http://www.thairath.co.th/content/pol/353685
อ่านข่าวไทยรัฐเช้านี้ ก็เห็นข่าวนี้ ก็ไปสะดุดตาตัวเลขกลุ่มนึง อาจจะไม่ใช่สาระสำคัญของเนื้อข่าว ที่พูดถึงปริมาณข้าวถุง
ตัดเอาคำพูดของสองคนมา
คนแรกคุณสมศักดิ์ เป็นผอ.สนง. ในกรมการค้าภายใน เป็นตัวแทนกระทรวงพาณิชย์ และกขช.
คนที่สองคุณชลิดา ผช.ผอ.อคส. เป็นตัวแทนของอคส.
โดยทางคุณสมศักดิ์บอกยอดขายข้าวถุง ที่ขายผ่านร้านถูกใจและโครงการธงฟ้า ว่า ขายไปประมาณ 55,000 ตัน หรือ 11 ล้านถุง
ส่วนทางคุณชลิดา บอกว่า อคส.ได้รับอนุมัติจาก กขช.ตั้งแต่ ตุลาคม 54 รวม 7 ครั้ง รวม 2.5 ล้านตัน
ซึ่งจากในข่าว ทางคุณสมศักดิ์บอกว่า ขายข้าวไปแล้ว 5 แสนตัน(อ่านแล้วน่าจะหมายถึง การขายแบบเป็นข้าวถุง)
แต่ตรงนี้อาจจะต้องย้อนไปดูว่า ข้าวถุงทำออกมาแล้วกี่ถุงแน่
เพราะจากที่วุฒิสภาตรวจสอบ น่าจะทำข้าวถุงได้ไม่เกิน 10% ของข้าวที่รับไป (จากกำลังการผลิตข้าวถุงที่มี) หรือน่าจะอยู่ราว ๆ 2 แสนตันเท่านั้น
แต่จริง ๆ แล้ว ถ้าหากดูจากช่องทางการขายข้าวถุงในช่วงแรก ๆ จะเห็นว่า จะมีการกระจายข้าวผ่านช่องทาง ร้านถูกใจกับโครงการธงฟ้าเท่านั้น ไม่มีช่องทางอื่นอีก
ดังนั้น จากข้าวที่รับไป กับข้าวที่ขายได้จริง จะมีส่วนต่างอยู่เกือบ 2 ล้านตัน
หรือถ้าคิดเป็นปริมาณข้าวถุง (5 กก.) ก็เกือบ 400 ล้านถุง
ซึ่งจริง ๆ ถ้าเทียบกับทั้งโครงการจำนำข้าว ที่มีมูลค่าข้าวหลายแสนล้าน
ข้าวที่พูด 2 ล้านตัน มีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านบาท อาจจะดูไม่มาก
แต่ถ้าหากดูจากต้นทุนที่รับจำนำมา 4.8 หมื่นล้านบาท
เทียบกับราคาขายที่ขายให้ไปทำข้าวถุง ประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท
หรือมีผลต่างที่ทำให้รัฐขาดทุนไปมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท
และถ้าเทียบกับราคาตลาด คือข้าวกองที่เอาไปทำข้าวถุง (แต่ไม่รู้เป็นข้าวถุงหรือป่าว) ระบายแบบปกติ อย่างน้อยก็ขาดทุนน้อยลงไปอีกครึ่งนึง
จาก 3 หมื่นล้าน ก็ลดขาดทุนลงไป 1.5 หมื่นล้านบาท
ดังนั้นจุดนี้ ผมอยากเห็นรัฐบาลพยายามหาคำตอบออกมาให้ได้เช่นกันว่า ข้าวที่ไปทำข้าวถุงนั้น สรุปว่าเบิกไปแล้วจริงเท่าไหร่ ทำข้าวถุงได้กี่ถุง ขายไปช่องทางไหนบ้าง ข้าวที่เหลืออยู่ที่ไหน
เพราะถ้าหากข้าวที่ว่า อนุมัติไปทำข้าวถุง แต่ถูกขายไปแบบไม่บรรจุถุง น่าจะต้องมีคนรับผิดชอบ เพราะอันนี้ทุจริตชัดเจน รายละเอียดดูแล้วไม่ซับซ้อน น่าจะหาตัวเลขชัดเจนได้ ถ้าตั้งใจหา ตั้งใจจับทุจริตจริง
ข้าวถุง : เรื่องไม่ใหญ่แต่ทุจริตมาก
อ่านข่าวไทยรัฐเช้านี้ ก็เห็นข่าวนี้ ก็ไปสะดุดตาตัวเลขกลุ่มนึง อาจจะไม่ใช่สาระสำคัญของเนื้อข่าว ที่พูดถึงปริมาณข้าวถุง
ตัดเอาคำพูดของสองคนมา
คนแรกคุณสมศักดิ์ เป็นผอ.สนง. ในกรมการค้าภายใน เป็นตัวแทนกระทรวงพาณิชย์ และกขช.
คนที่สองคุณชลิดา ผช.ผอ.อคส. เป็นตัวแทนของอคส.
โดยทางคุณสมศักดิ์บอกยอดขายข้าวถุง ที่ขายผ่านร้านถูกใจและโครงการธงฟ้า ว่า ขายไปประมาณ 55,000 ตัน หรือ 11 ล้านถุง
ส่วนทางคุณชลิดา บอกว่า อคส.ได้รับอนุมัติจาก กขช.ตั้งแต่ ตุลาคม 54 รวม 7 ครั้ง รวม 2.5 ล้านตัน
ซึ่งจากในข่าว ทางคุณสมศักดิ์บอกว่า ขายข้าวไปแล้ว 5 แสนตัน(อ่านแล้วน่าจะหมายถึง การขายแบบเป็นข้าวถุง)
แต่ตรงนี้อาจจะต้องย้อนไปดูว่า ข้าวถุงทำออกมาแล้วกี่ถุงแน่
เพราะจากที่วุฒิสภาตรวจสอบ น่าจะทำข้าวถุงได้ไม่เกิน 10% ของข้าวที่รับไป (จากกำลังการผลิตข้าวถุงที่มี) หรือน่าจะอยู่ราว ๆ 2 แสนตันเท่านั้น
แต่จริง ๆ แล้ว ถ้าหากดูจากช่องทางการขายข้าวถุงในช่วงแรก ๆ จะเห็นว่า จะมีการกระจายข้าวผ่านช่องทาง ร้านถูกใจกับโครงการธงฟ้าเท่านั้น ไม่มีช่องทางอื่นอีก
ดังนั้น จากข้าวที่รับไป กับข้าวที่ขายได้จริง จะมีส่วนต่างอยู่เกือบ 2 ล้านตัน
หรือถ้าคิดเป็นปริมาณข้าวถุง (5 กก.) ก็เกือบ 400 ล้านถุง
ซึ่งจริง ๆ ถ้าเทียบกับทั้งโครงการจำนำข้าว ที่มีมูลค่าข้าวหลายแสนล้าน
ข้าวที่พูด 2 ล้านตัน มีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านบาท อาจจะดูไม่มาก
แต่ถ้าหากดูจากต้นทุนที่รับจำนำมา 4.8 หมื่นล้านบาท
เทียบกับราคาขายที่ขายให้ไปทำข้าวถุง ประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท
หรือมีผลต่างที่ทำให้รัฐขาดทุนไปมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท
และถ้าเทียบกับราคาตลาด คือข้าวกองที่เอาไปทำข้าวถุง (แต่ไม่รู้เป็นข้าวถุงหรือป่าว) ระบายแบบปกติ อย่างน้อยก็ขาดทุนน้อยลงไปอีกครึ่งนึง
จาก 3 หมื่นล้าน ก็ลดขาดทุนลงไป 1.5 หมื่นล้านบาท
ดังนั้นจุดนี้ ผมอยากเห็นรัฐบาลพยายามหาคำตอบออกมาให้ได้เช่นกันว่า ข้าวที่ไปทำข้าวถุงนั้น สรุปว่าเบิกไปแล้วจริงเท่าไหร่ ทำข้าวถุงได้กี่ถุง ขายไปช่องทางไหนบ้าง ข้าวที่เหลืออยู่ที่ไหน
เพราะถ้าหากข้าวที่ว่า อนุมัติไปทำข้าวถุง แต่ถูกขายไปแบบไม่บรรจุถุง น่าจะต้องมีคนรับผิดชอบ เพราะอันนี้ทุจริตชัดเจน รายละเอียดดูแล้วไม่ซับซ้อน น่าจะหาตัวเลขชัดเจนได้ ถ้าตั้งใจหา ตั้งใจจับทุจริตจริง