วันที่ 13 มิ.ย. ที่ ช่อง 7 หมอชิต นางร้ายเซ็กซี่ ‘หยก’ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์ มาร่วมบวงสรวงพิธีเปิดกล้องละคร “วิมานมะพร้าว” หลังจากทำพิธีเรียบร้อย ‘หยก’ เปิดใจกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่คุณแม่ของตนโดนแจ้งความจับข้อหาทำร้ายร่างกาย
โดย ‘หยก’ กล่าวว่า “ตามที่เป็นข่าว ทุกอย่างต้องมีต้นสายปลายเหตุ จู่ๆ จะมีเรื่องเลยเป็นไปไม่ได้ หยกไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์อาจจะเล่าให้ฟังทั้งหมดคงไม่ได้ เดี๋ยวเล่าผิดไปจะดูไม่ดี หลังจากที่มีนักข่าวโทร.มาหาคุณแม่ เราก็ถามแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น หยกก็ได้ยินแว้บๆ แต่ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าไม่มีเรื่องอะไร แต่คุณแม่ก็บอกว่ามีเรื่องจริงๆ แต่หยกเชื่อว่าคุณแม่จะทำอะไรต้องมีเหตุผล คุณแม่หยกก็โตแล้วและหยกก็อยู่ในวงการบันเทิง แม่หยกก็ไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราว เพียงแต่วันที่ 31 พ.ค. มีเรื่องกัน แต่ข่าวว่าลงวันที่ 7 มิ.ย. ซึ่งมันห่างกันประมาณอาทิตย์นึง ทางโน้นเพิ่งไปแจ้งความ พูดง่ายๆ ว่าใครแจ้งความก่อนได้เปรียบ เราก็ถามแม่ว่าทำไมไม่ไปแจ้งความ แม่ก็บอกว่ากลัวมีปัญหา กลัวมีข่าว อย่างไรก็ไม่พ้นหรอกถ้าคนเขาจะเล่น และได้ยินว่ามีคนโทร.ไปบอกสำนักข่าวว่าให้ไปทำข่าวตรงนี้ ซึ่งหยกไม่ทราบว่าเป็นใคร มีเจตนาอะไรกันแน่”
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ในวันนั้นคุณแม่ได้ลงไม้ลงมือตามที่ฝ่ายนั้นไปแจ้งความหรือเปล่า ดาราสาวกล่าวว่า “น่าจะมีการป้องกันตัว มีการผลักกันตามประสาผู้หญิงค่ะ ตัวคุณแม่หยกเองที่เห็นแผลล่าสุดก็เป็นรอยเล็บข่วนยาว แต่มันตกสะเก็ดแล้ว ก็คงเป็นรอยแผลเป็นที่แขนกับที่คอ ส่วนเรื่องวิวาทแบบนี้เคลียร์กันได้ไหม หยกแล้วแต่คุณแม่ เราไม่ใช่เจ้าของเรื่อง ก็ให้กำลังใจเขาอย่างเดียว บอกว่าไม่เป็นไร หยกไม่ซีเรียสเพราะไม่ใช่บุคคลในข่าว ตบตีทะเลาะวิวาทปรับห้าร้อย หนึ่งพันบาทก็ว่ากันไป เพียงแต่หยกอยู่ตรงนี้ก็ต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น หยกไม่รู้สึกว่าการที่หยกเป็นข่าว แล้วเป็นเรื่องตบตีจะเลวร้ายมากมาย”
ต่อข้อถามว่า กลัวภาพลักษณ์ของ ‘หยก’ กับคุณแม่จะเสียหรือเปล่า ดาราสาวเผยว่า “คิดว่าไม่ค่ะ เพราะคนที่รู้จักหยกและคุณแม่หยกจริงๆ จะทราบว่าคุณแม่หยกเป็นคนอย่างไร คุณแม่หยกเป็นคนสนุกและบางครั้งเขาก็มองโลกในแง่ดีเกินไป ครั้งนี้ก็คงเป็นบทเรียนสำหรับแม่ ถามว่าหลังจากที่แจ้งความทางฝ่ายนั้นมีโทรมาไกล่เกลี่ยไหม ไม่น่าจะมีนะ ส่วนเรื่องจะดำเนินต่อไปอย่างไรก็คงต้องเป็นของทางตำรวจ ส่วนตัวไม่ค่อยทราบเรื่องนี้เหมือนกัน”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ให้กำลังใจคุณแม่อย่างไรบ้าง “ในความรู้สึกหยกไม่ใช่เรื่องราวใหญ่โตอะไรมาก เพียงแต่ว่ามันใหญ่โตเพราะมันลงหน้าหนึ่งเท่านั้นเอง ก่อนหน้านี้หยกเคยเตือนเขาแล้วว่าคบใครให้ระวัง เขาก็บอกว่าต่อไปนี้จะเชื่อเราแล้ว แม่หยกเป็นคนมองโลกในแง่ดี”
“แม่หยกถ้าใครได้ทราบจริงๆ ก็จะรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง เขาเป็นคนที่บางครั้งใจดีเกินไป และมองข้ามสิ่งที่หยกเห็น ทีนี้หยกก็สงสารเขาค่ะ ก็อยากให้เขาอย่าไว้ใจใครมาก เพราะบางทีการไว้ใจใคร มันก็เข้าตัวเองค่ะ” ดาราสาวกล่าวทั้งน้ำตา
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM01URXlNamswTnc9PQ== 
หยก ธัญยกันต์ เปิดใจกรณีแม่โดนแจ้งความจับคดีทำร้ายร่างกาย
โดย ‘หยก’ กล่าวว่า “ตามที่เป็นข่าว ทุกอย่างต้องมีต้นสายปลายเหตุ จู่ๆ จะมีเรื่องเลยเป็นไปไม่ได้ หยกไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์อาจจะเล่าให้ฟังทั้งหมดคงไม่ได้ เดี๋ยวเล่าผิดไปจะดูไม่ดี หลังจากที่มีนักข่าวโทร.มาหาคุณแม่ เราก็ถามแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น หยกก็ได้ยินแว้บๆ แต่ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าไม่มีเรื่องอะไร แต่คุณแม่ก็บอกว่ามีเรื่องจริงๆ แต่หยกเชื่อว่าคุณแม่จะทำอะไรต้องมีเหตุผล คุณแม่หยกก็โตแล้วและหยกก็อยู่ในวงการบันเทิง แม่หยกก็ไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราว เพียงแต่วันที่ 31 พ.ค. มีเรื่องกัน แต่ข่าวว่าลงวันที่ 7 มิ.ย. ซึ่งมันห่างกันประมาณอาทิตย์นึง ทางโน้นเพิ่งไปแจ้งความ พูดง่ายๆ ว่าใครแจ้งความก่อนได้เปรียบ เราก็ถามแม่ว่าทำไมไม่ไปแจ้งความ แม่ก็บอกว่ากลัวมีปัญหา กลัวมีข่าว อย่างไรก็ไม่พ้นหรอกถ้าคนเขาจะเล่น และได้ยินว่ามีคนโทร.ไปบอกสำนักข่าวว่าให้ไปทำข่าวตรงนี้ ซึ่งหยกไม่ทราบว่าเป็นใคร มีเจตนาอะไรกันแน่”
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ในวันนั้นคุณแม่ได้ลงไม้ลงมือตามที่ฝ่ายนั้นไปแจ้งความหรือเปล่า ดาราสาวกล่าวว่า “น่าจะมีการป้องกันตัว มีการผลักกันตามประสาผู้หญิงค่ะ ตัวคุณแม่หยกเองที่เห็นแผลล่าสุดก็เป็นรอยเล็บข่วนยาว แต่มันตกสะเก็ดแล้ว ก็คงเป็นรอยแผลเป็นที่แขนกับที่คอ ส่วนเรื่องวิวาทแบบนี้เคลียร์กันได้ไหม หยกแล้วแต่คุณแม่ เราไม่ใช่เจ้าของเรื่อง ก็ให้กำลังใจเขาอย่างเดียว บอกว่าไม่เป็นไร หยกไม่ซีเรียสเพราะไม่ใช่บุคคลในข่าว ตบตีทะเลาะวิวาทปรับห้าร้อย หนึ่งพันบาทก็ว่ากันไป เพียงแต่หยกอยู่ตรงนี้ก็ต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น หยกไม่รู้สึกว่าการที่หยกเป็นข่าว แล้วเป็นเรื่องตบตีจะเลวร้ายมากมาย”
ต่อข้อถามว่า กลัวภาพลักษณ์ของ ‘หยก’ กับคุณแม่จะเสียหรือเปล่า ดาราสาวเผยว่า “คิดว่าไม่ค่ะ เพราะคนที่รู้จักหยกและคุณแม่หยกจริงๆ จะทราบว่าคุณแม่หยกเป็นคนอย่างไร คุณแม่หยกเป็นคนสนุกและบางครั้งเขาก็มองโลกในแง่ดีเกินไป ครั้งนี้ก็คงเป็นบทเรียนสำหรับแม่ ถามว่าหลังจากที่แจ้งความทางฝ่ายนั้นมีโทรมาไกล่เกลี่ยไหม ไม่น่าจะมีนะ ส่วนเรื่องจะดำเนินต่อไปอย่างไรก็คงต้องเป็นของทางตำรวจ ส่วนตัวไม่ค่อยทราบเรื่องนี้เหมือนกัน”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ให้กำลังใจคุณแม่อย่างไรบ้าง “ในความรู้สึกหยกไม่ใช่เรื่องราวใหญ่โตอะไรมาก เพียงแต่ว่ามันใหญ่โตเพราะมันลงหน้าหนึ่งเท่านั้นเอง ก่อนหน้านี้หยกเคยเตือนเขาแล้วว่าคบใครให้ระวัง เขาก็บอกว่าต่อไปนี้จะเชื่อเราแล้ว แม่หยกเป็นคนมองโลกในแง่ดี”
“แม่หยกถ้าใครได้ทราบจริงๆ ก็จะรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง เขาเป็นคนที่บางครั้งใจดีเกินไป และมองข้ามสิ่งที่หยกเห็น ทีนี้หยกก็สงสารเขาค่ะ ก็อยากให้เขาอย่าไว้ใจใครมาก เพราะบางทีการไว้ใจใคร มันก็เข้าตัวเองค่ะ” ดาราสาวกล่าวทั้งน้ำตา
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM01URXlNamswTnc9PQ==