เป็นครั้งแรกที่รีวิว ส่วนมากชอบดูเพือนอื่นๆที่รีวิวกัน จขกท ขอรีวิวครีมที่ใช้อยู่และก็ว่าใช้ดีเนอะ สำหรับตัวเอง
และอยากบอกต่อ หรือเพื่อนไหนกำลังจะมาเที่ยวญี่ปุ่นเพื่อได้หาซื้อกลับไปด้วย มาดูกันค่ะ
เอาหน้า จขกท ไปก่อน ที่ให้ดูคือก่อนนี้หน้าจะขาวไม่สม่ำเสมอช่วงขอบหน้า และหน้าผากจะคล้ำมาก เขาก็แนะนำให้ทาครีมกันแดดหนาๆ
ตรงที่คิดว่าดำ มันก้ไม่หายน่ะ
ได้มาใช้ตัวนี้ค่ะ Dr.cilabo หน้าค่อยๆดีขึ้นและใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเราก็ค่อนข้างพอใจกับครีมตัวนี้ ก่อนหน้านี้เคยใช้ ฮาดะ ก็ไม่ได้ผล
ก็เลยเลิกใช้เอามาทาคอแทน อาจจะเพราะหน้าเรามันหนักเกิน ฮาดะจะเยี่ยวยาได้เนอะ ในหนังสือนิตยสารของญี่ปุ่นเขาจะบอกว่าครีมไรน่าใช้ อันไหน No.1 มันดึงดูดอยากให้ซื้อจริงๆ ไม่รุ้ทำไมแค่คำว่า No.1 ...อยากจะบอกเพื่อนถ้าอยากจะซื้อ Dr.cilabo ให้ซื้อที่ดิวตี้ฟรีในนามบินค่ะ เขาจะมีเซทโปรโมชั่นถูกมาก เราแนะนำที่ราคาประมาณเกือบหมื่นเยน เซทนั้นคุ้มมาก
ตอนนี้ตัวครีมของ Dr.cilabo หมดเราก็มาใช้รกแกะแทน (แม่แฟนซื้อมาฝาก) แต่เราไม่ชอบเนื้อครีมซีมยาก เหนียว หน้ามัน ซึ่งมันต่างจากครีมของญี่ปุ่นเนื้อเป็นเจลใสๆ ซึมง่ายทาแล้วรู้สึกหน้ามันดึงๆ วันนี้เราเลยไปถอย ชิเชโด้แดงมา ราคา 1589 เยน เพื่อนแนะนำและพี่ที่ใช้ก่อนนี้เราสังเกตหน้าเขามันใสและตึงขึ้น รกแกะ ก็ลงไปที่คอแทน เหมือน ฮาดะ
ครีมกันแดดค่ะ เราใช้ของ ฮาดะ เนื้อซึมง่ายไม่มัน ทาแล้วหน้าจะออกขาวนิดๆ ส่วนมากทาเสร็จเราจะไม่ทาแป้งตาม (ถ้าไม่แต่งหน้าน่ะ) แต่ ก่อนนี้เคยใช้ของ Menard อันนี้ชอบมากทาหน้าไม่มันและไม่ต้องตามด้วยแป้งเลยหน้าจะดูนวลๆใสๆ แต่แพง 4000 กว่าเยน ได้เป็นของขวัญมาซื้อเองคงไม แฮะ ๆ
ต่อด้วยโฟมล้างหน้าก่อนนี้ใช้วิปสีฟ้าแต่มันเบสิคไปสำหรับเราน่ะ แฟนเลยบอกให้กลับไปใช้สบู่ชาเขียวเหมือนเดิม เพราะเขาเองก็ชอบพอกลับมาใช้เห็นความแตกต่างชัดเลย เพื่อนที่จะมาเที่ยวญี่ปุ่นแนะนำซื้อติดมือกลับไปด้วยนะค่ะเราแนะนำ มันมีหลายแบบนะตามร้านขายยามีขาย เราสังเกตว่าที่ญี่ปุ่นจะนิยมสบู่มากกว่าโฟนน่ะ เพราะเห็นอะไรๆ ก็ครีมฟู ๆ แต่มันยังมีสบู่ที่น่าใช้กว่านี้อีกเยอะและดีจริงๆ แอบแพงนิดครั้งหน้าจะไปสอยมาใช้ อิอิ ปล.สบู่ชาเขียวลดสิวได้ด้วย
เพื่อนทุกคนต้องมาคหน้ากันละ เราใช้มาคเต้าหู้ และตามด้วยโลชั่นมาคหน้าค่ะ ที่นี้เขาจะมีเป็นแพคสำหรับ30วัน ถูกด้วย 900 กว่าเยน
เราแนะนำมาคเต้าหู้และตามด้วยแผ่นมาคโลชั่น แรกจะทำสอง-สามครั้งต่ออาทิตย์ และลดลงมาเหลืออาทิตย์ละครั้ง คนญี่ปุ่นเขาบอกเราว่าให้มาควันเว้นวันไปเลยจะเห็นผลชัด แต่เราทำได้แค่2-3ครั้งต่ออาทิตย์ก็เยอะละขี้เกียจ คนที่บอกเราอายุ 45 แต่หน้าเขาดีกว่าเรามากๆๆๆ
วิตามินเสริมเราไม่ทานเลยค่ะเพราะไม่ชอบไรๆที่เป็นเหมือนเม็ดยา แต่เราไปอ่านเจอในเวปฝารั่งมา คือ ดื่มน้ำเลมอนเช้า-เย็น ผสมน้ำอุ่น
และน้ำผึ้งก็ได้ทำแบบนี้ติดต่อกัน 1-2 อาทิตย์จะเห็นความเปลี่ยนไปของผิว แต่เราผสมกับน้ำวิตามินแทนดื่มแค่ก่อนนอน เคยดื่มตอนเช้ามันบาดคอและจะอ๊วก
เรารีวิวเยอะไปไมค่ะ เพราะรู้สึกว่ามันเยอะ ถ้าเยอะขอโทษด้วยนะค่ะ ช่วงนี้ตกงานค่ะ พ่อบ้านบอกให้อยู่ทำลูกอย่างเดียว
เฮ้อ พูดถึงจะมีลูกนี้มันยากจริงๆ ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะยากแบบนี้
[CR] รีวิว ครีมของญี่ปุ่นที่ใช้ค่ะ
และอยากบอกต่อ หรือเพื่อนไหนกำลังจะมาเที่ยวญี่ปุ่นเพื่อได้หาซื้อกลับไปด้วย มาดูกันค่ะ
เอาหน้า จขกท ไปก่อน ที่ให้ดูคือก่อนนี้หน้าจะขาวไม่สม่ำเสมอช่วงขอบหน้า และหน้าผากจะคล้ำมาก เขาก็แนะนำให้ทาครีมกันแดดหนาๆ
ตรงที่คิดว่าดำ มันก้ไม่หายน่ะ
ได้มาใช้ตัวนี้ค่ะ Dr.cilabo หน้าค่อยๆดีขึ้นและใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเราก็ค่อนข้างพอใจกับครีมตัวนี้ ก่อนหน้านี้เคยใช้ ฮาดะ ก็ไม่ได้ผล
ก็เลยเลิกใช้เอามาทาคอแทน อาจจะเพราะหน้าเรามันหนักเกิน ฮาดะจะเยี่ยวยาได้เนอะ ในหนังสือนิตยสารของญี่ปุ่นเขาจะบอกว่าครีมไรน่าใช้ อันไหน No.1 มันดึงดูดอยากให้ซื้อจริงๆ ไม่รุ้ทำไมแค่คำว่า No.1 ...อยากจะบอกเพื่อนถ้าอยากจะซื้อ Dr.cilabo ให้ซื้อที่ดิวตี้ฟรีในนามบินค่ะ เขาจะมีเซทโปรโมชั่นถูกมาก เราแนะนำที่ราคาประมาณเกือบหมื่นเยน เซทนั้นคุ้มมาก
ตอนนี้ตัวครีมของ Dr.cilabo หมดเราก็มาใช้รกแกะแทน (แม่แฟนซื้อมาฝาก) แต่เราไม่ชอบเนื้อครีมซีมยาก เหนียว หน้ามัน ซึ่งมันต่างจากครีมของญี่ปุ่นเนื้อเป็นเจลใสๆ ซึมง่ายทาแล้วรู้สึกหน้ามันดึงๆ วันนี้เราเลยไปถอย ชิเชโด้แดงมา ราคา 1589 เยน เพื่อนแนะนำและพี่ที่ใช้ก่อนนี้เราสังเกตหน้าเขามันใสและตึงขึ้น รกแกะ ก็ลงไปที่คอแทน เหมือน ฮาดะ
ครีมกันแดดค่ะ เราใช้ของ ฮาดะ เนื้อซึมง่ายไม่มัน ทาแล้วหน้าจะออกขาวนิดๆ ส่วนมากทาเสร็จเราจะไม่ทาแป้งตาม (ถ้าไม่แต่งหน้าน่ะ) แต่ ก่อนนี้เคยใช้ของ Menard อันนี้ชอบมากทาหน้าไม่มันและไม่ต้องตามด้วยแป้งเลยหน้าจะดูนวลๆใสๆ แต่แพง 4000 กว่าเยน ได้เป็นของขวัญมาซื้อเองคงไม แฮะ ๆ
ต่อด้วยโฟมล้างหน้าก่อนนี้ใช้วิปสีฟ้าแต่มันเบสิคไปสำหรับเราน่ะ แฟนเลยบอกให้กลับไปใช้สบู่ชาเขียวเหมือนเดิม เพราะเขาเองก็ชอบพอกลับมาใช้เห็นความแตกต่างชัดเลย เพื่อนที่จะมาเที่ยวญี่ปุ่นแนะนำซื้อติดมือกลับไปด้วยนะค่ะเราแนะนำ มันมีหลายแบบนะตามร้านขายยามีขาย เราสังเกตว่าที่ญี่ปุ่นจะนิยมสบู่มากกว่าโฟนน่ะ เพราะเห็นอะไรๆ ก็ครีมฟู ๆ แต่มันยังมีสบู่ที่น่าใช้กว่านี้อีกเยอะและดีจริงๆ แอบแพงนิดครั้งหน้าจะไปสอยมาใช้ อิอิ ปล.สบู่ชาเขียวลดสิวได้ด้วย
เพื่อนทุกคนต้องมาคหน้ากันละ เราใช้มาคเต้าหู้ และตามด้วยโลชั่นมาคหน้าค่ะ ที่นี้เขาจะมีเป็นแพคสำหรับ30วัน ถูกด้วย 900 กว่าเยน
เราแนะนำมาคเต้าหู้และตามด้วยแผ่นมาคโลชั่น แรกจะทำสอง-สามครั้งต่ออาทิตย์ และลดลงมาเหลืออาทิตย์ละครั้ง คนญี่ปุ่นเขาบอกเราว่าให้มาควันเว้นวันไปเลยจะเห็นผลชัด แต่เราทำได้แค่2-3ครั้งต่ออาทิตย์ก็เยอะละขี้เกียจ คนที่บอกเราอายุ 45 แต่หน้าเขาดีกว่าเรามากๆๆๆ
วิตามินเสริมเราไม่ทานเลยค่ะเพราะไม่ชอบไรๆที่เป็นเหมือนเม็ดยา แต่เราไปอ่านเจอในเวปฝารั่งมา คือ ดื่มน้ำเลมอนเช้า-เย็น ผสมน้ำอุ่น
และน้ำผึ้งก็ได้ทำแบบนี้ติดต่อกัน 1-2 อาทิตย์จะเห็นความเปลี่ยนไปของผิว แต่เราผสมกับน้ำวิตามินแทนดื่มแค่ก่อนนอน เคยดื่มตอนเช้ามันบาดคอและจะอ๊วก
เรารีวิวเยอะไปไมค่ะ เพราะรู้สึกว่ามันเยอะ ถ้าเยอะขอโทษด้วยนะค่ะ ช่วงนี้ตกงานค่ะ พ่อบ้านบอกให้อยู่ทำลูกอย่างเดียว
เฮ้อ พูดถึงจะมีลูกนี้มันยากจริงๆ ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะยากแบบนี้