โกงข้าวลามเป็นดอกเห็ด 'ปู' ปวดหัว สั่งเช็ค 2.5 พันโกดังทั่วปท.

โกงข้าวลามเป็นดอกเห็ด

'ปู' ปวดหัว

สั่งเช็ค 2.5 พันโกดังทั่วปท.

องค์กรต้านโกงชง 4 ข้อสกัดงาบ

ศาลจ่อสอบ "ก่อแก้ว" ยุบุกปชป.

นายธีรัตถ์  รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเมื่อวันที่ 26มิถุนายน ว่า  พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อมูลปริมาณข้าวคงเหลือของ องค์การคลังสินค้า (อคส.)และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) รายงานความพร้อมของชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณข้าวคงเหลือ หรือสต๊อกข้าวให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว ก่อนลงพื้นที่วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน  ซึ่งนายกรัฐมนตรีสั่งกำชับดำเนินการขั้นเด็ดขาด ไม่มีข้อยกเว้นว่าจะเป็นโกดังของบุคคลใด

ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบเสร็จแล้ว จะส่งข้อมูลเข้ามายังศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยข้อมูลปริมาณข้าวคงเหลือทั้งหมดจะทราบภายในวันเดียว เพราะใช้ระบบเดียวกับการรวบรวมผลการเลือกตั้ง โดยที่ศปก.ตร.จะมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประจำอยู่ เพื่อร่วมตรวจสอบข้อมูลข้าวและสรุปรายงานนายกฯต่อไป

นายกฯฟันไม่เลี้ยงไม่ว่าโกดังใคร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน ในไลน์กลุ่มผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาลติดตามน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ใช้ชื่อไลน์ "PM Reporter ทีมข่าว สร.1"  โดยช่วงหนึ่งของการสนทนา นายธีรัตถ์  รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความแจ้งผู้สื่อข่าวว่า  ให้เจ้าหน้าที่นำเอกสารข่าวการลงพื้นที่ของพล.ต.ต.ธวัช ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงปริมาณข้าวคงเหลือของ อคส. และอ.ต.ก. ชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ตรวจสอบสต๊อกข้าวพร้อมกันทั่วประเทศ วันที่ 27 มิถุนายนแจกจ่ายให้ผู้สื่อข่าวแล้ว พร้อมส่งข้อความว่า

"ฝากย้ำต่อท้ายด้วยว่า พล.ต.ต.ธวัช ได้รายงานความพร้อมให้นายกฯรับทราบแล้ว ซึ่งนายกฯสั่งฟันไม่เลี้ยง ไม่ต้องสนใจว่าจะเป็นโกดังของใคร"  

โฆษกรัฐไลน์ปูบ่นปวดหัวเรื่องข้าว

จากนั้น โฆษกรัฐบาลยังได้โพสต์ข้อความต่อว่า "นายกฯแอบบ่นว่าปวดหัวมานานแล้วเรื่องนี้"  ซึ่งทันทีที่นายธีรัตถ์โพสต์ข้อความ นายกฯบ่นปวดหัวขึ้นในไลน์  คนสนิทนายกรัฐมนตรีได้เข้ามาในไลน์ เรียกโฆษกฯเหมือนเป็นการเตือนนายธีรัตถ์ไม่ให้โพสต์ข้อความอะไรต่อ

ชุดตรวจโกดังพร้อมลุย2.5พันจุด

ด้านพล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงปริมาณข้าวคงเหลือของอคส. และอ.ต.ก. กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจสอบสต็อคข้าวว่า จะดำเนินการพร้อมกัน 2,506 จุดทั่วประเทศ วันที่ 27 มิถุนายน ทุกโรงสีทุกคลังสินค้ากว่า 50 จังหวัดจะตรวจพร้อมกันหมด  เป็นการสนธิกำลังระหว่างอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำระดับจังหวัด ตำรวจในท้องที่ ข้าราชการกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายใน กระทรวงการคลังและเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

พล.ต.ต.ธวัชกล่าวต่อว่า  ในการตรวจสอบต้องดูทั้งปริมาณ คุณภาพข้าวเปลือก ข้าวสาร ตรวจทุกกอง โดยข้าวสารผิดปกติได้ไม่เกิน 50% ข้าวเปลือกผิดพลาดไม่เกิน 10%  รวมทั้งจะตรวจไปจนถึงโครงการที่ค้างก่อนมีโครงการรับจำนำข้าว  ส่วนเรื่องการทุจริตไม่ว่าระดับใด มีสายบังคับบัญชาในกระทรวง ที่ได้มอบหมายเป็นระดับไว้อยู่แล้ว ต้องไปดูระเบียบกระทรวงนั้นๆ ไม่เอาเฉพาะระดับล่าง    

“ยืนยันดำเนินการตรงไปตรงมา ไม่เห็นแก่หน้าใคร ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าราชการ นักการเมือง  เพราะนายกรัฐมนตรีกำชับว่าต้องไม่มีทุจริต” พล.ต.ต.ธวัชกล่าว ส่วนที่มีข่าวเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงสีนั้น หลักการอาญาวิทยาสันนิษฐานได้เลยว่า เป็นการปกปิดหลักฐาน คาดว่าหลังลงพื้นที่แล้วจะสรุปผลสอบเบื้องต้นได้ เวลา 18.00 น.วันที่ 27 มิถุนายน

แจกคู่มือลดต้นทุนฯให้สื่อช่วยพีอาร์

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบฯว่า ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำหนังสือคู่มือการลดต้นทุนการปลูกข้าว ซึ่งจัดพิมพ์โดย กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แจกจ่ายให้สื่อมวลชนประจำทำเนียบฯ  เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์แก่ประชาชน โดยระบุว่า นายยุคลมอบคู่มือดังกล่าวให้นายกฯดูแล้วหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งนายกฯเห็นว่า เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ จึงฝากให้สื่อทีวีและวิทยุในเครือข่ายของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นกรมประชาสัมพันธ์ หรือสื่อของกองทัพ เช่น ช่อง 5 และสถานีวิทยุทหาร ช่วยเผยแพร่เนื้อหาของคู่มือดังกล่าวด้วย

อบรมอ.ก.ม.ช่วยแจงเกษตรกร

สำหรับเนื้อหาในหนังสือนั้น พูดถึงการบริหารจัดการปลูกข้าว 3 ส่วน คือ 1.การควบคุมต้นทุนของปุ๋ย 2. การควบคุมเมล็ดพันธุ์ข้าว และ 3.การใช้สารเคมี ซึ่งนักวิชาการของกระทรวงเกษตรฯยืนยันว่า หากปฏิบัติตามคำแนะนำ ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ 1,500-3,000 บาทต่อไร่  

นอกจากนี้ นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกฯและรมว.เกษตรฯประสานนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อ.ก.ม.) ซึ่งมีอยู่ประมาณ 75,000 คนทั่วประเทศ มาร่วมประชุมชี้แจงแนวทางลดต้นทุนการปลูกข้าว เพื่อนำไปเผยแพร่ให้เกษตรกรต่อไป

องค์กรต้านโกงชง4วิธียุติทุจริตจำนำ

วันเดียวกัน นายประมนต์  สุธีวงศ์  ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) แถลงว่า  องค์กรต่อต้านการคอร์รัปชั่นเป็นห่วงความโปร่งใสในการบริหารโครงการ ที่มีข้อร้องเรียนเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น  ซึ่งหลายฝ่ายเคยท้วงติงก่อนหน้านี้  หากรัฐบาลยืนยันเดินหน้าโครงการต่อ องค์กรฯ ต้องการให้รัฐบาลขจัดปัญหาคอร์รัปชั่นให้ได้  โดยเสนอแนวทางป้องกันทุจริตในโครงการจำนำข้าวแก่รัฐบาล 4 แนวทางคือ  

1.ให้เร่งสอบสวนพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชั่นในทุกขั้นตอนของโครงการ เพื่อนำคนผิดและผู้เกี่ยวข้องมาลงโทษ   2.ให้รัฐบาลเปิดเผยตัวเลขราคาและปริมาณข้าวที่รับจำนำไว้ก่อนหน้านี้และจำหน่ายไปแล้ว เพื่อความโปร่งใส  เนื่องจากข้าวทั้งหมดถือเป็นสมบัติของชาติและเป็นสิทธิของประชาชนที่มีสิทธิรับรู้ข้อมูล  3.เปลี่ยนวิธีการดำเนินโครงการรับจำนำเพื่อลดโอกาสการทุจริตคอร์รัปชั่น ด้วยการรับจำนำข้าวเปลือกและประมูลขายเป็นข้าวเปลือกออกไปเป็นล็อตเล็ก ๆ ทันทีโดยไม่เก็บสต็อก เพื่อกำจัดขั้นตอนการทุจริต เช่น ลักลอบสวมสิทธิข้าวจากต่างประเทศ การเวียนเทียนจำหน่ายข้าวในสตอกของรัฐบาล สับเปลี่ยนข้าวคุณภาพสูงด้วยข้าวคุณภาพต่ำหรือข้าวเสื่ยมคุณภาพ และเอื้อประโยชน์แก่พวกพ้องในการขายข้าวให้ในราคาต่ำ เพื่อนำไปจำหน่ายต่อ  และ 4.ให้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือชาวนาทั่วประเทศ  เป็นศูนย์กลางรับเรื่องร้องเรียนจากผู้ที่ได้รับความเสียหาย และดำเนินการช่วยเหลือในภาคปฏิบัติอย่างรวดเร็ว

ยื่นปปช.สอบสต๊อก-บัญชีระบายข้าว

นายประมนต์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ องค์กรฯมีจดหมายถึงประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสต็อกข้าวและความถูกต้องของบัญชีระบายข้าวทั่วประเทศอย่างเข้มงวด หากพบทุจริตต้องหาผู้ทำผิดมาลงโทษให้ได้  ขณะนี้องค์กรฯอยู่ระหว่างการประสานขอเข้านายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอแนวทางดังกล่าวแก่นายกฯนำไปแก้ปัญหา

เตือนรบ.อย่าอ้างความลับก๊กข้อมูล

ด้านนายวิชัย อัศรัสกร เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า องค์กรฯเป็นห่วงเรื่องระบายข้าว ซึ่งรัฐบาลเปิดเผยตัวเลขปริมาณข้าวที่ยังอยู่ในสต็อกปริมาณสูง  ดังนั้น ในการดำเนินโครงการรับจำนำต่อ รัฐบาลควรเปิดให้ประมูลข้าวล่วงหน้า เพื่อลดภาระต้นทุนในการเก็บรักษาและการเสื่อมสภาพของข้าว และลดช่องว่างทุจริต   ส่วนสต็อกข้าวที่มีอยู่ รัฐบาลต้องเปิดเผยตัวเลขที่ชัดเจนและเป็นไปตามความจริง ทั้งตัวเลขขายข้าวแบบจีทูจี ตัวเลขส่งออกและขายในประเทศ ไม่ควรอ้างว่าการขายข้าวแบบจีทูจีเป็นความลับ เพราะการกระทำดังกล่าวไม่ใช่มาตรฐานการค้าขาย อีกทั้ง เงินที่นำไปใช้ในโครงการ เป็นเงินของประชาชนประชาชนมีสิทธิรู้ จึงเชื่อว่าการรวมตัวกันร้องเรียนของภาคประชาชนจะนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลของรัฐบาล

“บุญทรง”แจงสส.พท.รอกขช.เคาะ

วันเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทย  นายพร้อมพงศ์  นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงหลังประชุม ส.ส.พรรคร่วมกับรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจว่า ส.ส.พรรคได้สะท้อนข้อเรียกร้องของชาวนาที่เสนอให้คงราคาจำนำข้าวที่ 15,000 ต่อตัน เเละขยายการรับการจำนำข้าวถึงเดือนกันยายน รวมถึงกำหนดมาตรฐานการตรวจวัดความชื้นที่ 25% โดยนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์รับปากจะนำข้อเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.)วันที่ 28 มิถุนายน

ดันทุรังอ้างชาวนาได้ประโยชน์

นายบุญทรงยังกล่าวในที่ประชุมด้วยว่า โครงการจำนำข้าวได้รับความนิยมจากชาวนา เพราะทำให้ชาวนาได้ประโยชน์  รัฐบาลดำเนินโครงการนี้ตั้งแต่ปี 2554 ตรวจสอบทั้ง 4 ฤดูกาลผลิต ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โอนเงินถึงมือชาวนาแล้ว 6.28 แสนล้านบาท ไม่เป็นไปตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า ธ.ก.ส.โอนเงินถึงมือชาวนาเพียง 8 หมื่น-1.2 แสนล้านบาทเท่านั้น  อีกทั้ง ยังเหลือข้าวค้างสต๊อกรอระบายอีก 15 ล้านตัน จึงจะมีเงินไหลเข้ามาเพิ่ม โดยรัฐบาลมีหน้าที่เร่งระบายข้าวออกไป  

ยันแค่นาปรัง1.2หมื่นฝันราคาขึ้น

นอกจากนี้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ชี้แจงเหตุผลลดราคาจำนำข้าวว่า กระทรวงการคลังตั้งงบประมาณขาดทุนไม่เกิน 1 แสนล้านบาทต่อปี แต่ตัวเลขขาดทุนโครงการนี้สูงถึง 1.36 แสนล้านบาท รัฐบาลจำเป็นต้องดูแลตัวเลขการเงิน การคลัง ของประเทศ  ทั้งนี้ อยากให้ชาวนาเข้าใจว่าเป็นการปรับลดราคาเฉพาะรับจำนำข้าวนาปรังเท่านั้น ส่วนราคารับจำนำข้าวนาปียังไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ต้องประเมินสถานการณ์ หากราคาข้าวในตลาดโลกสูงขึ้น อาจขยับราคารับจำนำขึ้นมา                

ส่วนนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯยังยืนยันตัวเลขขาดทุน 1.36 ล้านบาท  ไม่ได้ขาดทุนหนักถึง 2.6 แสนล้านบาท อย่างที่ฝ่ายค้านกล่าวหา และให้ ส.ส.รอผลประชุม กขช.วันที่ 28 มิถุนายนว่าจะมีความคืบหน้าในการกำหนดราคารับจำนำข้าวหรือไม่

“ก่อแก้ว”งานเข้าศาลจ่อสอบยุบุกปชป.

มีความเคลื่อนไหวในส่วนศาลอาญา กรณีนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดงที่ตกเป็นจำเลยคดีก่อการร้าย ที่ออกมาระบุให้ม็อบชาวนาไปพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อทวงถามเหตุผลให้ล้มโครงการรับจำนำข้าว  โดยนายทวี  ประจวบลาภ  อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ดูในรายละเอียดที่ชัดเจนว่านายก่อแก้วไปให้สัมภาษณ์อย่างไร จะเข้าข่ายยุยงปลุกปั่นอันเป็นการผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวที่ทำไว้กับศาลหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่สามารถพูดอะไรได้ เพราะข้อมูลยังไม่ชัดเจน แต่ตนจะรวบรวมข้อมูลถึงถ้อยคำที่นายก่อแก้วให้สัมภาษณ์และนำไปปรึกษาองค์คณะเจ้าของสำนวนคดีก่อการร้าย และถ้ารวบรวมข้อมูลได้ชัดเจน คาดว่าในการพิจารณาคดีก่อการร้ายวันที่  27 มิถุนายน องค์คณะฯอาจเรียกนายก่อแก้วมาสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

ชี้ช่องปชช.ให้แจ้งเบาะแสเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวถามว่า การพิจารณาเรื่องนี้ต้องรอผู้มาร้องเพิ่มเติมต่อศาลอาญาโดยตรงและอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาจะลงมาพิจารณาด้วยตนเองหรือไม่ นายทวีกล่าวว่า เป็นหน้าที่ขององค์คณะเจ้าของสำนวนว่าจะวินิจฉัยอย่างไร  ส่วนการพิจารณานั้นศาลพิจารณาจากข้อมูลที่ปรากฏต่อสาธารณชน แต่เปิดโอกาสให้ประชาชนผู้ประสบเหตุเข้ามาร้องเพิ่มเติม

จับบิ๊กโรงสีแอลโกลค์ฯเพิ่ม3ราย

สำหรับความคืบหน้าคดีข้าวหายจากโกดัง ของบริษัท แอลโกลด์แมนูแฟคเจอร์ จำกัด ที่อ.โพทะเล จ.พิจิตร ซึ่งร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลนั้น  พ.ต.อ.ธวัยชัย มวลนารา รองผบก.ภ.จว.พิจิตร เปิดเผยว่า หลังจับกุมและสอบสวนนายอำนาจ ดิษฐเสถียร เจ้าของท่าข้าวหัวดง นายหน้ารับซื้อข้าวส่งโรงสีดังกล่าว ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และเชื่อมโยงไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

http://www.naewna.com/politic/57437

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่