู้ใหญ่รูปอื่นที่เราไม่ได้เคารพศรัทธาเป็นพิเศษก็ได้ อาจจะเห็นภาพได้ชัดขึ้นว่าใจจริงๆเรารู้สึกยังไงกับกรณีนี้
แน่นอนครับว่าไม่ควรเสียศรัทธาในศาสนา เพราะธรรมะเป็นหลักยึดที่แท้จริง แต่คงไม่ใช่ว่ากรณีนี้คือกรณีปกติทั่วไป
ผมไม่กลับมาพิมพ์ต่อนะครับ หากกระทบใครแล้วรู้สึกไม่ดีก็ขออภัยด้วย ผมบอกตามที่คิดจริงๆ ไม่มีเจตนาร้าย
แม้แต่ต่อท่านมิตซูโอะและภรรยาครับ ที่อยากพูดก็มีแค่นี้แหละครับ
ลักษณะการแสดงคห.บางทีก็เหมือนกันว่า ที่ท่านทำเป็นเรื่องปกติ ไม่เห็นแปลกเลย
ไปๆมาๆก็รวมใช้ตรกกะนี้ไปถึงภรรยาท่านด้วย .. ผมก็เป็นคนนึงที่เคารพศรัทธาท่านตอนอยู่ในผ้าเหลือง
และก็ชอบงานเขียนท่านหลายเล่มอยู่ แต่ผมว่าบางทีลูกศิษย์ก็ดู protect เกินไป
คล้ายๆกันว่าจริงๆศรัทธาเราสั่นคลอนอยู่ข้างในเหมือนกัน แต่ไม่อยากจะยอมรับในจุดนั้น
"อย่าไปยุ่งกับท่านเลย การสึกไปแต่งงานเป็นเรื่องปกติ ไม่เห็นแปลก"
"ขอให้ท่านมีความสุขในชีวิตคู่ ครองรักกันมั่นคง ร่วมสร้างบารมีกัน และเผยแพร่ธรรมะในฐานะฆราวาสต่อไป"
แน่นอนครับสิ่งที่ท่านทำไม่ผิด แต่ถึงขั้นไม่แปลกอะไรเลย ? ปกติ? ท่านทำถูกแล้วนี่ ? คิดแบบนี้กันจริงๆเหรอครับ
แน่นอนว่าท่านมีสิทธิเต็มที่ที่จะเลือกทางที่ท่านคิดว่าดีที่สุดสำหรับท่าน ซึ่งผมไม่ว่าท่านเลย สิ่งที่ผมงงคือท่าที่ของบรรดาศิษย์มากกว่า
ที่จะต่างไปในทางเดียวกันบอกว่าทุกอย่างปกติดี ไม่เห็นแปลกอะไร.. ลองนึกดูว่าหากพระผู้ใหญ่ที่บวชมานานปฏิปทางดงามทุกรูป
แห่กันสึกมาแต่งกัน มันสะท้อนอะไรครับ.. ในมุมนึงมันสะท้อนถึงความไม่มีประสิทธิภาพของพระธรรมหรือเปล่า
พระที่บวชหน้าที่หลักไม่ใช่เผยแพร่ธรรมะนะ แต่คือการมุ่งตรงต่อการทำลายอาสวกิเลส
ดังนั้นการเผยแพร่งานดีๆก็ส่วนนึงก็เป็นสิ่งที่ดี แต่อีกมุมที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ แล้วทำไมผู้เผยแพร่ระดับนี้ยังตัดกิเลสไม่ได้ล่ะ
แน่นอนว่าผมเข้าใจว่าไม่ได้เกี่ยวกับบวชนานไม่นาน การย้อนกลับมาสู่ฆราวาสไม่ใช่เรื่องน่าตำหนิ แต่คงไม่ถึงกับว่าเป็นเรื่องปกติ
หรือถึงขั้นกับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีกับคู่สามีภรรยามั้งครับ กรณีแบบนี้ยังไงก็มีผลต่อศาสนาไม่มากก็น้อยโดยเฉพาะกับคนทั่วไป
.. ตอนนี้ก็ดูจะ protect ไปถึงภรรยาท่านด้วยแล้ว ลองถามตัวเองดูดีๆนะครับว่าปกป้องอะไรปกป้องท่านหรือความมั่นคงในจิตใจที่จริงสั่นไหวไปบ้างแล้ว
ผมแค่แปลกใจน่ะครับ ไม่ได้ชวนทะเลาะกับใคร ลองพิจารณาดูแล้วกันครับว่าใจเรารู้สึกอย่างไรกับกรณีนี้ จากใจจริงๆของท่าน
ตัดท่านมิตซูโอะออกไป เป็นพระผู้ใหญ่รูปอื่นที่เราไม่ได้เคารพศรัทธาเป็นพิเศษก็ได้ อาจจะเห็นภาพได้ชัดขึ้นว่าใจจริงๆเรารู้สึกยังไงกับกรณีนี้
แน่นอนครับว่าไม่ควรเสียศรัทธาในศาสนา เพราะธรรมะเป็นหลักยึดที่แท้จริง แต่คงไม่ใช่ว่ากรณีนี้คือกรณีปกติทั่วไป
ผมไม่กลับมาพิมพ์ต่อนะครับ หากกระทบใครแล้วรู้สึกไม่ดีก็ขออภัยด้วย ผมบอกตามที่คิดจริงๆ ไม่มีเจตนาร้าย
แม้แต่ต่อท่านมิตซูโอะและภรรยาครับ ที่อยากพูดก็มีแค่นี้แหละครับ
ความคิดเห็นที่ 31
รักแท้คือการเสียสละ การที่ผู้หญิงซักคนจะสึกพระมันไม่ง่าย ยิ่งพระที่มีคนรับหน้าถือตามากมาย มีพันธกิจทั้งทางศาสนาและสังคม เป็นที่พึ่งของคนหมู่มาก ทั้งลูกศิษย์ลูกหารวมถึงคนที่ได้ประโยชน์จากมูลนิธิต่างๆ มากมาย การที่พระยังอยู่ต่อไปในสถานะเดิมจะทำประโยชน์ให้ต่อทั้งพระเอง พระศาสนา รวมทั้งผู้คนมากมาย คนที่สามารถทำลายร่มโพร่มไทรของคนมากมายได้โดยไม่ยี่หระ นอกจากจะแสดงถึงศีลธรรมที่ต่ำ ยังมีความเห็นแก่ตัวอย่างมากด้วย คนมากมายในโลกยอมสละชีวิตเพื่อคนอื่น แต่บางคนยอมทำลายโลกสนองความต้องการที่ไม่สิ้นสุดของตัวเอง
การที่ผู้หญิงคนนี้พยายามโชว์รูปภาพมากมาย ภาพที่หวานแหววกับอดีตพระ แทนที่จะหลบไปใช้ชีวิตกันเงียบๆ แบบไม่ต้องป่าวประกาศ ก็คือการประกาศชัยชนะของเธอที่ได้พระมาครอบครอง แต่เธอชนะใครหละ?
เวลาในการประกาศชัยชนะของเธอคงมีอีกไม่นาน วันข้างหน้าที่รออยู่คือวันที่เธอเบื่อความไม่ประสีประสาของคนที่ไม่แทบเคยใช้ชีวิตทางโลกมา คนที่ทำมาหากินไม่เป็น ผู้ชายที่ใครๆ เคยนับถือเคารพ เคยเป็นแม่เหล็ก เป็นศูนย์กลางของผู้คน วันนั้นกลายเป็นชายแก่ที่ไม่เหลือเกียรติและศักดิ์ศรีใดๆ เสนห์ความดึงดูดที่ชายผู้นี้เคยมีมันหมดไปสิ้น และสุดท้ายคนที่น่าสงสารที่สุดก็คือชายแก่คนนี้
ทิดครับ ถ้าเนื้อคู่แต่ชาติปางก่อนมันมีจริง ผมไม่คิดว่าคนนี้คือคนที่ทิดพูดถึงหรอก คู่รักที่ศีลไม่เสมอกัน ไม่เคยอยู่กันได้ตลอดรอดฝั่งหรอก
การที่ผู้หญิงคนนี้พยายามโชว์รูปภาพมากมาย ภาพที่หวานแหววกับอดีตพระ แทนที่จะหลบไปใช้ชีวิตกันเงียบๆ แบบไม่ต้องป่าวประกาศ ก็คือการประกาศชัยชนะของเธอที่ได้พระมาครอบครอง แต่เธอชนะใครหละ?
เวลาในการประกาศชัยชนะของเธอคงมีอีกไม่นาน วันข้างหน้าที่รออยู่คือวันที่เธอเบื่อความไม่ประสีประสาของคนที่ไม่แทบเคยใช้ชีวิตทางโลกมา คนที่ทำมาหากินไม่เป็น ผู้ชายที่ใครๆ เคยนับถือเคารพ เคยเป็นแม่เหล็ก เป็นศูนย์กลางของผู้คน วันนั้นกลายเป็นชายแก่ที่ไม่เหลือเกียรติและศักดิ์ศรีใดๆ เสนห์ความดึงดูดที่ชายผู้นี้เคยมีมันหมดไปสิ้น และสุดท้ายคนที่น่าสงสารที่สุดก็คือชายแก่คนนี้
ทิดครับ ถ้าเนื้อคู่แต่ชาติปางก่อนมันมีจริง ผมไม่คิดว่าคนนี้คือคนที่ทิดพูดถึงหรอก คู่รักที่ศีลไม่เสมอกัน ไม่เคยอยู่กันได้ตลอดรอดฝั่งหรอก
ความคิดเห็นที่ 11
คห 5 เข้าใจผิดมาก
การที่พระบวชมานาน แล้วสึกไปแต่งงาน
มันไม่ได้เป็นตัวบอกถึงความไม่มีประสิทธิภาพของพระธรรมนะ
เพราะก็มีพระอีกมากมายหลายแสนรูป ที่ปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน
และสามารถก้าวล่วงไปสู่นิพพานได้
มันเป็นความไม่มีประสิทธิภาพของคนที่บวชมากกว่าว่า
จะมีความสามารถในการพัฒนาตนเองได้ดีแค่ไหน
ในเมื่อคนคนนี้ ทำได้แค่นี้
มันก็เป็นเรื่องของความสามารถของเขา
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับประสิทธิภาพของคำสอนในพระพุทธศาสนา
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคยปรารภอยู่ว่า
คนที่สามารถทำได้ มีเพียงน้อยนิด
คนส่วนใหญ่ยังหลงติดอยู่กับกามกิเลส
ไม่สามารถก้าวล่วงไปได้
แต่ก็ทรงตัดสินพระทัยที่จะเผยแพร่คำสอนและวิธีการ
เพื่อคนจะได้มีหนทางในการก้าวไปสู่ความสงบอันจีรัง
การที่พระบวชมานาน แล้วสึกไปแต่งงาน
มันไม่ได้เป็นตัวบอกถึงความไม่มีประสิทธิภาพของพระธรรมนะ
เพราะก็มีพระอีกมากมายหลายแสนรูป ที่ปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน
และสามารถก้าวล่วงไปสู่นิพพานได้
มันเป็นความไม่มีประสิทธิภาพของคนที่บวชมากกว่าว่า
จะมีความสามารถในการพัฒนาตนเองได้ดีแค่ไหน
ในเมื่อคนคนนี้ ทำได้แค่นี้
มันก็เป็นเรื่องของความสามารถของเขา
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับประสิทธิภาพของคำสอนในพระพุทธศาสนา
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคยปรารภอยู่ว่า
คนที่สามารถทำได้ มีเพียงน้อยนิด
คนส่วนใหญ่ยังหลงติดอยู่กับกามกิเลส
ไม่สามารถก้าวล่วงไปได้
แต่ก็ทรงตัดสินพระทัยที่จะเผยแพร่คำสอนและวิธีการ
เพื่อคนจะได้มีหนทางในการก้าวไปสู่ความสงบอันจีรัง
แสดงความคิดเห็น
เปิดคดีเก่า ภรรยาอดีตพระมิตซูโอะ พิจารณาด้วยสติปัญญานะครับ ดูที่ย่อหน้าสุดท้าย
ขุดคุ้ยคดีเก่าของ “แอน” สุทธิรัตน์ สาวใหญ่ภรรยา “มิตซูโอะ” ถูกฟ้องร้องหลายคดีคาโรงคาศาล ด้านรักษาการเจ้าอาวาสวัดสุนันทวนาราม แจงอีกรอบ บัญชีเงินวัดมีคณะกรรมการดูแลรอบคอบ ส่วนการให้ทุนการศึกษาเด็กจะเดินตามรอยเดิมที่อดีตพระมิตซูุโอะวางไว้ นอภ.ไทรโยคขอทุกฝ่ายเลิกสนใจชีวิตรักของคนทั้งคู่ อยากให้จางหายไปเหมือนสายลมผ่าน ส่วนสาวใหญ่ไฮโซ “แอน-สุทธิรัตน์” วอนสังคมเห็นใจ หลังถูกกระแสโจมตีหนักหน่วง ย้ำชัดแต่งงานจดทะเบียนเพราะ “รักกัน” ด้านอดีตพระมิตซูโอะเข้าคอร์สรักษาอาการเบาหวานเคร่งครัด
ยังคงเป็นเป้าให้ผู้คนในสังคมวิพากษ์วิจารณ์และจับตาดูความเคลื่อนไหวของนางสุทธิรัตน์ มุตตามระ สาวใหญ่ไฮโซวัย 52 ปี เจ้าของศูนย์การแพทย์ด้านความงาม “วิลล่า อิเทอร์น่า” ย่านทองหล่อซอย 4 ผู้สร้างเรื่องราวทอล์กออฟเดอะทาวน์ หลัง แต่งงานกับอดีตพระนักเทศน์ชื่อดัง “มิตซูโอะ” แห่งวัดสุนันทวนาราม สาขาวัดหนองป่าพงที่ 117 อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่วัดสุนันทวนาราม เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ว่า หลังมีข่าวอดีตพระมิตซูโอะ ใช้ชีวิตคู่อย่างหวานชื่นกับภรรยาสาวใหญ่ไฮโซที่ประเทศญี่ปุ่น พระอาจารย์หนูพรม สุชาโต รองเจ้าอาวาสวัด รักษาการเจ้าอาวาสวัดสุนันทวนาราม ได้เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องบัญชีการเงินในวัด ที่ยังมีลูกศิษย์และประชาชนทั่วไปเกิดความกังขา ว่า เงินรายได้ที่วัด มีส่วนใหญ่ได้มาจากการจำหน่ายเสื้อผ้าของที่ระลึก แต่จะมีรายได้วันละเท่าไหร่ไม่ทราบ เนื่องจากไม่เคยไปข้องเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว อีกทั้งวัดมีคณะกรรมการคอยดูแลและรับผิดชอบเป็นขั้นตอน ทั้งหมด 4 คน รายได้ทั้งหมดคณะกรรมการวัดจะนำไปเข้าบัญชีของมูลนิธิมายาโคตมีและบัญชีของทางวัดเอง 1 เดือนครั้ง วัดเองก็มีค่าใช้จ่าย เช่นจ่ายค่าแรงให้กับคนงานในวัด หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรีจะขอตรวจสอบทรัพย์สินของวัด ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ช่วงเช้าก็มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาเข้ามาสอบถามข้อมูล ในส่วนเด็กนักเรียนที่เรียนดีแต่ ครอบครัวมีฐานะยากจน มูลนิธิจะให้ความช่วยเหลือต่อไป ดังนั้นผู้ปกครองไม่ต้องเป็นห่วง มูลนิธิจะปฏิบัติตามแนวทางที่อดีตพระอาจารย์มิตซูโอะวางไว้อย่างเคร่งครัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลของเว็บไซต์ของวัดสุนันทวนาราม พบว่า วัดสุนันทวนารามมีมูลนิธิก่อตั้งจำนวน 2 มูลนิธิ มูลนิธิแรก คือ มูลนิธิมายาโคตมี ก่อตั้งเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2532 เป็นองค์กรการกุศลที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุนการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาจนถึงอุดมศึกษา ควบคู่ไปกับการจัดอบรมจริยธรรมให้แก่นักเรียนด้อยโอกาสในท้องถิ่นชนบทในประเทศไทย ส่วนอีกมูลนิธิคือ มูลนิธิพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก ที่ก่อตั้งเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2551 เป็นองค์กรการกุศลที่มีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟู อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสร้างสรรค์ชุมชนของการอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูล ระหว่างชาวบ้าน สัตว์ป่า และธรรมชาติ โดยใช้ธรรมะเป็นแนวทางในการพัฒนา
นายสมชาติ ธีรสุวรรณจักร นอภ.ไทรโยค จ. กาญจนบุรี เผยถึงกรณีที่มีการโพสต์ภาพการให้สัมภาษณ์ของอดีตพระมิตซูโอะลงในยูทูบ พร้อมโพสต์ข้อความและภาพเคลื่อนไหวของอดีตพระมิตซูโอะกับสาวไฮโซลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างต่อเนื่องว่า ในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชน อยากให้เรื่องของท่านกับหญิงสาวคนดังกล่าวจางหายไป อยากให้เงียบไปในที่สุด ทุกฝ่ายไม่ควรออกมาให้ข่าวหรือโพสต์รูปและข้อความ รวมทั้งความเคลื่อนไหวใดๆแล้ว ไม่ต้องนำออกมาเผยแพร่สู่สาธารณชนอีก เพื่อให้อดีตพระมิตซูโอะและตัวผู้หญิงเองได้ใช้ชีวิตฆราวาสเหมือนปุถุชนทั่วไปตามที่ทั้งสองต้องการ
นอภ.ไทรโยคกล่าวต่อว่า ส่วนการดำเนินงานของมูลนิธิมายาโคตมี อยากให้มูลนิธิฯ สานต่องานด้านต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องทุนการศึกษาของเด็กเรียนดี แต่ยากจน ซึ่งอดีตพระมิตซูโอะได้วาง แนวทางช่วยเหลือเด็กนักเรียนในพื้นที่ อ.ไทรโยค มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการแจกทุนการศึกษาประจำทุกปี รวมทั้งช่วยเหลือกิจกรรมที่เป็นสาธารณประโยชน์เพื่อสังคม นอกจากนี้ยังให้การสนับสนุนเกี่ยวกับการป้องกันปัญหายาเสพติด ไม่ให้มีการระบาดในพื้นที่ และอีกหลายๆด้านที่ท่านให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง มูลนิธิฯ ก็น่าจะดำเนินการตามวัตถุประสงค์เดิม เพื่อประโยชน์ของสังคม และชุมชนต่อไป
ส่วนความเคลื่อนไหวของอดีตพระมิตซูโอะ กับแอน-สุทธิรัตน์ มุตตามระ ที่ยังปักหลักครองคู่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันที่จังหวัดอิวาเตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยฝ่ายหญิงทำหน้าที่ปรนนิบัติพัดวีดูแลอดีตพระนักเทศน์ ที่ป่วยด้วยโรคเบาหวาน และเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ว่า ภายหลังที่ทั้งคู่ตื่นนอนขึ้นมาช่วงเช้ามืดวันเดียวกันนี้ อดีตพระมิตซูโอะใช้เวลาเดินจงกรมราว 1 ชั่วโมง ซึ่งเป็นกิจวัตรที่ปฏิบัติมาเป็นเวลานานตั้งแต่อยู่ในเพศบรรพชิต จากนั้นทั้งคู่ได้ช่วยกันทำความสะอาดบริเวณบ้าน ที่พักอยู่กับพี่ชายและพี่สะใภ้ ภายในหมู่บ้านนิชิเนะ อ.ชิซุคุอิชิ จ.อิวาเตะ ก่อนที่จะควงคู่กันไปเดินเล่นบริเวณทุ่งนา ซึ่งเป็นที่ดินเพียงผืนเดียวที่ใช้ทำนาหล่อเลี้ยงครอบครัว จากนั้นอดีตพระมิตซูโอะได้นำนางสุทธิรัตน์ ไปยังสุสานภายในหมู่บ้าน กราบสุสานบรรพบุรุษ เซ่นไหว้และบอกกล่าวพ่อแม่อดีตพระมิตซูโอะ ว่าทั้งคู่ได้แต่งงานใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันและอดีตพระมิตซูโอะละทิ้งจากเพศบรรพชิตมาเป็นฆราวาส โดยมีเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวร่วมแสดงความยินดี
ช่วงสายอดีตพระมิตซูโอะและนางสุทธิรัตน์ เดินทางออกจากบ้านไปยังเคียวคัมมูระ ออนเซน ที่ห่างออกไปราว 15 นาที เข้าคอร์สล้างพิษอาการป่วยโรคเบาหวานของอดีตพระมิตซูโอะ โดยตารางเข้าคอร์สยังคงเป็นเหมือนเดิม คือ แช่น้ำพุร้อน นวดเก้าอี้พลังงานคลื่นแม่เหล็ก นวดฝ่าเท้า เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต สลับกับการเดินออกกำลังกายภายในสวน อันเป็นกิจวัตรที่ต้องทำวันละ 2 รอบอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดเวลาที่เข้าคอร์สบำบัดล้างพิษ อดีตพระมิตซูโอะได้ทำตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด
ระหว่างพักรับประทานอาหารกลางวัน นางสุทธิรัตน์เผยกับผู้สื่อข่าวว่า อาการโรคเบาหวานของสามีดีขึ้นเป็นลำดับ เป็นเรื่องน่ายินดี ขณะเดียวกันก็มีลูกศิษย์ชาวญี่ปุ่นหลายรายที่ทราบว่า ท่านจดทะเบียนสมรสแล้วและอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่ออนเซน แวะเวียนไปเยี่ยมเยียนกันไม่ขาดสาย พร้อมอวยพรให้ชีวิตคู่มีแต่ความสุข ซึ่งประเพณีที่ญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะพระญี่ปุ่นสามารถแต่งงานได้ นอกจากนี้ ยังมีญาติๆของท่าน ได้ร่วมแสดงความยินดี และรับประทานอาหารร่วมกันเพื่อฉลองในหมู่ญาติพี่น้อง แต่ละคนน่ารักมาก ส่วนสภาพบ้านของท่าน พักอยู่กับพี่ชายและพี่สะใภ้ ที่บ้านมีอาชีพทำนาหาเลี้ยงชีพ ไม่ได้ร่ำรวยอะไร
นางสุทธิรัตน์กล่าวต่อว่า ขณะนี้อาจารย์มิตซูโอะ ได้สอนอ่าน พูด เขียน ภาษาญี่ปุ่นให้ เพื่อให้ใช้สื่อสารในชีวิตประจำวันได้ ส่วนอนาคตคงเดินทางไปมาระหว่างญี่ปุ่นกับเมืองไทย เพราะตนมีกิจการเสริมความงามอยู่ ช่วงนี้ตนมาอยู่ที่ญี่ปุ่น ก็ไม่กระทบกับธุรกิจ เพราะมอบหมายให้ผู้จัดการร้านที่ไว้ใจได้ช่วยดูแลกิจการ โดยจะส่งรายงานทางอีเมล์ให้ทราบทุกวัน จึงไม่กังวลใจอะไร ในส่วนของกระแสโจมตีชีวิตคู่ของตนกับอาจารย์มิตซูโอะ ขอให้เห็นใจด้วย ที่จดทะเบียนสมรสกันเพราะเราทั้งสองรักกัน ส่วนอาจารย์มิตซูโอะก็ลาสิกขามาใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาสามัญแล้ว เป็นเรื่องทางโลก ที่สามารถมีครอบครัวได้ เราทั้งคู่ก็เปิดเผยให้สังคมรับรู้ ไม่ได้หลบซ่อนแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ก็ได้มีกระแสข่าวแพร่สะพัดไปทั่วว่า นางสุทธิรัตน์เคยมีคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลอาญานั้น ผู้สื่อข่าวจึงตรวจสอบจากสารบบความของศาลอาญาพบเพียงว่า มีเพียงคนชื่อคล้ายกันเป็นจำเลยอยู่รวม 5 สำนวน โดยเป็นคดีฟ้องที่ศาลอาญา 2 สำนวนคือ คดีแดงที่ 792/55 ระหว่างนายกมล เอี้ยวศิริกูล โดยนางนิภาพร มั่นหมาย โจทก์ กับนางสุธาสินี (ชื่อเดิมของนางสุทธิรัตน์)มุตตามระ หรือเสตะพันธุ กับพวก เป็นจำเลยฐานยักยอกทรัพย์และความผิดเกี่ยวกับหุ้นส่วนบริษัทกระทำผิดหน้าที่ ความเสียหาย 12 ล้านบาท ศาลลงโทษจำคุก 3 ปี รอลงอาญา 2 ปี อีกคดีคือ อ.4235/55 ระหว่างนางสุภากานต์ ตั้งงามจิตต์ กับพวกรวม 44 คน เป็นโจทก์ฟ้องนางสุธาสินี มุตตามระ กับพวก เป็นจำเลยฐานปลอมเอกสารศาลลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน รอลงอาญา 2 ปี และมีคดีแดงอีกคือ 3151/39 ยังไม่ทราบผลคดี นอกจากนี้ นางสุธาสินียังถูกฟ้องเป็นจำเลยในศาลอื่น ซึ่งส่งประเด็นมาสืบพยานที่ศาลอาญาอีก 2 สำนวน คือคดี ปน.1/55 คดี ปน. 660/55 ศาลอยู่ระหว่างพิจารณา
http://www.thairath.co.th/content/newspaper/354696
facebook Kittinan Anuphan