คุณจะทำอย่างเมื่อคุณมีลูกตอนอายุยังไม่ถึง 20?

ผมเป็นคนหนึ่งที่มีลูกตั้งแต่อายุ ไม่ถึง 20 ตอนนั้นผมอายุประมาณ 15-17 มันเป็นช่วงที่สนุกที่สุดในชีวิตผม ทั้งโดดเรียนเที่ยวเตร่ เกเร
เสพย์ยา(กัญชา) ช่วงประมานตอนที่ผมอยู่ ม.4 เป็นช่วงที่ผมทำอะไรแบบไม่คิด ทำไปเพื่อความสนุก สำราญใจ โดยไม่นึกถึงคนข้างหลัง(พ่อ-แม่) ทำให้พ่อแม่เสียใจมาตลอด ก้าวร้าวกับพ่อ-แม่ ผมเที่ยวจนพ่อของผมเอาโซ่มาล่ามรถไม่ให้ออกไปไหน แต่ความพยายามของผมก็ไม่หยุดแค่นั้น ผมก็ได้โทรหาเพื่อนให้มารับออกไป ตอนเดินออกไปพ่อกับแม่ก็อยู่แล้วก็พูดออกมาว่าจะไปไหนอีก แต่ด้วยความที่ผมเป็นคนดื้อรั้น เลยเดินออกไปขึ้นรถกับเพื่อนที่หน้าบ้านเพื่อไปเที่ยวกัน แล้วมีอยู่ช่วงนึงที่ผมได้คบกับ ผญ. คนนึง เราคบกันได้ไม่นานเธอก็ได้ตั้งท้อง ทีแรกผม-แฟน ก็คิดกันว่าคงไม่ท้องหรอก พอเวลาผ่านไป 1 เดือน ใจเริ่มไม่ดี เพระ ปจด.ยังไม่มา เลยให้แฟนไปซื้อที่ตรวจมา ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมไปเข้าค่ายธรรมะ 3 วัน 2 คืน และในเช้าวันที่ 3 ใกล้จะได้กลับ แฟนผมได้โทมาหาแต่ เช้า(น่าจะประมาน 7-8 โมงได้) และได้พูดกับผมคำแรกว่า "มีไรจะบอก ขึ้น 2 ขีด ม่วงเข้มเลย" ผมได้ยินเช่นนั้นแทบทรุดเลย รู้สึกเคว้งคว้างมาก เพราะพ่อ-แม่จะพูดอยู่เรื่อยเรื่องนี้ ว่าถ้าท้องขึ้นมาเค้าจะไม่รับรู้ด้วยนะ ทำให้ผมหนักใจมากในช่วงนั้น ผมก็คุยกะแฟนว่าจะเอายังไงดี ใจผมไม่อยากให้เอาออกอยู่แล้วเพราะผมคิดว่า ในเมื่อเราทำให้เค้าเกิดขึ้นมา เราจะเอาออกได้ยังไง ต่อให้ลำบากแค่ไหนผมก็จะเลี้ยงดูเค้าให้ดีที่สุด จนเวลาล่วงเลยไปประมาน 4 เดือน ที่เราเก็บความลับไว้ไม่ได้บอกใคร(มีบอกเพื่อนบ้างแต่พ่อแม่พี่น้องญาติๆไม่ได้บอก) และในที่สุดทางบ้าน ผญ. ก็รู้ว่าแฟนผมท้องเค้าก็ได้บอกให้แฟนผมมาบอกผมและพ่อแม่ผมให้ไปเคลียร์ ผมก็หนักใจเข้าไปใหญ่ ไม่รู้จะบอกพ่อแม่ยังไงดี เลยชวนเพื่อน 3-4 คนไปที่บ้านตอนเย็นหลังเลิกเรียน ก็ได้เรียกแม่มาคุยที่โต๊ะพร้อมกับเพื่อนๆ ผมยังไม่ทันได้บอกอะไร แม่ผมเหมือนรู้ว่าเกิดไรขึ้น แม่ถามขึ้นมาคำแรกว่า เรื่อง ผญ. ใช่ไหม? ผมก็เงียบแล้วก้มหน้า แม่พูดอีกทีว่า ท้องใช่ไหม? ผมก็ก้มหน้าอีกไม่กล้าพูดอะไร เท่านั้นแหละแม่ผมก็บ่นชุดใหญ่เลย บอกเดี๋ยวพ่อกลับมาจากที่ทำงานจะบอกพ่อ แล้วเพื่อนๆผมก็แยกย้ายกันกลับบ้าน พอพ่อกลับมาจากที่ทำงาน ก็ได้เรียกผมเข้าไปคุยในห้อง เค้าก็ไม่ได้ต่อว่าไรผมมากแต่ก็บ่นๆอยู่บ้างว่า"ยังไม่มีไรพร้อมคิดจะมีลูก" ผมก็น้ำตาซึมร้องไห้ เพราะรู้สึกผิดที่ทำให้พ่อแม่เสียใจ จากวันนั้นมาพ่อแม่ผมก็ได้ไปคุยกับทางบ้าน ผญ. ตกลงกันเรียบร้อย ตอนนั้นผมเรียนอยู่แต่แฟนไม่ได้เรียนแล้วทางบ้านผญ. ก็บอกว่าก็ให้เรียนเหมือนเดิมไป พอทีนี้หลังจากที่ทาง ผู้ใหญ่รู้เรื่องแล้วผมก็เลยพาแฟนไปฝากครรภ์ (ตรวจผมออกมาเป็นผู้ชายครับ)ซึ่งผมดีใจมากๆที่ได้ลูกชาย หลังจากที่ลูกของผมได้คลอดออกมาเป็นเวลาบ่ายๆ ซึ่งตอนนั้นผมกำลังเรียนอยู่พอดี ป้าของแฟนก็ได้โทรมาบอกว่า"คลอดแล้วนะ"ผมฟังแล้วก็ยิ้มปะปนกับความดีใจ แล้วพอหลังเลิกเรียนผมก็รีบตรงไปที่ รพ. ทันที พอไปถึงพยาบาลกำลังเอาเด็กมาให้พอดี ความรู้สึกผมที่เห็นครั้งแรก ผมได้อุ้มเขาขึ้น และเดินไปที่ระเบียงมองหน้าลูกแล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาเองเพราะผมคิดในตอนนั้นว่าทำไมต้องเกิดมาเป็นลูกผมด้วยทั้งที่ยังไม่พร้อมเลยผมสงสารลูกที่ต้องเกิดมาโดยที่ไม่รู้ว่าต้องมาลำบาก ผมก็สัญญากับตัวเองในใจว่าผมจะทำให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดี ผมจะเปลี่ยนตัวเองใหม่ สร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว ตั้งแต่นั้นมาผมก็เริ่มตั้งใจเรียน เกรดก็ดีขึ้นทุกเทอมๆ ผมอยากทำตามความฝันของผมด้วย คือผมอยากเป็น วิศวกร ในตอนที่อยู่ ม.6 นั้นต้องเตรียมตัวหาที่เรียน สอบนั่นสอบนี่ สมัครที่นั่นที่นี่ แต่ผลก็ออกมาให้ผิดหวังอยู่เสมอ เพราะเกรดผมไม่ดีเลยเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ เพิ่งจะมาspeed ตัวเองก็ตอน ม.5 เทอม 2 แล้วมันช่วยอะไรผมไหมล่ะ ไม่เลย ช่วงนั้นผมรู้สึกท้อแท้ใจมากที่ผมตั้งใจแล้วผลที่ได้ออกมาไม่สมดั่งใจ รู้สึกเคว้งคว้างมาก แต่แล้วไม่รู้ว่าโชคชะตาเห็นใจผมหรือเปล่า ผมได้ติดคณะที่ผมอยากเรียน(รอบที่ผมติดเป็นรอบสุดท้ายแล้วจิงๆ) ผมก็ดีใจที่อย่างน้อยก็ได้มีโอกาสเค้าไปศึกษาเล่าเรียน ตอนปีหนึ่งเทอมแรก ผมก็ตั้งใจสุดๆแล้วตั้งแต่เกิดมาแต่เกรดที่ออกมาคือ 2 เศษๆมันทำให้ผมรู้สึกท้อเข้าไปใหญ่ ผมคิดว่าผมทำได้แค่นี้จริงๆน่ะหรอ ผมกัดฟันพยามเข้าไปอีกในเทอม 2 แต่ผลออกมาคราวนี้เป็นที่น่าพอใจทำให้ผมมีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป จนปัจจุบันนี้ ณ ตอนนี้ ผมอยู่ชั้นปี 3 เกรดเฉลี่ยของผม แตะๆ 3 (มันอาจจะไม่มากสำหรับบางคนแต่สำหรับผม active ตัวเองได้ขนาดนี้ผมก็ดีใจแล้ว) มีหลายๆสิ่งที่ทำให้ผมมุ่งมั่นตั้งใจ คือ คำดูถูก, ครอบครัว, ลูก ทุกครั้งที่ผมรู้สึกท้อแท้ ผมจะนึกถึง ลูกเป็นอันดับแรก เวลาวันไหนที่ผมหยุดหรือว่างผมก็จะกลับไปหาลูกตลอดทุกครั้ง(เพราะผมอยู่หอครับ) บางทีเวลานอนข้างๆลูก ดูลูกเวลาหลับ ก็ทำให้ผมน้ำตาซึม ร้องไห้ ว่าเพราะอะไรทำไมลูกต้องมาลำบากกับเราด้วย และผมก็สัญญากับตัวเองว่า "จะทำให้ดีที่สุด" ถึงผมจะไม่ใช่พ่อที่ดีที่สุดแต่ผมก็รักลูกที่สุด และในตอนนี้ทำให้ผมนึกถึงวันเก่าๆที่ทำให้พ่อแม่เสียใจ พ่อแม่จะพูดกับผมเสมอว่า ลูกอยากได้อะไร พ่อแม่ก็จะหามาให้ ไม่ว่าเหนือยแค่ไหน ระหว่างที่เรียนวันไหนหยุดหรือว่างผมก็ไปรับจ้างทำนู่นนี่มั้ง ไม่ได้เป็นกิจ แม้ว่าเหนื่อยแต่ผมก็ทำเพื่อลูกเพื่อแฟน และในวันนี้ผมได้เข้าใจคำๆนั้นแล้วครับ ผมรู้สึกผิดกับพ่อแม่มากจริงๆ ผมอยากจะไปกราบขอโทษทุกๆอย่างที่เคยทำให้พ่อแม่เสียใจ แต่ไม่กล้าพอ ผมพูดกับตัวเองไว้แล้วว่าวันนึงผมจะทำให้ได้

     ที่มาพูดในวันนี้แค่อยากให้ทุกคนทำอะไรให้นึกถึงคนข้างหลัง(พ่อ-แม่)บ้างนะครับ เพราะปัญหามันเกิดจากเราทั้งนั้น พ่อแม่ไม่ได้ไปรู้เรื่องด้วยเลย แต่พอเกิดปัญหาขึ้นมา ก็พ่อแม่แหละครับ ที่ช่วยเหลือเรา

    และอยากจะรู้ว่ามีใครเคยเป็นเหมือนผมบ้างครับ?
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
คุณทำได้ดีแล้วค่ะ ถึงจะไม่ได้ดีที่สุดก็เถอะ
คุณก็ยังได้ชื่อว่าเป็น "ผู้ชายที่มีความรับผิดชอบ" กับการกระทำของตัวเอง

ยึดมั่นในสิ่งที่ตั้งใจทำเอาไว้นะคะ
ถึงผลแห่งความมุ่งมั่นอาจจะเห็นช้าสักหน่อย แต่อย่าท้อใจนะคะ
ความสำเร็จและความภาคภูมิใจที่จะเกิดขึ้นกับคุณ กำลังรอคุณอยู่ข้างหน้าค่ะ

สู้สู้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่