เป็นความประทับใจสำหรับเรานะคะ ใจอยากตั้งกระทู้ถึงมากๆ แต่ก็เกรงใจเหมือนกัน
ไหนๆ จะตั้งทั้งที ขอรวบรัดแบบเหมารวมทีเดียว 4 ตอนรวดเลยนะคะ
**เราไม่เคยอ่านเรื่องย่อหรือหนังสือมาก่อนนะคะ รอลุ้นหน้าทีวีอย่างเดียวเลย
ทุกคำบรรยายมาจากมโนของเราเองนะึคะ อิอิ**
1. ฉากเพียงขวัญหลบไปอ่านบทเงียบๆ
“กินรีน้อยไร้เดียงสา บินสู้ลมหนาว ปีกหางอ่อนแรงจนแทบทนไม่ไหว
น้ำตานกน้อยหลั่งริน สู้ลมสู้ฝนยังพอไหว ให้สู้จิตใจต่ำช้าของมนุษย์ จะเอาแรงที่ไหนไปสู้”
ประโยคนี้ถ่ายทอดความรู้สึกในใจของเพียงขวัญออกมาได้อย่างแนบเนียนและสมบูรณ์
ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ต้องถูกครหาด้วยข้อหาที่เธอไม่ได้ทำ โดนรังเกียจ โดนดูถูก
ถึงภายนอกจะดูเข้มแข็งแค่ไหน แต่ภายในก็แหลกสลายไปหมดแล้ว...
2. ฉากพิมพรรณไปพบยอดยศที่กองบิน
ตอนที่เธอเอื้อมมือไปแตะมือของชายที่รักเบาๆ ...รู้สึกห่วงหาทั้งที่เขาอยู่ใกล้ๆ
รู้สึกอยากกุมไว้แน่นๆ แต่ก็ไม่กล้า ...สุดท้ายยอดยศก็หันมาหาเธอแล้วบอกว่า
“อะไรล่ะพิม”
เจ็บปวดค่ะ....คนดูเจ็บปวดแทนพิมพรรณมากมาย
3. ฉากรณพีร์ไปหาเพียงขวัญที่บ้าน
“วิไลรัมภา ชาตินี้ฉันจะหนีเธอพ้นไหม อนาคตคุณชายรณพีร์ยังไม่รู้
แต่ที่ไม่รู้ยิ่งไปกว่า ก็คือปัจจุบันคุณชายรณพีร์มาทำอะไรที่นี่...ตรงนี้”
เป็นคำบอกเล่าง่ายๆ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินหน้าเพื่อคว้าหัวใจเพียงขวัญ
แม้คุณชายจะมาแบบงงๆ แต่การเล่าผ่านความคิดลักษณะก็ทำให้คนดูเริ่มรู้แล้วว่า
อ้อ...ชายพีร์...นายเริ่มรักแ่ม่เพียงขวัญแบบไม่รู้ตัวแล้วล่ะสิ...
4. ฉากเพียงขวัญมุดมุ้งไปกอดยาย
ยายถามว่า
"เหนื่อยไหมลูก"
เธอตอบว่า
“ไม่จ้ะ ขวัญไม่เหนื่อย ขวัญไม่เป็นอะไร ขวัญแค่อยากกอดยาย”
เชื่อว่าหลายๆ คนคงน้ำตาปริ่มๆ กับฉากนี้นะคะ
5. ฉากวิไลรัมภาทานข้าวกับย่าๆ แล้วคิดว่า
“ความรักสำหรับฉัน ไม่มีคำว่าพอดี มีแต่คำว่ามาก มากเท่าที่จะมากได้
สักวันหนึ่งเถอะ มันจะมาก มากจนคุณชายรณพีร์ ไม่อาจปฏิเสธได้”
เป็นประโยคบอกเล่า...ที่แสดงจุดยืนด้านความรักของเธอได้ดีทีเดียวค่ะ
6. ฉากเพียงขวัญตัดพ้อรณพีร์ที่ศาลาริมทาง
ถูกตบหน้า ถูกต่อว่า ถูกเพื่อนร่วมงานหมางเมิน ส้นรองเท้าก็หัก ต้องเดินเท้าเปล่ากลับบ้านคนเดียว
พอรณพีร์ตามมาก็คิดว่าเขาคงจะตามมาดูถูกเหมือนเดิม
เธอก็เลยตัดพ้อไปว่า
“คุณตามฉันมาทำไม มีอะไรอีกล่ะ จะตามมาด่าฉันอีกล่ะสิ
ด่าสิว่าฉันเป็นผู้หญิงไม่ดี ใช่ ฉันจน แต่ฉันก็จนอย่างมีศักดิ์ศรี ฉันเรียนรำ เต้นเสามาตั้งแต่เด็กๆ
เหนื่อย เจ็บเท้า ถูกดัดถูกหักมือจนระบมไปหมด ฉันทำเพื่ออะไร คุณรู้ไหมว่าฉันทำเพื่ออะไร”
ฉากนี้สงสารเพียงขวัญมากค่ะ ดูแล้วย้อนมองตัวเอง ปัญหาของเราไม่ได้สักเสี้ยวของเธอเลย
แต่รณพีร์ก็ช่วยให้กำลังใจเธอ โดยใช้คำพูดเก๋ๆ ฟังแล้วมีแรงสู้ว่า
“ผมเห็นคุณครั้งแรก คุณเป็นกินรีที่อยู่บนฟ้า แต่ถ้าคุณยอมแพ้ในวันนี้ คุณก็เป็นแค่นกตัวหนึ่ง
อย่ายอมแพ้ง่ายๆ เข้มแข็งเข้าไว้นะครับ เก็บความเจ็บปวด สีหน้าของคนที่รังเกียจคุณ
จดจำมันไว้ ทำให้มันเป็นพลัง เป็นแรงลมผลักดันให้กินรีอย่างคุณบินไปสู่ที่สูงดีกว่านะครับ"
7. ฉากที่เพียงขวัญถามยายว่า "ใช่ความรักหรือเปล่าคะ"
“ใช่สิจ้ะ ผู้หญิงเรา ยังไงก็ยังรัก มีผัวได้คนเดียว มีรักได้ครั้งเดียว”
สั้นๆ ง่ายๆ แต่อธิบายถึงความรู้สึกของผู้หญิงยุคนั้นได้ดีมากๆ เลยค่ะ
8. ฉากที่รณพีร์บอกว่าจะทำให้เพียงขวัญเลือกที่จะรักเขา แต่ถูกปฏิเสธ
“ไม่รักก็ไม่เจ็บปวด ไม่รัก ก็ไม่ถูกทอดทิ้ง”
สั้นๆ ซึ้งๆ ไม่ต้องสาธยายยืดยาว ก็ทำให้หัวใจแทบจะหมดหวัง
9. ฉากที่รณพีร์เตือนสติเพียงขวัญเรื่องความรัก
“ผมเผชิญหน้ากับความกลัวในความสัมพันธ์ของเรา และผมก็จัดการกับมันไปได้ในที่สุด
แต่ตอนนี้ คนที่กลัวจริงๆ กลับไม่ใช่ผม มันคือคุณต่างหาก”
เป็นคำพูดที่เชือดหัวใจคนฟังแบบนิ่มๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความห่วงใย
10. ฉากเต้นรำในกองบิน
"เวลาเราอยู่บนฟ้า มีแค่เรา ผมกับเครื่องบิน มือผมไปซ้าย เครื่องบินจะไปซ้าย
มือผมไปขวา เครื่องบินจะไปขวา เวลาคุณรำ คุณเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับบทเพลง
เวลาผมบิน ผมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเครื่องบิน เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับสิ่งที่เรารัก"
“คนที่ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับอะไร ก็เหมือนคนที่ตายไปแล้ว”
“ความกลัวช่วยปกป้องเรา สอนให้ระวัง ทุกคนรู้จักกลัว เวลาฝนตกฟ้าคะนอง ตอนบินอยู่ คุณไม่กลัวหรือไง”
“คุณรู้ไหม ท้องฟ้าตอนไหนสวยที่สุด ตอนที่คุณบินฝ่าเมฆฝนออกไปถึงตอนที่ท้องฟ้าเจิดจ้า
เวลาเราเอาชนะความกลัวได้ เราจะมีความสุข จะภูมิใจในตัวเอง”
ลึกซึ้งและจับใจมากๆ เลยค่ะ ฉากนี้เป็นฉากที่ทำให้ตัวเอกแตกต่างจากตัวละครอื่นๆ
คือฉลาด มีความคิด เป็นการขอความรักทางอ้อมที่ไม่เลี่ยนและไม่เป็นทางการจนเกินไป
ชอบมากค่ะ
11. ฉากประณตแกล้งคนที่แอบชอบ
น่ารักมากค่ะ ทำให้นึกถึงตอนเด็กๆ เลย มุกสะกิดหลังเนี่ย
ขนาดโตมาเราก็ยังหลงกลบ่อยๆ บางครั้งเอาไปใช้กับคนอื่นเหมือนกัน
ฉากนี้ถ่ายทอดความน่ารักแบบเด็กๆ ทำให้เด็กทั้งสองดูน่ารักไร้เดียงสา
ไม่ดูฉลาดหวานเลี่ยนเหมือนผู้ใหญ่จนเกินไป
12. ฉากที่รณพีร์เข้าไปช่วยเพียงขวัญจากเสี่ยเพ้ง
“แต่ฉันไม่เชื่อแกว่ะ จัดการแกตอนนี้เลยดีกว่า แกจะได้ไม่ลอบกัดฉันทีหลัง ไอ้เพ้ง!”
ประโยคดิบๆ ฟังดูเถื่อนนิดๆ ทำให้รณพีร์มีความเป็นคนมากขึ้นในแง่ของรัก โลภ โกรธ หลง
เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่พอเห็นผู้หญิงที่รักถูกทำร้ายก็แทบจะหน้ามืดทำได้ทุกอย่าง
สุภาพบุรุษ ยังไงก็เป็นผู้ชายอยู่ดีั
13. ฉากที่รณพีร์เตือนสติเพียงขวัญอีกครั้ง เรื่องหน้าที่การงาน
“เสี่ยเพ้งรังแกคุณครั้งเดียว คุณรังแกตัวเองเป็นร้อยครั้ง ...
ก็ความคิดไงครับ ความคิดที่วนเวียนไม่ยอมปล่อยวางวันละร้อยๆ ครั้ง”
ประโยคง่ายๆ ไม่ต้องตีความอะไรมาก คนฟังถ้าฟังแล้วไม่เก็บไปคิด ก็คงจะเป็นคนหัวดื้อหัวรั้นน่าดูเลยค่ะ
14. ฉากแย่งลูกชิ้นในชามก๋วยเตี๋ยวและฉากเก็บผักรู้นอน (ชาววังนิดนึง)
หลายคนคงฟินกับฉากนี้นะคะ น่ารัก เรียบง่าย ไม่หวือหวา
แต่สามารถทำให้คนดูรู้ว่าเพียงขวัญเริ่มเปิดใจให้รณพีร์แล้วแบบที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว
เริ่มจะยอมรับเขาในฐานะเพื่อนที่เป็นกำลังใจให้กัน (และมันจะพัฒนาต่อเป็นความรัก อิอิ)
น้องมิ้นต์ยิ้มแล้วน่ารักมากเลยค่ะ นานน้านจะยิ้มสักที
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
จริงๆ ชอบแทบทุกฉากทุกตอนเลยค่ะ จะตั้งตารอตอนต่อไปค่ะ
รวมฉากและบทสนทนาน่าประทับใจใน 4 ตอนที่ผ่านมาของคุณชายรณพีร์ค่ะ
ไหนๆ จะตั้งทั้งที ขอรวบรัดแบบเหมารวมทีเดียว 4 ตอนรวดเลยนะคะ
**เราไม่เคยอ่านเรื่องย่อหรือหนังสือมาก่อนนะคะ รอลุ้นหน้าทีวีอย่างเดียวเลย
ทุกคำบรรยายมาจากมโนของเราเองนะึคะ อิอิ**
1. ฉากเพียงขวัญหลบไปอ่านบทเงียบๆ
“กินรีน้อยไร้เดียงสา บินสู้ลมหนาว ปีกหางอ่อนแรงจนแทบทนไม่ไหว
น้ำตานกน้อยหลั่งริน สู้ลมสู้ฝนยังพอไหว ให้สู้จิตใจต่ำช้าของมนุษย์ จะเอาแรงที่ไหนไปสู้”
ประโยคนี้ถ่ายทอดความรู้สึกในใจของเพียงขวัญออกมาได้อย่างแนบเนียนและสมบูรณ์
ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ต้องถูกครหาด้วยข้อหาที่เธอไม่ได้ทำ โดนรังเกียจ โดนดูถูก
ถึงภายนอกจะดูเข้มแข็งแค่ไหน แต่ภายในก็แหลกสลายไปหมดแล้ว...
2. ฉากพิมพรรณไปพบยอดยศที่กองบิน
ตอนที่เธอเอื้อมมือไปแตะมือของชายที่รักเบาๆ ...รู้สึกห่วงหาทั้งที่เขาอยู่ใกล้ๆ
รู้สึกอยากกุมไว้แน่นๆ แต่ก็ไม่กล้า ...สุดท้ายยอดยศก็หันมาหาเธอแล้วบอกว่า
“อะไรล่ะพิม”
เจ็บปวดค่ะ....คนดูเจ็บปวดแทนพิมพรรณมากมาย
3. ฉากรณพีร์ไปหาเพียงขวัญที่บ้าน
“วิไลรัมภา ชาตินี้ฉันจะหนีเธอพ้นไหม อนาคตคุณชายรณพีร์ยังไม่รู้
แต่ที่ไม่รู้ยิ่งไปกว่า ก็คือปัจจุบันคุณชายรณพีร์มาทำอะไรที่นี่...ตรงนี้”
เป็นคำบอกเล่าง่ายๆ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินหน้าเพื่อคว้าหัวใจเพียงขวัญ
แม้คุณชายจะมาแบบงงๆ แต่การเล่าผ่านความคิดลักษณะก็ทำให้คนดูเริ่มรู้แล้วว่า
อ้อ...ชายพีร์...นายเริ่มรักแ่ม่เพียงขวัญแบบไม่รู้ตัวแล้วล่ะสิ...
4. ฉากเพียงขวัญมุดมุ้งไปกอดยาย
ยายถามว่า "เหนื่อยไหมลูก"
เธอตอบว่า “ไม่จ้ะ ขวัญไม่เหนื่อย ขวัญไม่เป็นอะไร ขวัญแค่อยากกอดยาย”
เชื่อว่าหลายๆ คนคงน้ำตาปริ่มๆ กับฉากนี้นะคะ
5. ฉากวิไลรัมภาทานข้าวกับย่าๆ แล้วคิดว่า
“ความรักสำหรับฉัน ไม่มีคำว่าพอดี มีแต่คำว่ามาก มากเท่าที่จะมากได้
สักวันหนึ่งเถอะ มันจะมาก มากจนคุณชายรณพีร์ ไม่อาจปฏิเสธได้”
เป็นประโยคบอกเล่า...ที่แสดงจุดยืนด้านความรักของเธอได้ดีทีเดียวค่ะ
6. ฉากเพียงขวัญตัดพ้อรณพีร์ที่ศาลาริมทาง
ถูกตบหน้า ถูกต่อว่า ถูกเพื่อนร่วมงานหมางเมิน ส้นรองเท้าก็หัก ต้องเดินเท้าเปล่ากลับบ้านคนเดียว
พอรณพีร์ตามมาก็คิดว่าเขาคงจะตามมาดูถูกเหมือนเดิม
เธอก็เลยตัดพ้อไปว่า “คุณตามฉันมาทำไม มีอะไรอีกล่ะ จะตามมาด่าฉันอีกล่ะสิ
ด่าสิว่าฉันเป็นผู้หญิงไม่ดี ใช่ ฉันจน แต่ฉันก็จนอย่างมีศักดิ์ศรี ฉันเรียนรำ เต้นเสามาตั้งแต่เด็กๆ
เหนื่อย เจ็บเท้า ถูกดัดถูกหักมือจนระบมไปหมด ฉันทำเพื่ออะไร คุณรู้ไหมว่าฉันทำเพื่ออะไร”
ฉากนี้สงสารเพียงขวัญมากค่ะ ดูแล้วย้อนมองตัวเอง ปัญหาของเราไม่ได้สักเสี้ยวของเธอเลย
แต่รณพีร์ก็ช่วยให้กำลังใจเธอ โดยใช้คำพูดเก๋ๆ ฟังแล้วมีแรงสู้ว่า
“ผมเห็นคุณครั้งแรก คุณเป็นกินรีที่อยู่บนฟ้า แต่ถ้าคุณยอมแพ้ในวันนี้ คุณก็เป็นแค่นกตัวหนึ่ง
อย่ายอมแพ้ง่ายๆ เข้มแข็งเข้าไว้นะครับ เก็บความเจ็บปวด สีหน้าของคนที่รังเกียจคุณ
จดจำมันไว้ ทำให้มันเป็นพลัง เป็นแรงลมผลักดันให้กินรีอย่างคุณบินไปสู่ที่สูงดีกว่านะครับ"
7. ฉากที่เพียงขวัญถามยายว่า "ใช่ความรักหรือเปล่าคะ"
“ใช่สิจ้ะ ผู้หญิงเรา ยังไงก็ยังรัก มีผัวได้คนเดียว มีรักได้ครั้งเดียว”
สั้นๆ ง่ายๆ แต่อธิบายถึงความรู้สึกของผู้หญิงยุคนั้นได้ดีมากๆ เลยค่ะ
8. ฉากที่รณพีร์บอกว่าจะทำให้เพียงขวัญเลือกที่จะรักเขา แต่ถูกปฏิเสธ
“ไม่รักก็ไม่เจ็บปวด ไม่รัก ก็ไม่ถูกทอดทิ้ง”
สั้นๆ ซึ้งๆ ไม่ต้องสาธยายยืดยาว ก็ทำให้หัวใจแทบจะหมดหวัง
9. ฉากที่รณพีร์เตือนสติเพียงขวัญเรื่องความรัก
“ผมเผชิญหน้ากับความกลัวในความสัมพันธ์ของเรา และผมก็จัดการกับมันไปได้ในที่สุด
แต่ตอนนี้ คนที่กลัวจริงๆ กลับไม่ใช่ผม มันคือคุณต่างหาก”
เป็นคำพูดที่เชือดหัวใจคนฟังแบบนิ่มๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความห่วงใย
10. ฉากเต้นรำในกองบิน
"เวลาเราอยู่บนฟ้า มีแค่เรา ผมกับเครื่องบิน มือผมไปซ้าย เครื่องบินจะไปซ้าย
มือผมไปขวา เครื่องบินจะไปขวา เวลาคุณรำ คุณเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับบทเพลง
เวลาผมบิน ผมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเครื่องบิน เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับสิ่งที่เรารัก"
“คนที่ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับอะไร ก็เหมือนคนที่ตายไปแล้ว”
“ความกลัวช่วยปกป้องเรา สอนให้ระวัง ทุกคนรู้จักกลัว เวลาฝนตกฟ้าคะนอง ตอนบินอยู่ คุณไม่กลัวหรือไง”
“คุณรู้ไหม ท้องฟ้าตอนไหนสวยที่สุด ตอนที่คุณบินฝ่าเมฆฝนออกไปถึงตอนที่ท้องฟ้าเจิดจ้า
เวลาเราเอาชนะความกลัวได้ เราจะมีความสุข จะภูมิใจในตัวเอง”
ลึกซึ้งและจับใจมากๆ เลยค่ะ ฉากนี้เป็นฉากที่ทำให้ตัวเอกแตกต่างจากตัวละครอื่นๆ
คือฉลาด มีความคิด เป็นการขอความรักทางอ้อมที่ไม่เลี่ยนและไม่เป็นทางการจนเกินไป
ชอบมากค่ะ
11. ฉากประณตแกล้งคนที่แอบชอบ
น่ารักมากค่ะ ทำให้นึกถึงตอนเด็กๆ เลย มุกสะกิดหลังเนี่ย
ขนาดโตมาเราก็ยังหลงกลบ่อยๆ บางครั้งเอาไปใช้กับคนอื่นเหมือนกัน
ฉากนี้ถ่ายทอดความน่ารักแบบเด็กๆ ทำให้เด็กทั้งสองดูน่ารักไร้เดียงสา
ไม่ดูฉลาดหวานเลี่ยนเหมือนผู้ใหญ่จนเกินไป
12. ฉากที่รณพีร์เข้าไปช่วยเพียงขวัญจากเสี่ยเพ้ง
“แต่ฉันไม่เชื่อแกว่ะ จัดการแกตอนนี้เลยดีกว่า แกจะได้ไม่ลอบกัดฉันทีหลัง ไอ้เพ้ง!”
ประโยคดิบๆ ฟังดูเถื่อนนิดๆ ทำให้รณพีร์มีความเป็นคนมากขึ้นในแง่ของรัก โลภ โกรธ หลง
เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่พอเห็นผู้หญิงที่รักถูกทำร้ายก็แทบจะหน้ามืดทำได้ทุกอย่าง
สุภาพบุรุษ ยังไงก็เป็นผู้ชายอยู่ดีั
13. ฉากที่รณพีร์เตือนสติเพียงขวัญอีกครั้ง เรื่องหน้าที่การงาน
“เสี่ยเพ้งรังแกคุณครั้งเดียว คุณรังแกตัวเองเป็นร้อยครั้ง ...
ก็ความคิดไงครับ ความคิดที่วนเวียนไม่ยอมปล่อยวางวันละร้อยๆ ครั้ง”
ประโยคง่ายๆ ไม่ต้องตีความอะไรมาก คนฟังถ้าฟังแล้วไม่เก็บไปคิด ก็คงจะเป็นคนหัวดื้อหัวรั้นน่าดูเลยค่ะ
14. ฉากแย่งลูกชิ้นในชามก๋วยเตี๋ยวและฉากเก็บผักรู้นอน (ชาววังนิดนึง)
หลายคนคงฟินกับฉากนี้นะคะ น่ารัก เรียบง่าย ไม่หวือหวา
แต่สามารถทำให้คนดูรู้ว่าเพียงขวัญเริ่มเปิดใจให้รณพีร์แล้วแบบที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว
เริ่มจะยอมรับเขาในฐานะเพื่อนที่เป็นกำลังใจให้กัน (และมันจะพัฒนาต่อเป็นความรัก อิอิ)
น้องมิ้นต์ยิ้มแล้วน่ารักมากเลยค่ะ นานน้านจะยิ้มสักที
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
จริงๆ ชอบแทบทุกฉากทุกตอนเลยค่ะ จะตั้งตารอตอนต่อไปค่ะ