ขอบอกว่ามีแต่น้ำกะเนื้อน่ะค่ะ กระทู้นี้ ไม่มีรูปประกอบ อายคนรู้จักค่ะ ทุกวันนี้ก็สวยตั้งแต่ท้ายซอยยันหัวซอย เพราะในซอยไม่มีผู้หญิงเลย--*
ด้วยกรรมพันธุ์ของกขกท. เป็นครอบครัวที่หน้าใสไร้สิวมาตลอด ตั้งแต่พ่อ แม่ มายันพี่ๆ รวมถึงเราด้วย ผ่านช่วงเวลากระโดดยาง เล่นหมากเก็บ จับกลุ่มนินทาเพื่อนมาด้วยหน้าแฉล้มมาตลอด
เป็นสิวเหรอ เชอะ สองเม็ดต่อเดือนเท่านั้นย่ะ พอเป็นก็หายเอง ยา หรือ หมออะไร ไม่ต้องทาต้องหา เด๋วพอหายรอยก็ค่อยจางไป(อิจฉาใช่ไหมหล่ะ โฮะๆ)
เหมือนเบื้องบนจะรู้ว่านังสร้อยฟ้านางนี้เกิดความผยอง เพราะหล่อนใช้ชีวิตกะหน้าใสแบบไร้รอย ไร้สิว มาจนถึงมหาวิทยาลัยปีสี่ เบื้องบนจึงประทานจุดเปลี่ยนมาให้ชีวิตดาว ดาวจะไม่ทน
เพราะมีการวิจัยศึกษานอกสถานที่ ซึ่งกลุ่มเราต้องไปทำงานไกลถึงจังหวัดพังงา เกี่ยวกับความขัดแย้งของผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน หลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิ (เรื่องนี้ค่อนข้างอันตราย มีปืน มีองค์กรต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย ไว้มีโอกาสจะมาเล่าให้ฟังน่ะค่ะ) หลังจากทำงานเสร็จเรียบร้อย ก็ไปเที่ยว โดยที่พักที่เราอยู่ มีสระว่ายน้ำ เราก็แต่งหน้าแต่ลงสระน้ำไป เพราะไม่ได้เตรียมตัว ดำผุดดำว่าย เด๋วฟรีสไตล์ เด๋วท่ากบ งดงามเชียว ไม่รู้เลยว่าหายนะจะมาเยือน
เราไม่แน่ใจว่าสาเหตุชัดๆคืออะไร แต่ปัจจัยที่คิดว่ามีส่วนคือ
1.แต่งหน้าลงเล่นน้ำสระคลอรีน หรือ เพราะคลอรีน เพราะเราว่ายน้ำไม่เก่ง และไม่ได้ลงสระแบบนี้มานานมาก
2.เพราะน้ำประปาที่จังหวัดพังงา (พังงาที่ไหน พังหน้ากรูเนี้ยะแหละ อุ๊บส์ขออภัยในคำไม่สุภาพค่ะ)
แต่หลังจากกลับมาคราวนั้นชีวิตสร้อยฟ้าก็ผกผัน กลายเป็นมารตีหลังจากโดนสาดน้ำกรด หน้าเรามีสิวขึ้นทีละเม็ด เป็นสิวอักเสบเม็ดใหญ่ แต่ด้วยความชะล่าใจ เพราะจากคนที่ไม่มีสิว หรือสิวหายเอง จึงไม่ได้ทำการรักษา หรือระมัดระวัง จนมารู้ตัวอีกที คือคนรู้จักทัก หน้าเริ่มเละ ลูบหน้าก็มีแต่เป็นไตๆ ใต้ผิวหนัง สิวอักเสบเม็ดใหญ่เต็มหน้า ทำไงดีๆ เครียดมาก เราเข้าใจหัวอกคนเป็นสิวเลย ว่ายิ่งคนทัก ยิ่งเครียด ยิ่งไม่อยากไปไหน ไปทำอะไร ไปเจอใคร
เราจึงเริ่มกระบวนการรักษาโดยอาศัยการสนับสนุนเรื่องสตางค์มาจากมารดาบังเกิดเกล้า เริ่มเข้าไปรักษาที่คลิกนิก นตพ. ประมาณ 2 คอร์ส หน้าเริ่มดีขึ้น แต่ยังไม่หายขาด
คือเราสังเกตตัวเองว่าหลังจากเป็นสิวแบบแพ้หนักๆมาขนาดนี้ หน้าเราไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกต่อไป เรารักษาคลินิกหมอทั้ง นตพ พกษ พฤษ หรือ แพเฉยๆ ทั้งเลเซอร์ ฉีด กด บีบ แต่หน้าเราถ้าไม่ได้ไปหาหมอ ก็จะกลับมาเป็นอีก
จนเราเริ่มท้อใจ เพราะ เวลาผ่านไปตั้งแต่ปีสี่จนทำงานได้สองปี เงินที่ใช้รักษาก็เงินตัวเอง รู้สึกเห็นคุณค่าเงินมากขึ้น เข้าคลินิกครั้งหนึ่งแพงๆ พันกว่าบาทขึ้นไป คิดในใจว่าถ้าชั้นไม่เอาเงินมารักษาสิว ชั้นอาจจะรวยเทียบเคียงภรรยา บิลเกตส์ก็เป็นได้
จนมาคุยกับเพื่อน มาปรึกษา และตอนนั้น ตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต ชั้นจะดูแลหน้าชั้นเอง ชั้นจะไม่พึ่งพา คลินิก หรือ สารเคมีต่างๆเหล่านั้น(บอกไปตรงๆ เลยก็ได้ว่าเงินหมด--*)เอาหล่ะ สูงสุดสู่สามัญก็ได้ ใช้สมุนไพร นี่แหละ
สภาพหน้าช่วงนี้คือมีรอยดำจากสิว มีสิวขึ้นบ้าง ส่วนใหญ่ที่เราเป็นคือสิวอักเสบเม็ดใหญ่ แต่หน้าเริ่มดีขึ้น เราก็ใช้เจลล้างหน้าของคลินิก พวกทาก่อนล้างหน้า และ CM โลชั่น แต่ใช้บำรุงคือ ANR ซึ่งเพื่อนเราใช้ เพื่อนในพันทิพใช้ บอกว่าดี เรากัดฟันซื้อ เพราะสำหรับเราขวดนึงเกือบสี่พันถือว่าแพง แต่เพื่อนคนหนึ่งพูดให้ฉุกใจคิดได้ว่า “ถ้าเป็นเครื่องสำอางเราไม่ค่อยลงทุนน่ะ แต่ถ้าเป็นครีมบำรุงหน้า เราลงทุนอะ เพราะมีอยู่หน้าเดียว” บระเจ้า คำพูดสวยมากๆ กระชากสติเลย ตอนนั้นจึงหันมาใช้ ANR ประกอบกับยาหมอบางตัว พวกทาก่อนล้างหน้า หันมาออกกำลัง หน้าเริ่มดีขึ้นๆ รอยเริ่มจาง และหลังจากไม่ได้หาหมอ รู้สึกว่าตัวเองหน้าแข็งแรงขึ้น สิวไม่ขึ้นง่าย เพราะไม่ได้เลเซอร์
ช่วงนั้นเริ่มพึ่งพาแต่สมุนไพรของดีของไทย แม่ใช้แช่มะขามเปียก แช่ไปเอามาโปะหน้าไป แล้วเราได้อ่านจากในเครื่องแป้งนี่แหละว่า ถ้าเป็นสิว นี่สิ ตัวนี่เลย โบกปุ๊ป สิวแห้ง ยังกะเอาคอนกรีตทาบหน้า ผงพิเศษ ตราร่มชูชีพ ผ่างๆ ตัวเด็ด เจ้าดังมาแล้ว
พอสิวอักเสบขึ้น หนองขึ้นใช่ไหม โหะๆ ผงพิเศษ โบกสะเลย เอาแบบให้หายใจไม่ออก ตื่นเช้ามา เอ๊ะ ทำไมเม็ดใหญ่ขึ้น ดื้อด้านใช่ไหม เอา โบกอีก พอทาทั่วหน้า แค่สอง-สามวันเท่านั้น งานเข้าครับพี่น้อง หน้าแหก คราวนี้ยิ่งกว่าครั้งก่อน สิวเม็ดใหญ่มาก อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนว่าในสิวเม็ดใหญ่เม็ดหนึ่ง มีครอบครัวเล็กๆ พ่อแม่ลูก กระจุกกันอยู่ เอาแล้วชั้น ทำอย่าไรดี
ไม่เป็นไรเอาใหม่ ผ่านมันมาแล้ว ก็ต้องผ่านมาได้
คราวนี้เราหันมาใช้
1.Acne Acid ตัวล้างหน้า สูตรสีแดงที่เครื่องแป้งแนะนำ
2.ทาก่อนล้างหน้าเพื่อละลายสิว
3.ทา CM โลชั่น
4.ทา ANR
5.ทา scar gel เพื่อช่วยเรื่องรอย
6.ถ้าช่วงกลางวัน จะทาครีมกันแดด spectraban
และสำคัญมาก ล้างหน้าหรือเช็ดเครื่องสำอางให้สะอาด
โดยสิ่งที่เราเลือกมาใช้กับหน้าเรา เราอ่านมาจากการรักษาสิวของคุณสายป่าน และหาข้อมูลในพันทิพ นำมาประยุกต์ใช้กับตัวเอง ตัวยูเซอรีนแต้มสิวที่เป็นคอนซีลเลอร์ เราอยากใช้ แต่ไม่กล้า เพราะ มีคนแพ้เยอะ เราจึงต้องยั้งตัวเองไม่ให้ซื้อ
ส่วนรอยเราใช้มะขามเปียกมาทาๆทิ้งไว้ ได้ไอเดียมาจากคุณสายป่านเช่นกัน ขอบพระคุณมากค่ะ
ตอนนี้หน้าเราก็ยังไม่ได้ใส ไร้สิว น่ะค่ะ ยังพอมีขึ้น แต่ปัญหาหนักสุดคือรอย แต่ที่เรามาเขียน เพราะเราอยากบอกว่า
1.เราเข้าใจคนเป็นสิวมากๆ ว่าไม่มั่นใจแค่ไหน
2.เราว่าคนเราใช้แต่ละอย่างดี ไม่ดี ไม่เหมือนกัน ควรหาข้อมูลมากๆ และใช้ด้วยความระมัดระวัง ไม่ใช่ใครแนะนำอะไรก็ซื้อตามน่ะค่ะ อย่างเราคิดว่าผงพิเศษ เป็นพวกสมุนไพรอะไรประมาณนี้ ไม่น่าจะแพ้ ปรากฎพอมาหาข้อมูลหลังใช้แล้วแพ้ ปรากฎว่าคนใช้แล้วแพ้เยอะมากเลย
3.ส่วนตัวแล้วเราว่าการรักษากับคุณหมอ เห็นผลเร็ว แต่ สำหรับเรารู้สึกว่าไม่ยั่งยืน และรู้สึกว่าหน้าเราบางขึ้นมากๆ เราจึงคิดว่าควรพิจารณาให้ดี และควรช่วยเหลือตัวเองในระดับหนึ่งด้วยน่ะค่ะ
อีกประการหนึ่งที่ฝากคือ เราไม่เคยมาตั้งกระทู้ว่าเป็นสิวทำไงดี เป็นรอยทำไงดี เพราะเราว่าโชคดีได้รู้จักโต๊ะเครื่องแป้ง เราใช้ smart search ค้นหาก่อน และหาข้อมูลไปเรื่อยๆ เพราะมีคนมาตั้งกระทู้รีวิวไว้มากมายอยู่แล้ว
สุดท้ายนี้อยากบอกว่าเราตั้งใจมาตั้งกระทู้สั้นๆ แต่เล่าไปเล่ามา มันยาวมากกก แต่เราไม่รู้จะตัดตรงไหน เลยไม่ตัดเลย ต้องขออภัยทุกท่านที่กระทู้มีแต่ตัวอักษร ยาวมาก ไม่น่าอ่าน แต่ว่าเราตั้งใจพิมพ์แล้ว เลยไหนๆก็ไหนๆ ไม่อยากลบ ลงให้หมดไปเลย แหะๆ
เป็นกำลังใจให้คนเป็นสิวทุกท่านน่ะค่ะ ขอให้ผ่านมันไปให้ได้^__^
ผงพิเศษ ท่านวิเศษ จากใดมา ทำข้าหน้าแหกได้
ด้วยกรรมพันธุ์ของกขกท. เป็นครอบครัวที่หน้าใสไร้สิวมาตลอด ตั้งแต่พ่อ แม่ มายันพี่ๆ รวมถึงเราด้วย ผ่านช่วงเวลากระโดดยาง เล่นหมากเก็บ จับกลุ่มนินทาเพื่อนมาด้วยหน้าแฉล้มมาตลอด
เป็นสิวเหรอ เชอะ สองเม็ดต่อเดือนเท่านั้นย่ะ พอเป็นก็หายเอง ยา หรือ หมออะไร ไม่ต้องทาต้องหา เด๋วพอหายรอยก็ค่อยจางไป(อิจฉาใช่ไหมหล่ะ โฮะๆ)
เหมือนเบื้องบนจะรู้ว่านังสร้อยฟ้านางนี้เกิดความผยอง เพราะหล่อนใช้ชีวิตกะหน้าใสแบบไร้รอย ไร้สิว มาจนถึงมหาวิทยาลัยปีสี่ เบื้องบนจึงประทานจุดเปลี่ยนมาให้ชีวิตดาว ดาวจะไม่ทน
เพราะมีการวิจัยศึกษานอกสถานที่ ซึ่งกลุ่มเราต้องไปทำงานไกลถึงจังหวัดพังงา เกี่ยวกับความขัดแย้งของผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน หลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิ (เรื่องนี้ค่อนข้างอันตราย มีปืน มีองค์กรต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย ไว้มีโอกาสจะมาเล่าให้ฟังน่ะค่ะ) หลังจากทำงานเสร็จเรียบร้อย ก็ไปเที่ยว โดยที่พักที่เราอยู่ มีสระว่ายน้ำ เราก็แต่งหน้าแต่ลงสระน้ำไป เพราะไม่ได้เตรียมตัว ดำผุดดำว่าย เด๋วฟรีสไตล์ เด๋วท่ากบ งดงามเชียว ไม่รู้เลยว่าหายนะจะมาเยือน
เราไม่แน่ใจว่าสาเหตุชัดๆคืออะไร แต่ปัจจัยที่คิดว่ามีส่วนคือ
1.แต่งหน้าลงเล่นน้ำสระคลอรีน หรือ เพราะคลอรีน เพราะเราว่ายน้ำไม่เก่ง และไม่ได้ลงสระแบบนี้มานานมาก
2.เพราะน้ำประปาที่จังหวัดพังงา (พังงาที่ไหน พังหน้ากรูเนี้ยะแหละ อุ๊บส์ขออภัยในคำไม่สุภาพค่ะ)
แต่หลังจากกลับมาคราวนั้นชีวิตสร้อยฟ้าก็ผกผัน กลายเป็นมารตีหลังจากโดนสาดน้ำกรด หน้าเรามีสิวขึ้นทีละเม็ด เป็นสิวอักเสบเม็ดใหญ่ แต่ด้วยความชะล่าใจ เพราะจากคนที่ไม่มีสิว หรือสิวหายเอง จึงไม่ได้ทำการรักษา หรือระมัดระวัง จนมารู้ตัวอีกที คือคนรู้จักทัก หน้าเริ่มเละ ลูบหน้าก็มีแต่เป็นไตๆ ใต้ผิวหนัง สิวอักเสบเม็ดใหญ่เต็มหน้า ทำไงดีๆ เครียดมาก เราเข้าใจหัวอกคนเป็นสิวเลย ว่ายิ่งคนทัก ยิ่งเครียด ยิ่งไม่อยากไปไหน ไปทำอะไร ไปเจอใคร
เราจึงเริ่มกระบวนการรักษาโดยอาศัยการสนับสนุนเรื่องสตางค์มาจากมารดาบังเกิดเกล้า เริ่มเข้าไปรักษาที่คลิกนิก นตพ. ประมาณ 2 คอร์ส หน้าเริ่มดีขึ้น แต่ยังไม่หายขาด
คือเราสังเกตตัวเองว่าหลังจากเป็นสิวแบบแพ้หนักๆมาขนาดนี้ หน้าเราไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกต่อไป เรารักษาคลินิกหมอทั้ง นตพ พกษ พฤษ หรือ แพเฉยๆ ทั้งเลเซอร์ ฉีด กด บีบ แต่หน้าเราถ้าไม่ได้ไปหาหมอ ก็จะกลับมาเป็นอีก
จนเราเริ่มท้อใจ เพราะ เวลาผ่านไปตั้งแต่ปีสี่จนทำงานได้สองปี เงินที่ใช้รักษาก็เงินตัวเอง รู้สึกเห็นคุณค่าเงินมากขึ้น เข้าคลินิกครั้งหนึ่งแพงๆ พันกว่าบาทขึ้นไป คิดในใจว่าถ้าชั้นไม่เอาเงินมารักษาสิว ชั้นอาจจะรวยเทียบเคียงภรรยา บิลเกตส์ก็เป็นได้
จนมาคุยกับเพื่อน มาปรึกษา และตอนนั้น ตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต ชั้นจะดูแลหน้าชั้นเอง ชั้นจะไม่พึ่งพา คลินิก หรือ สารเคมีต่างๆเหล่านั้น(บอกไปตรงๆ เลยก็ได้ว่าเงินหมด--*)เอาหล่ะ สูงสุดสู่สามัญก็ได้ ใช้สมุนไพร นี่แหละ
สภาพหน้าช่วงนี้คือมีรอยดำจากสิว มีสิวขึ้นบ้าง ส่วนใหญ่ที่เราเป็นคือสิวอักเสบเม็ดใหญ่ แต่หน้าเริ่มดีขึ้น เราก็ใช้เจลล้างหน้าของคลินิก พวกทาก่อนล้างหน้า และ CM โลชั่น แต่ใช้บำรุงคือ ANR ซึ่งเพื่อนเราใช้ เพื่อนในพันทิพใช้ บอกว่าดี เรากัดฟันซื้อ เพราะสำหรับเราขวดนึงเกือบสี่พันถือว่าแพง แต่เพื่อนคนหนึ่งพูดให้ฉุกใจคิดได้ว่า “ถ้าเป็นเครื่องสำอางเราไม่ค่อยลงทุนน่ะ แต่ถ้าเป็นครีมบำรุงหน้า เราลงทุนอะ เพราะมีอยู่หน้าเดียว” บระเจ้า คำพูดสวยมากๆ กระชากสติเลย ตอนนั้นจึงหันมาใช้ ANR ประกอบกับยาหมอบางตัว พวกทาก่อนล้างหน้า หันมาออกกำลัง หน้าเริ่มดีขึ้นๆ รอยเริ่มจาง และหลังจากไม่ได้หาหมอ รู้สึกว่าตัวเองหน้าแข็งแรงขึ้น สิวไม่ขึ้นง่าย เพราะไม่ได้เลเซอร์
ช่วงนั้นเริ่มพึ่งพาแต่สมุนไพรของดีของไทย แม่ใช้แช่มะขามเปียก แช่ไปเอามาโปะหน้าไป แล้วเราได้อ่านจากในเครื่องแป้งนี่แหละว่า ถ้าเป็นสิว นี่สิ ตัวนี่เลย โบกปุ๊ป สิวแห้ง ยังกะเอาคอนกรีตทาบหน้า ผงพิเศษ ตราร่มชูชีพ ผ่างๆ ตัวเด็ด เจ้าดังมาแล้ว
พอสิวอักเสบขึ้น หนองขึ้นใช่ไหม โหะๆ ผงพิเศษ โบกสะเลย เอาแบบให้หายใจไม่ออก ตื่นเช้ามา เอ๊ะ ทำไมเม็ดใหญ่ขึ้น ดื้อด้านใช่ไหม เอา โบกอีก พอทาทั่วหน้า แค่สอง-สามวันเท่านั้น งานเข้าครับพี่น้อง หน้าแหก คราวนี้ยิ่งกว่าครั้งก่อน สิวเม็ดใหญ่มาก อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนว่าในสิวเม็ดใหญ่เม็ดหนึ่ง มีครอบครัวเล็กๆ พ่อแม่ลูก กระจุกกันอยู่ เอาแล้วชั้น ทำอย่าไรดี
ไม่เป็นไรเอาใหม่ ผ่านมันมาแล้ว ก็ต้องผ่านมาได้
คราวนี้เราหันมาใช้
1.Acne Acid ตัวล้างหน้า สูตรสีแดงที่เครื่องแป้งแนะนำ
2.ทาก่อนล้างหน้าเพื่อละลายสิว
3.ทา CM โลชั่น
4.ทา ANR
5.ทา scar gel เพื่อช่วยเรื่องรอย
6.ถ้าช่วงกลางวัน จะทาครีมกันแดด spectraban
และสำคัญมาก ล้างหน้าหรือเช็ดเครื่องสำอางให้สะอาด
โดยสิ่งที่เราเลือกมาใช้กับหน้าเรา เราอ่านมาจากการรักษาสิวของคุณสายป่าน และหาข้อมูลในพันทิพ นำมาประยุกต์ใช้กับตัวเอง ตัวยูเซอรีนแต้มสิวที่เป็นคอนซีลเลอร์ เราอยากใช้ แต่ไม่กล้า เพราะ มีคนแพ้เยอะ เราจึงต้องยั้งตัวเองไม่ให้ซื้อ
ส่วนรอยเราใช้มะขามเปียกมาทาๆทิ้งไว้ ได้ไอเดียมาจากคุณสายป่านเช่นกัน ขอบพระคุณมากค่ะ
ตอนนี้หน้าเราก็ยังไม่ได้ใส ไร้สิว น่ะค่ะ ยังพอมีขึ้น แต่ปัญหาหนักสุดคือรอย แต่ที่เรามาเขียน เพราะเราอยากบอกว่า
1.เราเข้าใจคนเป็นสิวมากๆ ว่าไม่มั่นใจแค่ไหน
2.เราว่าคนเราใช้แต่ละอย่างดี ไม่ดี ไม่เหมือนกัน ควรหาข้อมูลมากๆ และใช้ด้วยความระมัดระวัง ไม่ใช่ใครแนะนำอะไรก็ซื้อตามน่ะค่ะ อย่างเราคิดว่าผงพิเศษ เป็นพวกสมุนไพรอะไรประมาณนี้ ไม่น่าจะแพ้ ปรากฎพอมาหาข้อมูลหลังใช้แล้วแพ้ ปรากฎว่าคนใช้แล้วแพ้เยอะมากเลย
3.ส่วนตัวแล้วเราว่าการรักษากับคุณหมอ เห็นผลเร็ว แต่ สำหรับเรารู้สึกว่าไม่ยั่งยืน และรู้สึกว่าหน้าเราบางขึ้นมากๆ เราจึงคิดว่าควรพิจารณาให้ดี และควรช่วยเหลือตัวเองในระดับหนึ่งด้วยน่ะค่ะ
อีกประการหนึ่งที่ฝากคือ เราไม่เคยมาตั้งกระทู้ว่าเป็นสิวทำไงดี เป็นรอยทำไงดี เพราะเราว่าโชคดีได้รู้จักโต๊ะเครื่องแป้ง เราใช้ smart search ค้นหาก่อน และหาข้อมูลไปเรื่อยๆ เพราะมีคนมาตั้งกระทู้รีวิวไว้มากมายอยู่แล้ว
สุดท้ายนี้อยากบอกว่าเราตั้งใจมาตั้งกระทู้สั้นๆ แต่เล่าไปเล่ามา มันยาวมากกก แต่เราไม่รู้จะตัดตรงไหน เลยไม่ตัดเลย ต้องขออภัยทุกท่านที่กระทู้มีแต่ตัวอักษร ยาวมาก ไม่น่าอ่าน แต่ว่าเราตั้งใจพิมพ์แล้ว เลยไหนๆก็ไหนๆ ไม่อยากลบ ลงให้หมดไปเลย แหะๆ
เป็นกำลังใจให้คนเป็นสิวทุกท่านน่ะค่ะ ขอให้ผ่านมันไปให้ได้^__^