เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
นับจากปี 2001 จนถึงตอนนี้ Kamen Rider Agito ก็อายุครบ 13 ปีแล้ว แต่เชื่อมั๊ยครับว่า ผมพึ่งจะมาดูอากิโตะแบบจริงๆจังๆก็ราวๆ 5 ปีที่แล้ว เพราะ ตอนที่มันฉายอยู่ผมยังเด็กมาก คงจะไม่สามารถทำความเข้าใจกับเรื่องราวอัน ซับซ้อนในซีรีย์ได้ (เด็กตอนนั้นจะดูอะไรได้นอกจากรอดูฉากแปลงร่าง กับฉากไรเดอร์ตีกับอันโนนส์อย่างเดียว 5555) พอโตหน่อยก็ถึงค่อยจะ มาดูรู้เรื่อง และติดตามเป็นสาวกไปเลยครับ ด้วยอารมรณ์คึกๆหลังจากดูซีรีย์อีกรอบจบ (บวกกับหนัง Project G4 ไปอีกหนึ่งเรื่อง) ก็ขอมาเขียนถึงอากิโตะอีกซักรอบรึลึกความหลังครับ (หมายเหตุ : ผ่านมา 13 ปีแล้ว อะไรที่มันเป็นความลับก็คงไม่เป็นความลับแล้วมั้งครับ งั้นกระทู้นี้ผมขอสปอยล์ในบาง จุดเป็นพิเศษก็แล้วกันนะครับ 5555) ก่อนจะดูอากิโตะ มีใครเคยคิดมั๊ยครับว่า เรื่องของพระเจ้า, ปรัชญาชีวิต, การทดลองที่ ผิดพลาดทางวิทยาศาสตร์ จะสามารถนำมาใส่ในหนังเด็กๆที่้้เราเรียกว่า "ไอ้มดแดง" มาตั้งแต่เด็กได้ (จริงๆเมื่อก่อนมันก็มี เพราะต้นฉบับเป็นของอาจารย์อิชิโนโมริ โชทาโร่ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความดาร์ค แต่พอมาเป็นซีรีย์มันก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่) ...ผมคนหนึ่งล่ะที่ ไม่เคยคิดเลยจนกระทั่งได้ดูอากิโตะ กับคูกะยังไม่เท่าไหร่ เพราะแม้คูกะจะมีเนื้อหาที่น่า ติดตามและตัวละครที่มีมิติหลากหลาย แต่คูกะก็ยังมีธีมเชิดชูความดีเหมือนกับซีรีย์ยุค โชวะอยู่ดี แต่อากิโตะ นำเสนอได้ผ่าเหล่า จนผมประทับใจตั้งแต่เปิดดีวีดีแผ่นแรกดูแล้ว อากิโตะ แหกกฏการเล่าเรื่องของหนังไรเดอร์ตั้งแต่ต้นเลยคือ 1.หนังไม่ได้บอกอะไรคนดูเลย มีแต่จะตั้งคำถามให้คนดูสงสัยขึ้นมาเรื่อยๆเรื่อยๆ ว่าตกลงอะไรมันคืออะไรกัน!? เปิดเรื่องมา พระเอกโซอิจิของเราก็ความจำเสื่อมไปซะแล้ว แล้วพวกอันโนนส์มันโผล่มาจากไหนกัน? แล้ว เจ้าเรียวมันชักดิ้นชักงอเป็นอะไรของมัน? ยิ่งดูก็ยิ่งมีแต่คำถาม ...แต่มันก็ถูกแล้วครับที่คำถาม มันน่าสนใจกว่าคำตอบอยู่แล้ว นั่นคือประการแรกที่ทำให้อากิโตะ มีความน่าติดตามตั้งแต่ตอนเปิดเรื่อง พอยิ่งดูๆเรื่อยๆ ยิ่งรู้อะไรในเรื่องมากขึ้นๆ มันก็ยิ่งที่จะหยุดดูไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปริศนา เงื่อนงำในเรื่องหรือความสัมพันที่อีรุงตุงนังของตัวละคร และสร้างจุดเชื่อมโยงกันของตัว ละครที่ไม่น่าจะมาเจอกันได้ให้มามีส่วนเกี่ยวข้องกันได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือการ สร้างเหตุการ์ณที่ทำให้เหล่าไรเดอร์ต้องมารวมพลังกันได้อย่างน่าเชื่อถือ ยิ่งพอผ่านหลัก ไคลแม็กส์ในแต่ละช่วงของเรื่องไปแต่ละช่วง ก็ยิ่งทำให้รู้สึก อู้หู! อืออื้อ! ยิ่งขึ้นไปอีก ยิ่งในช่วงที่ย้อนความตอนอุบัติเหตุบนเรืออาคาซากิ (ที่เราไม่ได้เห็นตอนต้นเรื่อง) หรือ ปริศนาที่ว่า "ศัตรูของพวกโซอิจิคืออะไร? พวกเขากำลังสู้อยู่กับอะไรกันแน่?" ก็ยิ่งทำ ให้อึ้งไปอีก จนดูแล้วรู้สึกทึ่งไปกับการเขียนบท พอย้อนกลับมาดูไรเดอร์สมัยนี้ก็เปรียบ เทียบกันได้เลยว่า อากิโตะไม่จำเป็นต้องขายของเล่นเยอะๆ หรือร่างแปลงเยอะๆเลย แค่เนื้อเรื่องมันก็กินขาดและดึงดูดคนดูมากพอแล้ว ไรเดอร์ในเรื่องนี้มีเด่นๆ ก็ 3-4 คน ซึ่งถือเป็นเรื่องแรกที่มีไรเดอร์ตัวนำเยอะๆแบบนี้ (ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ) และแต่ละคนก็ก็มีบทบาทและความเด่นที่กินกันไม่ลงเลย แต่ ละคนมีหน้าที่ การต่อสู้ และความสำคัญเท่าๆกันหมดแตกต่างกันออกไป …นักแสดง ในเรื่องนี่บอกไม่ถูกว่าชอบใครที่สุด เพราะเล่นเก่งกันหมดจริงๆ มีมิติและความละเอียด อ่อนทางอารมณ์ที่จับต้องได้ แต่ที่ประทับใจที่สุดอย่างคาดไม่ถึงเลยคงเป็นเจ้า โฮโจ โทรุ นี่แหละครับ ที่ตอนแรกหมั่นไส้ไอ้หมดนี่จริงๆ แต่พอผ่านไปหลายๆตอนเราก็จะเห็นด้าน ดีๆของเขามากขึ้นเรื่อยๆ จนมีมุมที่คนดูจะรู้สึกชอบในตัวโฮโจขึ้นมาบ้าง (ตอนเด่นของ โฮโจที่ผมชอบที่สุด คงเป็นการสืบสวนคดีฒาตกรรมที่ตำรวจรุ่นพี่โยนความผิดให้ อันโนนส์นั่นล่ะ เนื้อชั้นจริงๆ) และแม้เนื้อหาจะซีเรียสยังไง ก็ยังมีความตลกแบบอบอุ่นให้ได้อมยิ้มกันตามแบบ ฉบับซีรีย์ไรเดอร์เป็นระยะๆ ซึ่งซีรีย์ก็จัดการอารมร์ณทั้งสองส่วนได้ดีมากๆ แต่เวลาจะขายของขึ้นมา ซีรีย์ก็มีวิธีที่จะพาวเวอร์อัพให้ไรเดอร์ได้อย่างสมเหตุสมผลไม่ยัดเยียด เช่น อากิโตะที่เปลี่ยนเป็นทรินิตี้ฟอร์มได้หลังจากความทรงกลับมา (แป๊บนึง) หรือกิลส์ที่เปลี่ยน เป็นเอ็กซีดกิลส์หลังจากได้รับพลังจากมานะจัง และที่ผมชอบที่สุดก็คือ การสร้างเหตุผลในการ อัพเกรดให้ G3 เป็น G3-X ซึ่งสามารถใช้เป็นแก่นของตอน ในการวัดศีลธรรม วัดความสามารถ ของฮิคาว่า โฮโจ หรือโอซาว่าได้เลย …นับถือคนเขียนบทจริงๆ ถ้าพูดถึงในเรื่องทฤษฎีในเรื่อง ต้องยอมรับว่า อากิโตะมีความเป็นไซไฟและเหนือธรรมชาติสูงพอๆกัน มนุษย์ต้องดันไปแตะต้องอำนาจที่ไม่ควรแตะ จนนำไปสู่พลังที่ควบคุมไม่ได้มาคุกคามมนุษย์ ...ถึงขนาดสร้างอำนาจระดับ "พระเจ้า" ได้นี่นับว่า มนุษย์ในซีรีย์ไรเดอร์นี่ทะเยอทะยานกันทุกคนจริงๆ แต่ไม่มีแนวคิดไหนทะเยอทะยาน และเป็นอันตรายใกล้เคียงความเชื่อของมนุษย์ได้จริงๆเท่าอากิโตะอีกแล้ว ...เมื่อวิทยาศาสตร์และสิ่งเหนือธรรมชาติมาบรรจบกัน ผลสุดท้ายมนุษย์ที่อยู่ตรงกลางจะทำไงล่ะทีนี้? สิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่เรามักจะเห็นจากซีรีย์ของฝรั่งที่มักจะสร้างเนื้อหาที่น่าติดตา มด้วยเหตุและผลของมัน และยังสามารถทิ้งเงื่อนงำให้คนดูสามารถติดตามได้อย่างไม่มีสะดุด ซึ่งอากิโตะ สามารถทำได้เกือบจะไร้ข้อบกพร่อง ที่ว่า "เกือบจะ" เพราะผมรู้สึกว่าช่วง หลังๆของซีรีย์ ดันหมดพลังลงไปซะเฉยๆ ทั้งๆที่ดำเนินเรื่องแบบแรงไปข้างหน้ามาตลอด พอมาเกือบจะจบดันดาวน์ลงไปซะอย่างงั้น ทำให้ตอนจบออกมากร่อยๆกว่าที่ควรจะเป็น พอสมควร แต่ยังไงซะเมื่อมองในภาพรวมแล้วก็ยังคงประทับใจติดในความทรงจำอยู่ดี พอมาถึงตอนนี้ปี 2013 แล้วนี้ พอมาดูไรเดอร์ในตอนนี้อย่างโอส, โฟร์เสะ, วิซเซิร์ด ...มันก็เป็นอีกยุคหนึ่งของไรเดอร์ไปแล้ว ซึ่งผมก็ไม่ได้อคติหรือเกลียดอะไรนะครับ ผมก็ยัง เก็บของเล่นและดูหนังสนุกอยู่เหมือนเดิมนั่นแหละ เพราะยุคนี้จะมาทำเนื้อหาดราม่าซับซ้อน แบบอากิโตะไม่ได้แล้ว ...ก็ขอให้สนุกกับการดูซีรีย์คาเมนไรเดอร์กันต่อไปนะครับ ขอจบกันรำลึกอดีตแต่เพียงเท่านี้
รำลึกความหลังกับ Kamen Rider Agito ซีรีย์ไรเดอร์ที่ผมชอบที่สุดและจะชอบตลอดกาลครับ
นับจากปี 2001 จนถึงตอนนี้ Kamen Rider Agito ก็อายุครบ 13 ปีแล้ว
แต่เชื่อมั๊ยครับว่า ผมพึ่งจะมาดูอากิโตะแบบจริงๆจังๆก็ราวๆ 5 ปีที่แล้ว เพราะ
ตอนที่มันฉายอยู่ผมยังเด็กมาก คงจะไม่สามารถทำความเข้าใจกับเรื่องราวอัน
ซับซ้อนในซีรีย์ได้ (เด็กตอนนั้นจะดูอะไรได้นอกจากรอดูฉากแปลงร่าง
กับฉากไรเดอร์ตีกับอันโนนส์อย่างเดียว 5555) พอโตหน่อยก็ถึงค่อยจะ
มาดูรู้เรื่อง และติดตามเป็นสาวกไปเลยครับ
ด้วยอารมรณ์คึกๆหลังจากดูซีรีย์อีกรอบจบ (บวกกับหนัง Project G4 ไปอีกหนึ่งเรื่อง)
ก็ขอมาเขียนถึงอากิโตะอีกซักรอบรึลึกความหลังครับ (หมายเหตุ : ผ่านมา 13 ปีแล้ว
อะไรที่มันเป็นความลับก็คงไม่เป็นความลับแล้วมั้งครับ งั้นกระทู้นี้ผมขอสปอยล์ในบาง
จุดเป็นพิเศษก็แล้วกันนะครับ 5555)
ก่อนจะดูอากิโตะ มีใครเคยคิดมั๊ยครับว่า เรื่องของพระเจ้า, ปรัชญาชีวิต, การทดลองที่
ผิดพลาดทางวิทยาศาสตร์ จะสามารถนำมาใส่ในหนังเด็กๆที่้้เราเรียกว่า "ไอ้มดแดง"
มาตั้งแต่เด็กได้ (จริงๆเมื่อก่อนมันก็มี เพราะต้นฉบับเป็นของอาจารย์อิชิโนโมริ โชทาโร่
ที่ขึ้นชื่อเรื่องความดาร์ค แต่พอมาเป็นซีรีย์มันก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่) ...ผมคนหนึ่งล่ะที่
ไม่เคยคิดเลยจนกระทั่งได้ดูอากิโตะ กับคูกะยังไม่เท่าไหร่ เพราะแม้คูกะจะมีเนื้อหาที่น่า
ติดตามและตัวละครที่มีมิติหลากหลาย แต่คูกะก็ยังมีธีมเชิดชูความดีเหมือนกับซีรีย์ยุค
โชวะอยู่ดี แต่อากิโตะ นำเสนอได้ผ่าเหล่า จนผมประทับใจตั้งแต่เปิดดีวีดีแผ่นแรกดูแล้ว
อากิโตะ แหกกฏการเล่าเรื่องของหนังไรเดอร์ตั้งแต่ต้นเลยคือ 1.หนังไม่ได้บอกอะไรคนดูเลย
มีแต่จะตั้งคำถามให้คนดูสงสัยขึ้นมาเรื่อยๆเรื่อยๆ ว่าตกลงอะไรมันคืออะไรกัน!? เปิดเรื่องมา
พระเอกโซอิจิของเราก็ความจำเสื่อมไปซะแล้ว แล้วพวกอันโนนส์มันโผล่มาจากไหนกัน? แล้ว
เจ้าเรียวมันชักดิ้นชักงอเป็นอะไรของมัน? ยิ่งดูก็ยิ่งมีแต่คำถาม ...แต่มันก็ถูกแล้วครับที่คำถาม
มันน่าสนใจกว่าคำตอบอยู่แล้ว นั่นคือประการแรกที่ทำให้อากิโตะ มีความน่าติดตามตั้งแต่ตอนเปิดเรื่อง
พอยิ่งดูๆเรื่อยๆ ยิ่งรู้อะไรในเรื่องมากขึ้นๆ มันก็ยิ่งที่จะหยุดดูไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปริศนา
เงื่อนงำในเรื่องหรือความสัมพันที่อีรุงตุงนังของตัวละคร และสร้างจุดเชื่อมโยงกันของตัว
ละครที่ไม่น่าจะมาเจอกันได้ให้มามีส่วนเกี่ยวข้องกันได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือการ
สร้างเหตุการ์ณที่ทำให้เหล่าไรเดอร์ต้องมารวมพลังกันได้อย่างน่าเชื่อถือ ยิ่งพอผ่านหลัก
ไคลแม็กส์ในแต่ละช่วงของเรื่องไปแต่ละช่วง ก็ยิ่งทำให้รู้สึก อู้หู! อืออื้อ! ยิ่งขึ้นไปอีก
ยิ่งในช่วงที่ย้อนความตอนอุบัติเหตุบนเรืออาคาซากิ (ที่เราไม่ได้เห็นตอนต้นเรื่อง) หรือ
ปริศนาที่ว่า "ศัตรูของพวกโซอิจิคืออะไร? พวกเขากำลังสู้อยู่กับอะไรกันแน่?" ก็ยิ่งทำ
ให้อึ้งไปอีก จนดูแล้วรู้สึกทึ่งไปกับการเขียนบท พอย้อนกลับมาดูไรเดอร์สมัยนี้ก็เปรียบ
เทียบกันได้เลยว่า อากิโตะไม่จำเป็นต้องขายของเล่นเยอะๆ หรือร่างแปลงเยอะๆเลย
แค่เนื้อเรื่องมันก็กินขาดและดึงดูดคนดูมากพอแล้ว
ไรเดอร์ในเรื่องนี้มีเด่นๆ ก็ 3-4 คน ซึ่งถือเป็นเรื่องแรกที่มีไรเดอร์ตัวนำเยอะๆแบบนี้
(ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ) และแต่ละคนก็ก็มีบทบาทและความเด่นที่กินกันไม่ลงเลย แต่
ละคนมีหน้าที่ การต่อสู้ และความสำคัญเท่าๆกันหมดแตกต่างกันออกไป …นักแสดง
ในเรื่องนี่บอกไม่ถูกว่าชอบใครที่สุด เพราะเล่นเก่งกันหมดจริงๆ มีมิติและความละเอียด
อ่อนทางอารมณ์ที่จับต้องได้ แต่ที่ประทับใจที่สุดอย่างคาดไม่ถึงเลยคงเป็นเจ้า โฮโจ โทรุ
นี่แหละครับ ที่ตอนแรกหมั่นไส้ไอ้หมดนี่จริงๆ แต่พอผ่านไปหลายๆตอนเราก็จะเห็นด้าน
ดีๆของเขามากขึ้นเรื่อยๆ จนมีมุมที่คนดูจะรู้สึกชอบในตัวโฮโจขึ้นมาบ้าง (ตอนเด่นของ
โฮโจที่ผมชอบที่สุด คงเป็นการสืบสวนคดีฒาตกรรมที่ตำรวจรุ่นพี่โยนความผิดให้
อันโนนส์นั่นล่ะ เนื้อชั้นจริงๆ)
และแม้เนื้อหาจะซีเรียสยังไง ก็ยังมีความตลกแบบอบอุ่นให้ได้อมยิ้มกันตามแบบ
ฉบับซีรีย์ไรเดอร์เป็นระยะๆ ซึ่งซีรีย์ก็จัดการอารมร์ณทั้งสองส่วนได้ดีมากๆ
แต่เวลาจะขายของขึ้นมา ซีรีย์ก็มีวิธีที่จะพาวเวอร์อัพให้ไรเดอร์ได้อย่างสมเหตุสมผลไม่ยัดเยียด
เช่น อากิโตะที่เปลี่ยนเป็นทรินิตี้ฟอร์มได้หลังจากความทรงกลับมา (แป๊บนึง) หรือกิลส์ที่เปลี่ยน
เป็นเอ็กซีดกิลส์หลังจากได้รับพลังจากมานะจัง และที่ผมชอบที่สุดก็คือ การสร้างเหตุผลในการ
อัพเกรดให้ G3 เป็น G3-X ซึ่งสามารถใช้เป็นแก่นของตอน ในการวัดศีลธรรม วัดความสามารถ
ของฮิคาว่า โฮโจ หรือโอซาว่าได้เลย …นับถือคนเขียนบทจริงๆ
ถ้าพูดถึงในเรื่องทฤษฎีในเรื่อง ต้องยอมรับว่า อากิโตะมีความเป็นไซไฟและเหนือธรรมชาติสูงพอๆกัน
มนุษย์ต้องดันไปแตะต้องอำนาจที่ไม่ควรแตะ จนนำไปสู่พลังที่ควบคุมไม่ได้มาคุกคามมนุษย์
...ถึงขนาดสร้างอำนาจระดับ "พระเจ้า" ได้นี่นับว่า มนุษย์ในซีรีย์ไรเดอร์นี่ทะเยอทะยานกันทุกคนจริงๆ
แต่ไม่มีแนวคิดไหนทะเยอทะยาน และเป็นอันตรายใกล้เคียงความเชื่อของมนุษย์ได้จริงๆเท่าอากิโตะอีกแล้ว
...เมื่อวิทยาศาสตร์และสิ่งเหนือธรรมชาติมาบรรจบกัน ผลสุดท้ายมนุษย์ที่อยู่ตรงกลางจะทำไงล่ะทีนี้?
สิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่เรามักจะเห็นจากซีรีย์ของฝรั่งที่มักจะสร้างเนื้อหาที่น่าติดตา
มด้วยเหตุและผลของมัน และยังสามารถทิ้งเงื่อนงำให้คนดูสามารถติดตามได้อย่างไม่มีสะดุด ซึ่งอากิโตะ
สามารถทำได้เกือบจะไร้ข้อบกพร่อง ที่ว่า "เกือบจะ" เพราะผมรู้สึกว่าช่วง
หลังๆของซีรีย์ ดันหมดพลังลงไปซะเฉยๆ ทั้งๆที่ดำเนินเรื่องแบบแรงไปข้างหน้ามาตลอด
พอมาเกือบจะจบดันดาวน์ลงไปซะอย่างงั้น ทำให้ตอนจบออกมากร่อยๆกว่าที่ควรจะเป็น
พอสมควร แต่ยังไงซะเมื่อมองในภาพรวมแล้วก็ยังคงประทับใจติดในความทรงจำอยู่ดี
พอมาถึงตอนนี้ปี 2013 แล้วนี้ พอมาดูไรเดอร์ในตอนนี้อย่างโอส, โฟร์เสะ, วิซเซิร์ด
...มันก็เป็นอีกยุคหนึ่งของไรเดอร์ไปแล้ว ซึ่งผมก็ไม่ได้อคติหรือเกลียดอะไรนะครับ ผมก็ยัง
เก็บของเล่นและดูหนังสนุกอยู่เหมือนเดิมนั่นแหละ เพราะยุคนี้จะมาทำเนื้อหาดราม่าซับซ้อน
แบบอากิโตะไม่ได้แล้ว ...ก็ขอให้สนุกกับการดูซีรีย์คาเมนไรเดอร์กันต่อไปนะครับ
ขอจบกันรำลึกอดีตแต่เพียงเท่านี้