โรฮินยา : ชีวิตติดกับ-อนาคตดั่งลาลับ...ใครดับแสงส่องทาง-ใครจะต้องรับผิดชอบ!!??

โรฮินยา : ชีวิตนี้ พวกเขาต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่  ทุกวันนี้ อนาคตของพวกเขาเหมือนจะยังไม่มี-มองไม่เห็น ...

เป็นใคร - เป็นผู้คนกลุ่มใด ที่ได้ปิดกั้นหนทางชีวิตของพวกเขาไว้ ... ใคร-กลุ่มใดที่ควรจะออกมารับผิดชอบกับผลกรรมนี้ !!??

         ชีวิตของกลุ่มชนที่รู้จักทั่วโลกในนามว่า โรฮิงญ่า-โรฮิงญา หรือ "โรฮินยา" นั้นก็ตามแต่สำเนียงเสียงที่ออกมาจากต่างลิ้นกัน-เท่านั้นเอง
แต่ที่เหมือนกันอย่างแน่นอนไปหมดเกือบทุกชีวิต-ในจำนวนของพวกเขา โรฮินย่ากลุ่ม ๑ นั้น ถ้าออกมาจาก ดินแดนระขิ่น-อาระกัน นั้นแล้ว ก็แทบจะไม่มีที่ไปต่อ และไม่มีแม้แต่เส้นทางที่พวกเขาจะใช้กลับไป-กลับไปยังชุมชนหมู่บ้าน-ที่ทางทำกินที่จากมา!!!
         บนโลกนี้ ไม่มีผืนแผ่นดินที่จะนับด้วยตารางวาง-ตารางไร่-ตารางกิโลเมตร ให้มาเป็นของฉัน-เป็นของชนเผ่าพงษ์วงวาน-ว่านเครือของพวกฉัน ไม่-แม้แต่ฝ่ามือเดียว!!!....เหตุเพราะว่า...???

ใครทำร้ายพวกเขา - ใครปิดทางสู่อนาคตชีวิตของพวกเขา ???
ใครทำร้ายพวกเขา - ใครปิดทางสู่อนาคตสำหรับชีวิตของพวกเขา ???
และใคร-ผู้ใด สมควรจะออกมารับผิดชอบกับ เรื่องที่ไม่ถูกต้อง-ความโหดร้าย-ขัดสนกำลังใจในชีวิต ที่เกิดขึ้น และยังเป็นอยู่-มีอยู่ เหล่านี้ - เหล่านั้น อย่างแท้จริง ???

คงเป็น *คำถาม* ที่จำเป็นต้องละไว้-วางไว้...
เพื่อรอให้นานาเหตุการณ์ บนกาลเวลาของโลกนี้ เป็นผู้เปิดเผยคำตอบ
ต่อไป-และต่อไป ๆ อีก ๑ เรื่องราว ???

         ขอมองย้อนเวลา  ด้วยเหตุผลว่าวันเวลาที่ครบรอบ ๑ ปี ผ่านมาถึงเราท่าน ชาวชนคนร่วมโลกด้วยกันแล้ว...
         วัน-เดือนเคลื่อนผ่านไปด้วยเรื่องราว...ระหว่างเวลาที่ผ่านไปจึงมีเรื่องราวความรุนแรงระหว่างพุทธ-มุสลิม ในพม่า เกิดขึ้นมาเป็นระยะ ๆ
มีข่าวสารออกมาสู่ชาวโลก, มีการกล่าวถึงเรื่องราวนั้นๆ-และเงียบลงไป  ไม่ต่างจากข่าว-เรื่องความรุนแรงที่เกิดจากเหตุการณ์ทั่วๆไปในโลกนี้
เช่นกรณีรถยนต์เฉี่ยวชนซาเล้งที่เชิงสะพาน-มีตาย ๒ ศพ หรือ ข่าว-ข่าว-ข่าว และ ข่าวนี่-นั่น-โน่น ฯลฯ

มีการกล่าวถึงเรื่องราวนั้นๆ - และแล้ว เรื่องราวนั้นๆก็เงียบลงไป...???

ข่าวปาหินใส่รถตำรวจ แถวหน้ามัสยิดฯ-ย่านชานเมืองของ กทม. ซึ่งเรื่องได้เกิดผ่านมานานแล้วนั้น ยังถูกเล่า-ถูกพูดถึงบ่อยกว่าเสียด้วยซ้ำ!!!

         หากเราท่านหยุดคิด-พิจารณาลักษณะแห่งเหตุ ๓-๔ เรื่องระหว่างพุทธ-มุสลิมในพม่า ที่มีขึ้นมาในรอบปี คือหลังจากกรณีเหตุ ๑๐ ศพ ที่เมืองท่าสะต่วย/ยะไข่
ตามเนื้อผ้าจากหน้าสื่อฯ - ก็คงเปรียบได้ว่า ๓-๔ เรื่องหลังนี้  *เรื่องจบเร็วเหมือนไฟไหม้ฟาง*  มากกว่าจะเป็นลักษณะของ *ไฟสุมขอน* ที่ยังรอแรงลมเหนือใต้มากระพือพัดเรียกให้ เปลวไฟนรก ลุกโชนขึ้นมาอีก

*เป็นไฟสุมขอน* ที่รอแรงลมเหนือใต้กลับมากระพือพัดเรียกให้ เปลวไฟนรก ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง !!!

ดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดใน ระขื่น-อาระกัน สเตท/รัฐยะไข่ เมื่อต้นเดือนมิถุนายน ๒๕๕๕ -- เมื่อ ๑ ปีที่ผ่านมา ???

         ๑ ปีที่ผ่านมา-ผ่านไป...มีอะไรบ้างที่ยังไม่ครอบคลุมด้วยความจริง/ความเท็จ แบบเบ็ดเสร็จสำเร็จประโยชน์เพื่อ "โรฮินยา" เหมือนกับที่เราท่าน ล้าง-เช็ด แล้วคว่ำถ้วยจานเก็บเข้าที่ หลังจากจบมื้อข้าว-ก่อนนั่งดูข่าวทีวี-เพลินกับละคร แล้วก็เข้านอน ???

         เราท่านน่าจะได้ทบทวนบางมุมบางด้าน จาก ๑ คนที่เคยเดินอยู่บน ภาคสนาม ที่มี/แสดงความเป็นกลาง วางการพิจารณาเรื่องราวนั้นๆไว้บนพื้นฐานของสิ่งที่เกิดขึ้นจริง  ทั้งสองด้าน  
         มาดู คน ด้วยมนุษยธรรม ด้วยความยุติธรรม และมั่นคงกับการใช้จริยธรรม แบบ คน-ต่อ-คน กันอีกสักครั้งเถิด-นะ.

ต่อไปจากบรรทัดนี้ เป็น มุมมองจากภาคสนามของ คุณธนานุช ที่ได้ถ่ายทอดสิ่งที่เกิดขึ้น-เรื่องราวที่เป็นไป ในปีที่ผ่านมา
         เพราะมองเห็นการพิจารณา-วิเคราะห์ทั้งเหตุ-และผลกระทบ เป็นไปอย่างเรียบง่าย ไม่มีการต่อเติมเพิ่ม ดราม่า หรือ กลบเกลื่อน-ซ่อนเงื่อน-งำความ ใดๆ  จึงต้องนำ "๑ สารคดี ๑ นี้" ขึ้นมาแสดงไว้เป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ เพื่อเราท่านจะได้ร่วมพิจารณา-วิเคราะห์-ศึกษา ด้วยกัน อีกครั้งหนึ่ง.

         และ  ถ้าหากเราท่านจะ สวดบทแผ่เมตตา - สวดดุอาว์ - R I P - ...ให้แก่หลายร้อยชีวิตที่ได้จากญาติมิตร-พ่อแม่-พี่น้องของเขาทั้งสองฝ่ายไป  ก็ย่อมเป็นความดี-มีกุศล เป็นผลบุญที่ต้องอนุโมทนาด้วย-โดยทั่วถึงกัน ทั้งสิ้น ฯ

สารคดี : My Rohingya [โรฮิงญาที่ฉันรู้จัก]
ที่มา -/- Credit : login  ธนานุช  http://www.oknation.net/blog/thananuch/2012/07/11/entry-1

          เหตุการณ์จราจลในรัฐยะไข่ ประเทศพม่าที่เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2555 ระหว่างชาวยะไข่ และชาวโรฮิงญา
ดิฉันได้รับโทรศัพท์หลายสายสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ในฐานะที่ได้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับชาวโรฮิงญา มุสลิมจากรัฐอาระกัน(ยะไข่)ประเทศพม่า
ที่ต้องอพยพจากบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองไปยังประเทศอื่นๆ มาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2551 ต่อต้นปี 2552
ที่มีข่าวโด่งดังไปทั่วโลกว่าทหารเรือไทย ได้ผลักดันเรือผู้อพยพชาวโรฮิงญาให้พ้นไปจากน่านน้ำด้วยวิธีการที่ไร้มนุษยธรรม
ซึ่งดิฉันได้ไปทำข่าวนี้ด้วย
          [จึง]ตามมาด้วยการทำสารคดีความยาว 1 ชั่วโมง โดยทำการติดตามชีวิตของชาวโรฮิงญาทั้งที่อยู่เมืองไทย และค่ายผู้อพยพในประเทศบังคลาเทศ
โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การทำความรู้จักกับชีวิตผู้อพยพให้ลึกซึ้งกว่าที่เป็นข่าว

          ...สารคดีเรื่องนี้เคยได้รับเลือกให้ไปฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น,ฮ่องกง และในประเทศไทย ค่ะ
          ...สนใจชมได้ที่นี่ค่ะ

"MY ROHINGYA DOCUMENTARY"
อัปโหลดเมื่อ 1 ส.ค. 2011
My Rohingya Documentary, A First Documentary by Thananuch Sanguansak,a woman journalist from Thailand.
สารคดี "โรฮิงญาที่ฉันรู้จัก" สารคดีเรื่องแรกของ ธนานุช สงวนศักดิ์ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์เนชั่น แชนแนล
http://www.youtube.com/watch?&v=39SNpboZXAQ