เราขอยืมล๊อคอินคุณแฟนมาใช้บอกเล่าเรื่องราวอันตรายใกล้ตัวที่เราอาจคาดไม่ถึง เพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับเพื่อนๆค่ะ
เราได้ไปดูหนังกับคุณแฟนที่เมกะบางนา เรื่อง last summer รอบเวลา 14.30 วันที่ 29/06/2556 ค่ะ
เราขอข้ามไม่เล่ารายละเอียดของหนังเรื่องนี้นะคะ
ไฮไลท์มันอยู่ที่ตอนจบค่ะ หลังจากที่หนังจบแล้ว เราและคุณแฟนยังนั่งอยู่ไม่ได้ลุกออกไปในทันที
ในระหว่างนั้น เราได้ยินเสียงกรีดร้อง มาจากทางออกฝั่งซ้ายมือของเรา
เราจึงหันไปมองพร้อมกับเห็นคนจำนวนนึงยืนออกันอยู่บริเวณนั้น ไม่ยอมเดินลงบันไดเพื่อออกจากโรง
เราเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น (แต่ใจรู้แน่ว่าไม่ใช่ไฟไหม้ เพราะว่าไม่อย่างนั้น คนคงไม่ยืนออไม่ยอมออกจากโรงเป็นแน่)
สักพัก เรากะคุณแฟนจึงลุกขึ้นและเลือกทางออกอีกฝาก เพราะคิดว่าทางนั้นต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ เมื่อเราเดินจนเกือบจะถึงทางลงบันได มีเด็กวัยรุ่นกลุ่มนึงประมาณ 6-7 คนที่เดินอยู่ข้างหน้าเราส่งเสียงกรีดร้องพร้อมกับถอยหลังมาแบบชนิดที่ว่าเราไม่ทันตั้งตัว เราจึงเอามือดันไว้ แต่จังหวะนั้น เราก็ถอยตามแรงที่น้องกลุ่มนี้ถอยกลับมา เราจึงพูดว่า โทษนะคะ ขอทางหน่อย พร้อมกับพยายามแทรกตัวเพื่อออกไป พอเราเดินพ้นจากน้องกลุ่มนี้ เราจึงเจอกับต้นตอของตัวปัญหา "ผี" จำนวน 3 ตัว(ใส่ชุด ทำผม แต่งหน้า เหมือนผีในหนังเรื่องที่เพิ่งฉายจบไปเมื่อสักครู่) มายืนเรียงราย ตามขั้นบันไดค่ะ
"ผี" ตัวที่หนึ่ง ยืนแอบอยู่ชิดริมกำแพงฝั่งซ้าย
"ผี" ตัวที่สอง ยืนอยู่ถัดลงไปหน่อย ฝั่งขวามือ
"ผี" ตัวสุดท้าย นั่งอยู่ตรงกลางของบันไดขั้นสุดท้ายเลยค่ะ
เราเดินพ้น ผีตัวแรกแล้ว แต่ทันใดนั้นสิ่งที่เราไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น น้องกลุ่มนั้นส่งเสียงกรีดร้องออกมาอีกครั้งพร้อมกับวิ่งกรูกันลงมาที่เรา
ณ ตอนนั้น เรายืนอยู่กลางบันได ตกใจมาก คุณแฟนที่ยืนอยู่ข้างซ้ายมือของเรา รีบกระชากเราเข้าไปหาเค้าทันที เราถูกกระแทกอย่างแรงที่แขน ส่วนคุณแฟนเราถูกเหยียบที่นิ้วเท้า จนแดงเถือก
เรายอมรับว่าโกรธมากค่ะ เราลงบันไดไป เราก็ยังได้เห็นผลพวงอีกอย่างของเจ้าผีสามตัวนี้นอกจากการฟกช้ำของเราและคุณแฟน แก้วน้ำอัดลมหกอยู่ข้างหน้าประตูทางออกค่ะ (เราไม่เห็นเหตุการณ์ ว่ามันหกได้ยังไง แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าเพราะเจ้าผีสามตัวนี้แน่นอน) เราตรงไปยังพนักงานเมเจอร์ แล้วถามว่า ไอ้ผีสามตัวนี่เป็นของใคร (ขอโทษที่ใช้คำไม่สุภาพนะคะ แต่เราเหลืออดจริงๆตอนนั้น) พนักงานเมเจอร์คนนั้นตอบเราว่าเป็นของภาพยนตร์ครับ เราจึงบอกให้เค้าตามผู้จัดการมาหาเราเดี๋ยวนั้น
ผ่านไปสักพัก เราก็พบกับผู้จัดการเมเจอร์ ของเมกะบางนา (เราจำชื่อไม่ได้แล้ว) เราก็เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้เค้าฟัง แล้วบอกกับผู้จัดการว่า นี่ยังดีนะคะที่วันนี้คนมาดูน้อยโรงนี้ ถ้าคนเต็มโรงแล้ววิ่งกรูกันออกมาเมื่อกี้ เหยียบกันตาย แล้วใครจะรับผิดชอบ ผู้จัดการก็ขอโทษเราค่ะ บอกว่าจะพาเราและคุณแฟนไปหาหมอ เราจึงปฎิเสธไปค่ะ บอกว่าไม่ต้องขนาดนั้น แต่เราแค่อยากจะบอกว่าช่วยคำนึงถึงสวัสดิภาพของคนดูให้มากกว่านี้ด้วย ไม่ใช่เอะอะอะไรก็โฆษณา การตลาดตลอดเวลา
ผู้จัดการก็บอกว่าจริงๆแล้วมันเป็นการตกลงกันระหว่างผู้ผลิตภาพยนตร์และเมเจอร์ว่าจะมีการจัดผีมายืนแบบนี้ แต่ก็คำนึงแล้วว่าไม่ให้ขวางทางลงบันได (นี่ขนาดคิดแล้วนะ) เราเลยสวนกลับว่า ถ้าผีตัวแรกกับตัวที่สองน่ะใช่ แต่คุณไปดูกล้องวงจรปิดเลย ว่าผีตัวที่สามน่ะมันนั่งยังไง มันนั่งตรงกลางขั้นบันไดไม่พอ มันยังเอามือกางออกกวัดแกว่งอีกต่างหาก ผู้จัดการก็ขอโทษเราด้วยการให้ดูหนังฟรีวันนี้ค่ะ เราปฎิเสธไป บอกว่าเรามาดูหนังไม่ได้ตั้งใจมาดูฟรี แต่ทางผู้จัดการยืนยันหนักแน่น จะขอคืนเงินให้ พร้อมกับขอหางบัตรภาพยนตร์คืนกลับไป สรุปเราได้เงิน 300 กว่าบาทคืนกลับมาค่ะ พร้อมกับประสบการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับเรา
อันตรายใน โรงภาพยนตร์ ที่เราคาดไม่ถึง
เราได้ไปดูหนังกับคุณแฟนที่เมกะบางนา เรื่อง last summer รอบเวลา 14.30 วันที่ 29/06/2556 ค่ะ
เราขอข้ามไม่เล่ารายละเอียดของหนังเรื่องนี้นะคะ
ไฮไลท์มันอยู่ที่ตอนจบค่ะ หลังจากที่หนังจบแล้ว เราและคุณแฟนยังนั่งอยู่ไม่ได้ลุกออกไปในทันที
ในระหว่างนั้น เราได้ยินเสียงกรีดร้อง มาจากทางออกฝั่งซ้ายมือของเรา
เราจึงหันไปมองพร้อมกับเห็นคนจำนวนนึงยืนออกันอยู่บริเวณนั้น ไม่ยอมเดินลงบันไดเพื่อออกจากโรง
เราเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น (แต่ใจรู้แน่ว่าไม่ใช่ไฟไหม้ เพราะว่าไม่อย่างนั้น คนคงไม่ยืนออไม่ยอมออกจากโรงเป็นแน่)
สักพัก เรากะคุณแฟนจึงลุกขึ้นและเลือกทางออกอีกฝาก เพราะคิดว่าทางนั้นต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ เมื่อเราเดินจนเกือบจะถึงทางลงบันได มีเด็กวัยรุ่นกลุ่มนึงประมาณ 6-7 คนที่เดินอยู่ข้างหน้าเราส่งเสียงกรีดร้องพร้อมกับถอยหลังมาแบบชนิดที่ว่าเราไม่ทันตั้งตัว เราจึงเอามือดันไว้ แต่จังหวะนั้น เราก็ถอยตามแรงที่น้องกลุ่มนี้ถอยกลับมา เราจึงพูดว่า โทษนะคะ ขอทางหน่อย พร้อมกับพยายามแทรกตัวเพื่อออกไป พอเราเดินพ้นจากน้องกลุ่มนี้ เราจึงเจอกับต้นตอของตัวปัญหา "ผี" จำนวน 3 ตัว(ใส่ชุด ทำผม แต่งหน้า เหมือนผีในหนังเรื่องที่เพิ่งฉายจบไปเมื่อสักครู่) มายืนเรียงราย ตามขั้นบันไดค่ะ
"ผี" ตัวที่หนึ่ง ยืนแอบอยู่ชิดริมกำแพงฝั่งซ้าย
"ผี" ตัวที่สอง ยืนอยู่ถัดลงไปหน่อย ฝั่งขวามือ
"ผี" ตัวสุดท้าย นั่งอยู่ตรงกลางของบันไดขั้นสุดท้ายเลยค่ะ
เราเดินพ้น ผีตัวแรกแล้ว แต่ทันใดนั้นสิ่งที่เราไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น น้องกลุ่มนั้นส่งเสียงกรีดร้องออกมาอีกครั้งพร้อมกับวิ่งกรูกันลงมาที่เรา
ณ ตอนนั้น เรายืนอยู่กลางบันได ตกใจมาก คุณแฟนที่ยืนอยู่ข้างซ้ายมือของเรา รีบกระชากเราเข้าไปหาเค้าทันที เราถูกกระแทกอย่างแรงที่แขน ส่วนคุณแฟนเราถูกเหยียบที่นิ้วเท้า จนแดงเถือก
เรายอมรับว่าโกรธมากค่ะ เราลงบันไดไป เราก็ยังได้เห็นผลพวงอีกอย่างของเจ้าผีสามตัวนี้นอกจากการฟกช้ำของเราและคุณแฟน แก้วน้ำอัดลมหกอยู่ข้างหน้าประตูทางออกค่ะ (เราไม่เห็นเหตุการณ์ ว่ามันหกได้ยังไง แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าเพราะเจ้าผีสามตัวนี้แน่นอน) เราตรงไปยังพนักงานเมเจอร์ แล้วถามว่า ไอ้ผีสามตัวนี่เป็นของใคร (ขอโทษที่ใช้คำไม่สุภาพนะคะ แต่เราเหลืออดจริงๆตอนนั้น) พนักงานเมเจอร์คนนั้นตอบเราว่าเป็นของภาพยนตร์ครับ เราจึงบอกให้เค้าตามผู้จัดการมาหาเราเดี๋ยวนั้น
ผ่านไปสักพัก เราก็พบกับผู้จัดการเมเจอร์ ของเมกะบางนา (เราจำชื่อไม่ได้แล้ว) เราก็เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้เค้าฟัง แล้วบอกกับผู้จัดการว่า นี่ยังดีนะคะที่วันนี้คนมาดูน้อยโรงนี้ ถ้าคนเต็มโรงแล้ววิ่งกรูกันออกมาเมื่อกี้ เหยียบกันตาย แล้วใครจะรับผิดชอบ ผู้จัดการก็ขอโทษเราค่ะ บอกว่าจะพาเราและคุณแฟนไปหาหมอ เราจึงปฎิเสธไปค่ะ บอกว่าไม่ต้องขนาดนั้น แต่เราแค่อยากจะบอกว่าช่วยคำนึงถึงสวัสดิภาพของคนดูให้มากกว่านี้ด้วย ไม่ใช่เอะอะอะไรก็โฆษณา การตลาดตลอดเวลา
ผู้จัดการก็บอกว่าจริงๆแล้วมันเป็นการตกลงกันระหว่างผู้ผลิตภาพยนตร์และเมเจอร์ว่าจะมีการจัดผีมายืนแบบนี้ แต่ก็คำนึงแล้วว่าไม่ให้ขวางทางลงบันได (นี่ขนาดคิดแล้วนะ) เราเลยสวนกลับว่า ถ้าผีตัวแรกกับตัวที่สองน่ะใช่ แต่คุณไปดูกล้องวงจรปิดเลย ว่าผีตัวที่สามน่ะมันนั่งยังไง มันนั่งตรงกลางขั้นบันไดไม่พอ มันยังเอามือกางออกกวัดแกว่งอีกต่างหาก ผู้จัดการก็ขอโทษเราด้วยการให้ดูหนังฟรีวันนี้ค่ะ เราปฎิเสธไป บอกว่าเรามาดูหนังไม่ได้ตั้งใจมาดูฟรี แต่ทางผู้จัดการยืนยันหนักแน่น จะขอคืนเงินให้ พร้อมกับขอหางบัตรภาพยนตร์คืนกลับไป สรุปเราได้เงิน 300 กว่าบาทคืนกลับมาค่ะ พร้อมกับประสบการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับเรา