กรุงเทพโพลล์ สำรวจนักเศรษฐศาสตร์ ต่อการบริหารประเทศของ "รัฐบาลปู" ที่เหลืออีก 2 ปี พบ 63 % อยากให้เร่งแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นที่รุนแรงมากสุด 69 %เฝ้าระวังหนี้ภาคครัวเรือน หนีสาธารณะ ขณะเดียวกัน 96 % ให้รัฐบาลเฝ้าระวังปัญหาฟองสบู่ภาคอสังหาฯ ส่วนข้อเสนอแนะอันดับแรก ให้เลิกโครงการประชานิยม โดยเฉพาะจำนำข้าว
นับตั้งแต่ต้นปี 2556 เป็นต้นมา ประเด็นเศรษฐกิจถือเป็นประเด็นข่าวที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชนซึ่งแต่ละประเด็นปัญหามีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกัน เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของประเด็นปัญหาทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะ 2 ปีข้างหน้า ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ร่วมกับ คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จึงได้สำรวจความเห็น นักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 31 แห่ง จำนวน 63 คน เรื่อง “8 ประเด็นปัญหาเศรษฐกิจกับการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลใน 2 ปีที่เหลือ” ระหว่างวันที่ 11 - 18 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา พบว่า
ผลการสำรวจพบว่า นักเศรษฐศาสตร์ร้อยละ 63.5 มองว่าปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นปัญหาที่มีความรุนแรงและควรเร่งแก้ไขโดยเร็วเพราะอาจนำไปสู่วิกฤติเศรษฐกิจได้ ถัดมาร้อยละ 69.9 และร้อยละ 63.5 ต้องการให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษในปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน และปัญหาหนี้สาธารณะตามลำดับ
ส่วนปัญหาที่นักเศรษฐศาสตร์ต้องการให้รัฐบาลเฝ้าระวังมีดังนี้ ปัญหาฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ร้อยละ 96.9 ปัญหาเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ร้อยละ 93.6 ปัญหาเงินบาทแข็งค่า ร้อยละ 90.5 ภาวะเงินเฟ้อ/ข้าวของแพง ร้อยละ 82.5 และปัญหาการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ร้อยละ 81.0
สำหรับข้อเสนอแนะในการบริหารเศรษฐกิจในช่วง 2 ปีที่เหลือของรัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีดังนี้ อันดับ 1 ขอให้เลิกและปรับเปลี่ยนการดำเนินโครงการประชานิยมต่างๆ โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว เช่น การกำหนดวงเงินที่ชัดเจนในแต่ละปีการผลิต และควรเป็นระบบที่อิงกับราคาตลาด มีการจัดทำโซนนิ่งพื้นที่การผลิตที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไปพร้อมๆกัน
อันดับ 2 เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินในโครงการลงทุนต่างๆ และใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่ากับการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการ Mega projects
อันดับ 3 จริงจังกับการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ดำเนินโครงการต่างๆ ด้วยความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000074528
นักเศรษฐศาสตร์ 63 % จี้รัฐแก้ทุจริตที่รุนแรงด่วนสุด แนะเลิกประชานิยม
นับตั้งแต่ต้นปี 2556 เป็นต้นมา ประเด็นเศรษฐกิจถือเป็นประเด็นข่าวที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชนซึ่งแต่ละประเด็นปัญหามีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกัน เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของประเด็นปัญหาทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะ 2 ปีข้างหน้า ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ร่วมกับ คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จึงได้สำรวจความเห็น นักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 31 แห่ง จำนวน 63 คน เรื่อง “8 ประเด็นปัญหาเศรษฐกิจกับการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลใน 2 ปีที่เหลือ” ระหว่างวันที่ 11 - 18 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา พบว่า
ผลการสำรวจพบว่า นักเศรษฐศาสตร์ร้อยละ 63.5 มองว่าปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นปัญหาที่มีความรุนแรงและควรเร่งแก้ไขโดยเร็วเพราะอาจนำไปสู่วิกฤติเศรษฐกิจได้ ถัดมาร้อยละ 69.9 และร้อยละ 63.5 ต้องการให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษในปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน และปัญหาหนี้สาธารณะตามลำดับ
ส่วนปัญหาที่นักเศรษฐศาสตร์ต้องการให้รัฐบาลเฝ้าระวังมีดังนี้ ปัญหาฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ร้อยละ 96.9 ปัญหาเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ร้อยละ 93.6 ปัญหาเงินบาทแข็งค่า ร้อยละ 90.5 ภาวะเงินเฟ้อ/ข้าวของแพง ร้อยละ 82.5 และปัญหาการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ร้อยละ 81.0
สำหรับข้อเสนอแนะในการบริหารเศรษฐกิจในช่วง 2 ปีที่เหลือของรัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีดังนี้ อันดับ 1 ขอให้เลิกและปรับเปลี่ยนการดำเนินโครงการประชานิยมต่างๆ โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว เช่น การกำหนดวงเงินที่ชัดเจนในแต่ละปีการผลิต และควรเป็นระบบที่อิงกับราคาตลาด มีการจัดทำโซนนิ่งพื้นที่การผลิตที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไปพร้อมๆกัน
อันดับ 2 เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินในโครงการลงทุนต่างๆ และใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่ากับการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการ Mega projects
อันดับ 3 จริงจังกับการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ดำเนินโครงการต่างๆ ด้วยความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000074528