http://www.dailynews.co.th/politics/212697
(วันนี้17 มิ.ย.) สืบเนื่องจากกรณีแนวคิดของนายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่จะให้แก้กฎหมายเพื่อให้รีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศ ที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน อ.วังน้ำเขียว และ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของมรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ เช่าพื้นที่เพื่อประกอบกิจการต่อไปได้นั้น โดยอาจจะมีการเสนอต่อ ครม. ขอให้เพิกถอนพื้นที่อุทยานฯ ในส่วนที่ถูกรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศบุกรุก เพื่อไม่ต้องรื้อถอน ตามมาตรา 22 ของ พ.ร.บ. อุทยานฯ 2504 และให้เข้ามาเป็นพื้นที่ป่าในกฎหมายและความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ เพื่อให้เป็นดุลยพินิจของอธิบดีกรมป่าไม้ที่จะพิจารณาให้ใช้ประโยชน์ต่อไปนั้น
นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรคทวงคืนผืนป่า ในฐานะอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือถึงนายมโนพัศในนามหัวหน้าพรรคทวงคืนผืนป่า ว่าไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว เพราะทั้งศาลปกครองและคณะกรรมการกฤษฏีก็เคยมีความเห็นในเรื่องนี้แล้วว่ารีสอร์ทที่บุกรุกพื้นที่นั้นเป็นการดำเนินการไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก และศาลปกครองก็ไม่คุ้มครองการรื้อถอน แนวคิดที่จะให้เช่าจึงไม่สามารถทำได้ ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นแนวคิดของนายมโนพัศเอง แต่น่าจะเป็นการสั่งการมาจากผู้มีอำนาจในรัฐบาล โดยเฉพาะในเรื่องการเพิกถอนพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน ในส่วนที่ถูกบุกรุกนั้น เรื่องการเพิ กถอนอุทยานฯ ไม่ได้สามารถทำได้ง่ายๆ เพราะมีขั้นตอนที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการอุทยานฯ และหลายภาคส่วน ที่ผ่านมาก็มีการเพิกถอนให้โครงการในพระราชดำริที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเท่านั้น และเป็นพื้นที่ไม่มาก ไม่ใช่จะมาเพิกถอนเพื่อให้รีสอร์ท บ้านพักตากอากาศเช่า ซึ่งจะเป็นบรรทัดฐานให้พื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ ที่เห็นพื้นที่ทับลานทำได้ พื้นที่อื่นก็ต้องทำได้ และสุดท้ายพื้นที่ป่าต้นน้ำที่มีความสวยงามต้องหมดแน่นอน
นายดำรงค์ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญพื้นที่อุทยานฯ ทับลานเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ที่ขณะนี้คณะกรรมการมรดกโลกกำลังประชุมอยู่ที่ประเทศกัมพูชา เพื่อพิจารณาสถานะการอนุรักษ์ของประเทศไทย ว่าจะจัดอันดับมรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่เข้าไปอยู่ในบัญชีเสี่ยงคุกคามหรือไม่ ทั่วโลกเขาเรียกร้องให้ประเทศไทยอนุรักษ์และบริหารจัดพื้นที่ให้ดี บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข้งกับรีสอร์ทบ้านพักตากอากาศที่บุกรุกพื้นที่ ถ้าหากมีการเพิกถอนพื้นที่อุทยานฯ หรือดำเนินการเพื่อให้รีสอร์ท บ้านพักตากอากาศเช่าได้ ก็จะกระทบกับความเป็นมรดกโลกโดยอาจถูกจัดเข้าบัญชีภาวะอันตรายและเพิกถอนจากการเป็นมรดกโลกในที่สุด เรื่องโกงกิน โกงเงินโกงทองก็ว่ากันไป แต่ขอฝากไว้ว่าอย่าโกงแผ่นดินที่เป็นของประชาชนทุกคนนั้นอย่าทำ ขอฝากไปถึงนายมโนพัศว่าจะเอาเกียรติยศที่รับราชการมาตลอดชีวิตมาเสี่ยงกับเรื่องนี้หรือไม่
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือถึงนายมโนพัศ ว่าไม่เห็นด้วยและไม่ใช่เรื่องถูกต้องที่จะให้รีสอร์ท บ้านพัก ตากอากาศ ที่บุกรุกอุทยานฯ ทับลาน เช่าพื้นที่เพื่อประกอบกิจการต่อ เพราะวันนี้พื้นที่ป่าอนุรักษ์ลดน้อยลงไปทุกวัน ซึ่งรัฐบาลเองก็บอกว่าให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และประชาชนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยถึงความสำคัญในเรื่องการรักษาพื้นที่ป่า แต่อธิบดีกรมอุทยานฯ ที่เป็นผู้รักษากฎหมายหลายฉบับความเรียกความเชื่อมั่นในเรื่องการอนุรักษ์และรักษาพื้นที่ป่ากลับมาได้แล้ว
“พื้นที่อุทยานฯ ที่ถูกรีสอร์ท บ้านพัก ตากอากาศบุกรุก และมีการดำเนินคดีจนถึงที่สุดแล้ว ต้องเอาพื้นที่คืนกลับคืนมา อย่าไปใช้เล่ห์เหลี่ยมบอกว่าการทุบแล้วไม่เกิดประโยชน์ แล้วจะให้เช่า ถ้าอธิบดีไม่มีความรู้ในเรื่องการปลูกป่าหรือเอาพื้นที่ป่าคืนให้มาบอกภาคประชาชนเราจะไปดำเนินการให้ ถ้านายมโนพัศยังดึงดันจะให้มีการเช่าพื้นที่อุทยานฯ เพื่อทำรีสอร์ท ก็คงต้องเจอกับผมที่ศาลปกครอง”นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้นายมโนพัศอ้างว่ารีสอร์ทบ้านพักตากอากาศหลายคดียังไม่รื้อถอนเพราะอยู่ในขั้นตอนของศาลปกครอง แต่ก็มีหลายคดีที่ศาลพิพากษาถึงที่สุดแล้วซึ่งตั้งแต่นายมโนพัศเข้ามารับตำแหน่งก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งที่กรณีที่เกิดขึ้นต้องบังคับคดีให้เป็นไปตามคำสั่งศาลถือว่านายมโนพัศละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งนายมโนพัศจะเกษียณอายุราชการภายในเดือน ก.ย.นี้ ตนให้เวลาอีกเล็กน้อยหากยังไม่ดำเนินการใดๆ ในกรณีรีสอร์ทบ้านพักตากอากาศที่ศาลมีคำสั่งให้รื้อถอนแล้ว ตนจะแจ้งความดำเนินคดีกับนายมโนพัศก่อนเกษียณแน่นอน เรื่องนี้เป็นแนวปฏิบัติที่ไม่ว่าใครมาเป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ ก็ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย..
................................................................................................
ดำรงค์ เอ๋ย ตอนอยู่เขาก็อาศัยชื่อสร้างภาพ พอออกมาเขาก็ถีบหัวไล่ส่ง ยุคนี้นักการเมืองมันเห็นเงิน ผลประโยชน์ เป็นใหญ่
ป่าเมืองไทย วังน้ำเขียว ตั้งท่าเสร็จโจรไปอีกแล้ว !
นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานฯ เสนอ "เพิกถอน" พื้นที่อุทยาน (ให้รีสอร์ทเช่า)
(วันนี้17 มิ.ย.) สืบเนื่องจากกรณีแนวคิดของนายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่จะให้แก้กฎหมายเพื่อให้รีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศ ที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน อ.วังน้ำเขียว และ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของมรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ เช่าพื้นที่เพื่อประกอบกิจการต่อไปได้นั้น โดยอาจจะมีการเสนอต่อ ครม. ขอให้เพิกถอนพื้นที่อุทยานฯ ในส่วนที่ถูกรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศบุกรุก เพื่อไม่ต้องรื้อถอน ตามมาตรา 22 ของ พ.ร.บ. อุทยานฯ 2504 และให้เข้ามาเป็นพื้นที่ป่าในกฎหมายและความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ เพื่อให้เป็นดุลยพินิจของอธิบดีกรมป่าไม้ที่จะพิจารณาให้ใช้ประโยชน์ต่อไปนั้น
นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรคทวงคืนผืนป่า ในฐานะอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือถึงนายมโนพัศในนามหัวหน้าพรรคทวงคืนผืนป่า ว่าไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว เพราะทั้งศาลปกครองและคณะกรรมการกฤษฏีก็เคยมีความเห็นในเรื่องนี้แล้วว่ารีสอร์ทที่บุกรุกพื้นที่นั้นเป็นการดำเนินการไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก และศาลปกครองก็ไม่คุ้มครองการรื้อถอน แนวคิดที่จะให้เช่าจึงไม่สามารถทำได้ ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นแนวคิดของนายมโนพัศเอง แต่น่าจะเป็นการสั่งการมาจากผู้มีอำนาจในรัฐบาล โดยเฉพาะในเรื่องการเพิกถอนพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน ในส่วนที่ถูกบุกรุกนั้น เรื่องการเพิ กถอนอุทยานฯ ไม่ได้สามารถทำได้ง่ายๆ เพราะมีขั้นตอนที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการอุทยานฯ และหลายภาคส่วน ที่ผ่านมาก็มีการเพิกถอนให้โครงการในพระราชดำริที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเท่านั้น และเป็นพื้นที่ไม่มาก ไม่ใช่จะมาเพิกถอนเพื่อให้รีสอร์ท บ้านพักตากอากาศเช่า ซึ่งจะเป็นบรรทัดฐานให้พื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ ที่เห็นพื้นที่ทับลานทำได้ พื้นที่อื่นก็ต้องทำได้ และสุดท้ายพื้นที่ป่าต้นน้ำที่มีความสวยงามต้องหมดแน่นอน
นายดำรงค์ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญพื้นที่อุทยานฯ ทับลานเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ที่ขณะนี้คณะกรรมการมรดกโลกกำลังประชุมอยู่ที่ประเทศกัมพูชา เพื่อพิจารณาสถานะการอนุรักษ์ของประเทศไทย ว่าจะจัดอันดับมรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่เข้าไปอยู่ในบัญชีเสี่ยงคุกคามหรือไม่ ทั่วโลกเขาเรียกร้องให้ประเทศไทยอนุรักษ์และบริหารจัดพื้นที่ให้ดี บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข้งกับรีสอร์ทบ้านพักตากอากาศที่บุกรุกพื้นที่ ถ้าหากมีการเพิกถอนพื้นที่อุทยานฯ หรือดำเนินการเพื่อให้รีสอร์ท บ้านพักตากอากาศเช่าได้ ก็จะกระทบกับความเป็นมรดกโลกโดยอาจถูกจัดเข้าบัญชีภาวะอันตรายและเพิกถอนจากการเป็นมรดกโลกในที่สุด เรื่องโกงกิน โกงเงินโกงทองก็ว่ากันไป แต่ขอฝากไว้ว่าอย่าโกงแผ่นดินที่เป็นของประชาชนทุกคนนั้นอย่าทำ ขอฝากไปถึงนายมโนพัศว่าจะเอาเกียรติยศที่รับราชการมาตลอดชีวิตมาเสี่ยงกับเรื่องนี้หรือไม่
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือถึงนายมโนพัศ ว่าไม่เห็นด้วยและไม่ใช่เรื่องถูกต้องที่จะให้รีสอร์ท บ้านพัก ตากอากาศ ที่บุกรุกอุทยานฯ ทับลาน เช่าพื้นที่เพื่อประกอบกิจการต่อ เพราะวันนี้พื้นที่ป่าอนุรักษ์ลดน้อยลงไปทุกวัน ซึ่งรัฐบาลเองก็บอกว่าให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และประชาชนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยถึงความสำคัญในเรื่องการรักษาพื้นที่ป่า แต่อธิบดีกรมอุทยานฯ ที่เป็นผู้รักษากฎหมายหลายฉบับความเรียกความเชื่อมั่นในเรื่องการอนุรักษ์และรักษาพื้นที่ป่ากลับมาได้แล้ว
“พื้นที่อุทยานฯ ที่ถูกรีสอร์ท บ้านพัก ตากอากาศบุกรุก และมีการดำเนินคดีจนถึงที่สุดแล้ว ต้องเอาพื้นที่คืนกลับคืนมา อย่าไปใช้เล่ห์เหลี่ยมบอกว่าการทุบแล้วไม่เกิดประโยชน์ แล้วจะให้เช่า ถ้าอธิบดีไม่มีความรู้ในเรื่องการปลูกป่าหรือเอาพื้นที่ป่าคืนให้มาบอกภาคประชาชนเราจะไปดำเนินการให้ ถ้านายมโนพัศยังดึงดันจะให้มีการเช่าพื้นที่อุทยานฯ เพื่อทำรีสอร์ท ก็คงต้องเจอกับผมที่ศาลปกครอง”นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้นายมโนพัศอ้างว่ารีสอร์ทบ้านพักตากอากาศหลายคดียังไม่รื้อถอนเพราะอยู่ในขั้นตอนของศาลปกครอง แต่ก็มีหลายคดีที่ศาลพิพากษาถึงที่สุดแล้วซึ่งตั้งแต่นายมโนพัศเข้ามารับตำแหน่งก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งที่กรณีที่เกิดขึ้นต้องบังคับคดีให้เป็นไปตามคำสั่งศาลถือว่านายมโนพัศละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งนายมโนพัศจะเกษียณอายุราชการภายในเดือน ก.ย.นี้ ตนให้เวลาอีกเล็กน้อยหากยังไม่ดำเนินการใดๆ ในกรณีรีสอร์ทบ้านพักตากอากาศที่ศาลมีคำสั่งให้รื้อถอนแล้ว ตนจะแจ้งความดำเนินคดีกับนายมโนพัศก่อนเกษียณแน่นอน เรื่องนี้เป็นแนวปฏิบัติที่ไม่ว่าใครมาเป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ ก็ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย..
................................................................................................
ดำรงค์ เอ๋ย ตอนอยู่เขาก็อาศัยชื่อสร้างภาพ พอออกมาเขาก็ถีบหัวไล่ส่ง ยุคนี้นักการเมืองมันเห็นเงิน ผลประโยชน์ เป็นใหญ่
ป่าเมืองไทย วังน้ำเขียว ตั้งท่าเสร็จโจรไปอีกแล้ว !