ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน สมาร์ทโฟน Flagship ในตลาดอย่างมากหน้าจอ 4.3-4.5 นิ้วเท่านั้น แต่ทว่าเมื่อ Samsung นำเสนอ Galaxy Note (1) ด้วยขนาดจอ 5.3 นิ้ว ทำให้เกิดคำนิยาม "Phablet" หรือ Device ที่มีขนาดก้ำกึ่งระหว่างมือถือ-แท็ปเล็ต ซึ่งจะมีขนาดหน้าจอระหว่าง 5.0-6.5 นิ้วโดยประมาณ ตอนแรกคิดว่าทุกคนคงบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "มือถืออะไรใหญ่จัง" .. "ใหญ่ขนาดนี้จะพกไหวมั้ย" ในที่สุด เทรนด์ Phablet ก็มาจนได้ในปีนี้ครับ เห็นได้จากหลายๆ รุ่นตอนนี้ จะเป็นแบรนด์จีน แบรนด์เกาหลี แบรนด์ญี่ปุ่นก็ดี เกทับหน้าจอไประดับ 6.44 นิ้วแล้ว (Xperia Z Ultra) อย่างไรก็ดี Phablet ไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไปครับ

Galaxy Mega 6.3

  เป็นผู้บุกเบิกตระกูล Note (จอใหญ่) มาตั้งแต่แรกสำหรับ Samsung ล่าสุดได้แตกไลน์ Mega Series เน้นหน้าจอขนาดยักษ์ เจาะกลุ่ม User ชื่นชอบการใช้งานสมาร์ทโฟนเพื่อดูหนัง เข้า Youtube ชมเว็บไซต์ผ่าน Browser เล่นเกม HD ฯลฯ แต่ไม่อยากพก Tablet เพราะมันใหญ่ไป สำหรับ Galaxy Mega 6.3 มาพร้อมกับจุดเด่นดีไซน์บางเฉียบ 8 มิลลิเมตร, ชิปประมวลผล Dual-Core 1.7GHz, จอ HD 6.3 นิ้ว และฟีเจอร์หลายๆ ตัวที่ดึงมาจาก Galaxy S4 เช่น AirView, Group Play, Story Album ฯลฯ กับราคาเปิดตัวที่ 14,900 บาท มาดูกันครับว่าของจริงจะเป็นอย่างไรบ้าง ?

คุณสมบัติเด่น

- ขนาด 167.6 x 88 x 8 มิลลิเมตร, น้ำหนัก 199 กรัม
- รองรับคลื่นความถี่ 3G HSPA+ (850/900/1900/2100 MHz) ความเร็วสูงสุด 21 Mbps
- หน้าจอ Super Clear LCD ขนาด 6.3 นิ้ว (ความละเอียด 1280x720 พิคเซล) , รองรับ AirView - มัลติทัช 10 จุด
- เมมโมรี่ภายใน 16GB (เหลือใช้จริง 10.25GB), เพิ่ม MicroSD สูงสุด 64 GB
- ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 พร้อมอินเตอร์เฟส TouchWiz UX
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 400 (MSM8230AB) ความเร็ว 1.7GHz , แรม 1.5GB
- เชื่อมต่อ WiFi (802.11 b/g/n) , บลูทูธ 4.0+ NFC
- เครื่องเล่นเพลงพร้อมระบบเสียง SoundAlive, เครื่องเล่นวิดิโอรองรับไฟล์ HD1080p
- กล้องความละเอียด 8 ล้านพิคเซล +AF,TF บันทึกวิดิโอ HD1080p
- แบตเตอรี่ Li-ion 3200 mAh

ดีไซน์

  การออกแบบของ Mega 6.3 เหมือน Galaxy S4 ร่างอวบระยะสุดท้าย สไตล์เดียวกันครับ พาเนลจอด้านหน้ามีลวดลาย มีปุ่ม Home-Back-Menu กล้องหน้า 1.9MP ส่วนของหน้าจอ 6.3 นิ้วกินพื้นที่เกือบทั้งหมด จะเห็นว่าขอบจอ (Bezel) ค่อนข้างแคบทีเดียว ขอบตัวเครื่องเป็นแถบสีเงินตัดกับแถบโครเมี่ยม (เหมือน GS4) ปุ่ม Power เขยิบมาอยู่กึ่งกลาง ทำให้กดง่ายขึ้น

  ฝาหลังมี Texture สะท้อนคล้าย Galaxy S4 ผิวมันเงาทั้งอัน เลนส์กล้องนูนออกจากตัวเครื่องเล็กน้อย มีแฟลช LED ใต้กล้อง เมื่อถอดฝาหลังออกจะพบกับแบตเตอรี่ 3200 mAh ก้อนใหญ่(มาก) และช่องใส่ MicroSIM - MicroSD ด้านวัสดุ-งานประกอบอารมณ์คล้าย Galaxy S4 ครับ ลองมโนว่ามันมีขนาดใหญ่ขึ้น(เยอะ) เท่านั้นเอง

การพกพา

  มีหลายคนสงสัยว่า Galaxy Mega 6.3 ใหญ่ขนาดนี้จะใส่กระเป๋ากางเกงได้เหรอ ? ถ้าเป็นกางเกงสามส่วน กระเป๋าใหญ่ๆ หน่อยก็ไม่มีปัญหาครับ น้ำหนักไม่ต่างจาก Galaxy Note 2 มากนัก แต่ที่น่าจะมีปัญหาหน่อยคงเป็นยีนส์ - สแลคเดฟ ซึ่งส่วนใหญ่กระเป๋าจะตื้น แคบ (ทั้งนี้ก็แล้วแต่ทรง - ไซส์ - ยี่ห้อ - รุ่น) ลองชมจากภาพได้ครับ ส่วนสุภาพสตรีคงไม่มีปัญหาเรื่องนี้ หากมีกระเป๋าถืออยู่แล้ว

วิดิโอพรีวิว

ฟันธง

  มือถือขนาดจอ 5.0-6.5 นิ้ว กลายเป็นอะไรที่ปกติไปแล้ว ถึงจะมีคนบ่นว่าใหญ่ไป พกพาลำบาก แต่นั่นคือเทรนด์ Flagship ใหม่ที่จะมาช่วงปลายปีครับ อย่างน้อยจอต้อง 5 นิ้วขั้นต่ำ ทั้งนี้ Phablet ส่วนใหญ่มักมีราคาสูง ดังนั้น Galaxy Mega Series จึงมาเติมเต็มในส่วน Mid-End ราคาหมื่นกลางๆ สำหรับรุ่น 6.3 นิ้ว อย่างที่บอกไปตอนแรกคือ เน้นการใช้งานด้านมัลติมีเดียซะส่วนใหญ่ เล่นเว็บ ลงแอพฯ พร้อมออฟชั่นเสริมเพียบ แม้ชิปประมวลผลจะใช้เพียง Snapdragon 400+แรม 1.5GB แต่การใช้งานโดยรวมลื่นไหลบน Android 4.2.2 รองรับคอนเทนท์ HD ครบวงจร และมี Tablet Mode ออกแบบ UI ให้ใช้งานแนวนอนได้ด้วย

  อย่างไรก็ดี Galaxy Mega Series มีขนาดใหญ่(มาก)จนทำให้การพกพาไม่สะดวกนัก ตรงนี้เป็นปัจจัยที่ส่งผลชัดเจนครับ แต่ยังพกง่ายกว่า Tablet จอ 7.0 นิ้ว หากคุณเคยใช้งาน Galaxy Note 2 มาก่อนคงไม่มีปัญหาอะไร เว้นแต่ว่าจะเปลี่ยนจาก iPhone เป็น Galaxy Mega ต้องใช้เวลาปรับตัวพอสมควร ด้านแบตเตอรี่อยู่ได้ค่อนข้างนาน (3200 mAh) แต่ยังอึดน้อยกว่า Note 2 จ้า

  ราคาเปิดตัวของ Galaxy Mega 6.3 สนนที่ 14,900 บาท มีเฉพาะสี Black Mist เท่านั้น และรองรับ 3G HSPA+ ส่วนสีขาวต้องหิ้วมาจ้า (ราคานอกประมาณ 17,000 บาท - รุ่น 3G+LTE) วางจำหน่ายพร้อมกับ Galaxy Mega 5.8 วันที่ 3 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ : )

รีวิวเต็มสามารถติดตามได้ที่ : www.papayatop.com เร็วๆ นี้จ้า