ปิดตลาดภาคเช้าวันนี้ ( 14 มิย 2013 ) SET อยู่ที่ 1449.16 + 45.89 จุด เมื่อวานนี้ทำจุดต่ำสุดที่ 1351.9 จุด ดังนั้นอาจมองว่า SET ดีดตัวขึ้นมาแล้วถึงจุดสูงสุดเช้านี้ ( 1450.20 ) เท่ากับ 98.30 จุดแล้ว รอบนี้ตลาดลงมา 298.78 จุด ( High 1649.77 Low 1351.90 ) หรือขณะนี้ SET รีบาวร์มาแล้ว 32.91% แล้วมันจะทำยังไงต่อไป ผมลองให้ข้อมูลทางเทคนิคไว้พิจารณาดูเองแล้วกันนะครับ
หมายเหตุ : กรุณาใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลนะครับ ข้อมูลจากกราฟโปรแกรมอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลใหม่ที่มีเข้ามาทุกวัน ข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์ตามหลักการทฤษฎีคลื่นนี้ วิเคราะห์แค่ข้อมูลในอดีตและปัจจุบันทั้งนั้น ดังนั้นผลที่ได้อาจไม่ตรงกับความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้นต่อไปก็ได้ และทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวจากการอ่านกราฟในโปรแกรมเท่านั้น
ภาพแรก เราจะดูภาพใหญ่ใน time frame Week กันก่อนครับ เพื่อให้เห็นมุมมองที่กว้างขึ้น จะได้มองเห็นแนวโน้มได้ชัดเจนขึ้นครับ
จากรูป SET กำลังทำคลื่นที่ 4 ในขาขึ้นใหญ่อยู่ นั่นหมายถึงปัจจุบัน SET ยังอยู่ใน Correction wave ( A-B-C ) อยู่ แต่ทฤษฎีคลื่นของอีเลียตมีกฎอยู่ว่า wave4 ค่า Elliot Oscillator มักจะต้องเกิด Pull back to zero หรือ ค่า Oscillator (ในรูป ) จะต้องค่อยๆลดค่าลงเรื่อยๆจนลงมาที่ 0 หรืออาจลงมาต่ำกว่า 0 ก็ได้ แต่หากเราสังเกตขณะนี้จะพบว่า ค่า Oscillator ยังมีค่าสูงมากอยู่ และกำลังลดค่าลงเรื่อยๆ ซึ่งก่อนหน้านั้นจะเห็นว่า Oscillator มันทำลักษณะ Bearish Divergence ซึ่งก็เป็นลักษณะที่ถูกต้องตามทฤษฎีว่า คลื่นย่อย 5 ของ wave3 ใหญ่ค่า Oscillator จะต้องน้อยกว่าคลื่นย่อย 3 ของ wave3 ใหญ่ เสมอ ดังนั้นหากจะให้ความเห็นก็คงอ่านกราฟได้ว่า Wave4 ซึ่งเป็นคลื่นปรับตัวนี้ยังคงต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์ จนกว่าค่า Eliott Oscillator จะเกิด pull back to zero ครับ
ส่วนกราฟรายวัน นั้น เราจะเห็นภาพในระยะสั้นกว่าระยะ week และมองเห็นการกำหนดเป้าของโปรแกรมไว้ ที่เหลือคือ ให้ตลาดมันเฉลยเองว่าใช่หรือไม่
จากกราฟ Day นั้น SET กำลังปรับตัวเป็นขาลงด้วยความเร็วและแรง ค่า Oscillator ติดลบมาก แสดงถึงเป็น คลื่นที่ 3 ของขาลงอยู่ และเรายังไม่เห็นการเกิด Bullish divergence เลย ซึ่งค่า Oscillator ควรจะต้องทำให้เห็นในคลื่นย่อยก่อนจบ คลื่น3 ของขาลงนี้ด้วย ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่า คลื่นที่ 3 ขาลงนี้อาจยังไม่จบก็เป็นไปได้ครับ แล้วรอให้เกิด wave4 ซึ่งค่า Oscillator จะต้อง Pull back to zero เหมือนกันเป็นการยืนยัน แล้วจึงจะตามมาด้วยคลื่น 5 ของขาลงสุดท้ายที่จะต้องทำ Bullish Divergence กับ Wave 3 ขาลงก่อนหน้า จึงจะถือว่าขาลงนั้นจะจบ และจะต้องยืนยันการจบขาลงด้วยการ Break up Downtrendline ขึ้นมาเสมอ เพื่อเริ่มเปลี่ยนเป็นขาขึ้นใหม่ต่อไป
ผมอธิบายหลักการอ่านคลื่นที่มันมีจุดสังเกต ที่จะต้องเกิดขึ้นเสมอให้เรารับทราบ เพื่อให้เราเข้าใจและตรวจสอบรูปแบบของคลื่นและวางแผนในการป้องกันตัวเองไว้ เพื่อลดความเสี่ยง ไม่ใช่เพื่อเอาเป้าหมายไปเสี่ยงโชค เพราะโอกาสที่โปรแกรมมันจะนับคลื่นใหม่มีตลอดเวลาหากมีข้อมูลใหม่เข้ามาเป็นไปกฎที่โปรแกรมกำหนดไว้ เราจึงควรรู้ขีดจำกัดของการใช้งานของเครื่องมือที่เราใช้อยู่ และไม่งมงายจากความโลภที่เข้าครอบงำ ลงทุนอย่างมีสติ มีหลักการและมีวินัย เรียนรู้ที่จะปรับปรุงและพัฒนาให้ชนะตลาดในระยะยาว เพื่อให้เราลงทุนอย่างมีความสุขครับ ...............สวัสดีครับ
สัปดาห์หน้าก็จะเฉลยเอง...
หมายเหตุ : กรุณาใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลนะครับ ข้อมูลจากกราฟโปรแกรมอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลใหม่ที่มีเข้ามาทุกวัน ข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์ตามหลักการทฤษฎีคลื่นนี้ วิเคราะห์แค่ข้อมูลในอดีตและปัจจุบันทั้งนั้น ดังนั้นผลที่ได้อาจไม่ตรงกับความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้นต่อไปก็ได้ และทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวจากการอ่านกราฟในโปรแกรมเท่านั้น
ภาพแรก เราจะดูภาพใหญ่ใน time frame Week กันก่อนครับ เพื่อให้เห็นมุมมองที่กว้างขึ้น จะได้มองเห็นแนวโน้มได้ชัดเจนขึ้นครับ
จากรูป SET กำลังทำคลื่นที่ 4 ในขาขึ้นใหญ่อยู่ นั่นหมายถึงปัจจุบัน SET ยังอยู่ใน Correction wave ( A-B-C ) อยู่ แต่ทฤษฎีคลื่นของอีเลียตมีกฎอยู่ว่า wave4 ค่า Elliot Oscillator มักจะต้องเกิด Pull back to zero หรือ ค่า Oscillator (ในรูป ) จะต้องค่อยๆลดค่าลงเรื่อยๆจนลงมาที่ 0 หรืออาจลงมาต่ำกว่า 0 ก็ได้ แต่หากเราสังเกตขณะนี้จะพบว่า ค่า Oscillator ยังมีค่าสูงมากอยู่ และกำลังลดค่าลงเรื่อยๆ ซึ่งก่อนหน้านั้นจะเห็นว่า Oscillator มันทำลักษณะ Bearish Divergence ซึ่งก็เป็นลักษณะที่ถูกต้องตามทฤษฎีว่า คลื่นย่อย 5 ของ wave3 ใหญ่ค่า Oscillator จะต้องน้อยกว่าคลื่นย่อย 3 ของ wave3 ใหญ่ เสมอ ดังนั้นหากจะให้ความเห็นก็คงอ่านกราฟได้ว่า Wave4 ซึ่งเป็นคลื่นปรับตัวนี้ยังคงต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์ จนกว่าค่า Eliott Oscillator จะเกิด pull back to zero ครับ
ส่วนกราฟรายวัน นั้น เราจะเห็นภาพในระยะสั้นกว่าระยะ week และมองเห็นการกำหนดเป้าของโปรแกรมไว้ ที่เหลือคือ ให้ตลาดมันเฉลยเองว่าใช่หรือไม่
จากกราฟ Day นั้น SET กำลังปรับตัวเป็นขาลงด้วยความเร็วและแรง ค่า Oscillator ติดลบมาก แสดงถึงเป็น คลื่นที่ 3 ของขาลงอยู่ และเรายังไม่เห็นการเกิด Bullish divergence เลย ซึ่งค่า Oscillator ควรจะต้องทำให้เห็นในคลื่นย่อยก่อนจบ คลื่น3 ของขาลงนี้ด้วย ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่า คลื่นที่ 3 ขาลงนี้อาจยังไม่จบก็เป็นไปได้ครับ แล้วรอให้เกิด wave4 ซึ่งค่า Oscillator จะต้อง Pull back to zero เหมือนกันเป็นการยืนยัน แล้วจึงจะตามมาด้วยคลื่น 5 ของขาลงสุดท้ายที่จะต้องทำ Bullish Divergence กับ Wave 3 ขาลงก่อนหน้า จึงจะถือว่าขาลงนั้นจะจบ และจะต้องยืนยันการจบขาลงด้วยการ Break up Downtrendline ขึ้นมาเสมอ เพื่อเริ่มเปลี่ยนเป็นขาขึ้นใหม่ต่อไป
ผมอธิบายหลักการอ่านคลื่นที่มันมีจุดสังเกต ที่จะต้องเกิดขึ้นเสมอให้เรารับทราบ เพื่อให้เราเข้าใจและตรวจสอบรูปแบบของคลื่นและวางแผนในการป้องกันตัวเองไว้ เพื่อลดความเสี่ยง ไม่ใช่เพื่อเอาเป้าหมายไปเสี่ยงโชค เพราะโอกาสที่โปรแกรมมันจะนับคลื่นใหม่มีตลอดเวลาหากมีข้อมูลใหม่เข้ามาเป็นไปกฎที่โปรแกรมกำหนดไว้ เราจึงควรรู้ขีดจำกัดของการใช้งานของเครื่องมือที่เราใช้อยู่ และไม่งมงายจากความโลภที่เข้าครอบงำ ลงทุนอย่างมีสติ มีหลักการและมีวินัย เรียนรู้ที่จะปรับปรุงและพัฒนาให้ชนะตลาดในระยะยาว เพื่อให้เราลงทุนอย่างมีความสุขครับ ...............สวัสดีครับ