จบกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะสำหรับ ฟุตบอลคอนเฟดเดอเรชั่น 2013 ที่บราซิล โปรแกรมนี้เรามีโอกาสดูไม่กี่นัด แต่ก็ได้ดูเกือบทั้งหมด มีทั้งโมเมนท์ดีๆ และ ไม่ดี ค่ะ แต่ส่วนตัวขอเก็บเรื่องดีๆไว้ แม้จะเป็นรายการที่ไม่ได้หวังผลทางการแข่งอะไรมาก แต่ก็ถือว่าเป็นรายการที่สำคัญเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น ความมุ่งมั่นของทุกทีมจึงมีค่าเสมอ
วันนี้เก็บเอา "ช่วงเวลาดีๆ" ของการแข่งขันในรายการนี้มาฝาก ขอเรียงจาก ความชอบจากน้อยไปมากที่สุดนะคะ
อันดับ 4 เกมส์ของผู้แพ้ : ซามูไรกอดคอจังโก้ตกรอบ
การแข่งของรองบ๊วย และบ๊วยของกลุ่ม A เป็นการพบกันระหว่าง ญี่ปุ่น และ แม็กซิโกที่ไม่ว่าผลสกอร์จะเป็นเช่นไรพวกขาก็จะกอดคอกันตกรอบอยู่ดี ญี่ปุ่นพ่ายบราซิลมาในนัดแรกแบบตามไม่ทัน หลายคนตั้งเป้าหมายว่า นักเตะเบอร์ 10 ของทั้งสองทีม นั่นคือ เนย์ม่าร์ และ ชินจิ คากาวะ จะได้ฟาดแข้งกันมันกว่านี้ แต่เราก็ไม่ได้เห็นฟอร์มแบบนั้นจากญี่ปุ่น พวกเขามีโอกาสหลายครั้ง แต่ไม่เคยทำสำเร็จ จนกระทั่งพวกเขามาพบกับอิตาลี ญี่ปุ่นก็เหมือนเป็นคนใหม่ พวกเขาเปิดเกมบุกแลกกันรุก ผลัดกันรับอย่างสนุกสนาน แต่ผลสกอร์ก็ทำญี่ปุ่นพ่าย 2 นัดติด ต้องไปรอพบกับผู้แพ้อีกทีม นั่นคือ แม็กซิโก

แม็กซิโก ภายใต้การนำทีมของ ชิชาริโต้ ถั่วน้อยซุปเปอร์ซับแห่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นอีกทีมที่พ่ายแพ้ 2 นัดติด ทำให้ต้องมาพบกับ ญี่ปุ่นเพื่อหนีตำแหน่งบ๊วยในกลุ่มนี้ และเขาจะได้พบกับเพื่อนร่วมทีมแบบ ชินจิ คากาวะด้วย
เม็กซิโกพบญี่ปุ่นอาจเป็นเกมแห่งสปิริตอย่างแท้จริง เพราะพวกเขาไม่หวังผลอะไรแล้ว แต่ก็เล่นกันอย่างเต็มที่ จบสกอร์อย่างสนุกไปที่ 2 ประตูต่อ 1 โดย ชิชาริโต้เหมาคนเดียว 2 ประตู

จบเกมทั้งสองทีมเข้ามาแลกเสื้อกัน เราเห็นการเข้าบอลของทั่งคู่ตลอดเกม พอเกมสิ้นสุด เราได้เห็น "ความเป็นเพื่อนร่วมทีม" ฉายชัดออกมาจากทั้งคู่ เป็นภาพน่ารักๆที่น่าจดจำอีกภาพหนึ่ง




อันดับที่ 3. เกมส์ของผู้ชนะ : แซมบ้าคว้าชัย อัดกระทิง ซิวแชมป์
นี่อาจเป็นแมตในฝันของใครหลายๆคน บ้างก็ว่ามันเป็นแมตอุ่นเครื่องของนัดชิงคู่บอลโลก แต่อย่าคิดไปไกลกว่านั้น เพราะเมื่อเราได้เห็นการแข่งขันของทั่งคู่วันนี้แล้ว เราก็พบว่า "โคตรทีม" ที่คว้าชัยแบบอัดทีมจากทวีปอื่นแบบโหดไม่เลี้ยงนั้น พอมาเจอกันจริงๆ ก็ไม่ได้หวือหวาอย่างที่คิด แม้บราซิลจะชนะไปด้วยสกอร์ถึง 3 ประตูต่อศูนย์ก็ตาม เล่นเอาพี่โหดแบบสเปน ไปแทบไม่เป็น เจาะไม่เข้า บุกไม่ขึ้นตลอดทั้งเกมเลยทีเดียว

เกมนี้เริ่มต้นด้วยการเปิดเกมบุกของสเปน แต่กลับเป็น บราซิลที่โต้กลับแล้วทำประตูได้ หากไม่นับลูกเล็ดลูกแรกของ เฟรด ที่ทั้งสนามแทบยังไม่ได้กระดิกตัวทำอะไร ก็เป็นประตูแล้วตั้งแต่นาทีที่ 2
เกมนัดชิงค่อนข้างประทบกระทั่งกันจนทำเอาบอลเกือบกร่อย เพราะนักเตะค่อนข้างเข้าบอลกันหนัก แจกเหลืองระนาว แล้วในครึ่งหลัง หลังจาก เฟรด ทำประตูที่ 2 ได้ ใน นาทีที่ 2 ของครึ่งหลัง (อีกครั้ง) ทำให้ บราซิลทิ้งห่างเป็น 3 ประตูต่อศูนย์ แล้วโอกาสก็เข้ามาเมื่อสเปนได้จุดโทษ เซอจิโอ รามอสรับหน้าที่สังหารลั่นไก แต่แล้วพี่มอสของเราก็ตีนบอดขึ้นมาซะอย่างนั้น เมื่อยิงจุดโทษไปดาวอังคาร อีกครั้ง (ฟิ้วววว~)
ท้ายเกม ปิเก้สกัดบอลก่อนถึงกรอบเขตโทษ ทำให้เนย์มาร์ล้มลงไปนอนเจ็บ กรรมการวิ่งมาชักใบแดง ไล่ปิเก้ออกจากสนาม สถานการณ์ฝั่งสเปนยิ่งย่ำแย่ จบเกม บราซิลชนะ สเปน 3 ประตูต่อ 0 คว้าแชมป์คอนเฟดเดอเรชั่น 2013 ไปในที่สุด



จบเกม ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายออกมาจับมือและแลกเสื้อกัน จุดเด่นของเกมนี้อย่าง เนย์มาร์ ที่ส่งปิเก้โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม หลายคนต้ั้งข้อสังเกตุว่า ทั้งคู่เป็นสมาชิกทีมในลีกเดียวกัน เด็กใหม่แบบเนย์มาร์ อาจเจอเขม่นจากรุ่นพี่ และ แฟนบอลก็เป็นได้




แต่แล้วเหล่าทีมชาติสเปน โดยเฉพาะ นักเตะทีมบาเซโลน่า ต่างเข้ามาสวมกอดเนย์มาร์ โดยเฉพาะปิเก ที่ตบหลังตบไหล่อย่างไม่ถือสาหาความอะไร แม้จะไม่ใช่ภาพที่หาดูได้ยาก แต่เมื่อเห็น ก็อดรู้สึกประทับใจไม่ได้ทุกครั้งไป

อันดับที่ 2. เกมส์แห่งศักดิ์ศรี : ดวลกันจนหยดสุดท้าย! อัซซูรี่ พ่ายจุดโทษ กระทิงดุ
แมตนี้ถูกกล่าวว่า เป็นแมตเดียวในคอนเฟดฯของปีนี้ที่ใครไม่ได้ดู ถือว่าน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง เพราะยอดทีมทั้ง 2 ทีมโคจรมาเจอกัน ด้วยนักเตะที่ขุมกำลังพร้อมสรรพ แม้อิตาลีจะขาดดาวยิงโคตรเกรียนแบบ เกรียนโอ้ ไปก็ตามที ครึ่งแรกดำเนินไปแบบผลัดกันรุกผลัดกันรับ แต่ละฝั่งมีโอกาสทำประตูได้ แต่ก็พลาดไปหลายครั้งหลายคน เข้าครั้งครึ่งหลัง เกมยิ่งดุเดือด ทั้งสองทีมผลัดกันแลกสนุก ลุ้นแทบลืมหายใจ แล้วเสียงนกหวีดหมดเวลาก็ดังขึ้น แบบที่ ชวนตกใจเพราะเวลาหมดแทบไม่รู้ตัว ทั้ง 2 ทีม เสมอกัน 0-0 ต้องยิงจุดโทษตัดสิน

ทั้ง 2 ทีม ผลัดกันยิงจุดโทษ แบบเชือดนิ่มๆ ชนิดที่ว่า แฟนๆลุ้นกันเยี่ยวเหนียว เพราะแต่ละลูก ผู้รักษาประตู "มือหนึ่ง" ของทั้ง 2 ทีมแทบไม่มีสิทธิ์รับเลย จนกระทั่ง ดำเนินมาถึงคนที่ 9 นาบาสยิงงามๆปลดภาระสเปน ความกดดันไหลไปสู่อิตาลี โบนุชชี่ ออกมาสังหารลูกสุดท้าย แล้วก็เป็นอิตาลีที่พลาด เมื่อโบนุชชี่ ยิงเหินเวหาออกนอกกรอบไป ส่งผลให้สเปนชนะ ผ่านเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ ด้วยผลการดวลจุดโทษสุดมัน
ทั้งสองทีมต่างเข้าไปแลกเสื้อและสวมกอดกัน เพราะเกมนี้เป็นเกมที่สุดยอดจริงๆ





หลังโบนุชชี่พลาด เขามานั่งเสียใจที่เป็นคนทำให้ทีมแพ้อยู่กลางสนาม และเป็น อัลเบลัวร์ที่เข้ามาปลอบใจ แม้ในเกมการแข่งขัน พวกเขาจะเป็นคู่แข่งกัน
แต่จบเกม "ทุกคนคือเพื่อน"

ซึ้งจังค่ะ ท่านอัลเบลัวร์ของน้อง TT
อันดับที่ 1. เกมแห่งน้ำตา : กระทิงโหด ถล่มยับ ตาฮิติ
แมตนี้ก่อนเกมส์ทางโค้ชฝั่งตาฮิติได้ออกมาแถลงก่อนว่า "สเปนจะยิงกี่ลูกก็ได้ แค่ขอยิงสเปนแค่ลูกเดียวพอ" เนื่องจากฟอร์มที่ห่างชั้นกันมาก แมตนี้สเปนส่งทีมสำรองลง กดไปถึง 10 เม็ด แต่ไม่น่าเชื่อว่าเป็นแมตที่สนุกมากแมตหนึ่งสำหรับเรา อาจเพราะตาฮิติเองแม้จะเจอถล่มยับ ก็ยังเดินหน้าบุก แม้ในท้ายเกมจะล้ากันหมดแล้ว แต่ทุกคนก็ยังเล่นกันเต็มที่ โดยแทบไม่มีการทำฟาล์วเกิดขึ้นเลย
แมตนี้ ผู้รักษาประตูฝั่ง Tahiti แบบ Mickaël Roche กดดันอย่างมาก เพราะถูกบุกยิงถึง 10 ลูกด้วยกัน โดยในลูกที่ 4 ของ เฟอร์นันโดตอเรส เค้าแสดงท่าทางผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด ขณะนอนราบกับพื้น เรารัวทุบพื้นด้วยความอัดอั้น

แมตนี้ พี่ตอสของเราที่มีโอกาสทำได้ถึง 5 ประตู คอยเข้าไปพูดคุยและช่วยเหลือ Roche ตลอดเวลา เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก
พอนกหวีดหมดเวลาดัง Roche ฟุบหน้าร้องไห้ เป็น ดาวิด บีย่า ที่รีบวิ่งเข้าไปขอจับมือกับ Roche เป็นคนแรก แล้วก็ตามมาด้วยพี่ตอส



จบเกม บีย่า ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเกมส์กับ ตาฮิติ เป็นเกมที่สวยงามมาก เพราะพวกเขาพยายามเล่นฟุตบอลอย่างแท้จริง แม้ทีมจะตามหลังอยู่ก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่มีอาการเล่นแรงให้เห็นเลย เป็นเกมที่น่าเคารพมาก

นี่คือช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดใน คอนเฟดฯ ครั้งนี้สำหรับเราค่ะ
4 อันดับ แมตช์สุดประทับใจจาก Confederation Cup 2013 ที่ Brazil
วันนี้เก็บเอา "ช่วงเวลาดีๆ" ของการแข่งขันในรายการนี้มาฝาก ขอเรียงจาก ความชอบจากน้อยไปมากที่สุดนะคะ
อันดับ 4 เกมส์ของผู้แพ้ : ซามูไรกอดคอจังโก้ตกรอบ
การแข่งของรองบ๊วย และบ๊วยของกลุ่ม A เป็นการพบกันระหว่าง ญี่ปุ่น และ แม็กซิโกที่ไม่ว่าผลสกอร์จะเป็นเช่นไรพวกขาก็จะกอดคอกันตกรอบอยู่ดี ญี่ปุ่นพ่ายบราซิลมาในนัดแรกแบบตามไม่ทัน หลายคนตั้งเป้าหมายว่า นักเตะเบอร์ 10 ของทั้งสองทีม นั่นคือ เนย์ม่าร์ และ ชินจิ คากาวะ จะได้ฟาดแข้งกันมันกว่านี้ แต่เราก็ไม่ได้เห็นฟอร์มแบบนั้นจากญี่ปุ่น พวกเขามีโอกาสหลายครั้ง แต่ไม่เคยทำสำเร็จ จนกระทั่งพวกเขามาพบกับอิตาลี ญี่ปุ่นก็เหมือนเป็นคนใหม่ พวกเขาเปิดเกมบุกแลกกันรุก ผลัดกันรับอย่างสนุกสนาน แต่ผลสกอร์ก็ทำญี่ปุ่นพ่าย 2 นัดติด ต้องไปรอพบกับผู้แพ้อีกทีม นั่นคือ แม็กซิโก
แม็กซิโก ภายใต้การนำทีมของ ชิชาริโต้ ถั่วน้อยซุปเปอร์ซับแห่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นอีกทีมที่พ่ายแพ้ 2 นัดติด ทำให้ต้องมาพบกับ ญี่ปุ่นเพื่อหนีตำแหน่งบ๊วยในกลุ่มนี้ และเขาจะได้พบกับเพื่อนร่วมทีมแบบ ชินจิ คากาวะด้วย
เม็กซิโกพบญี่ปุ่นอาจเป็นเกมแห่งสปิริตอย่างแท้จริง เพราะพวกเขาไม่หวังผลอะไรแล้ว แต่ก็เล่นกันอย่างเต็มที่ จบสกอร์อย่างสนุกไปที่ 2 ประตูต่อ 1 โดย ชิชาริโต้เหมาคนเดียว 2 ประตู
จบเกมทั้งสองทีมเข้ามาแลกเสื้อกัน เราเห็นการเข้าบอลของทั่งคู่ตลอดเกม พอเกมสิ้นสุด เราได้เห็น "ความเป็นเพื่อนร่วมทีม" ฉายชัดออกมาจากทั้งคู่ เป็นภาพน่ารักๆที่น่าจดจำอีกภาพหนึ่ง
อันดับที่ 3. เกมส์ของผู้ชนะ : แซมบ้าคว้าชัย อัดกระทิง ซิวแชมป์
นี่อาจเป็นแมตในฝันของใครหลายๆคน บ้างก็ว่ามันเป็นแมตอุ่นเครื่องของนัดชิงคู่บอลโลก แต่อย่าคิดไปไกลกว่านั้น เพราะเมื่อเราได้เห็นการแข่งขันของทั่งคู่วันนี้แล้ว เราก็พบว่า "โคตรทีม" ที่คว้าชัยแบบอัดทีมจากทวีปอื่นแบบโหดไม่เลี้ยงนั้น พอมาเจอกันจริงๆ ก็ไม่ได้หวือหวาอย่างที่คิด แม้บราซิลจะชนะไปด้วยสกอร์ถึง 3 ประตูต่อศูนย์ก็ตาม เล่นเอาพี่โหดแบบสเปน ไปแทบไม่เป็น เจาะไม่เข้า บุกไม่ขึ้นตลอดทั้งเกมเลยทีเดียว
เกมนี้เริ่มต้นด้วยการเปิดเกมบุกของสเปน แต่กลับเป็น บราซิลที่โต้กลับแล้วทำประตูได้ หากไม่นับลูกเล็ดลูกแรกของ เฟรด ที่ทั้งสนามแทบยังไม่ได้กระดิกตัวทำอะไร ก็เป็นประตูแล้วตั้งแต่นาทีที่ 2
เกมนัดชิงค่อนข้างประทบกระทั่งกันจนทำเอาบอลเกือบกร่อย เพราะนักเตะค่อนข้างเข้าบอลกันหนัก แจกเหลืองระนาว แล้วในครึ่งหลัง หลังจาก เฟรด ทำประตูที่ 2 ได้ ใน นาทีที่ 2 ของครึ่งหลัง (อีกครั้ง) ทำให้ บราซิลทิ้งห่างเป็น 3 ประตูต่อศูนย์ แล้วโอกาสก็เข้ามาเมื่อสเปนได้จุดโทษ เซอจิโอ รามอสรับหน้าที่สังหารลั่นไก แต่แล้วพี่มอสของเราก็ตีนบอดขึ้นมาซะอย่างนั้น เมื่อยิงจุดโทษไปดาวอังคาร อีกครั้ง (ฟิ้วววว~)
ท้ายเกม ปิเก้สกัดบอลก่อนถึงกรอบเขตโทษ ทำให้เนย์มาร์ล้มลงไปนอนเจ็บ กรรมการวิ่งมาชักใบแดง ไล่ปิเก้ออกจากสนาม สถานการณ์ฝั่งสเปนยิ่งย่ำแย่ จบเกม บราซิลชนะ สเปน 3 ประตูต่อ 0 คว้าแชมป์คอนเฟดเดอเรชั่น 2013 ไปในที่สุด
จบเกม ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายออกมาจับมือและแลกเสื้อกัน จุดเด่นของเกมนี้อย่าง เนย์มาร์ ที่ส่งปิเก้โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม หลายคนต้ั้งข้อสังเกตุว่า ทั้งคู่เป็นสมาชิกทีมในลีกเดียวกัน เด็กใหม่แบบเนย์มาร์ อาจเจอเขม่นจากรุ่นพี่ และ แฟนบอลก็เป็นได้
แต่แล้วเหล่าทีมชาติสเปน โดยเฉพาะ นักเตะทีมบาเซโลน่า ต่างเข้ามาสวมกอดเนย์มาร์ โดยเฉพาะปิเก ที่ตบหลังตบไหล่อย่างไม่ถือสาหาความอะไร แม้จะไม่ใช่ภาพที่หาดูได้ยาก แต่เมื่อเห็น ก็อดรู้สึกประทับใจไม่ได้ทุกครั้งไป
อันดับที่ 2. เกมส์แห่งศักดิ์ศรี : ดวลกันจนหยดสุดท้าย! อัซซูรี่ พ่ายจุดโทษ กระทิงดุ
แมตนี้ถูกกล่าวว่า เป็นแมตเดียวในคอนเฟดฯของปีนี้ที่ใครไม่ได้ดู ถือว่าน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง เพราะยอดทีมทั้ง 2 ทีมโคจรมาเจอกัน ด้วยนักเตะที่ขุมกำลังพร้อมสรรพ แม้อิตาลีจะขาดดาวยิงโคตรเกรียนแบบ เกรียนโอ้ ไปก็ตามที ครึ่งแรกดำเนินไปแบบผลัดกันรุกผลัดกันรับ แต่ละฝั่งมีโอกาสทำประตูได้ แต่ก็พลาดไปหลายครั้งหลายคน เข้าครั้งครึ่งหลัง เกมยิ่งดุเดือด ทั้งสองทีมผลัดกันแลกสนุก ลุ้นแทบลืมหายใจ แล้วเสียงนกหวีดหมดเวลาก็ดังขึ้น แบบที่ ชวนตกใจเพราะเวลาหมดแทบไม่รู้ตัว ทั้ง 2 ทีม เสมอกัน 0-0 ต้องยิงจุดโทษตัดสิน
ทั้ง 2 ทีม ผลัดกันยิงจุดโทษ แบบเชือดนิ่มๆ ชนิดที่ว่า แฟนๆลุ้นกันเยี่ยวเหนียว เพราะแต่ละลูก ผู้รักษาประตู "มือหนึ่ง" ของทั้ง 2 ทีมแทบไม่มีสิทธิ์รับเลย จนกระทั่ง ดำเนินมาถึงคนที่ 9 นาบาสยิงงามๆปลดภาระสเปน ความกดดันไหลไปสู่อิตาลี โบนุชชี่ ออกมาสังหารลูกสุดท้าย แล้วก็เป็นอิตาลีที่พลาด เมื่อโบนุชชี่ ยิงเหินเวหาออกนอกกรอบไป ส่งผลให้สเปนชนะ ผ่านเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ ด้วยผลการดวลจุดโทษสุดมัน
ทั้งสองทีมต่างเข้าไปแลกเสื้อและสวมกอดกัน เพราะเกมนี้เป็นเกมที่สุดยอดจริงๆ
หลังโบนุชชี่พลาด เขามานั่งเสียใจที่เป็นคนทำให้ทีมแพ้อยู่กลางสนาม และเป็น อัลเบลัวร์ที่เข้ามาปลอบใจ แม้ในเกมการแข่งขัน พวกเขาจะเป็นคู่แข่งกัน
แต่จบเกม "ทุกคนคือเพื่อน"
ซึ้งจังค่ะ ท่านอัลเบลัวร์ของน้อง TT
อันดับที่ 1. เกมแห่งน้ำตา : กระทิงโหด ถล่มยับ ตาฮิติ
แมตนี้ก่อนเกมส์ทางโค้ชฝั่งตาฮิติได้ออกมาแถลงก่อนว่า "สเปนจะยิงกี่ลูกก็ได้ แค่ขอยิงสเปนแค่ลูกเดียวพอ" เนื่องจากฟอร์มที่ห่างชั้นกันมาก แมตนี้สเปนส่งทีมสำรองลง กดไปถึง 10 เม็ด แต่ไม่น่าเชื่อว่าเป็นแมตที่สนุกมากแมตหนึ่งสำหรับเรา อาจเพราะตาฮิติเองแม้จะเจอถล่มยับ ก็ยังเดินหน้าบุก แม้ในท้ายเกมจะล้ากันหมดแล้ว แต่ทุกคนก็ยังเล่นกันเต็มที่ โดยแทบไม่มีการทำฟาล์วเกิดขึ้นเลย
แมตนี้ ผู้รักษาประตูฝั่ง Tahiti แบบ Mickaël Roche กดดันอย่างมาก เพราะถูกบุกยิงถึง 10 ลูกด้วยกัน โดยในลูกที่ 4 ของ เฟอร์นันโดตอเรส เค้าแสดงท่าทางผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด ขณะนอนราบกับพื้น เรารัวทุบพื้นด้วยความอัดอั้น
แมตนี้ พี่ตอสของเราที่มีโอกาสทำได้ถึง 5 ประตู คอยเข้าไปพูดคุยและช่วยเหลือ Roche ตลอดเวลา เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก
พอนกหวีดหมดเวลาดัง Roche ฟุบหน้าร้องไห้ เป็น ดาวิด บีย่า ที่รีบวิ่งเข้าไปขอจับมือกับ Roche เป็นคนแรก แล้วก็ตามมาด้วยพี่ตอส
จบเกม บีย่า ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเกมส์กับ ตาฮิติ เป็นเกมที่สวยงามมาก เพราะพวกเขาพยายามเล่นฟุตบอลอย่างแท้จริง แม้ทีมจะตามหลังอยู่ก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่มีอาการเล่นแรงให้เห็นเลย เป็นเกมที่น่าเคารพมาก
นี่คือช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดใน คอนเฟดฯ ครั้งนี้สำหรับเราค่ะ