“กรีน อัษฏาพร” ตัดพ้อเสียใจสุดๆ ถูกคนมองว่าอกตัญญู ลั่นขอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ รับงานน้อยลง ก่อนบอก อยากพาแฟนหนุ่ม “เคลลี่” ไปพบพ่อ แต่ยังไม่รู้ว่าช่วงไหนดี เหตุการไปค่อนข้างลำบาก เผยแม่ของเคลลี่บินมาที่ไทยเพราะเป็นห่วง อยากให้กำลังใจ ออกปากชมแม่เคลลี่น่ารัก แต่ยอมรับยังไม่ได้เจอกันเลย
ถูกมองเป็นลูกสาวที่อกตัญญูไปเสียแล้ว สำหรับนักแสดงสาว “กรีน อัษฏาพร” หลังแฟนหนุ่ม “เคลลี่ ธนะพัฒน์” เกิดไปมีข้อครหาฟ้องร้องกับผู้เป็นบิดา ซึ่งแม้เรื่องราวจะคลี่คลายไปบ้างแล้วแต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่า เสียใจสุดๆ เมื่อหลายคนยังคงคิดว่าเธอนั้นหลงแฟน เห็นคนอื่นดีกว่าพ่อบังเกิดเกล้า
“กับแฟนคลับของกรีนเอง เขาเข้าใจในตัวกรีนอยู่แล้ว ส่วนแฟนๆละครเขาก็บอกตรงๆ ว่าเขาไม่เห็นด้วยกับเรา ก็ไม่ชอบ กรีนเองก็คงพูดอะไรไม่ได้ เราก็คงใช้เวลาพิสูจน์ แต่บอกไปแล้วว่าเราไม่ได้เป็นคนไม่รักครอบครัว ซึ่งก็จะมีคอมเม้นต์แนวแรงๆ อยู่เหมือนกัน อ่านแล้วก็บั่นทอนจิตใจ หลังๆ ก็เลยเลือกที่จะไม่อ่าน”
“ที่เสียใจที่สุด คงเป็นที่เขาว่าเรา หาว่าเราเป็นคนอกตัญญู หาว่าเราหลงผู้ชาย แต่เราอ่านแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น ก็ไม่ไปสนใจคำพูดตรงนั้น แต่ก็จะเป็นตามคอนเม้นต์มากกว่า ในชีวิตไม่มีใครมาต่อว่าอะไรกรีนตรงๆ ช่วงที่เกิดเรื่องเวลาไปห้างก็ไม่มีปัญหา ก็มีคนมาขอถ่ายรูปปกติ ทุกคนชอบละคร ยังคิดว่าจะมีเรื่องข่าวมาพูดไหม ไม่มีเลย ปกติมาก เรียกไข่มุกๆ ไม่มีพูดเรื่องข่าวว่าอย่าทำแบบนี้ ไม่มีเลย ต่อไปก็คงต้องเป็นบทเรียนคิดก่อนพูด”
รับมีงานอีเว้นต์บางส่วน ที่ขอยกเลิกไป หลังจากที่มีข่าวแบบนี้ออกมา
“ก็มีแล้วค่ะ พอมีข่าวก็เป็นเรื่องที่มีหลายคนตัดสินใจ ผลกระทบมันก็มีบ้างกับงานอีเวนต์ก็ยกเลิกไป เพราะว่าเขาคงไม่อยากให้มันมีปัญหากับตัวผลิตภัณฑ์ของเขา หรือ งานของเขา ก็ไม่เป็นไร เพราะเราเน้นรับงานละครอยู่แล้ว ส่วนงานอีเว้นต์จะน้อย ละครก็ให้ไปแล้ว 7 วัน กับละครนี่ไม่กระทบอะไรเลยค่ะ ก็ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดให้สมกับที่ผู้ใหญ่ไว้วางใจ”
“ผู้ใหญ่ก็แนะนำกรีนหลายเรื่องนะคะ ในช่วงเกิดเรื่อง เราก็มีมาปรึกษาเหมือนกัน ทั้งเรื่องการพูด การทำงาน แนะนำหลายๆเรื่อง ทางข่าวไม่ได้ทำให้เราสะดุด แต่มันบั่นทอนความรู้สึกเรามากกว่า เราเองก็กังวลเพราะมันกำลังเป็นช่วงขาขึ้นของเรา กังวลว่ามีข่าวแบบนี้เขาจะให้งานเราทำอยู่ไหม ก็ได้คุยกับพี่เคลลี่ คุยกับแม่ด้วย ก็คิดว่าในเมื่อเราทำความดีมาตลอด น่าจะตอบแทนให้เราบ้าง แต่ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว”
บอกอยากจะพาแฟนหนุ่มไปพบบิดา แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นช่วงไหน เพราะค่อนข้างลำบาก ไปก็ต้องไปหลายวัน ... “ถ้าว่างก็จะไป แต่เราจะว่างสวนทางกัน ช่วงกรีนว่างเสาร์-อาทิตย์ แต่ป๊าก็จะต้องดูงานที่นั่นช่วงเสาร์-อาทิตย์ ก็จะว่างไม่ตรงกัน ก็จะโทร.คุยมากกว่า กรีนเองเป็นคนกลางก็คุยกับคุณแม่ปรึกษากันเรื่องจบแล้วก็โอเค ก็ว่าจะชวนพี่เคลลี่ไปหาคุณพ่อเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปช่วงไหนดี แต่คิดว่าไปก็ค่อนข้างลำบาก ไปทีก็ต้องไปหลายวัน ยังไม่ได้คุยกันเลยค่ะ ก็บอกเขาไว้แล้ว”
ก่อนเผยแม่ของแฟนหนุ่ม เพิ่งจะบินมาเมืองไทยเพราะห่วงกับข่าวที่ออกมา และอยากมาให้กำลังใจ แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีโอกาสได้เจอกันแต่อย่างใด ... “นี่คุณแม่ของพี่เคลลี่ก็เพิ่งมาเมืองไทย แต่กลับไปแล้ว กรีนก็มีโอกาสได้คุยกับคุณแม่พี่เคลลี่ ท่านก็เป็นห่วงกรีน เห็นว่าเป็นผู้หญิง โดนข่าวแรงๆเยอะ ก็เป็นห่วง มาให้กำลังใจ สบายดีไหม ไม่ต้องคิดอะไรมากนะ แต่เราไม่ได้เจอนะ เพราะติดถ่ายละคร”
“คุณแม่พี่น่ารักค่ะ เขาก็เอ็นดูเราดี แต่ท่านก็ไม่ได้มีโอกาสมาเจอกับครอบครัวเราด้วย พ่อเขาก็มีโรคประจำตัว แม่พี่เคลลี่ก็เหมือนกัน พอมากรุงเทพฯแล้ว เขาก็จะไปเชียงใหม่ ก็สวนทางกัน กรีนยังไม่มีโอกาสเจอกันเลยค่ะ”
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000077596 
“กรีน” ตัดพ้อเสียใจสุดๆ ถูกมองว่าอกตัญญู ลั่นขอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ อยากพา “เคลลี่” ไปพบพ่อ แต่ยังไม่รู้ช่วงไหนดี
ถูกมองเป็นลูกสาวที่อกตัญญูไปเสียแล้ว สำหรับนักแสดงสาว “กรีน อัษฏาพร” หลังแฟนหนุ่ม “เคลลี่ ธนะพัฒน์” เกิดไปมีข้อครหาฟ้องร้องกับผู้เป็นบิดา ซึ่งแม้เรื่องราวจะคลี่คลายไปบ้างแล้วแต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่า เสียใจสุดๆ เมื่อหลายคนยังคงคิดว่าเธอนั้นหลงแฟน เห็นคนอื่นดีกว่าพ่อบังเกิดเกล้า
“กับแฟนคลับของกรีนเอง เขาเข้าใจในตัวกรีนอยู่แล้ว ส่วนแฟนๆละครเขาก็บอกตรงๆ ว่าเขาไม่เห็นด้วยกับเรา ก็ไม่ชอบ กรีนเองก็คงพูดอะไรไม่ได้ เราก็คงใช้เวลาพิสูจน์ แต่บอกไปแล้วว่าเราไม่ได้เป็นคนไม่รักครอบครัว ซึ่งก็จะมีคอมเม้นต์แนวแรงๆ อยู่เหมือนกัน อ่านแล้วก็บั่นทอนจิตใจ หลังๆ ก็เลยเลือกที่จะไม่อ่าน”
“ที่เสียใจที่สุด คงเป็นที่เขาว่าเรา หาว่าเราเป็นคนอกตัญญู หาว่าเราหลงผู้ชาย แต่เราอ่านแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น ก็ไม่ไปสนใจคำพูดตรงนั้น แต่ก็จะเป็นตามคอนเม้นต์มากกว่า ในชีวิตไม่มีใครมาต่อว่าอะไรกรีนตรงๆ ช่วงที่เกิดเรื่องเวลาไปห้างก็ไม่มีปัญหา ก็มีคนมาขอถ่ายรูปปกติ ทุกคนชอบละคร ยังคิดว่าจะมีเรื่องข่าวมาพูดไหม ไม่มีเลย ปกติมาก เรียกไข่มุกๆ ไม่มีพูดเรื่องข่าวว่าอย่าทำแบบนี้ ไม่มีเลย ต่อไปก็คงต้องเป็นบทเรียนคิดก่อนพูด”
รับมีงานอีเว้นต์บางส่วน ที่ขอยกเลิกไป หลังจากที่มีข่าวแบบนี้ออกมา
“ก็มีแล้วค่ะ พอมีข่าวก็เป็นเรื่องที่มีหลายคนตัดสินใจ ผลกระทบมันก็มีบ้างกับงานอีเวนต์ก็ยกเลิกไป เพราะว่าเขาคงไม่อยากให้มันมีปัญหากับตัวผลิตภัณฑ์ของเขา หรือ งานของเขา ก็ไม่เป็นไร เพราะเราเน้นรับงานละครอยู่แล้ว ส่วนงานอีเว้นต์จะน้อย ละครก็ให้ไปแล้ว 7 วัน กับละครนี่ไม่กระทบอะไรเลยค่ะ ก็ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดให้สมกับที่ผู้ใหญ่ไว้วางใจ”
“ผู้ใหญ่ก็แนะนำกรีนหลายเรื่องนะคะ ในช่วงเกิดเรื่อง เราก็มีมาปรึกษาเหมือนกัน ทั้งเรื่องการพูด การทำงาน แนะนำหลายๆเรื่อง ทางข่าวไม่ได้ทำให้เราสะดุด แต่มันบั่นทอนความรู้สึกเรามากกว่า เราเองก็กังวลเพราะมันกำลังเป็นช่วงขาขึ้นของเรา กังวลว่ามีข่าวแบบนี้เขาจะให้งานเราทำอยู่ไหม ก็ได้คุยกับพี่เคลลี่ คุยกับแม่ด้วย ก็คิดว่าในเมื่อเราทำความดีมาตลอด น่าจะตอบแทนให้เราบ้าง แต่ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว”
บอกอยากจะพาแฟนหนุ่มไปพบบิดา แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นช่วงไหน เพราะค่อนข้างลำบาก ไปก็ต้องไปหลายวัน ... “ถ้าว่างก็จะไป แต่เราจะว่างสวนทางกัน ช่วงกรีนว่างเสาร์-อาทิตย์ แต่ป๊าก็จะต้องดูงานที่นั่นช่วงเสาร์-อาทิตย์ ก็จะว่างไม่ตรงกัน ก็จะโทร.คุยมากกว่า กรีนเองเป็นคนกลางก็คุยกับคุณแม่ปรึกษากันเรื่องจบแล้วก็โอเค ก็ว่าจะชวนพี่เคลลี่ไปหาคุณพ่อเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปช่วงไหนดี แต่คิดว่าไปก็ค่อนข้างลำบาก ไปทีก็ต้องไปหลายวัน ยังไม่ได้คุยกันเลยค่ะ ก็บอกเขาไว้แล้ว”
ก่อนเผยแม่ของแฟนหนุ่ม เพิ่งจะบินมาเมืองไทยเพราะห่วงกับข่าวที่ออกมา และอยากมาให้กำลังใจ แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีโอกาสได้เจอกันแต่อย่างใด ... “นี่คุณแม่ของพี่เคลลี่ก็เพิ่งมาเมืองไทย แต่กลับไปแล้ว กรีนก็มีโอกาสได้คุยกับคุณแม่พี่เคลลี่ ท่านก็เป็นห่วงกรีน เห็นว่าเป็นผู้หญิง โดนข่าวแรงๆเยอะ ก็เป็นห่วง มาให้กำลังใจ สบายดีไหม ไม่ต้องคิดอะไรมากนะ แต่เราไม่ได้เจอนะ เพราะติดถ่ายละคร”
“คุณแม่พี่น่ารักค่ะ เขาก็เอ็นดูเราดี แต่ท่านก็ไม่ได้มีโอกาสมาเจอกับครอบครัวเราด้วย พ่อเขาก็มีโรคประจำตัว แม่พี่เคลลี่ก็เหมือนกัน พอมากรุงเทพฯแล้ว เขาก็จะไปเชียงใหม่ ก็สวนทางกัน กรีนยังไม่มีโอกาสเจอกันเลยค่ะ”
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000077596