วุฒิฯยำกรมค้าภายในเละ รู้เห็นเป็นใจให้เหลือบจำนำข้าว

กระทู้ข่าว
วุฒิฯ ยำกรมค้าภายในเละ รู้เห็นเป็นใจให้เหลือบจำนำข้าว “ยุทธนา” ซัดร้านถูกใจโกงสะบัดปั้นสต๊อกลม 2 ล้านตัน ขายนอกระบบ ขู่ไม่เอาข้าวมาคืนรัฐบาลพัง รอง อ.ค้าภายในหน้าเสียเจอบี้หนักโบ้ย “อ.ค้าต่างประเทศ-บุญทรง-นายกฯ” รู้ยอดสต๊อกข้าวทั้งหมด...

วันที่ 18 มิิ.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา มีนายอนุรักษ์ นิยมเวช ส.ว.สรรหา เป็นประธาน เพื่อพิจารณาการทุจริตในโครงการนำรับจำข้าว โดย น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ประธานคณะกรรมการปิดบัญชีจำนำข้าว เข้าชี้แจง แต่ น.ส.สุภา แจ้งว่า ติดชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 จึงไม่สามารถมาชี้แจงได้

ทั้งนี้ นายสุชาติ สินรัตน์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงว่า ยังมีตัวเลขที่ขัดกันอยู่ ระหว่างรัฐบาลกับคณะกรรมการปิดบัญชีจำนำข้าว ที่มี น.ส.สุภา เป็นประธาน โดยเฉพาะยอดข้าวเปลือกในสต๊อก 7 ล้านตันเศษ ต้องแปรรูปเป็นข้าวสารได้ 4 ล้านตันเศษ แต่ตัวเลขที่ น.ส.สุภา รายงานอยู่ที่ 1.9 ล้านตันเศษ จึงต้องมีคณะกรรมการมาตรวจสอบส่วนนี้อีกที จึงยังไม่สรุปตัวเลขขาดทุนในปี 55/56 ส่วนการปรับกรอบเวลาโครงการ ต้องรอมติจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ก่อน ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลว่าจะเอาอย่างไรต่อไป แต่สุดท้ายต้องให้เกษตรกรอยู่ได้

นายสุชาติ กล่าวว่า ส่วนการป้องกันการทุจริต ขณะนี้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้แทนกระทรวงเกษตรฯ อ.ต.ก. อคส. ร่วมด้วย ขณะเดียวกัน มีการจับกุมการทุจริตตลอดเวลา แต่ที่ไม่มีข่าวมากนัก เพราะฝ่ายนโยบายมองว่า หากเป็นข่าวออกไปจะถูกมองว่าโครงการนี้มีแต่การทุจริต แต่หากตรวจพบจะดำเนินคดีเด็ดขาด ขณะนี้มีโรงสีหลายโรงถูกแบล็กลิสต์ไม่ให้เข้าร่วมโครงการ หลังถูกตรวจพบมีส่วนร่วมทุจริตโดยตรวจพบฤดูกาลผลิตนาปี 54/55 มี 26 คดี อาทิ จ.กาญจนบุรี ออกใบรับรองให้เกษตรกรที่ไม่ได้ทำนาจริง ซึ่งส่งดีเอสไอดำเนินการแล้ว ที่ จ.นครนายก เรื่องฉ้อโกงซึ่งศาลได้ตัดสินจำคุกเกษตรกรโดยไม่รอลงอาญา จ.นครสวรรค์ มีฉ้อโกง 16 คดี อาทิ เอาไร่อ้อยมาสวมสิทธิ์เป็นนาข้าว นอกจากนั้น ยังพบทุจริตที่อุทัยธานี นครปฐม สุโขทัย สกลนคร นคราชสีมา บุรีรัมย์ พิษณุโลก ส่วนนาปรังตรวจพบรวม 14 คดี เกี่ยวกับฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ ส่วนปี 55/56 มีดำเนินคดีที่อ่างทอง 1 คดี เพชรบูรณ์ 7 คดี ปราจีนบุรี 1 คดี อุบลราชธานี 1 คดี

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนการนำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิ์ ได้มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงร่วมแบ่งกำลังดูแล โดยเฉพาะจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศกัมพูชา ส่วนใหญ่ลักลอบนำเข้าโดยไม่มีใบอนุญาตขนย้ายข้าว ขณะที่กรมการค้าภายในมีมาตรการกำหนดว่า หากจะขนย้ายข้าวตั้งแต่ 5 เมตริกตันขึ้นไป ต้องขออนุญาตกรมการค้าภายในก่อน หากนำไปลงโรงสีที่เข้าโครงการรับจำนำข้าวจะไม่อนุญาต ถ้าฝ่าฝืนถือว่ามีความผิด แต่ก็ยังมีข่าวลักลอบขนอยู่ประจำ แต่กรมการค้าฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จับกุมได้ตลอด อาทิ จ.สระแก้ว มี 7 คดี กทม. 1 คดี บุรีรัมย์ 3 คดี ปราจีนบุรี 6 คดี ฉะเชิงเทรา 2 คดี สุพรรณบุรี 1 คดี สมุทรสงคราม 1 คดี รวม 7 จังหวัด 21 คดี โดยจะเอาผิดทุกข้อกล่าวหาไปให้ถึงที่มาด้วย

จากนั้นกรรมาธิการหลายคนได้ร่วมซักถาม โดย พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ส.ว.สรรหา กรรมาธิการ กล่าวว่า จากการตรวจสอบโครงการร้านถูกใจ กระทรวงพาณิชย์ ที่ขออนุมัติใช้ข้าวจากโครงการรับจำนำ 2 รอบ รอบแรกอนุมัติ 5 แสนตัน รอบสองอีก 1.8 ล้านตัน ไม่ทราบว่าจนถึงขณะนี้มีการส่งข้าวไปแล้วกี่ตัน ขณะที่ นายธานี อ่อนละเอียด ส.ว.สรรหา กรรมาธิการ กล่าวว่า อยากทราบว่าการสั่งห้ามชี้แจงเรื่องสต๊อกข้าว ยอดการระบายข้าวออก เป็นเรื่องของความมั่นคงชาติตั้งแต่เมื่อไหร่ ใครเป็นคนสั่งให้ปกปิดตัวเลข

โดยนายสุชาติ ปฏิเสธว่า ถึงตนจะเป็นรองอธิบดีฯ แต่ก็ไม่ทราบว่าสต๊อกข้าวอยู่ที่ไหน มีเท่าไหร่ รู้เป็นรายโกดังที่ออกไปตรวจบัญชี แต่ตรงนี้เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ของการขายข้าว หากรู้ว่าพอร์ตข้าวของเรามีอยู่เท่าไหร่ หากต่างชาติทุบราคาจะเป็นภาระกับผู้ที่ขายมากตนรู้แต่ตัวเลขคร่าวๆ แต่คนที่รู้จริง คืออธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ รมว.พาณิชย์ และนายกรัฐมนตรี ที่ถือตัวเลขนี้อยู่ แต่ในฐานะผู้รับผิดชอบตรวจสอบข้าว จะต้องมีอยู่ตามบัญชีจริงส่วนตัวเลขผูกพัน เช่น ข้าวจีทูจี เป็นยุทธศาสตร์การขายข้าว และไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนๆ ก็ทำแบบนี้มาตลอด อย่างไรก็ตาม จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2556 ต้องอยู่ภายใต้กรอบวงเงิน 4.1 แสนล้านบาท บวก 9 หมื่นล้านบาท ลองคำนวณง่ายๆ ปี 54/55 มีข้าวมาจำนำ 21 ล้านตัน ปี 55/56 อีกกว่า 20 ล้านตัน รวมกว่า 40 ล้านตัน ตันละ 15,000 บาท ก็กว่า 6 แสนล้านบาท แล้วแต่เราต้องใช้เงินที่ได้จากการระบายมาหมุนเวียนให้อยู่ในกรอบนี้ ไม่ให้เกินกรอบ

นายสุชาติ กล่าวว่า ส่วนตัวเลขขาดทุนที่คลาดเคลื่อนนั้น เพราะมีตัวเลขที่โรงสีค้างส่งมอบอยู่ ส่วนหนึ่งเพราะแบบฟอร์มเช็กสต๊อกข้าวของคณะอนุกรรมการฯ ชุด น.ส.สุภา ไม่มีช่องกรอกตัวเลขข้าวค้างส่งมอบ อ.ต.ก.และ อคส. ก็เลยไม่กรอกให้ ทำให้ตัวเลขข้าวในสต๊อกลดลงยอดการขาดทุนจึงสูงขึ้น ซึ่งต้องให้ น.ส.สุภา ชี้แจง ส่วนยอดข้าวถุงที่ขายอยู่ในร้านค้าถูกใจ ตนไม่ทราบว่ามียอดจริงเท่าไหร่ ต้องบอกว่าโครงการนี้ดีมาก ข้าวคุณภาพดีมากราคาถุงละ 70 บาท แต่ด้วยข้อจำกัดด้านระบบขนส่ง ทำให้ไม่สามารถกระจายสินค้าได้ทั่วถึง แต่ก็ปรับระบบใหม่โดยใช้ห้างแมคโคร เป็นจุดกระจาย ทำให้ พล.ต.ท.ยุทธนา ตอบโต้กลับอย่างดุเดือดว่า ตนมีตัวเลขหมดแล้ว ข้าวที่อนุมัติทั้งหมดเกือบ 2.5 ล้านตัน มีข้าวที่ขายอยู่ในร้านถูกใจแค่ 5-6 หมื่นตัน แล้วข้าวเกือบ 2 ล้านตันมันหายไปไหน

ขณะที่กรมการค้าภายใน บังคับราคาขายห้ามเกินถุงละ 70 บาท แต่ราคาขายจริง 80 บาท ไม่มีเลยข้าวถุงละ 70 บาท มีที่เดียวในประเทศคือ ร้านมังกรพาณิชย์ จ.นครราชสีมา รู้จักกันกับผู้ค้าข้าวรายใหญ่ในจังหวัด เกิดหน้าร้านบังหน้า เพราะคงรู้ว่าตนจะไปตรวจ แต่ก็โชว์อยู่กองเดียว ขณะที่ร้านข้างๆ ขาย 80 บาท เล่นละครกัน ที่บอกว่ามีปัญหาระบบขนส่งก็ไม่จริง อย่างบริษัท นิ่มซี่เส็ง ก็พร้อมขนส่งให้ แต่ท่านไม่เอา บังคับให้เขาขายได้ไม่เกินเดือนละ 100-200 กิโลกรัม แล้วกี่ชาติจะขายข้าวอีก 2 ล้านตันหมด หวังเอาที่เหลือไปขายนอกระบบที่ตันละ 13,000-14,000 บาท ร้านค้าที่ร่วมโครงการมี 10,070 ร้าน วันนี้เหลือ 4,000 กว่าร้าน ทั้งที่คนขายอยากขาย คนซื้อก็อยากจะซื้อ เพราะอะไร โกงทั้งระบบโกงประเทศชาติ โดยเอาร้านถูกใจบังหน้า

นายสุชาติ ชี้แจงด้วยสีหน้าไม่สู้ดีว่า ข้าว 2.5 เป็นการอนุมัติกรอบเพื่อนำมาช่วยประชาชนข้าวยังใช้ไม่หมด แต่ พล.ต.ท.ยุทธนา กล่าวแทรกว่า รู้มาว่าตอนนี้เบิกข้าวไปแล้ว 1 ล้านตัน นำออกขายแค่ 5-6 หมื่นตัน ที่เหลือมันไปไหน เงินก็จ่ายครบแล้ว แต่อ้างว่ายังไม่ได้รับข้าว เงินเป็นหมื่นล้าน ทิ้งไปเฉยๆ ไม่อยากจะพูดว่ามันอันตรธานหายไปเฉยๆ ได้อย่างไร เพราะข้าว 2.5 ล้านตัน บรรจุถุงเดือนละ 1.5 แสนตัน รวมแล้ว 500 ล้านถุง ใครทำทัน ต้องบอกว่าเป็นวิธีการที่แยบยล ตนว่ากรมการค้าภายในรู้ดีทุกอย่าง แต่ปิดบัง บอกตรงๆ ว่าไม่ซื่อ ถามอะไรก็บอกไม่รู้ๆ อย่างนี้เป็นรองอธิบดีฯ ได้อย่างไร ราคาข้าวที่ขายได้แค่ 1 ใน 4 ขาดทุนไป 3 เท่า ไม่รวมค่าบริหารจัดการอีก 4 หมื่นล้านบาท

จากข้อมูลที่ได้มา พบว่าตัวเลขที่ น.ส.สุภา ระบุคลาดเคลื่อนจริง แต่เจ็บใจว่าข้าวมันหายไป 2 ล้านตัน มันหายไปเข้ากระเป๋าใคร บอกเบิกไม่หมด ถามว่ายังมีอยู่จริงหรือไม่ ตนกำลังตามอยู่เรื่องนี้ ยอมไม่ได้ โกงโดยอ้างชาวนา แต่ไปถึงไอ้คนรวยๆ ไม่กี่คน เรื่องนี้ต้องมีรัฐมนตรีถูกดำเนินคดี ต้องเอาข้าว 2 ล้านตันนั้นคืนมา และถ้ายังทำต่อ รัฐบาลนี้อยู่ไม่ได้ พังแน่ ตนเคยเสนอว่า หากรัฐบาลจะช่วยชาวนาจริง ควรประกันรายได้ให้ชาวนาไร่ละ 2,000 บาท คนละไม่เกิน 15 ไร่ ใช้เงินไม่เกิน 5-6 หมื่นล้านบาท แต่ทุกคนได้หมด ทำไมไม่ทำ ส่วนที่มี ส.ว.บางจังหวัดออกมาสนับสนุนการรับจำนำข้าว เพราะที่บ้านมีโรงสีค่าใช้จ่าย จัดเก็บข้าวกระสอบละ 2 บาทต่อเดือน หากให้เช่าเก็บล้านกระสอบ ก็ 2 ล้านบาทต่อเดือนแล้ว.
http://www.thairath.co.th/content/pol/352021
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่