คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เขาคงแจ้งความทำร้ายร่างกายผู้อื่น บาดเจ็บสาหัส คำว่าสาหัส
มาตรา 297 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือน ถึงสิบปี
อันตรายสาหัสนั้น คือ
(1) ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด หรือเสียฆานประสาท
(2) เสียอวัยวะสืบพันธุ์ หรือความสามารถสืบพันธุ์
(3) เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้วหรืออวัยวะอื่นใด
(4) หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว
(5) แท้งลูก
(6) จิตพิการอย่างติดตัว
(7) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต
(8) ทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า ยี่สิบวัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน
ดังนั้น ตำรวจเขาก็ต้องรอครัว่าเข้าเกณฑ์มาตร 297 หรือไม่ ถ้าน้องเขาอยู่โรงพยาบาลเกิน 20 วันก้เข้าเกณฑ์
มาถึงกรณีของท่านนี่ตำรวจเขาหมายถึงเขาจะส่งเรื่อให้อัยการ สั่งฟ้องอีกที ท่านจะยังไม่ติดคุกหรอกครับ เรื่องทั้งหมดนั้นมันต้องดูว่าผู้ต้องหาให้การไว้ว่าอย่างไร หากปฏิเสธข้อกล่าวหาของตำรวจ ก็ต้องไปต่อสุ้ในศาล คราวนี้มาดูว่าท่านทำอะไรไปแล้วบ้าง ต้องถามท่านครับ หากท่าไม่ตั้งใจ ท่านปฏิเสธข้อกล่าวหา ท่านไปเยี่ยมผู้ป่วยบ้างหรือยัง ศาลจะดูว่าจำเลยสารภาพหรือไม่ ถ้าจำเลยสารภาพ ก็จะพิจารณาว่าเกิดจากความสำนึกผิดหรือไม่ ถ้าสำนึกผิดแล้วทำไรเพื่อบรรเทาเหตุนั้หรือยัง
กรณีของท่าน ถ้าท่านไม่ตั้งใจ ท่านสำนึกผิดกับการกระทำนั้นหรือไม่ และบรรเทาความเสียหายให้ผู้บาดเจ็บหรือเปล่า ผมจึงบอกไงครับว่าคนเรานั้นดูง่าย ๆ ครับ ใจเขาใจใจ เราถ้าเราไปโดนคนอื่นทำอย่างนั้นบ้างท่านต้องการให้เขาทำอะไรให้ท่านบ้าง เช่น ตอนที่น้องเขาโดนน้ำร้อนลวกจำเลยนำส่งโรงพยาบาลหรือไม่ หลังจากนั้นไปเยี่ยมเยียนผู้ป่วยหรือเปล่า ไปขอโทษพ่อแม่เขาหรือเปล่า และแสดงเจตนาช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาพยาบาล หรือยัง หากเขาไม่รับท่านสามารถวางเงินช่วยเหลือที่ศาลได้ แต่ท่านได้แสดงเจตนาเช่นนั้นหรือยัง เหล่านี้คือข้อพิจารณาของศาลทั้งนั้นครับ
ถ้าท่านทำแล้วท่านก็ต่อสุ้ในศาลได้ครับว่าท่านเองเมื่อเห็นผู้บาดเจ็บ ท่านรีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ท่านได้เข้าไปช่วยเหลือดูแลเป็นอย่างดี อย่างนี้ศาลท่านปราณีแน่ครับ
มาตรา 297 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือน ถึงสิบปี
อันตรายสาหัสนั้น คือ
(1) ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด หรือเสียฆานประสาท
(2) เสียอวัยวะสืบพันธุ์ หรือความสามารถสืบพันธุ์
(3) เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้วหรืออวัยวะอื่นใด
(4) หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว
(5) แท้งลูก
(6) จิตพิการอย่างติดตัว
(7) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต
(8) ทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า ยี่สิบวัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน
ดังนั้น ตำรวจเขาก็ต้องรอครัว่าเข้าเกณฑ์มาตร 297 หรือไม่ ถ้าน้องเขาอยู่โรงพยาบาลเกิน 20 วันก้เข้าเกณฑ์
มาถึงกรณีของท่านนี่ตำรวจเขาหมายถึงเขาจะส่งเรื่อให้อัยการ สั่งฟ้องอีกที ท่านจะยังไม่ติดคุกหรอกครับ เรื่องทั้งหมดนั้นมันต้องดูว่าผู้ต้องหาให้การไว้ว่าอย่างไร หากปฏิเสธข้อกล่าวหาของตำรวจ ก็ต้องไปต่อสุ้ในศาล คราวนี้มาดูว่าท่านทำอะไรไปแล้วบ้าง ต้องถามท่านครับ หากท่าไม่ตั้งใจ ท่านปฏิเสธข้อกล่าวหา ท่านไปเยี่ยมผู้ป่วยบ้างหรือยัง ศาลจะดูว่าจำเลยสารภาพหรือไม่ ถ้าจำเลยสารภาพ ก็จะพิจารณาว่าเกิดจากความสำนึกผิดหรือไม่ ถ้าสำนึกผิดแล้วทำไรเพื่อบรรเทาเหตุนั้หรือยัง
กรณีของท่าน ถ้าท่านไม่ตั้งใจ ท่านสำนึกผิดกับการกระทำนั้นหรือไม่ และบรรเทาความเสียหายให้ผู้บาดเจ็บหรือเปล่า ผมจึงบอกไงครับว่าคนเรานั้นดูง่าย ๆ ครับ ใจเขาใจใจ เราถ้าเราไปโดนคนอื่นทำอย่างนั้นบ้างท่านต้องการให้เขาทำอะไรให้ท่านบ้าง เช่น ตอนที่น้องเขาโดนน้ำร้อนลวกจำเลยนำส่งโรงพยาบาลหรือไม่ หลังจากนั้นไปเยี่ยมเยียนผู้ป่วยหรือเปล่า ไปขอโทษพ่อแม่เขาหรือเปล่า และแสดงเจตนาช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาพยาบาล หรือยัง หากเขาไม่รับท่านสามารถวางเงินช่วยเหลือที่ศาลได้ แต่ท่านได้แสดงเจตนาเช่นนั้นหรือยัง เหล่านี้คือข้อพิจารณาของศาลทั้งนั้นครับ
ถ้าท่านทำแล้วท่านก็ต่อสุ้ในศาลได้ครับว่าท่านเองเมื่อเห็นผู้บาดเจ็บ ท่านรีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ท่านได้เข้าไปช่วยเหลือดูแลเป็นอย่างดี อย่างนี้ศาลท่านปราณีแน่ครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำน้ำร้อนลวกผู้อื่น โดยไม่ได้เจตนา มีความผิดอย่างไรบ้างค่ะ และจะแก้ปัญหายังไงได้บ้าง