ในเมื่อไม่รู้จุดต่ำสุดอยู่ไหน ทำไมไม่ซื้อสะสมไปทุกเดือนละครับ

กระทู้คำถาม
สำหรับหุ้นดีๆ ปันผลได้น้ำได้เนื้อ(ก็มีอยู่หลายตัว) ทำไมไม่ลองเปลี่ยนจากการนำเงินเก็บก้อนโต แบ่งทะยอยซื้อสะสมไปทุกเดือนหรือทุกไตรมาสละครับ ไม่ต้องกลัวดอยเพราะ PE ปรับไปตามเราแน่นอน(วิธี Dollar Cost Average นั่นแหละ) ต้นทุนเราก็จะต่ำลงเรื่อยๆ เวลาหุ้นราคาตกเราก็จะได้จำนวนหุ้นเยอะขึ้น เวลาหุ้นขึ้นก็ดีใจได้ทั้งปันผลได้ทั้ง Capital Gain ได้ทั้งขึ้นทั้งร่อง ไม่ต้องมานั่งจ้องอะไรให้มันเครียด
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
ความหมายของคำว่า การลงทุนในหุ้นคือการออมเงิน จริงๆแล้วไม่ใช่คำว่า ออมเงิน ใช้คำผิดนะครับ มันควรจะเป็นการออมหุ้น ซึ่งไม่ใช่ว่า เงินจะอยู่ครบ แต่หุ้นอยู่ครบแน่นอน การลงทุนในหุ้นในลักษณะการออมหุ้น เป็นหลักการที่ผมพยายามทำอยู่ ผมจะไม่สนใจว่า หุ้นจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง จะลงยาวนานขนาดไหน ผมไม่สนใจนะ ตราบใดก็ตามหุ้นที่ผมออม ยังมีเงินปันผลที่ดีสม่ำเสมออยู่ และกิจการไม่มีแนวโน้มว่าจะเจ๊งไปไหน ผมยังออมหุ้นนั้นต่อไป ไม่เคยคิดจะขายหุ้น ผมเคยมีประสบการณ์การถือหุ้นที่ขาดทุน 70-80% มาแล้ว ผมเฉยๆนะ มันเกิดตอนที่ดัชนีลงมา 300 กว่าจุด ผมอยากให้นักลงทุนหน้าใหม่เข้าใจการลงทุนในหุ้นที่ถูกต้อง แต่เรื่องแบบนี้ มันห้ามกันไม่ได้จริงๆ เพราะความจริงมันมีภูมิหลัง ความคิด การศึกษา ฐานะแตกต่างกัน ไม่จำเป็นที่ทุกคนต้องคิดเหมือนกัน ผมลงทุนมานานมากกว่า 10 ปี เชื่อว่าประสบการณ์และแนวคิดเรื่องนี้ผมตกผลึกแล้ว หลักการไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย แต่ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมคนส่วนใหญ่จึงทำไม่ได้ ที่ทำไม่ได้มี 2 อย่าง คือ ไม่อยากทำ กับทำไม่ได้ เพราะบังคับตัวเองให้สงบนิ่งนานๆ ไม่ได้ คำว่านานๆของผม มันไม่ใช่แค่ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี แต่ผมหมายถึงตลอดชีวิตของคุณ หรืออย่างต่ำ 10-15 ปี ผมรู้ว่ามันยาก ถ้าทำได้ คุณจะชนะใจตัวเอง และได้ของขวัญตอบแทนมากมาย ไม่ต้องเชื่อผมหรอก เพราะฉะนั้นเงินที่ใช้ลงทุนนี้ มันต้องเย็นสุดๆ ห้ามใช้มันอย่างต่ำ 10-15 ปีนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่