เมื่อวันที่ 27 ตื่นเช้ามา ลูกชาย(กระรอกสวนวัย 14 ขวบ) ดูซึมจนเห็นได้ชัด ไม่กินผลไม้ ไม่กินน้ำ ทั้งที่เมื่อคืนวันที่ 26 ยังวิ่งเล่นลัลล้าปกติ ทีนี้อาการคือ ไม่มีแรง หงอย เดินเซ หายใจแรงถี่ นั่งไซร์ขนก็เซตกจากโต๊ะ ดีที่ไม่สูง .. แม่ก็พาไปคลินิกแถวบ้าน พระราม 3 คุณหมอวินิจฉัยว่าอาจจะติดเชื้อในกระแสเลือด ให้ไปตรวจที่ รพ.สัตว์เล็กจุฬา พอเที่ยงแม่กลับมาถึงบ้าน ก็พาไปต่อที่รพ.สัตว์เลย คุณหมอตรวจอาการก็ส่ง x-ray แล้วก็บอกว่า เหมือนจะมีแก๊สในท้อง แล้วก็อาจจะมีน้ำในช่องท้อง ให้ยา+วิตามินมากิน ก็กลับถึงบ้าน 4 โมงครึ่ง (ใช้เวลาที่ รพ.สัตว์ทั้งหมด 4 ชม.)
พอถึงบ้านก็ป้อนยาป้อนข้าว เหมือนจะมีแรงขึ้นมานิดนึง พอเดินได้ พยายามจะกระโดดปีนเก้าอี้ที่เขาขึ้นไปนอนประจำ แต่ปีนแล้วก็ตกๆๆ มีอาเจียนออกมาทีนึง แต่ก็คิดว่าเป็นเพราะหมอให้ยาระบายมา เลยขย้อนเอาลมออกมาแรงไปหน่อย แต่อีกใจก็คิดว่า รุนแรงแน่ แต่เวลานั้นร้านหมอก็ปิดหมด ตั้งใจว่าถ้าเช้ามาไม่ดีขึ้นก็จะพาไป รพ.อีกรอบ แล้วก็พาเขาไปนอนในกรง เพราะมีผลไม้มีน้ำให้กินใกล้ๆ ไม่ต้องเดิน คอยเช็คอาการทุก1-2 ชม. จนเที่ยงคืนผมก็นอน... แต่มีบอกลูกไว้ว่าถ้าไม่ไหวก็ไปพักผ่อนเถอะ แต่อยากให้จากไปตอนที่อุ้มในมือนะ ... ก็เข้านอน
ตื่นเช้ามา แม่ป้อนยาให้ตอน 9 โมง ก็ดูท่าไม่ค่อยดีละ เอามาวางไว้ในมือ แล้วก็กินข้าวไปด้วย กินได้ 3 คำ (แป๊บเดียวเอง) คุณลูก ... พยายามตะกาย แล้วก็ ไอ แค่กๆๆ 3-4 ที นอนตะแคง แขนขาเหยียดเกร็ง แล้วก็หายใจกระตุกทีนึง พร้อมกับ ค่อยๆงอตัวลงแล้วก็นิ่งไปในมือ
เขาคงจะรู้เรื่องที่ผมบอกให้รอก่อน ยังอุตส่าห์ทนทั้งคืน เพื่อที่จะมาให้ผมได้อุ้มก่อนไป มันเร็วมาก ถึงแม้จะทำใจแล้วก็ตามที่ว่าเวลาสัตว์เล็กป่วย จะไม่ค่อยออกอาการ จะแสดงอาการก็ต่อเมื่อหนักมากแล้ว แต่นี่คือ คืนก่อนยังวิ่งเล่นได้ปกติ ไม่น่าเชื่อว่าจะเร็วขนาดนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าตกลงป่วยเป็นอะไร คุณหมอก็วินิจฉัยคนละแบบ ที่รพ.สัตว์เล็กก็นัดดูอาการอาทิตย์นึง ก็ไม่อยากโทษใครเลย แต่ลูกชายก็อยู่มานานแล้ว 14 ขวบ คิดซะว่าเป็นโรคชราตายคงจะดีที่สุด
อยากจะย้ำแน่นๆว่าเพื่อนๆที่เลี้ยงสัตว์เล็กคงจะหมั่นสังเกตุอาการกันอยู่แล้ว แต่อย่าชะล่าใจ มีอะไรพาไปหาหมอเลย ถ้าหา 2 ที่แล้วบอกไม่เหมือนกัน ถ้าสงสัยอะไรก็ให้ตรวจละเอียดซะ ทางรพ.อาจเจอสัตว์เยอะ อาจดูแลไม่ทั่วถึง อาจคิดว่าก็สัตว์ที่มารักษาแค่ตัวเดียว แต่สำหรับคนเลี้ยงแล้วมันมากกว่านั้น ผมเองก็ไม่คิดมาก่อนว่า กะแค่กระรอกสวนค่าตัวเมื่อ 14 ปีก่อนแค่ 100 บาท จะทำให้ผมเสียน้ำตาได้มากขนาดนี้ ไม่ได้ร้องฟูมฟาย แต่น้ำตามันไหลเอ่อออกมาเรื่อยๆ ไม่เป็นอันทำการทำงาน วันนี้เดินเข้าบ้าน ก็เผลอที่จะหันไปมองกรงแล้วก็จะหยิบออกมาเล่นด้วย แต่ก็ชะงักมือไว้ นึกได้ว่าลูกไปสบายแล้ว นอนอยู่ในที่เย็นๆ ... เดินขึ้นชั้น 2 เปิดช่อง freeze หยิบลูกออกมาทักทาย รอพรุ่งนี้เอาไปฟังที่วัดพร้อมทำบุญให้.... R.I.P.
ลูกชายจากไปเร็วมาก เพื่อนๆที่เลี้ยงสัตว์เล็ก ดูแลลูกๆน้องๆกันให้ดีนะครับ
เมื่อวันที่ 27 ตื่นเช้ามา ลูกชาย(กระรอกสวนวัย 14 ขวบ) ดูซึมจนเห็นได้ชัด ไม่กินผลไม้ ไม่กินน้ำ ทั้งที่เมื่อคืนวันที่ 26 ยังวิ่งเล่นลัลล้าปกติ ทีนี้อาการคือ ไม่มีแรง หงอย เดินเซ หายใจแรงถี่ นั่งไซร์ขนก็เซตกจากโต๊ะ ดีที่ไม่สูง .. แม่ก็พาไปคลินิกแถวบ้าน พระราม 3 คุณหมอวินิจฉัยว่าอาจจะติดเชื้อในกระแสเลือด ให้ไปตรวจที่ รพ.สัตว์เล็กจุฬา พอเที่ยงแม่กลับมาถึงบ้าน ก็พาไปต่อที่รพ.สัตว์เลย คุณหมอตรวจอาการก็ส่ง x-ray แล้วก็บอกว่า เหมือนจะมีแก๊สในท้อง แล้วก็อาจจะมีน้ำในช่องท้อง ให้ยา+วิตามินมากิน ก็กลับถึงบ้าน 4 โมงครึ่ง (ใช้เวลาที่ รพ.สัตว์ทั้งหมด 4 ชม.)
พอถึงบ้านก็ป้อนยาป้อนข้าว เหมือนจะมีแรงขึ้นมานิดนึง พอเดินได้ พยายามจะกระโดดปีนเก้าอี้ที่เขาขึ้นไปนอนประจำ แต่ปีนแล้วก็ตกๆๆ มีอาเจียนออกมาทีนึง แต่ก็คิดว่าเป็นเพราะหมอให้ยาระบายมา เลยขย้อนเอาลมออกมาแรงไปหน่อย แต่อีกใจก็คิดว่า รุนแรงแน่ แต่เวลานั้นร้านหมอก็ปิดหมด ตั้งใจว่าถ้าเช้ามาไม่ดีขึ้นก็จะพาไป รพ.อีกรอบ แล้วก็พาเขาไปนอนในกรง เพราะมีผลไม้มีน้ำให้กินใกล้ๆ ไม่ต้องเดิน คอยเช็คอาการทุก1-2 ชม. จนเที่ยงคืนผมก็นอน... แต่มีบอกลูกไว้ว่าถ้าไม่ไหวก็ไปพักผ่อนเถอะ แต่อยากให้จากไปตอนที่อุ้มในมือนะ ... ก็เข้านอน
ตื่นเช้ามา แม่ป้อนยาให้ตอน 9 โมง ก็ดูท่าไม่ค่อยดีละ เอามาวางไว้ในมือ แล้วก็กินข้าวไปด้วย กินได้ 3 คำ (แป๊บเดียวเอง) คุณลูก ... พยายามตะกาย แล้วก็ ไอ แค่กๆๆ 3-4 ที นอนตะแคง แขนขาเหยียดเกร็ง แล้วก็หายใจกระตุกทีนึง พร้อมกับ ค่อยๆงอตัวลงแล้วก็นิ่งไปในมือ
เขาคงจะรู้เรื่องที่ผมบอกให้รอก่อน ยังอุตส่าห์ทนทั้งคืน เพื่อที่จะมาให้ผมได้อุ้มก่อนไป มันเร็วมาก ถึงแม้จะทำใจแล้วก็ตามที่ว่าเวลาสัตว์เล็กป่วย จะไม่ค่อยออกอาการ จะแสดงอาการก็ต่อเมื่อหนักมากแล้ว แต่นี่คือ คืนก่อนยังวิ่งเล่นได้ปกติ ไม่น่าเชื่อว่าจะเร็วขนาดนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าตกลงป่วยเป็นอะไร คุณหมอก็วินิจฉัยคนละแบบ ที่รพ.สัตว์เล็กก็นัดดูอาการอาทิตย์นึง ก็ไม่อยากโทษใครเลย แต่ลูกชายก็อยู่มานานแล้ว 14 ขวบ คิดซะว่าเป็นโรคชราตายคงจะดีที่สุด
อยากจะย้ำแน่นๆว่าเพื่อนๆที่เลี้ยงสัตว์เล็กคงจะหมั่นสังเกตุอาการกันอยู่แล้ว แต่อย่าชะล่าใจ มีอะไรพาไปหาหมอเลย ถ้าหา 2 ที่แล้วบอกไม่เหมือนกัน ถ้าสงสัยอะไรก็ให้ตรวจละเอียดซะ ทางรพ.อาจเจอสัตว์เยอะ อาจดูแลไม่ทั่วถึง อาจคิดว่าก็สัตว์ที่มารักษาแค่ตัวเดียว แต่สำหรับคนเลี้ยงแล้วมันมากกว่านั้น ผมเองก็ไม่คิดมาก่อนว่า กะแค่กระรอกสวนค่าตัวเมื่อ 14 ปีก่อนแค่ 100 บาท จะทำให้ผมเสียน้ำตาได้มากขนาดนี้ ไม่ได้ร้องฟูมฟาย แต่น้ำตามันไหลเอ่อออกมาเรื่อยๆ ไม่เป็นอันทำการทำงาน วันนี้เดินเข้าบ้าน ก็เผลอที่จะหันไปมองกรงแล้วก็จะหยิบออกมาเล่นด้วย แต่ก็ชะงักมือไว้ นึกได้ว่าลูกไปสบายแล้ว นอนอยู่ในที่เย็นๆ ... เดินขึ้นชั้น 2 เปิดช่อง freeze หยิบลูกออกมาทักทาย รอพรุ่งนี้เอาไปฟังที่วัดพร้อมทำบุญให้.... R.I.P.