คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ถ้าดูตามกรรมสิทธิ์ ฝ่าย หญิงได้เปรียบครับ เพราะรถชื่อเป็นของฝ่ายหญิง เขาสามารถแจ้งความรถหายได้ครับ
แต่ฝ่่ายชายได้เปรียบในกรณี แต่งงานจดทะเบียน แล้วฝ่ายหญิงนอกใจ หรือมีชู้ ก็สามารถฟ้องได้ครับ
ทางที่ดี เจรจากันก่อนครับ ถ้าไม่จบ ก็ขู่ไปว่า ถ้าไม่เซ็นต์โอนรถให้ ก็บอกจะฟ้องหย่าและฟ้องกรณีมีชู้ได้ครับ รวมถึงค่าเลี้ยงดูบุตร
แต่ความจริง ตอนนี้ปัญหาติดที่รถ
แต่น่าจะยื่นทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ก่อนตั้งแต่ที่แรก เมื่อรู้ว่าเขามีชู้ ซึ่งสามารถทำได้
แต่ตอนนี้คือ ทางออกครับ
1. ถ้าฝ่าย ช ไม่ผ่อน รถต่อ เราก็ปล่อยให้ไฟแนนซ์ ติดตามท้วงถามหนี้สิน ก็จะตามไปทางฝ่าย ญ ถ้าไม่จ่าย 1-3เดือน ก็จะทำให้ฝ่าย ญ ติดเครดิตบรูโร ฝ่าย ญ ก็จะยินดีเจรจากับเรา เพื่อให้รับรถคันนี้ไปเป็นภาระต่อแทน โดยการขอเปลี่ยนกรรมสิทธิ์(บังคับทางอ้อม)
2. จากกรณีแรก ถ้าหากฝ่ายหญิงไม่ผ่อนต่อ ก็จะเกิดปัญหาเรื่องเครดิตบรูโร แถมไฟแนนซ์ฟ้องศาล ถึงขั้นบังคับคดียึดรถ บังคับคดีเป็นคดีแพ่ง อายัดเงินเดือนหรือทรัพย์สิน ฝ่ายหญิง เมื่อฝ่ายหญิงถูกบีบจากไฟแนนซ์ ก็จะหาทางออก โดยต้องรีบตัดภาระตรงนี้ คือหนึ่ง โอนสิทธิ์ให้ฝ่ายชาย หรือทำเป็นซื้อขายรถมือ2ไป ตอนนี้ยังมีเวลา เพราะยัง ติดอีก 4งวด แต่ 4 งวดเงินอาจจะไม่เยอะ ฝ่ายหญิงอาจจะมีเงินปิดบัญชีเองได้
แต่ฝ่่ายชายได้เปรียบในกรณี แต่งงานจดทะเบียน แล้วฝ่ายหญิงนอกใจ หรือมีชู้ ก็สามารถฟ้องได้ครับ
ทางที่ดี เจรจากันก่อนครับ ถ้าไม่จบ ก็ขู่ไปว่า ถ้าไม่เซ็นต์โอนรถให้ ก็บอกจะฟ้องหย่าและฟ้องกรณีมีชู้ได้ครับ รวมถึงค่าเลี้ยงดูบุตร
แต่ความจริง ตอนนี้ปัญหาติดที่รถ
แต่น่าจะยื่นทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ก่อนตั้งแต่ที่แรก เมื่อรู้ว่าเขามีชู้ ซึ่งสามารถทำได้
แต่ตอนนี้คือ ทางออกครับ
1. ถ้าฝ่าย ช ไม่ผ่อน รถต่อ เราก็ปล่อยให้ไฟแนนซ์ ติดตามท้วงถามหนี้สิน ก็จะตามไปทางฝ่าย ญ ถ้าไม่จ่าย 1-3เดือน ก็จะทำให้ฝ่าย ญ ติดเครดิตบรูโร ฝ่าย ญ ก็จะยินดีเจรจากับเรา เพื่อให้รับรถคันนี้ไปเป็นภาระต่อแทน โดยการขอเปลี่ยนกรรมสิทธิ์(บังคับทางอ้อม)
2. จากกรณีแรก ถ้าหากฝ่ายหญิงไม่ผ่อนต่อ ก็จะเกิดปัญหาเรื่องเครดิตบรูโร แถมไฟแนนซ์ฟ้องศาล ถึงขั้นบังคับคดียึดรถ บังคับคดีเป็นคดีแพ่ง อายัดเงินเดือนหรือทรัพย์สิน ฝ่ายหญิง เมื่อฝ่ายหญิงถูกบีบจากไฟแนนซ์ ก็จะหาทางออก โดยต้องรีบตัดภาระตรงนี้ คือหนึ่ง โอนสิทธิ์ให้ฝ่ายชาย หรือทำเป็นซื้อขายรถมือ2ไป ตอนนี้ยังมีเวลา เพราะยัง ติดอีก 4งวด แต่ 4 งวดเงินอาจจะไม่เยอะ ฝ่ายหญิงอาจจะมีเงินปิดบัญชีเองได้
แสดงความคิดเห็น
ถามเรื่องความเป็นเจ้าของ ของรถที่ผ่อนไม่หมด การโอน จากคู่สมรส (ที่ภายหลังนอกใจ)
ชายหญิงจดทะเบียนสมรสกัน มีลูกกัน ต่อมา..ซื้อรถโดยให้เป็นชื่อฝ่ายหญิงแล้วนำเข้าไฟแนนซ์ โดยฝ่ายชายให้ฝ่ายหญิงจัดการเรื่องชำระค่างวด โดยนำเงินมาจากบัญชีเงินเดือนของฝ่ายชายนั่นแหละ ( ให้เมียถืิอบัตรเอทีเอ็มค่ะ) เค้าทำงานกันอยู่คนละจังหวัดโดยรถอยู่ที่ฝ่ายชายตลอด
ต่อมา ระหองระแหง ฝ่ายหญิงขอให้ห่างกัน แต่ไม่ได้บอกเลิก ฝ่ายชายก็คิดแค่ห่างกันจริงๆ แต่ฝ่ายหญิงแอบคบชายอื่นและตั้งท้อง ทำให้จบกันโดยปริยาย ฝ่ายชายไม่ส่งเงินให้อีกต่อไปและส่งรถต่อเองผ่านร้านสะดวกซื้อ เก็บหลักฐานการจ่ายได้ประมาณ 10 ใบ
ฝ่ายหญิงแจ้งว่า ถ้าผ่อนหมดจะโอนรถให้เอง (ระหว่างนี้เคยขอให้เซ็นใบมอบอำนาจเกี่ยวกับการโอนรถให้ ฝ่ายชายจะได้ทำเองตอนผ่อนหมด ญ ไม่ยอมค่ะ) เราก็ไม่รู้ว่าเค้าจะยอมโอนให้จริงมั้ย คือขอรถคันนี้ให้กับลูกเพราะฝ่ายชายและแม่ย่าเป็นฝ่ายเลี้ยงดูมาตลอด
ตอนนี้ฝ่ายหญิงมีเงื่อนไขใหม่อีก ว่าผ่อนหมดให้เอาเข้าไฟแนนซ์ต่อ เพราะฝ่ายหญิงต้องการใช้เงิน แล้วเค้าจะผ่อนค่างวดต่อเอง ถ้าไม่ทำ จะไม่ยอมโอนรถให้เป็นชื่อฝ่ายชาย (รถเหลืออีก 4 งวดค่ะ อุตส่าห์ผ่อนมาตั้ง 5 ปี)
รบกวนผู้รู้ให้คำแนะนำฝ่ายชายทีค่ะ ว่าตอนนี้หรือในอนาคตควรทำอะไร อย่างไรได้บ้าง
มีคำถามที่สงสัยจากที่ลองคิดเองเช่น
-ถ้าเราผ่อนส่งต่อไปจนหมด ไม่โอนอย่าโอน แต่รถอยู่ที่เรา เค้าจะทำอะไรได้มั้ย แจ้งความเราว่าอะไรได้ หรือคิดจะเอารถเข้าไฟแนนซ์เองโดยไม่ได้ตรวจสภาพ (เพราะเค้ามีแค่เล่ม) จะได้หรือเปล่า
-ถ้ามีคดีความกัน เราจะมีภาษีมากหรือน้อยกว่ามั้ย ในการที่เค้ายังไม่หย่าแต่ไปตั้งท้องกับชายอื่น
ขอบคุณที่มาช่วยตอบนะคะ ตอนนี้พี่ชายเครียดมาก ทั้งเรื่องรถและความรักที่ยังลืมเค้าไม่ได้