คืนวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน :
คุณแม่เริ่มปวดท้องราวๆ สองถึงสามทุ่ม ทางเราคิดว่าท้องคงเสีย แต่ปรากฎว่า ไปนั่งๆพยายามถ่าย ก็ไม่เสีย ไปๆมาๆ คุณแม่บอกว่า ปวดท้องมาก ไม่ไหวแล้ว เราเลยส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเวลาเที่ยงคืน45นาที คือ โรงพยาบาลธนบุรี2 ไปถึงเจอหมอเวร ก็ฉีดยา Buscopan ให้คุณแม่ พอกลับไปบ้านคุณแม่เริ่มปวดหนักขึ้น เลยส่งกลับที่เดิม ไปถึงราวๆตี2 กว่าคุณแม่จะได้รับยาบรรเทาอะไรสักอย่าง เนื่องจากปวดหนักมากๆ คุณหมอก็งัวเงียเขียนๆกระดาษอะไรไม่รู้ที่โต๊ะ คุณแม่ก็ร้องโอดครวญ เราก็เร่งให้คุณหมอ คุณหมอกลับพูดว่า พวกคุณนะ กังวลเกินไป กลัวอะไรเกินเหตุ สรุปคุณแม่นอนโอดครวญอยู่บนเตียงICU ได้ฉีดยา Tramal ตอนตี3 แต่ก็ไม่ดีขึ้นเลย นำคุณแม่เข้าห้องพัก และได้รับยาฉีดBuscopan ซ้ำอีกตอนตี4 ซึ่งอะไรก็ไม่ดีขึ้นเลย หมอเวรอีกคนที่ประจำอยู่ชั้นที่ห้องคุณแม่พักพาคุณแม่ไป X-ray และมีความเห็นว่า ลำไส้ใหญ่คุณแม่บวมใหญ่ผิดปกติ ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไร ต้องรอแพทย์เฉพาะทางตอนเช้าวินิจฉัย ซึ่งทางรพ.บอกว่า แพทย์เจ้าของคนไข้ของคุณแม่จะมาตอน6โมงครึ่ง เราก็คิดว่า กว่าจะย้ายไปโรงพยาบาลอื่น ก็คงพอดีกัน ก็เลยคอยดีกว่า ซึ่งคุณแม่ก็ร้องโอดครวญตลอด แต่คุณหมอเวรก็ทำอะไรไม่ได้เลย จนตอน6โมง10นาที ได้รับยาฉีดPethedal อีกครั้ง ตลอดเวลาที่จะได้รับการฉีด เรากังวลถึงOverdose ทุกครั้ง ซึ่งนางพยาบาลบอกว่า คุณหมอวินิจฉัยมาแล้วว่าไม่เป็นอะไร ปรากฎว่า กว่าแพทย์จะมา 7โมง แพทย์ตอนเช้าบอกว่า คุณแม่ไม่ได้เป็นอะไร แค่ลำไส้อักเสบ ลำไส้ไม่ได้ใหญ่อะไร ขนาดของคนเรามันมองเห็นต่างกัน มุมมองคำว่าใหญ่ของคนนึง อาจจะเป็นเล็กของอีกคน หมอก็เลยให้ยาแก้อักเสบ ยาอะไรอีกก็ไม่รู้ เพราะ ตอนนั้นเรารู้สึกว่า อยู่บนมือแพทย์แล้ว คงไม่มีอะไร และ คุณแม่ได้รับยาแก้ปวดตอนหกโมง ก็ดูดีขึ้น ไปๆมาๆ ตอนสายๆกลับปวดขึ้นอีก คราวนี้เป็นหมอเฉพาะทาง ทางด้านลำไส้ขึ้นมา หมอวินิจฉัยว่า ลำไส้แปรปรวนมาก ต้อง CT SCAN เท่านั้น เราก็เลยตกลง ให้คุณแม่ทำ CT SCAN ขอบอกว่า CT SCAN ทรมานมาก ต้องดื่มน้ำยาเยอะมาก ต้องฉีดน้ำเข้ากระแสเลือด โดนสวนทวารอีก ผลออกมา หมอประจำไข้คุณแม่บอกว่า ไม่เป็นอะไรเลย น้ำผ่านในลำไส้ได้หมด ไม่มีทางเป็นลำไส้อุดตันแน่นอน เพราะน้ำที่ให้คุณแม่ดื่มน้ำมีสี และ CT SCAN เห็นสีผ่านลำไส้ได้หมด หมอคาดว่า น่าจะเป็นลำไส้อักเสบมากกว่า เราเห็นว่า เราต้องย้ายโรงพยาบาลแล้วแหละ เพราะ คุณหมอยังดูไม่ค่อยจะมั่นใจ เราจะมั่นใจได้อย่างไร เราตัดสินใจย้ายไปโรงพยาบาลกรุงเทพ
คืนวันเสาร์ที่22 มิถุนายน
พอไปถึงโรงพยาบาลกรุงเทพ ที่โรงพยาบาลธนบุรี2 สร้างปัญหาให้เราทิ้งท้าย ไม่อัดผลข้อมูล รูปภาพอัดใส่ซีดีให้ เนื่องจากเครื่องไรท์ข้อมูลเสีย มาทางนี้จึงต้องX-rayใหม่ทั้งหมด ผลปรากฎว่า คุณหมอฟันธง! ลำไส้อุดตันแน่นอน เพราะ ผลX-ray ลำไส้ใหญ่บวมมาก เชื่อว่าเกิดจากพังผืดที่เคยผ่าตัดลูกๆออกมา เออ เราก็เชื่อว่า คุณแม่ลำไส้อุดตัน ในเมื่อคุณหมอฟันธงซะขนาดนี้ คุณหมอแนะนำให้รักษาโรคด้วยการ สอดสายลงกระเพาะอาหารเพื่อดูดอาหารออกจากกระเพาะทั้งหมด ตอนที่อยู่ที่ห้องICU นางพยาบาลสอดสายลงไปในกระเพาะอาหารแล้วใช้ syringe ขนาดใหญ่ดูดอาหารขึ้นมา ซึ่งเป็นน้ำจากการทำ CT SCAN ล้วนๆ หลังจากนั้นก็ไปต่อด้วยเครื่องดูดต่อที่ห้อง จริงๆมีเคืองโรงพยาบาลกรุงเทพด้วยคะ เครื่องดูดอาหารของโรงพยาบาลดูดไม่มีอะไรขึ้นมาเลย นางพยาบาลคิดว่า คงดูดลมออกมาจากกระเพาะ เพราะคุณหมอก็บอกว่ามีลมอยู่ในกระเพาะ จนกระทั่งผ่านไปอีกวัน คือ เวลา3ทุ่มของวันอาทิตย์ที่ 23 นางพยาบาลมาทำการล้างสาย ด้วยการใช้แรงมือดูด ดูดเหมือนทำที่ห้องICU เนื่องจากสายอุดตัน ต้องทำความสะอาดสายด้วยวิธีนี้ เครื่องถึงเริ่มดูดอะไรออกมาบ้าง เอาง่ายๆ คือ นอนรักษาโรงพยาบาลทั้งวันทั้งคืนแต่เครื่องไม่ได้ทำงาน... ช่างมันก่อนเรื่องนี้ผ่านไปก่อน แต่ที่กังวลคือ ตั้งแต่บ่ายโมงของวันที่23 มิถุนายน จนถึง ณ ตอนนี้เวลา 7 โมงเช้าของวันที่ 24 มิถุนายน คุณแม่ท้องเสีย ถ่ายออกมามีแต่น้ำ ถ่ายทุกๆ 1ชั่วโมง รวมทั้งหมด 17 ครั้ง จนกระทั่งนางพยาบาลถามว่า ไม่ต้องเอาท่อดูดอาหารเสียบไว้ดีไหม เพราะ เดี๋ยวก็ถ่ายอีก...
ตอนนี้ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรดี ...
เพราะ เท่าที่อ่านๆมา ลำไส้อุดตันจะต้องไม่ถ่าย ถ่ายไม่ได้เนื่องจากลำไส้อุดตัน และ ต้องมีอาเจียน ถึงแม้ว่า ตอนที่อยู่โรงพยาบาลธนบุรี2 คุณแม่ก็มีคลื่นไส้บ้างแต่ก็เพียงเล็กน้อย ...
คุณแม่ถ่ายเยอะซะขนาดนี้ 17ครั้ง ภายในเวลา 17 ชั่วโมง ถ่ายทรหดมาก ๆ และคุณแม่ก็ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่คืนวันศุกร์ น้ำเกลือล้วน + น้ำจากCT SCAN เพลียมากเลยคะ...
นางพยาบาลไม่ได้ทำความสะอาดทุกครั้งที่เสียบสายดูดอาหารเข้ากับเครื่องดูดอาหาร ห่วงการติดเชื้อ...
จะหายเลยทันทีก็ต้องผ่าตัด แต่ก็น่ากลัว... กลัวการติดเชื้อ และผ่าตัดทุกครั้งทำให้เกิดผังพืด การผ่าตัดเอาผังพืดออก ก็ยังไงก็ทำให้เกิดพังผืดใหม่ขึ้นอีก และ การผ่าตัดทำให้ลำไส้ทำงานได้ไม่เหมือนเดิม กินอะไรไม่ค่อยได้ เพราะ ผ่าตัดครั้งนี้ จะเป็นการผ่าซ้อนผ่า คือ ผ่าท้องเพื่อไปผ่ามดลูกเอาผังพืดออก
อันที่จริงพึ่งไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลพญาไท2 เมื่อวันอังคารที่ 18มิถุนายน ผ่านมาไม่กี่วันเอง เป็นซะเยอะเลย ตรวจแบบครบองค์ด้วยที่สำคัญ...
มีอะไรแสดงความคิดเห็น หรือ แนะนำ รบกวนแนะนำด้วยนะคะ
คุณแม่อายุ 53 ปีคะ ทางบ้านไม่ได้รวยมาก คุณแม่ทำงานข้าราชการกินเงินเดือนธรรมดา เพียงแต่ว่าคุณพ่อพอมีบ้าง คุณพ่อกับคุณแม่แยกกันอยู่คะ ครั้งนี้เลยใช้เงินคุณพ่อล้วนๆ T^T ตอนนี้คิดถึงประกันสุขภาพขึ้นมาทันที มีประกันสุขภาพอะไรแนะนำ แนะนำได้นะคะ
ขอบพระคุณมากคะ
ทำอย่างไรดี เมื่อหมอทั้งสองโรงพยาบาลวินิจฉัยโรคแตกต่างกันคะ ? อาการคุณแม่แย่ลงเรื่อยๆ
คุณแม่เริ่มปวดท้องราวๆ สองถึงสามทุ่ม ทางเราคิดว่าท้องคงเสีย แต่ปรากฎว่า ไปนั่งๆพยายามถ่าย ก็ไม่เสีย ไปๆมาๆ คุณแม่บอกว่า ปวดท้องมาก ไม่ไหวแล้ว เราเลยส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเวลาเที่ยงคืน45นาที คือ โรงพยาบาลธนบุรี2 ไปถึงเจอหมอเวร ก็ฉีดยา Buscopan ให้คุณแม่ พอกลับไปบ้านคุณแม่เริ่มปวดหนักขึ้น เลยส่งกลับที่เดิม ไปถึงราวๆตี2 กว่าคุณแม่จะได้รับยาบรรเทาอะไรสักอย่าง เนื่องจากปวดหนักมากๆ คุณหมอก็งัวเงียเขียนๆกระดาษอะไรไม่รู้ที่โต๊ะ คุณแม่ก็ร้องโอดครวญ เราก็เร่งให้คุณหมอ คุณหมอกลับพูดว่า พวกคุณนะ กังวลเกินไป กลัวอะไรเกินเหตุ สรุปคุณแม่นอนโอดครวญอยู่บนเตียงICU ได้ฉีดยา Tramal ตอนตี3 แต่ก็ไม่ดีขึ้นเลย นำคุณแม่เข้าห้องพัก และได้รับยาฉีดBuscopan ซ้ำอีกตอนตี4 ซึ่งอะไรก็ไม่ดีขึ้นเลย หมอเวรอีกคนที่ประจำอยู่ชั้นที่ห้องคุณแม่พักพาคุณแม่ไป X-ray และมีความเห็นว่า ลำไส้ใหญ่คุณแม่บวมใหญ่ผิดปกติ ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไร ต้องรอแพทย์เฉพาะทางตอนเช้าวินิจฉัย ซึ่งทางรพ.บอกว่า แพทย์เจ้าของคนไข้ของคุณแม่จะมาตอน6โมงครึ่ง เราก็คิดว่า กว่าจะย้ายไปโรงพยาบาลอื่น ก็คงพอดีกัน ก็เลยคอยดีกว่า ซึ่งคุณแม่ก็ร้องโอดครวญตลอด แต่คุณหมอเวรก็ทำอะไรไม่ได้เลย จนตอน6โมง10นาที ได้รับยาฉีดPethedal อีกครั้ง ตลอดเวลาที่จะได้รับการฉีด เรากังวลถึงOverdose ทุกครั้ง ซึ่งนางพยาบาลบอกว่า คุณหมอวินิจฉัยมาแล้วว่าไม่เป็นอะไร ปรากฎว่า กว่าแพทย์จะมา 7โมง แพทย์ตอนเช้าบอกว่า คุณแม่ไม่ได้เป็นอะไร แค่ลำไส้อักเสบ ลำไส้ไม่ได้ใหญ่อะไร ขนาดของคนเรามันมองเห็นต่างกัน มุมมองคำว่าใหญ่ของคนนึง อาจจะเป็นเล็กของอีกคน หมอก็เลยให้ยาแก้อักเสบ ยาอะไรอีกก็ไม่รู้ เพราะ ตอนนั้นเรารู้สึกว่า อยู่บนมือแพทย์แล้ว คงไม่มีอะไร และ คุณแม่ได้รับยาแก้ปวดตอนหกโมง ก็ดูดีขึ้น ไปๆมาๆ ตอนสายๆกลับปวดขึ้นอีก คราวนี้เป็นหมอเฉพาะทาง ทางด้านลำไส้ขึ้นมา หมอวินิจฉัยว่า ลำไส้แปรปรวนมาก ต้อง CT SCAN เท่านั้น เราก็เลยตกลง ให้คุณแม่ทำ CT SCAN ขอบอกว่า CT SCAN ทรมานมาก ต้องดื่มน้ำยาเยอะมาก ต้องฉีดน้ำเข้ากระแสเลือด โดนสวนทวารอีก ผลออกมา หมอประจำไข้คุณแม่บอกว่า ไม่เป็นอะไรเลย น้ำผ่านในลำไส้ได้หมด ไม่มีทางเป็นลำไส้อุดตันแน่นอน เพราะน้ำที่ให้คุณแม่ดื่มน้ำมีสี และ CT SCAN เห็นสีผ่านลำไส้ได้หมด หมอคาดว่า น่าจะเป็นลำไส้อักเสบมากกว่า เราเห็นว่า เราต้องย้ายโรงพยาบาลแล้วแหละ เพราะ คุณหมอยังดูไม่ค่อยจะมั่นใจ เราจะมั่นใจได้อย่างไร เราตัดสินใจย้ายไปโรงพยาบาลกรุงเทพ
คืนวันเสาร์ที่22 มิถุนายน
พอไปถึงโรงพยาบาลกรุงเทพ ที่โรงพยาบาลธนบุรี2 สร้างปัญหาให้เราทิ้งท้าย ไม่อัดผลข้อมูล รูปภาพอัดใส่ซีดีให้ เนื่องจากเครื่องไรท์ข้อมูลเสีย มาทางนี้จึงต้องX-rayใหม่ทั้งหมด ผลปรากฎว่า คุณหมอฟันธง! ลำไส้อุดตันแน่นอน เพราะ ผลX-ray ลำไส้ใหญ่บวมมาก เชื่อว่าเกิดจากพังผืดที่เคยผ่าตัดลูกๆออกมา เออ เราก็เชื่อว่า คุณแม่ลำไส้อุดตัน ในเมื่อคุณหมอฟันธงซะขนาดนี้ คุณหมอแนะนำให้รักษาโรคด้วยการ สอดสายลงกระเพาะอาหารเพื่อดูดอาหารออกจากกระเพาะทั้งหมด ตอนที่อยู่ที่ห้องICU นางพยาบาลสอดสายลงไปในกระเพาะอาหารแล้วใช้ syringe ขนาดใหญ่ดูดอาหารขึ้นมา ซึ่งเป็นน้ำจากการทำ CT SCAN ล้วนๆ หลังจากนั้นก็ไปต่อด้วยเครื่องดูดต่อที่ห้อง จริงๆมีเคืองโรงพยาบาลกรุงเทพด้วยคะ เครื่องดูดอาหารของโรงพยาบาลดูดไม่มีอะไรขึ้นมาเลย นางพยาบาลคิดว่า คงดูดลมออกมาจากกระเพาะ เพราะคุณหมอก็บอกว่ามีลมอยู่ในกระเพาะ จนกระทั่งผ่านไปอีกวัน คือ เวลา3ทุ่มของวันอาทิตย์ที่ 23 นางพยาบาลมาทำการล้างสาย ด้วยการใช้แรงมือดูด ดูดเหมือนทำที่ห้องICU เนื่องจากสายอุดตัน ต้องทำความสะอาดสายด้วยวิธีนี้ เครื่องถึงเริ่มดูดอะไรออกมาบ้าง เอาง่ายๆ คือ นอนรักษาโรงพยาบาลทั้งวันทั้งคืนแต่เครื่องไม่ได้ทำงาน... ช่างมันก่อนเรื่องนี้ผ่านไปก่อน แต่ที่กังวลคือ ตั้งแต่บ่ายโมงของวันที่23 มิถุนายน จนถึง ณ ตอนนี้เวลา 7 โมงเช้าของวันที่ 24 มิถุนายน คุณแม่ท้องเสีย ถ่ายออกมามีแต่น้ำ ถ่ายทุกๆ 1ชั่วโมง รวมทั้งหมด 17 ครั้ง จนกระทั่งนางพยาบาลถามว่า ไม่ต้องเอาท่อดูดอาหารเสียบไว้ดีไหม เพราะ เดี๋ยวก็ถ่ายอีก...
ตอนนี้ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรดี ...
เพราะ เท่าที่อ่านๆมา ลำไส้อุดตันจะต้องไม่ถ่าย ถ่ายไม่ได้เนื่องจากลำไส้อุดตัน และ ต้องมีอาเจียน ถึงแม้ว่า ตอนที่อยู่โรงพยาบาลธนบุรี2 คุณแม่ก็มีคลื่นไส้บ้างแต่ก็เพียงเล็กน้อย ...
คุณแม่ถ่ายเยอะซะขนาดนี้ 17ครั้ง ภายในเวลา 17 ชั่วโมง ถ่ายทรหดมาก ๆ และคุณแม่ก็ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่คืนวันศุกร์ น้ำเกลือล้วน + น้ำจากCT SCAN เพลียมากเลยคะ...
นางพยาบาลไม่ได้ทำความสะอาดทุกครั้งที่เสียบสายดูดอาหารเข้ากับเครื่องดูดอาหาร ห่วงการติดเชื้อ...
จะหายเลยทันทีก็ต้องผ่าตัด แต่ก็น่ากลัว... กลัวการติดเชื้อ และผ่าตัดทุกครั้งทำให้เกิดผังพืด การผ่าตัดเอาผังพืดออก ก็ยังไงก็ทำให้เกิดพังผืดใหม่ขึ้นอีก และ การผ่าตัดทำให้ลำไส้ทำงานได้ไม่เหมือนเดิม กินอะไรไม่ค่อยได้ เพราะ ผ่าตัดครั้งนี้ จะเป็นการผ่าซ้อนผ่า คือ ผ่าท้องเพื่อไปผ่ามดลูกเอาผังพืดออก
อันที่จริงพึ่งไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลพญาไท2 เมื่อวันอังคารที่ 18มิถุนายน ผ่านมาไม่กี่วันเอง เป็นซะเยอะเลย ตรวจแบบครบองค์ด้วยที่สำคัญ...
มีอะไรแสดงความคิดเห็น หรือ แนะนำ รบกวนแนะนำด้วยนะคะ
คุณแม่อายุ 53 ปีคะ ทางบ้านไม่ได้รวยมาก คุณแม่ทำงานข้าราชการกินเงินเดือนธรรมดา เพียงแต่ว่าคุณพ่อพอมีบ้าง คุณพ่อกับคุณแม่แยกกันอยู่คะ ครั้งนี้เลยใช้เงินคุณพ่อล้วนๆ T^T ตอนนี้คิดถึงประกันสุขภาพขึ้นมาทันที มีประกันสุขภาพอะไรแนะนำ แนะนำได้นะคะ
ขอบพระคุณมากคะ