แฟนผมขับรถชนระกระบะเมื่อวันพฤหัสที่แล้วที่ต่างจังหวัด สภาพรถพังยับ ส่วนคู่กรณีก็เครื่องยุบซีกขวาทั้งซีก เนื่องจากขับมาเร็วมากและหลุดโค้ง โดยแฟนไม่มีบาดแผลมากแต่โดนแรงกระแทกแรงอัดจนร้าวทั้งตัวและน่าจะช้ำใน ลุกไม่ไหว ส่วนคู่กรณีนั่งมา 2 คน คนขับหัวแตก ส่วนคนที่นั่งมาด้วยกระดูกแขนร้าว หน้ากระแทกคอนโซลบวม วันนั้นแฟนรีบแจ้งบริษัทว.ประกันภัย ซึ่งได้ทำประกันชั้น1ไว้ แต่เนื่องจากทั้งแฟนและคู่กรณีต่างบาดเจ็บ จึงมีรถมูลนิธิมารับตัวไปรพ.ก่อน เมื่อตัวแทนประกันไปถึงที่เกิดเหตุรถแฟนซึ่งขวางถนนอยู่ก็โดนลากไปที่สน.แล้ว ประกันโทรมาถามว่ารถอยู่ไหน คนอยู่ไหน ก็บอกว่าอยู่ที่รพ. ให้มาคุยที่รพ. แต่ประกันหายไปเลย โทรติดต่อไปอีกก็ไม่รับสาย
วันต่อมาโทรติดต่อประกัน จะให้เข้ามาช่วยคุยเจรจากับคู่กรณีที่รพ. เขาอ้างว่าติดเคสอีกที่มาไม่ได้ อีกวันโทรไปเขาก็บอกว่ารถเราถูกลากไปโรงพักแล้ว ต้องรอให้ออกจากรพ.ทั้งสองฝ่ายแล้วไปให้การกับตำรวจก่อนถึงจะเคลียได้ และเขาก็ไม่เข้ามาที่รพ.เลย พยายามโทรหาทุกวันจนแฟนออกรพ.ไปแล้ว ก็ยังไม่เคยเห็นหน้าตัวแทนประกัน ระหว่างนั้นเราดูแลคู่กรณีเป็นอย่างดี เราจ่ายค่าต่างๆให้คู่กรณีหลายอย่างโดยบิลเหล่านั้นเป็นชื่อคู่กรณีที่เป็นคนเจ็บ และพยายามถามตัวแทนประกันว่าเราจะเบิกคืนได้ไหม เขาบอกว่าเก็บบิลไว้แล้วเบิกได้แต่จะต้องออกเช็คเป็นชื่อคนเจ็บ (คู่กรณี) ซึ่งเราจะต้องไปตกลงกับคู่กรณีเอาเองว่าถ้าเช็คออกเมื่อไรให้เขาคืนเงินให้เรา ซึ่งดูแล้วเราอาจไม่ได้เงินคืนก็ได้ถ้าคู่กรณีไม่คืนมา ต่อมาเราถึงได้รู้ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ประกันอีกคนโดยบังเอิญว่า เราสามารถเบิกได้หมดและจ่ายคืนให้เราโดยตรงเพียงแค่เซ็นต์กำกับบนบิลค่าใช้จ่ายว่าเราได้ออกเงินล่วงหน้าให้คนที่มีชื่อบนบิลนี้ เราเลยสงสัยว่าแล้วทำไมตัวแทนประกันเราไม่บอก แต่กลับให้เราไปทำเรื่องยุ่งยาก
จนวันอังคารที่แฟนนัดไปให้การที่สน.เป็นครั้งแรกที่เห็นหน้า (6วันนับจากเกิดเหตุ) โดยวันนั้นคู่กรณีจะออกจากรพ.และเราต้องเคลียค่าใช้จ้ายส่วนหนึ่งให้เขา จึงต้องไปทำเรื่องให้การก่อนเพื่อสามารถทำเรื่องเบิกได้ วันนั้นทางตำรวจพูดดีเหมือนจะช่วยเรา คือ บอกว่าคู่กรณีแขนร้าวรักษาเกิน 20 วัน ถือว่าเป็นคดีอาญาบาดเจ็บสาหัส ยอมความไม่ได้ แต่ถ้าตกลงกันได้ตำรวจก็ไม่ฟ้อง และประกันก็บอกว่าจะชดเชยให้ผู้เสียหายอย่างเหมาะสม โดยทางเราไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว ยกเว้นว่าเราจะจ่ายค่าทำขวัญต่างหากให้คู่กรณีเป็นน้ำใจ ซึ่งก็แล้วแต่ทางเราจะให้หรือไม่ก็ได้ แต่สังเกตเห็นว่าร้อยเวรกับประกันมีความสนิทสนมกันอย่างดี ซึ่งเราก็คิดว่าคงเพราะเขาเจอกันเรื่องคดีบ่อยๆมั้ง แต่ติดใจตรงที่ตัวแทนประกันมาบอกเราว่า พี่ต้องให้เงินร้อยเวรด้วยนะเขาจะได้ช่วยเราทำคดีไม่ให้มีปัญหา (ตอนหลังเลยมาคิดว่า 2 คนนี้มีนอกมีในกันหรือไม่ แต่ก็แค่เดา)
อีก2วันถัดมาคือวันนี้เอง มีการนัดคุยทุกฝ่ายแต่ทุกอย่างเปลี่ยนไป คู่กรณีนั้นดีมาก เขาบอกว่าทางเราดูแลอย่างดีเขาไม่ติดใจเอาความอะไรเลย แต่ตำรวจร้อยเวรกลับบอกว่าคดีนี้ยังไงก็ต้องไปจบที่ศาล เพราะผู้กำกับไม่ยอม!! (สงสัยว่าต้องการเรียกเงินใต้โต๊ะจากเราเพื่อขอให้ไม่ฟ้อง) คำถามแรก คือ กรณีนี้เราจะทำอย่างไรได้บ้างครับ
ส่วนคู่กรณีอยากรู้ว่าประกันจะชดเชยอะไรให้เขาได้แค่ไหน ทางประกันไม่แจกแจงอะไรทั้งสิ้น ถามว่าเขาจะเรียกเท่าไร คู่กรณีพยายามถามว่าชดเชยยังไงได้บ้าง เขาก็บอกแค่คร่าวๆว่าค่าชดเชยที่ทำงานไม่ได้วันละ 200 บาท ส่วนค่ารถของเขาซึ่งเป็นรถกระบะสภาพค่อนข้างเก่าตีราคาให้ 8 หมื่น - แสนบาท และดูท่าจะพยายามกดราคาค่าชดเชยให้ต่ำจนเราเองยังสงสารคู่กรณี (อาจเป็นนโยบายของบริษัทหรือเปล่าไม่ทราบ แต่เราเองยังรู้สึกว่าน่าจะชดเชยให้ดีกว่านี้ เพราะถ้าเขาไม่พอใจก็อาจมาขอเพิ่มจากเรา อีกอย่างถ้าชดเชยต่ำจนเราเองยังเห็นว่าโหดเกินไป เราก็รู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับเขาเหมือนกัน) ประกันยังบอกอีกว่าคุยครั้งเดียวไม่จบหรอกยังต้องนัดมาคุยอีก 3-4 รอบแหละ แต่ทั้งเราและคู่กรณีก็ไม่อยากเสียเวลา แฟนเลยไปคุยกับตัวแทนประกันว่าทั้งสองฝ่ายอยากให้จบไวๆ เพราะเขาก็ไม่เอาความอะไรเรา ช่วยจัดการให้เรียบร้อยไวๆ ได้ไหม เขาก็ถามว่า งั้นพี่จะช่วยผมออกได้เท่าไร พี่บอกมาผมจะได้ไปแจ้งหัวหน้า แล้วส่วนต่างที่เหลือประกันจะได้ชดเชยเงินให้เขาไป!! เราก็เลยงงว่า เราทำประกันชั้น 1 เพื่อให้เขาคุ้มครองเรา แต่เขากลับจะเรียกเงินจากเราไปช่วยผ่อนภาระค่าใช้จ่ายให้กับประกันเสียเอง
คำถามที่สอง คือตัวแทนประกันแบบนี้เราจะทำอย่างไรได้บ้าง ร้องเรียนที่ศูนย์ใหญ่ในกรุงเทพได้ไหม สามารถขอเปลี่ยนตัวแทนได้ไหม คือ ในวันที่สองหลังเกิดเหตุเราเห็นว่าประกันไม่มาดูแลเลย เราเลยโทรไปที่ศูนย์ของจังหวัดที่เกิดเหตุเพื่อขอเปลี่ยนตัวแทนที่มาดูเคส แต่เขาบอกว่าเปลี่ยนไม่ได้ เพราะคนนั้นรับเคสไปแล้วต้องดูแลจนจบ เลยสงสัยว่าเปลี่ยนไม่ได้จริงๆหรอ เพราะเขาดูแลได้แย่มาก
สอบถามเกี่ยวกับกรณีรถชน ตัวแทนประกันไม่ค่อยดูแล ตำรวจคล้ายจะเรียกเงิน
วันต่อมาโทรติดต่อประกัน จะให้เข้ามาช่วยคุยเจรจากับคู่กรณีที่รพ. เขาอ้างว่าติดเคสอีกที่มาไม่ได้ อีกวันโทรไปเขาก็บอกว่ารถเราถูกลากไปโรงพักแล้ว ต้องรอให้ออกจากรพ.ทั้งสองฝ่ายแล้วไปให้การกับตำรวจก่อนถึงจะเคลียได้ และเขาก็ไม่เข้ามาที่รพ.เลย พยายามโทรหาทุกวันจนแฟนออกรพ.ไปแล้ว ก็ยังไม่เคยเห็นหน้าตัวแทนประกัน ระหว่างนั้นเราดูแลคู่กรณีเป็นอย่างดี เราจ่ายค่าต่างๆให้คู่กรณีหลายอย่างโดยบิลเหล่านั้นเป็นชื่อคู่กรณีที่เป็นคนเจ็บ และพยายามถามตัวแทนประกันว่าเราจะเบิกคืนได้ไหม เขาบอกว่าเก็บบิลไว้แล้วเบิกได้แต่จะต้องออกเช็คเป็นชื่อคนเจ็บ (คู่กรณี) ซึ่งเราจะต้องไปตกลงกับคู่กรณีเอาเองว่าถ้าเช็คออกเมื่อไรให้เขาคืนเงินให้เรา ซึ่งดูแล้วเราอาจไม่ได้เงินคืนก็ได้ถ้าคู่กรณีไม่คืนมา ต่อมาเราถึงได้รู้ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ประกันอีกคนโดยบังเอิญว่า เราสามารถเบิกได้หมดและจ่ายคืนให้เราโดยตรงเพียงแค่เซ็นต์กำกับบนบิลค่าใช้จ่ายว่าเราได้ออกเงินล่วงหน้าให้คนที่มีชื่อบนบิลนี้ เราเลยสงสัยว่าแล้วทำไมตัวแทนประกันเราไม่บอก แต่กลับให้เราไปทำเรื่องยุ่งยาก
จนวันอังคารที่แฟนนัดไปให้การที่สน.เป็นครั้งแรกที่เห็นหน้า (6วันนับจากเกิดเหตุ) โดยวันนั้นคู่กรณีจะออกจากรพ.และเราต้องเคลียค่าใช้จ้ายส่วนหนึ่งให้เขา จึงต้องไปทำเรื่องให้การก่อนเพื่อสามารถทำเรื่องเบิกได้ วันนั้นทางตำรวจพูดดีเหมือนจะช่วยเรา คือ บอกว่าคู่กรณีแขนร้าวรักษาเกิน 20 วัน ถือว่าเป็นคดีอาญาบาดเจ็บสาหัส ยอมความไม่ได้ แต่ถ้าตกลงกันได้ตำรวจก็ไม่ฟ้อง และประกันก็บอกว่าจะชดเชยให้ผู้เสียหายอย่างเหมาะสม โดยทางเราไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว ยกเว้นว่าเราจะจ่ายค่าทำขวัญต่างหากให้คู่กรณีเป็นน้ำใจ ซึ่งก็แล้วแต่ทางเราจะให้หรือไม่ก็ได้ แต่สังเกตเห็นว่าร้อยเวรกับประกันมีความสนิทสนมกันอย่างดี ซึ่งเราก็คิดว่าคงเพราะเขาเจอกันเรื่องคดีบ่อยๆมั้ง แต่ติดใจตรงที่ตัวแทนประกันมาบอกเราว่า พี่ต้องให้เงินร้อยเวรด้วยนะเขาจะได้ช่วยเราทำคดีไม่ให้มีปัญหา (ตอนหลังเลยมาคิดว่า 2 คนนี้มีนอกมีในกันหรือไม่ แต่ก็แค่เดา)
อีก2วันถัดมาคือวันนี้เอง มีการนัดคุยทุกฝ่ายแต่ทุกอย่างเปลี่ยนไป คู่กรณีนั้นดีมาก เขาบอกว่าทางเราดูแลอย่างดีเขาไม่ติดใจเอาความอะไรเลย แต่ตำรวจร้อยเวรกลับบอกว่าคดีนี้ยังไงก็ต้องไปจบที่ศาล เพราะผู้กำกับไม่ยอม!! (สงสัยว่าต้องการเรียกเงินใต้โต๊ะจากเราเพื่อขอให้ไม่ฟ้อง) คำถามแรก คือ กรณีนี้เราจะทำอย่างไรได้บ้างครับ
ส่วนคู่กรณีอยากรู้ว่าประกันจะชดเชยอะไรให้เขาได้แค่ไหน ทางประกันไม่แจกแจงอะไรทั้งสิ้น ถามว่าเขาจะเรียกเท่าไร คู่กรณีพยายามถามว่าชดเชยยังไงได้บ้าง เขาก็บอกแค่คร่าวๆว่าค่าชดเชยที่ทำงานไม่ได้วันละ 200 บาท ส่วนค่ารถของเขาซึ่งเป็นรถกระบะสภาพค่อนข้างเก่าตีราคาให้ 8 หมื่น - แสนบาท และดูท่าจะพยายามกดราคาค่าชดเชยให้ต่ำจนเราเองยังสงสารคู่กรณี (อาจเป็นนโยบายของบริษัทหรือเปล่าไม่ทราบ แต่เราเองยังรู้สึกว่าน่าจะชดเชยให้ดีกว่านี้ เพราะถ้าเขาไม่พอใจก็อาจมาขอเพิ่มจากเรา อีกอย่างถ้าชดเชยต่ำจนเราเองยังเห็นว่าโหดเกินไป เราก็รู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับเขาเหมือนกัน) ประกันยังบอกอีกว่าคุยครั้งเดียวไม่จบหรอกยังต้องนัดมาคุยอีก 3-4 รอบแหละ แต่ทั้งเราและคู่กรณีก็ไม่อยากเสียเวลา แฟนเลยไปคุยกับตัวแทนประกันว่าทั้งสองฝ่ายอยากให้จบไวๆ เพราะเขาก็ไม่เอาความอะไรเรา ช่วยจัดการให้เรียบร้อยไวๆ ได้ไหม เขาก็ถามว่า งั้นพี่จะช่วยผมออกได้เท่าไร พี่บอกมาผมจะได้ไปแจ้งหัวหน้า แล้วส่วนต่างที่เหลือประกันจะได้ชดเชยเงินให้เขาไป!! เราก็เลยงงว่า เราทำประกันชั้น 1 เพื่อให้เขาคุ้มครองเรา แต่เขากลับจะเรียกเงินจากเราไปช่วยผ่อนภาระค่าใช้จ่ายให้กับประกันเสียเอง
คำถามที่สอง คือตัวแทนประกันแบบนี้เราจะทำอย่างไรได้บ้าง ร้องเรียนที่ศูนย์ใหญ่ในกรุงเทพได้ไหม สามารถขอเปลี่ยนตัวแทนได้ไหม คือ ในวันที่สองหลังเกิดเหตุเราเห็นว่าประกันไม่มาดูแลเลย เราเลยโทรไปที่ศูนย์ของจังหวัดที่เกิดเหตุเพื่อขอเปลี่ยนตัวแทนที่มาดูเคส แต่เขาบอกว่าเปลี่ยนไม่ได้ เพราะคนนั้นรับเคสไปแล้วต้องดูแลจนจบ เลยสงสัยว่าเปลี่ยนไม่ได้จริงๆหรอ เพราะเขาดูแลได้แย่มาก