ทำไมคนที่ทำ How to หรือ review เดี๋ยวนี้จะต้องฝากแฟนเฟจด้วยคะ

รีวิว ฮาวทู เสร็จก็จะแปะเฟจ FB IG ต่อ
จขกท.จะบอกว่า ตามไปคุยที่แฟนเฟจได้นะคะ
สงสัยว่าคุยใน pantip ไม่ได้หรอ
ทำไมคนที่ทำ How to หรือ review เดี๋ยวนี้จะต้องฝากแฟนเฟจด้วยคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
เราแทบไม่ค่อยเห็นbloggerมาช่วยตอบปัญหากระทู้ทั่วไปในห้องแป้งบ้างเลย
หรือตัวเค้าเองไม่มีปัญหาอะไรอยากถามอยากแชร์กันบ้างเหรอ
เห็นโผล่มาก็how toอย่างเดียวแล้วให้ตามไปคุยกันที่เพจตัวเอง

มีอะไรก็มาแชร์กันในห้องแป้งบ้างก็ได้นะคะ
ไม่ใช่มาโกยคนไปอย่างเดียวน่ะ

ยิ้ม
ความคิดเห็นที่ 13
หัวอกคนเป็นบล็อกเกอร์เนี่ยจะว่าไปลึกๆแล้วก็อยากดังกว่าเดิมทั้งนั้นแหละ เราเองก็เป็นบล็อกเกอร์คนนึง ถึงจะไม่ใช่สาย fashion&beauty ก็เถอะ เราเข้าใจดีว่าความรู้สึกมันเป็นยังไง ความจริงเนี่ยความดังในการเป็นบล็อกเกอร์มันเหมือนจะแบ่งได้สามแบบ ก็คือแบบได้เงิน แบบได้กล่อง และแบบได้ทั้งคู่เลย ซึ่ง fashion&beauty บล็อกเกอร์เนี่ยจัดอยู่ในแบบหลังสุด มันก็เลยเป็นอะไรที่เย้ายวนคนวงนอกให้กระโดดลงมาใน pool นี้ มาว่ายวนแชร์ส่วนแบ่งตลาดกับบล็อกเกอร์รุ่นพี่กันต่อ เมื่อคนมันเยอะ การแข่งขันก็สูงตาม ปัญหามันก็เลยเกิด บรรดาผู้ติดตามอย่างสาวๆห้องแป้งก็จะต้องเลือกดูหนักหน่อยว่าคนไหนทำเพื่อตัวเองหรือทำเพราะใจรักอย่างแท้จริง คือเราเชื่อนะว่าทุกคนล้วนเริ่มต้นจากใจรัก แต่หลังจากที่ดังขึ้นแล้วมันก็จะต้องบาลานซ์ให้ดี อย่าให้เงินมาเป็นตัวนำ ปัญหาก็จะไม่เกิด

มันก็เหมือนกับบล็อกเกอร์สาย IT นั่นแหละ ปัญหาเขาก็มีคล้ายๆกันกับห้องเรา โดยอิมเมจแล้วบล็อกเกอร์สายนี้อาจจะไม่ได้ดูหรูหราเซเล็บเท่าสาย fashion&beauty เพราะเป็นเรื่องของผู้ชายซะมาก คนที่ติดตามบล็อกเกอร์กลุ่มนี้ส่วนมากมีแต่หนุ่มๆ แต่เรื่องของเงินหรือการได้หน้าของตัวบล็อกเกอร์เองก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย หรือแม้แต่บล็อกเกอร์สายกินดื่มและท่องเที่ยวก็ยังไม่วายมีปัญหาต้องสงสัยเรื่องความจริงใจ ถึงแม้จะเป็นกลุ่มที่เน้นไปในทางได้เงินมากกว่าได้กล่อง แต่ล่าสุดก็มีดราม่ากันในห้องก้นครัว หรืออย่างห้องบลูก็มีกรุ่นๆกันตลอดช่วงปีก่อน บล็อกเกอร์กลุ่มที่ดูจะมีปัญหาน้อยที่สุดคือสาย movie&music นะ เพราะพวกเราเป็นสายได้กล่อง ไม่ค่อยได้เงินเท่าไหร่ เพราะแต่ละคนนี่ทำเอามัน ทำด้วยใจรักแต่แรกทั้งนั้น ถ้าจะหวังก็แค่หวังให้มีคนเข้ามาอ่านบล็อกเยอะๆ ไม่ได้หวังให้เจ้าของแบรนด์อะไรมาติดต่อเราไปออกอีเวนท์ เจ้าของรีสอร์ทหรือภัตตาคารมาเรียกเราไปพักไปกิน

สรุปก็คือคนเป็นบล็อกเกอร์ต้องมีความจริงใจและใจรักนี่แหละ ส่วนเรื่องรายได้เรื่องหน้าตามันจะเข้ามาทีหลังเอง ไม่ใช่ว่าเริ่มทำบล็อกเพราะแค่ชอบในเรื่องนั้นๆประมาณนึง แต่เอียงไปทางอยากดังซะมากกว่า ในหัวจิ้นภาพเลยว่าชั้นได้ไปเปิดตัวครีมแบรนด์นั้นหรือแท็บเล็ทรุ่นนี้ แบบนี้เริ่มมาก็ไม่จริงใจแล้ว คุณเขียนมันทำมันเพราะอยากดัง ไม่ใช่เพราะอยากแชร์ในสิ่งที่คุณรักให้คนอื่นเห็น พอเริ่มติดลมบน คุณอาจจะได้เงินจากแบรนด์ต่างๆอย่างที่หวังไว้ แต่เชื่อเหอะว่าคุณไม่ได้ใจคนที่ติดตามอ่านหรอก ดังนั้นการทำบล็อกด้วยใจรักล้วนๆเราว่ามันอยู่ได้นานกว่าเยอะนะ
ความคิดเห็นที่ 25
อีกหน่อยคงไม่มีใครมากล้าโพสกระทู้
เพราะโดนจับผิด เดี๋ยวจะเหมือนห้องก้นครัว CR SR CR SR CR SR
ดูกันแบบสวยๆ ขำๆ ใช้ดุลพินิจกันเอาเองค่ะ
จะตามไปดูกันต่อไหม หรือจะไม่ไป หรือจบแค่ในพันทิพ
จะคลิกไม่คลิก ใครจะไปจับมือคุณทำได้
ความคิดเห็นที่ 4
แต่เราโอเคกับเรื่องนี้นะ ไม่ได้คิดอะไร คือมันเป็นอะไรที่เราเลือกได้ไง ว่าจะเข้าไปหรือไม่เข้า ไม่ได้ถูกบังคับ เชื่อมั้ย ตั้งกะอ่านกระทู้ How to, Review มาหลายกระทู้ เรายังไม่เคยกดเข้าไปดูเพจของคนไหนเลย ก็อ่านจบแค่ในกระทู้พันทิปนี่แหละ ถ้าเราชอบก็กดถูกใจให้กันไป ถ้าไม่ชอบก็อ่านเฉยๆ ไป

ประเด็นเรื่องจุดประสงค์ของเจ้าของรีวิวหรือฮาวทูกับการฝากเพจ เราก็รู้กันอยู่แล้วแหละ ว่าเค้าต้องการคนติดตามผลงานของเค้า ซึ่งก็ไม่ผิดนะเราว่า เพราะถ้ามีคนติดตามเค้าเยอะ มันก็เหมือนเป็นกำลังใจให้เค้าทำตัวใหม่ออกมาให้พวกเราได้เสพไง เราคิดงี้อ่ะนะ
ความคิดเห็นที่ 1
คิดว่าเค้าคงไม่ได้อยากจะแชร์ความรู้อะไรมากมายหรอก
อยากให้เพจตัวเองดัง เลยมาตั้ง
บางคนมาแนวแบบว่า เอารูปมาแปะรูปเดียว อธิบายสามบรรทัด  แล้วก็ฝากเพจ
จะเนียน up like เพจทั้งที ยังขี้เกียจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่