นิทานชาวสวน
ผมมาหาเพื่อนในถนน (๕)
เพื่อนรีบไปเมื่อเวลาห้าโมงเกือบครึ่ง หลังจากที่เบียร์หมดไปสามขวดในเวลาเพียงสี่สิบนาที เขาสั่งขวดที่สี่มาวางไว้ให้ผม แล้วก็หายไปอย่างรวดเร็วเหมือนขามา ผมสั่งหมูผัดกระเพราราดข้าวมาปูพื้น ค่อยละเลียดกินไปทีละนิด อ่านหนังสือพิมพ์ครบถ้วนทุกคอลัมน์อย่างที่ไม่เคยอ่านละเอียดถึงขนาดนี้ อ่านจนกระทั่งโฆษณาสินค้า เพื่อนของผมก็กลับมา เมื่อเวลาบ่ายโมงครึ่ง พร้อมกับเพื่อนครูอีกคนหนึ่ง เมื่อได้รินแก้วแรกในรอบสอง เพื่อต้อนรับเพื่อนของเพื่อนเข้าสู่วงโคจรแล้ว ก็คุยกันเรื่อยไปทุกเรื่องตามแต่จะนึกได้ โดยผมขอปวารณาไว้ว่าจะกลับไปขึ้นรถเมล์เบอร์เดียวกับขามา ก่อนที่ท้องฟ้าจะมืด
เรานั่งคุยกันอย่างเพลิดเพลินไม่นานนักในความรู้สึกของผม บริกรสาวก็ยกเบียร์ขวดที่สิบเอ็ดมาตั้งแล้วบอกว่า เบียร์หมดแล้วค่ะ ผมตกใจรีบหันไปดูท้องฟ้าปรากฏว่ายังสว่างอยู่ แต่นาฬิกาพกในกระเป๋าถือบอกเวลา จะย่ำค่ำแล้ว ข้อสำคัญเบียร์ก็หมดร้านแล้ว เพื่อนของผมพยายามคาดคั้นว่าหมดจริง ๆ หรือ เด็กตัวโตนั้นบอกว่ายี่ห้อนี้หมดแล้ว มีแต่พวกขวดสีเขียว พอเพื่อนอ้าปากยังไม่ทันจะสั่งให้เอามา ผมก็ลุกขึ้นยืนยกมือไหว้ลาอย่างเด็ดขาดไม่ยอมฟังข้อแม้ใดใดทั้งสิ้น
เพื่อนจึงต้องขับรถคันเก่านั้น มาส่งผมที่ป้ายรถเมล์ซึ่งมีผู้คนยืนคอยอยู่มากมาย แล้วก็กลับไปสมทบกับเพื่อนครู ที่ยังนั่งคอยอยู่พร้อมกับแกล้มที่เหลือ ผมรอรถไม่นานก็ได้ขึ้นไปนั่งเก้าอี้ว่าง แม้จะมีผู้โดยสารมากกว่าเมื่อเช้าก็ตาม รถแล่นมาตามถนนพหลโยธินอย่างแช่มช้า จนถึงแยกเกษตรก็ต้องเลี้ยวซ้ายไปทางถนนใหม่ ผ่านแท่งคอนกรีตใหญ่โตสำหรับจะก่อสร้างอะไรอีกก็ไม่รู้ นับได้ห้าสิบกว่าต้นจึงวนกลับมาที่แยกเก่า กว่าจะหลุดพ้นไฟแดงไปได้ต้องใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง แล้วก็แล่นย้อนทางเดิมมาที่มาเมื่อเช้า ด้วยความเร็วเพียงครึ่งเดียว จนขึ้นทางด่วนงามวงศ์วาน จึงแล่นได้รวดเร็วปานลมพัด และจอดให้ผมลงที่ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อเวลาประมาณสองทุ่ม
กระเพาะของผมร้องอุทธรณ์ ให้ผมแวะเข้าไปกินข้าวราดลาบเป็ดเสียหนึ่งจาน กลั้วคออันฝืดแห้งด้วยเบียร์อีกหนึ่งกระป๋อง แล้วจึงกลับมาถึงบ้านอย่างสบาย สดชื่นแจ่มใสทั้งกายวาจาใจ โดยใช้เวลาไปกลับทั้งหมด ในรายการนี้ร่วมสิบสองชั่วโมง
ผมเพิ่งนึกได้ว่าเพื่อนให้หนังสือของเขามาเป็นที่ระลึกเล่มหนึ่ง จึงเอาออกมาจากถุงดูชื่อเรื่องที่หน้าปก มีข้อความว่า
วรรณกรรมเพื่อเยาวชน
ส่งเสริมปีแห่งการอ่าน
แมวปิลาร์
เรื่องแมวแมว
เขียนโดยคนรักแมว เพื่อคนรักแมว
GTW
ทันใดนั้นก็มีเสียงกริ่งโทรศัพท์ดังระรัวขึ้น ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณสามทุ่มครึ่ง ผมยกหูฟังขึ้น ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยมาตลอดวัน
"คุณเจียวต้ายถึงบ้านเรีนยบร้อยแล้วหรือครับ"
ผมตอบขอบคุณ ด้วยความรู้สึกเต็มตื้นในความห่วงใยของเขา
นี่แหละ เพื่อนของผม.
(ยังมีต่อ)
นิทานชาวสวน ๒๗ มิ.ย.๕๖
ผมมาหาเพื่อนในถนน (๕)
เพื่อนรีบไปเมื่อเวลาห้าโมงเกือบครึ่ง หลังจากที่เบียร์หมดไปสามขวดในเวลาเพียงสี่สิบนาที เขาสั่งขวดที่สี่มาวางไว้ให้ผม แล้วก็หายไปอย่างรวดเร็วเหมือนขามา ผมสั่งหมูผัดกระเพราราดข้าวมาปูพื้น ค่อยละเลียดกินไปทีละนิด อ่านหนังสือพิมพ์ครบถ้วนทุกคอลัมน์อย่างที่ไม่เคยอ่านละเอียดถึงขนาดนี้ อ่านจนกระทั่งโฆษณาสินค้า เพื่อนของผมก็กลับมา เมื่อเวลาบ่ายโมงครึ่ง พร้อมกับเพื่อนครูอีกคนหนึ่ง เมื่อได้รินแก้วแรกในรอบสอง เพื่อต้อนรับเพื่อนของเพื่อนเข้าสู่วงโคจรแล้ว ก็คุยกันเรื่อยไปทุกเรื่องตามแต่จะนึกได้ โดยผมขอปวารณาไว้ว่าจะกลับไปขึ้นรถเมล์เบอร์เดียวกับขามา ก่อนที่ท้องฟ้าจะมืด
เรานั่งคุยกันอย่างเพลิดเพลินไม่นานนักในความรู้สึกของผม บริกรสาวก็ยกเบียร์ขวดที่สิบเอ็ดมาตั้งแล้วบอกว่า เบียร์หมดแล้วค่ะ ผมตกใจรีบหันไปดูท้องฟ้าปรากฏว่ายังสว่างอยู่ แต่นาฬิกาพกในกระเป๋าถือบอกเวลา จะย่ำค่ำแล้ว ข้อสำคัญเบียร์ก็หมดร้านแล้ว เพื่อนของผมพยายามคาดคั้นว่าหมดจริง ๆ หรือ เด็กตัวโตนั้นบอกว่ายี่ห้อนี้หมดแล้ว มีแต่พวกขวดสีเขียว พอเพื่อนอ้าปากยังไม่ทันจะสั่งให้เอามา ผมก็ลุกขึ้นยืนยกมือไหว้ลาอย่างเด็ดขาดไม่ยอมฟังข้อแม้ใดใดทั้งสิ้น
เพื่อนจึงต้องขับรถคันเก่านั้น มาส่งผมที่ป้ายรถเมล์ซึ่งมีผู้คนยืนคอยอยู่มากมาย แล้วก็กลับไปสมทบกับเพื่อนครู ที่ยังนั่งคอยอยู่พร้อมกับแกล้มที่เหลือ ผมรอรถไม่นานก็ได้ขึ้นไปนั่งเก้าอี้ว่าง แม้จะมีผู้โดยสารมากกว่าเมื่อเช้าก็ตาม รถแล่นมาตามถนนพหลโยธินอย่างแช่มช้า จนถึงแยกเกษตรก็ต้องเลี้ยวซ้ายไปทางถนนใหม่ ผ่านแท่งคอนกรีตใหญ่โตสำหรับจะก่อสร้างอะไรอีกก็ไม่รู้ นับได้ห้าสิบกว่าต้นจึงวนกลับมาที่แยกเก่า กว่าจะหลุดพ้นไฟแดงไปได้ต้องใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง แล้วก็แล่นย้อนทางเดิมมาที่มาเมื่อเช้า ด้วยความเร็วเพียงครึ่งเดียว จนขึ้นทางด่วนงามวงศ์วาน จึงแล่นได้รวดเร็วปานลมพัด และจอดให้ผมลงที่ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อเวลาประมาณสองทุ่ม
กระเพาะของผมร้องอุทธรณ์ ให้ผมแวะเข้าไปกินข้าวราดลาบเป็ดเสียหนึ่งจาน กลั้วคออันฝืดแห้งด้วยเบียร์อีกหนึ่งกระป๋อง แล้วจึงกลับมาถึงบ้านอย่างสบาย สดชื่นแจ่มใสทั้งกายวาจาใจ โดยใช้เวลาไปกลับทั้งหมด ในรายการนี้ร่วมสิบสองชั่วโมง
ผมเพิ่งนึกได้ว่าเพื่อนให้หนังสือของเขามาเป็นที่ระลึกเล่มหนึ่ง จึงเอาออกมาจากถุงดูชื่อเรื่องที่หน้าปก มีข้อความว่า
วรรณกรรมเพื่อเยาวชน
ส่งเสริมปีแห่งการอ่าน
แมวปิลาร์
เรื่องแมวแมว
เขียนโดยคนรักแมว เพื่อคนรักแมว
GTW
ทันใดนั้นก็มีเสียงกริ่งโทรศัพท์ดังระรัวขึ้น ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณสามทุ่มครึ่ง ผมยกหูฟังขึ้น ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยมาตลอดวัน
"คุณเจียวต้ายถึงบ้านเรีนยบร้อยแล้วหรือครับ"
ผมตอบขอบคุณ ด้วยความรู้สึกเต็มตื้นในความห่วงใยของเขา
นี่แหละ เพื่อนของผม.
(ยังมีต่อ)