แค่อยากเตือนสติ คุณพ่อ คุณแม่ ทั้งหลายที่คาดหวังกับระดับความสามารถของลูกน้อยค่ะ

วันนี้ ขณะนั่งรอรับลูกสาวที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง เรานั่งดูแม่ ลูกคู่หนึ่ง คุณลูกน่าจะอยู่ระดับชั้นเตรียมอนุบาล เด็กน้อยกำลังถูกคุณแม่สอนอ่านตัวเลข คุณแม่สอนลูกน้อยด้วยท่าทีจริงจังมาก ให้ลูกอ่านและจดจำให้จงได้ ณ เวลานี้ พอเด็กน้อยมีท่าทีอึดอัด ไม่สนใจ คุณแม่ตีหลังลูกน้อย 1 ที สักพักคุณแม่สอนต่อ ด้วยวัยนั้นเรามองว่า เด็กวัยนี้คงจะมีสมาธิไม่ยาวนักหรอกค่ะ  สักพักเดียวเด็กน้อยก็ไม่สนใจสิ่งที่คุณแม่กำลังสอน คุณแม่พูดกับเด็กน้อยว่า "เดี๋ยวจะให้ไปยื่นกลางแดด" เด็กน้อยหันมาสนใจต่อ ดูค่อนข้างกลัวเล็กน้อย คุณแม่ท่านนี้ ได้สอนลูกน้อยต่อ โดยน้ำเสียงเริ่มโมโห นั่นหละด้วยความเป็นเด็ก ก็สนใจการสอนแบบบังคับเพียงแวบเดียว คุณแม่ตบปากลูกน้อย ไม่แรงมากแต่ได้ยิน "เปี้ยะ" และนำสมุดเล่มที่กำลังสอนเอามาบี้ที่หน้า เหมือนกำลังสั่งว่า ให้สนใจสิ่งที่แม่สอนก่อนนะ ทำนองนี้

เราเห็นใจเด็กค่ะ สอนไปตีไป สอนไปขู่กันไป เพืี่ออะไร เพื่อให้เขาเก่ง หรือเพียงแค่ อยากให้เขาเพียงอ่านออก เขียนได้ อยากบอกกับคุณพ่อ คุณแม่ ที่กำลังคาดหวังกับระดับความสามารถของลูกค่ะว่า มนุษย์เราเกิดมา มีรอยหยักในสมองไม่เหมือนกัน ความสามารถในการจนจำก็แตกต่างกัน เด็กบางคนเก่งจนเวอร์แม้เพิ่งเริ่มต้น แต่เด็กบางคนให้พยายามเท่าไหร่ ก็ได้แค่นั้น  ทุกสิ่งล้วนใช้เวลาในการเติบโต  ความเก่งไม่ได้หมายความว่าลูกจะมีอนาคตที่ดี แต่ไม่เถียงค่ะว่าการศึกษาเป็นพื้นฐานของอนาคต  เราเป็นแม่คนหนึ่งที่ไม่คิดคาดหวังกับระดับความสามารถของลูก และ ไม่ต้องการแข่งขันกับใคร ขอแค่เขาเติบโตอย่างมีความสุข เพียงพอแล้ว

เมื่อเติบโตขึ้นไป ให้เขาดูแลตนเองได้ ไม่ลำบาก คิดวิเคราะห์กับปัญหาต่างๆนาๆที่จะเข้ามาในชีวิตเขาได้ พอแล้วค่ะ แต่ถึงกระนั้น นานาจิตตังค่ะ คนเราคิดไม่เหมือนกัน แต่เชืีอว่า สิ่งหนึ่งที่คิดเหมือนกันคือ "ขอแค่ลูกมีความสุข" เท่านั้นค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่