สืบเนื่องจากตลอด2ปีที่ผ่านมา ครอบครัวผมต้องทนฟังเสียงทะเลาะของผัวเมียข้างบ้าน การสั่งสอนของแม่ลูก และการเปิดปิดประตูรั้วเสียงดังมาโดยตลอด ซึ่งตอนนี้ครอบครัวผมจะไม่ขอทนอีกต่อไปแล้ว ด้วยเหตุผลมากมายเหลือเกิน
1. เพราะแฟนผมเองป่วยต้องการความสงบในการพักผ่อนนอนหลับ ห้ามมีเรื่องเครียดกระทบกระเทือนจิตใจ และเขาไม่เคยเกรงใจใครเลยทำเสียงดังเอะอะโวยวายมาโดยตลอด
2. ห้องนอนผมกับแฟนอยู่ตรงกับโรงจอดรถ และห้องครัวของบ้านนั้นพอดี แค่เขียนก็คงนึกภาพออกนะครับ ตัวสามีเองไม่ได้อยู่บ้านนั้นตลอดแต่การมาแต่ละครั้งชอบเปิดสัญญาณล๊อกตลอดปิดประตูทีกระเทือนหน้าต่างผมเลย ตี1 ตี2 ล้างรถก็มี เสียงดังรบกวนการนอนหลับ การจอดรถก็ชอบจอดขวางทางไม่เคยเกรงใจว่าคนอื่นจะออกอย่างไร เดือนร้อนใครหรือไม่ ไม่มีน้ำใจเลย
3. ต้องทนรำคาญตัวกันนกที่ใช้แผ่นซีดี มันกระแทกกับฝาบ้านตลอด ซึ่งกวนประสาทมากทนฟังมาเป็นปี แต่ไม่เคยคิดแก้ปัญหากันที่ต้นเหตุ
4. เวลาทำห้องครัว กลิ่นจากห้องครัว ก็รบกวนและตรงนั้นเป็นหน้าต่างห้องนอน ทำอะไรทานผมก็ทราบหมด ซึ่งผมเองก็ไม่อยากรับรู้เรื่องราวเหล่านั้น มันไม่น่าอภิรมย์เลย และรู้สึกเหม็นจนจะเป็นลมทุกครั้ง เพราะตัวผมเองไม่ทานเนื้อสัตว์
5. และเด็กๆในบ้านผมเป็นผู้หญิงทั้งสองคน ไม่อยากให้เห็นตัวอย่างที่มักมากในกาม บ่อยครั้งที่สามีไปทำงานต่างจังหวัด เขามักจะพาผู้ชายมานอน และนำลูกไปฝากไว้บ้านที่สนิทกัน ซึ่งก็เป็นที่เลื่องลือทั้งหมู่บ้านละครับ ไม่มีใครไม่รู้ และทุกครั้งที่สามีจับได้ บ้านผมก็จะโดนว่าลอยๆกระแนะกระแหนทุกครั้ง เพราะรั้วบ้านติดกัน ซึี่งบ้านผมไม่ได้อยากจะไปยุ่งอะไรแบบนั้นเลย ซึ่งเราก็ขอไม่รับรู้รับทราบดีกว่า
6. ท่อระบายกลิ้นปฏิกูล จะโผล่ตรงไหนก็ไม่โผล่ อยู่บนหัวนอนผมอีกแล้ว วันร้ายคืนร้าย กลิ่นตลบอบอวล เข้ามาในห้อง สนุกหรอครับที่ต้องทนดมกลิ่นขี้ชาวบ้าน คนดีๆที่ไหนเขาทำกัน แบบนี้ไม่เคยนึกถึงใจเขาใจเรา แล้วทีนี้จะมาว่าครอบครัวผมไปบังแสง บังลม
7. เด็กๆที่บ้านผมกำลังจะโตเป็นสาว การอยู่ห้องเดียวกัน ก็ทะเลาะกัน จึงคิดจะกั้นห้องเพิ่มให้ตรงนี้ล่ะ จะได้อยู่กันเป็นสัดส่วนเสียที เพราะลงทุนซื้อหน้าต่างและประตูต่อเติมหลังคาอีก 1 แถว ก็กั้นห้องนอนและที่ทำการบ้านเล็กๆได้แล้ว
8. ก่อนหน้านี้ที่ผมกั้นเฌอร่า น้ำใจในการช่วยออกเงินซักนิดก็ไม่เคยถามถึง ปกติแล้วการตกลงปลงใจทำกำแพงร่วมกันต้องช่วยกันออกคนละครึ่ง นั่นคือเพื่อนบ้านที่มีมิตจิตมิตใจ แต่บ้านนี้ไม่ และถึงคราวต่อเติมบ้านเขา มาขอบ้านผมรื้อลง เพื่อที่จะก่อปูน ก็ทำเฌอร่าผมแตกบิ่น ไม่สวยเลยและไม่เคยคิดรับผิดชอบการกระทำใดๆ กำแพงที่ก่อขึ้นไปก็รับน้ำหนักปูนมหาศาลนั้นไม่ได้ กำลังจะร้าวเป็นแนวใหญ่ แต่ก็ไม่เห็นออกมารับผิดชอบอะไร ผมขออย่าได้เจอะเจอเลยครับ ถือว่าบ้านผมซวยไปก็แล้วกันที่เจอเพื่อนบ้านเห็นแก่ตัว
9. การเปิดปิดประตูรั้วประตูแต่ละครั้ง กระแทกดังมาก กระเทือนมาถึงประตูรั้วบ้านผมที่อยู่ติดกัน ไม่รู้ว่ายิ่งใหญ่มากจากใหน บ้านผมไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์ใครนะครับ
10. เวลาของหาย ทั้งสัตว์เลี้ยงสิ่งของ ก็จะมาขอดูในบ้านผม ซึ่งบ้ามาก ใครจะมานั่งขโมยบ้านอยู่ติดกันแบบนี้ แค่หน้าก็ไม่อยากจะมองแล้ว ผมไม่ชอบคนผิดลูกผิดเมียคนอื่น
11. เมื่อประมวลเหตุผลทั้งหมด บ้านผมพอแล้ว และรู้ว่าจะมาอยู่ถาวรแล้วผมยิ่งต้องทำอะไรให้เรียบร้อย เพราะเห็นแล้วว่าจะต้องเจอกับปัญหาอะไรบ้าง ผมขอเลือกที่จะไม่รับรู้รับทราบอะไรใดๆอีก และไม่ขอเจรจาใดๆด้วยเพราะผมมีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้นครับ เพราะคนแบบนี้พูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง ชอบเอาชนะ ถือว่าเป็นผู้หญิงจะทำอะไรก็ได้ แต่ขอโทษนะครับ ไม่ใช่สำหรับผม
สรุป ผมจึงกั้นด้วยผนังเฌอร่า ด้วยงบประมาณที่จ่ายน้อยแต่แก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง ทำแบบซ้อนชายแผ่น จนมิดตั้งแต่หน้าบ้านถึงหลังบ้าน โดยต่อจากกำแพงในฝั่งของผมขึ้นไปไม่เกินสามเมตรในเขตครึ่งเสารั้วของผม แต่ที่จริงผมตั้งที่ขอบรั้วเลยเพราะจะได้เรียบๆ และก็ทาสีส้มสวยงาม
แต่เมื่อทำเสร็จแล้ว ข้างบ้านมาจากไหนก็ไม่ทราบ ให้คนไปขอเบอร์แฟนผม แล้วโทรมาตอนกลางคืน ว่าแฟนผมและขู่ให้เอาลง ด้วยน้ำเสียงที่แย่มาก จนผมทนไม่ไหว เลยคว้าโทรศัพท์มาคุยเอง ซึ่งผมไม่เอาลง
บ้านข้างให้บอกให้เอาลง ให้เหตุผลว่า เพราะหายใจไม่ออก บังลม บังแสง ซึ่งผมต้องทำตามด้วยหรือ ทั้งๆที่ด้านหน้าบ้านเขาเองก็โล่งเป็นสิบเมตร และตรงนั้นไม่ใช่ห้องนอน เป็นแค่โรงจอดรถ
และห้องครัวเขาเองเปิดทึบสนิท ไม่เปิดให้ลมธรรมชาติเขามาในบ้านเอง เขาปิดจมูกตัวเอง แล้วจะมาพึ่งจมูกผมหายใจเนี่ยนะ บ้าแล้ว
หากมึดมากนักทำไมไม่เปิดช่องแสงติดกระเบื้องใสโรงจอดรถเขาซิครับ มายุ่งอะไรกับแสงบ้านผม ดวงอาทิตย์ก็มีดวงเดียวเท่าๆกัน อนาคตผมก็ต้องกั้นห้อง มันไม่มีทั้งแสงและลมอยู่แล้วครับ ไม่รู้จักพึ่งตัวเองแล้วจะพึ่งคนอื่นได้ไง
เป็นบ้านเดี่ยว ชั้นเดียว กันผนังเฌอร่า เพราะ อยากได้ความเป็นส่วนตัว ผิดหรือ
1. เพราะแฟนผมเองป่วยต้องการความสงบในการพักผ่อนนอนหลับ ห้ามมีเรื่องเครียดกระทบกระเทือนจิตใจ และเขาไม่เคยเกรงใจใครเลยทำเสียงดังเอะอะโวยวายมาโดยตลอด
2. ห้องนอนผมกับแฟนอยู่ตรงกับโรงจอดรถ และห้องครัวของบ้านนั้นพอดี แค่เขียนก็คงนึกภาพออกนะครับ ตัวสามีเองไม่ได้อยู่บ้านนั้นตลอดแต่การมาแต่ละครั้งชอบเปิดสัญญาณล๊อกตลอดปิดประตูทีกระเทือนหน้าต่างผมเลย ตี1 ตี2 ล้างรถก็มี เสียงดังรบกวนการนอนหลับ การจอดรถก็ชอบจอดขวางทางไม่เคยเกรงใจว่าคนอื่นจะออกอย่างไร เดือนร้อนใครหรือไม่ ไม่มีน้ำใจเลย
3. ต้องทนรำคาญตัวกันนกที่ใช้แผ่นซีดี มันกระแทกกับฝาบ้านตลอด ซึ่งกวนประสาทมากทนฟังมาเป็นปี แต่ไม่เคยคิดแก้ปัญหากันที่ต้นเหตุ
4. เวลาทำห้องครัว กลิ่นจากห้องครัว ก็รบกวนและตรงนั้นเป็นหน้าต่างห้องนอน ทำอะไรทานผมก็ทราบหมด ซึ่งผมเองก็ไม่อยากรับรู้เรื่องราวเหล่านั้น มันไม่น่าอภิรมย์เลย และรู้สึกเหม็นจนจะเป็นลมทุกครั้ง เพราะตัวผมเองไม่ทานเนื้อสัตว์
5. และเด็กๆในบ้านผมเป็นผู้หญิงทั้งสองคน ไม่อยากให้เห็นตัวอย่างที่มักมากในกาม บ่อยครั้งที่สามีไปทำงานต่างจังหวัด เขามักจะพาผู้ชายมานอน และนำลูกไปฝากไว้บ้านที่สนิทกัน ซึ่งก็เป็นที่เลื่องลือทั้งหมู่บ้านละครับ ไม่มีใครไม่รู้ และทุกครั้งที่สามีจับได้ บ้านผมก็จะโดนว่าลอยๆกระแนะกระแหนทุกครั้ง เพราะรั้วบ้านติดกัน ซึี่งบ้านผมไม่ได้อยากจะไปยุ่งอะไรแบบนั้นเลย ซึ่งเราก็ขอไม่รับรู้รับทราบดีกว่า
6. ท่อระบายกลิ้นปฏิกูล จะโผล่ตรงไหนก็ไม่โผล่ อยู่บนหัวนอนผมอีกแล้ว วันร้ายคืนร้าย กลิ่นตลบอบอวล เข้ามาในห้อง สนุกหรอครับที่ต้องทนดมกลิ่นขี้ชาวบ้าน คนดีๆที่ไหนเขาทำกัน แบบนี้ไม่เคยนึกถึงใจเขาใจเรา แล้วทีนี้จะมาว่าครอบครัวผมไปบังแสง บังลม
7. เด็กๆที่บ้านผมกำลังจะโตเป็นสาว การอยู่ห้องเดียวกัน ก็ทะเลาะกัน จึงคิดจะกั้นห้องเพิ่มให้ตรงนี้ล่ะ จะได้อยู่กันเป็นสัดส่วนเสียที เพราะลงทุนซื้อหน้าต่างและประตูต่อเติมหลังคาอีก 1 แถว ก็กั้นห้องนอนและที่ทำการบ้านเล็กๆได้แล้ว
8. ก่อนหน้านี้ที่ผมกั้นเฌอร่า น้ำใจในการช่วยออกเงินซักนิดก็ไม่เคยถามถึง ปกติแล้วการตกลงปลงใจทำกำแพงร่วมกันต้องช่วยกันออกคนละครึ่ง นั่นคือเพื่อนบ้านที่มีมิตจิตมิตใจ แต่บ้านนี้ไม่ และถึงคราวต่อเติมบ้านเขา มาขอบ้านผมรื้อลง เพื่อที่จะก่อปูน ก็ทำเฌอร่าผมแตกบิ่น ไม่สวยเลยและไม่เคยคิดรับผิดชอบการกระทำใดๆ กำแพงที่ก่อขึ้นไปก็รับน้ำหนักปูนมหาศาลนั้นไม่ได้ กำลังจะร้าวเป็นแนวใหญ่ แต่ก็ไม่เห็นออกมารับผิดชอบอะไร ผมขออย่าได้เจอะเจอเลยครับ ถือว่าบ้านผมซวยไปก็แล้วกันที่เจอเพื่อนบ้านเห็นแก่ตัว
9. การเปิดปิดประตูรั้วประตูแต่ละครั้ง กระแทกดังมาก กระเทือนมาถึงประตูรั้วบ้านผมที่อยู่ติดกัน ไม่รู้ว่ายิ่งใหญ่มากจากใหน บ้านผมไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์ใครนะครับ
10. เวลาของหาย ทั้งสัตว์เลี้ยงสิ่งของ ก็จะมาขอดูในบ้านผม ซึ่งบ้ามาก ใครจะมานั่งขโมยบ้านอยู่ติดกันแบบนี้ แค่หน้าก็ไม่อยากจะมองแล้ว ผมไม่ชอบคนผิดลูกผิดเมียคนอื่น
11. เมื่อประมวลเหตุผลทั้งหมด บ้านผมพอแล้ว และรู้ว่าจะมาอยู่ถาวรแล้วผมยิ่งต้องทำอะไรให้เรียบร้อย เพราะเห็นแล้วว่าจะต้องเจอกับปัญหาอะไรบ้าง ผมขอเลือกที่จะไม่รับรู้รับทราบอะไรใดๆอีก และไม่ขอเจรจาใดๆด้วยเพราะผมมีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้นครับ เพราะคนแบบนี้พูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง ชอบเอาชนะ ถือว่าเป็นผู้หญิงจะทำอะไรก็ได้ แต่ขอโทษนะครับ ไม่ใช่สำหรับผม
สรุป ผมจึงกั้นด้วยผนังเฌอร่า ด้วยงบประมาณที่จ่ายน้อยแต่แก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง ทำแบบซ้อนชายแผ่น จนมิดตั้งแต่หน้าบ้านถึงหลังบ้าน โดยต่อจากกำแพงในฝั่งของผมขึ้นไปไม่เกินสามเมตรในเขตครึ่งเสารั้วของผม แต่ที่จริงผมตั้งที่ขอบรั้วเลยเพราะจะได้เรียบๆ และก็ทาสีส้มสวยงาม
แต่เมื่อทำเสร็จแล้ว ข้างบ้านมาจากไหนก็ไม่ทราบ ให้คนไปขอเบอร์แฟนผม แล้วโทรมาตอนกลางคืน ว่าแฟนผมและขู่ให้เอาลง ด้วยน้ำเสียงที่แย่มาก จนผมทนไม่ไหว เลยคว้าโทรศัพท์มาคุยเอง ซึ่งผมไม่เอาลง
บ้านข้างให้บอกให้เอาลง ให้เหตุผลว่า เพราะหายใจไม่ออก บังลม บังแสง ซึ่งผมต้องทำตามด้วยหรือ ทั้งๆที่ด้านหน้าบ้านเขาเองก็โล่งเป็นสิบเมตร และตรงนั้นไม่ใช่ห้องนอน เป็นแค่โรงจอดรถ
และห้องครัวเขาเองเปิดทึบสนิท ไม่เปิดให้ลมธรรมชาติเขามาในบ้านเอง เขาปิดจมูกตัวเอง แล้วจะมาพึ่งจมูกผมหายใจเนี่ยนะ บ้าแล้ว
หากมึดมากนักทำไมไม่เปิดช่องแสงติดกระเบื้องใสโรงจอดรถเขาซิครับ มายุ่งอะไรกับแสงบ้านผม ดวงอาทิตย์ก็มีดวงเดียวเท่าๆกัน อนาคตผมก็ต้องกั้นห้อง มันไม่มีทั้งแสงและลมอยู่แล้วครับ ไม่รู้จักพึ่งตัวเองแล้วจะพึ่งคนอื่นได้ไง