ยังไงซะเราคิดว่าคนที่เคยเลื่อมใสในตัวท่านก็คงผิดหวังไม่น้อย แม้จะพยามปลอบใจตัวเองว่าท่านทำถูกแล้ว
แต่การสึกออกไปแล้วแต่งงานมีเมียแบบสายฟ้าแลบแบบนี้ เราเชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อย รับไม่ได้หรอก
สังเกตุได้จากปฏิกิริยาของบรรดาลูกศิษย์หลายๆ คนเอาแล้วกัน
ส่วนตัวเราเคยได้ยินชื่อของอดีตพระท่านนี้มาบ้างแต่ไม่มาก ในตอนนั้นไม่ได้รู้สึกศรัทธาอะไรในตัวท่านเป็นพิเศษ
(หรือเราอาจมีลางสังหรณ์ลึกๆ ในใจตะหงิดๆ ก็เป็นได้...แสดงว่าฉันมีเซ้นท์ อิอิ)

แต่เราไม่ชอบการกระทำของฝ่ายผู้หญิงเท่าไหร่ มีหลายคนพูด ทำให้เราคิดตาม เออก็จริงของเค้านะ
ผู้หญิงสติดีๆ ที่ไหนจะมาชอบพระ  รู้ทั้งรู้ ว่าพระเป็นผู้ให้แสงสว่างปัญญา ให้ลดละจากกิเลส ราคะ แต่นี่ตัวเองเอาตัวเข้าไปพันพัว
บริหารเสน่ห์ทำให้พระหลง ถึงกับต้องออกจากเพศสมณะมาอยู่กินกับตนเอง
ผู้หญิงน่าจะเป็นเพศที่รู้จักผิดชอบชั่วดีมากกว่าผู้ชาย ละอายบาปได้มากกว่าเพศชาย
กลายเป็นว่า การไปวัดของผู้หญิงบางคน เป็นการไปสึกพระ คือไปหาผัวเอาที่วัด ว่ากันตรงๆ
ไม่ใช่แค่เฉพาะเคสนี้ มีมาหลายเคสแล้วตั้งแต่เรายังเด็กๆ

ทั้งๆ ที่ผู้ชายมีมากมาย ในสังคม  ส่วนตัวเราว่าผู้หญิงที่สามารถจะสึกพระเอามาทำสามีได้นี่คือ.. ที่สุดของที่สุดแล้ว ชีไม่แคร์สื่อจริงๆ
ไม่มีคำบรรยาย ถ้าพ่อแม่รู้เข้า เค้าจะภูมิใจในตัวลูกสาวเค้าไหม ลูกสาวได้สามีมาได้ยังไง คำตอบคือ ...ไปหาเอาจากวัด
ผู้หญิงขายบริการ เค้ายังขายแค่ร่างกาย ไม่ได้ขายวิญญาณ ผู้หญิงตามผับตามบาร์บางคนเลิกงานตอนเช้า
ยังซื้อของไปใส่บาตรพระ เผื่อบุญกุศลจะได้ช่วยให้ตนเองมีชีวิตดีขึ้น แต่การกระทของผู้หญิงหลายๆ นาง
ที่สึกพระเอามาทำสามีนี่ บอกตรงๆ เรารับไม่ค่อยได้ ถ้าถามได้คงถามว่า เวลาส่องกระจกดูหน้าตัวเอง ดูหน้าตัวเองได้เต็มตาไหม
เหมือนที่ฝรั่งเค้าถามว่า  how a hell did you sleep at night ?

หลายคนอาจไม่เห็นด้วยกับเรานะ แต่คนไทยอยากให้มีคนที่มีศรัทธา มาสืบสานพระศาสนา
แต่หลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันทำให้คนเริ่มตั้งคำถาม สงสัย ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง
2-3 ปีก่อนเรารับรู้ว่า พระรูปหนึ่งที่เป็นเจ้าอาวาสที่ แม่เรา และเราเคยศรัทธาในตัวท่านมาตั้งแต่ยังเด็ก
มีคนจับได้ว่าท่านมั่วสีกา จนวันนี้เราไม่กลับไปที่วัดนั้นอีกเลย ความรู้สึกที่รู้คือ ช๊อค อึ้ง ผิดหวัง
แล้วพระรูปนั้นท่านก็ไม่ได้สึกด้วย ยังเป็นพระอยู่ทุกวันนี้