เด็กทารกกับหญิงชรา

สองเดือนที่แล้วเรามีโอกาสได้กลับเมืองไทย เราได้นั่งเครื่องEVA ที่นั่งเราติดทางเดิน เครื่องก็ออกเดินทางจากเมกามาลงที่ไต้หวัน ใช้เวลาสิบสี่ชั่วโมง พอบินได้ซักสองชั่งโมง เราก็เริ่มได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ แล้วมันก็เริ่มดังขึ้น เราก็เรื่มมองหาว่าเสืยงมันมาจากไหน ที่ไหนได้ ตายละกูร้องอยู่ข้างหลังกูเอง ร้องไปซักพักนึงก็เงียบไป แค่ประมาณห้านาทีก็ร้องอีก แล้วก็เงียบอีก พอเครื่องตกหลุมอากาศก็ร้องอีก แต่คราวนี้ร้องดังและนานกว่าเก่า ตอนนั้นประมาณตีสามได้ ง่วงก็ง่วง อยากดูหนังก็ดูไม่รู้เรื่องเพราะเสียงร้องดังมาก คนที่อยู่รอบข้างก็เริ่มรําคาญก็ได้แต่หันมามอง เราก็หันไปมอง ก็เห็นเด็กทารกแค่ประมาณสองเดือนกว่าเองและพ่อกับแม่ของเด็กก็ยังวัยรุ่นอยู่ เราก็เริ่มหงุดหงิดเพราะความง่วงก็กําลังจะลุกขึ้นและบอกกับแอร์ให้คุยกับพ่อแม่ของเด็ก อยู่อยู่หญิงชราซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเราก็ลุกขึ้นมา เราก็นึกว่าพี่แกจะไปช่วยเด็กที่กําลังร้องไห้ ที่ไหนได้ พี่แกกลับยืนหันหลังให้เราแล้วก็ออกกําลังกาย ทันใดนั้นเองเราก็ได้ยินเสียงแปลกแปลกเล็กเล็กมาจากหญิงคนนั้น พอเราหันหน้าไปตามเสียงอีแก่นั่นก็รัวเสียงจากตูดมันใส่หน้าเราอย่างเต็มเต็มเลย ใช่แล้วครับ ผมโดนมันตดใส่หน้าอย่างแรง ผมก็อยากจะเอามือขวาผมฟาดไปที่ตูดหญิงคนนั้น ทันใดนั้น หญิงชราคนนั้นก็เอามือซ้ายของเธอวางลงไปที่ก้นของเธอเองแล้วก็เอาขึ้นมาดมที่จมูกของเธอ แค่นั้นล่ะครับ ผมหยุดความคิดทุกอย่าง
เพราะความอึ้งเลยทําให้ผมไม่ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้อีกหลายช่วงโมง ก็ต้องขอขอบคุณหญิงชราคนนั้นล่ะครับ

ป.ล. สองอาทิตย์หลังจากนั้น ผมก็เดินทางไปเชียงใหม่โดยแอร์เอเชีย ก็อีกล่ะครับ คราวนี้เจอเด็กฝรั่งสองคนพี่น้องประมาณสามปีกับห้าปีนั่งอยู่ข้างหน้าผม แข่งกันร้องไห้ครับ ตั้งแต่ก.ท.ม.ถึงเชียงใหม่ คนแม่ก็ไม่สนใจนั่งกินข้าวเหนียวมะม่วงซะงั้น เซ็งสุดสุด

ป.ล.อีกครั้ง สมัยก่อนทุกสายการบินจะมีแยกชั้นสูบบุหรี่กับไม่สูบบุหรี่(smoking or non-smoking) ผมคิดว่าทุกสายการบินน่าจะมีแยกระหว่างชั้นมีเด็กทารกกับชั้นไม่มีเด็กทารกบ้างก็ดี(baby or non-baby).