รีวิวความรู้สึกหลังชมจากรอบปฐมทัศน์ Man of Steel และ 5 ข้อควรรู้ก่อนไปชมหนัง [อ่านได้ ไม่สปอยส์ อย่าพลาด!!!]



No.32

จั่วหัว : การกลับมาของวีรบุรุษแห่งความหวัง ที่ผงาดได้อย่างสมเกียรติ เตรียมตะลึงงันกับภาพ บท ดนตรีที่เล่าเรื่องสุดทะเยอทะยานสะท้านฟ้าทะลุอวกาศ ฟินได้ทุกหย่อมหญ้า โดนใจไม่เหมือนหนังซุปเปอร์แมนฉบับไหนมาก่อน

MAN OF STEEL : บุรุษเหล็ก ซุปเปอร์แมน

คมนิด จี๊ดเลย : - แม้ว่าเราเลือกที่จะเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะเป็นได้ ไม่ว่าจะดีหรือเลว ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อโลกใบนี้
                      - จงใช้ความหวังนำทาง แล้วชีวิตจะพบทางสว่างด้วยตัวเอง                      

Napat's Rating : (A++++++++++++++++++++) , 10 /10  


Update เรื่องหนัง ทันใจ คลิิกLIKE!! : https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans


- คำเตือน : นี่คือเรตติ้งและความคิดเห็นส่วนตัวหลังชมหนังของผมคนเดียวเท่านั้น ย้ำว่าส่วนตัวนะครับ บางคนเห็นตรง บางคนอาจเห็นต่าง ถือว่าเอามาแลกเปลี่ยนทัศนะกันเฉยๆ โปรดอย่าได้ถือสากับคำวิจารณ์ของผมเลยนะครับ เพราะเป็นเพียงอีกหนึ่งเสียงจากการชมหนังในฐานะคนดูหนังธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น -

ปล.สำหรับบทความรีวิวหนังเรื่องนี้จะ แบ่งออกเป็นสองพาร์ทนะครับ คือพาร์ทสั้นแบบไม่สปอยส์ และพาร์ทยาวจัดเต็ม ซึ่งจะค่อยเผยแพร่อีกทีหลังหนังฉายนะครับ เพื่อไม่ให้เสียอรรถรส รีวิวสั้นจะไม่สปอยส์หนังครับ เพียงแต่จะบอกถึงความรู้สึกและสิ่งที่ควรรู้ก่อนไปชมครับ


จากใจ..ถึงหนังเรื่องนี้(ฉบับสั้น ไม่สปอยส์) : สำหรับหนัง Man of Steel หลังจากได้ชมในรอบปฐมทัศน์ สองคำแรกที่นึกออกหลังเครดิตขึ้นคือ "ชิบหาย ตายแล้ว!!!!" นี่เรานั่งดูรู้สึกตัวอีกทีหลังดูจบเลยเหรอแฮะ ลืมแม้กระทั่งนั่งหายใจอยู่ไปเลยจริงๆสำหรับเรื่องนี้ มัน...เกินบรรยาย ทุกโมเมนต์ช่างพาผมดำดิ่งไปกับเรื่องราวแบบสุดขอบ สุดติ่ง สุดบรรยาย นี่คือหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่มีความทะเยอทะยานทางด้านภาพและการเล่าเรื่องสูงสุดเท่าที่เคยดูมา กระนั้นความขลังของมันหรือด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้สามารถทำให้ผมเสียน้ำตาได้ตั้งแต่ยังไม่พ้นสิบนาทีแรกของหนังด้วยซ้ำ เอาเป็นว่าฟิน!!และพูดได้เต็มปากละว่านี่คือหนังที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับผมในรอบครึ่งปีแรก

สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราสามารถเสียน้ำตาให้กับ Man of Steel ทั้งๆที่ยังไม่พ้นสิบนาทีแรก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะนอกจากเราจะให้ใจไปกับมันจากตัวหนังได้แล้ว การที่ได้เห็นฮีโร่ตัวพ่อที่เรารักมากๆไปโลดแล่นผงาดอยู่บนจอแบบสมศักดิ์ศรีอีกครั้ง มันเป็นความรู้สึกที่ปลาบปลื้มอยู่ในใจจนอดไม่ได้ที่จะแสดงความรู้สึกตื้นตันออกมาจริงๆ มันคือซุปเปอร์แมนที่มีชีวิตทั้งภายนอกและภายในจิตวิญญาณ พรุ่งนี้ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไร แต่สำหรับเรามันTouchหัวใจมากๆ

การขุดฮีโร่รุ่นปู่มาปลุกปั้นใหม่ให้ไฉไลแบบนี้ไม่ได้ทำง่ายๆ ถ้าไม่มีฝีมือเก๋าเกมส์พอล้วนแป๊กสถานเดียว แต่วันนี้แซ็ค สไนเดอร์ และคริสต์โตเฟอร์ โนแลน และทีมงานสร้างทุกคนได้พิสูจน์แล้ว ว่าฮีโร่ผ้าคลุมแดงสามารถกลับมาผงาดแบบสมศักดิ์ศรีบนจอหนังได้อีกครั้ง

ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ แต่อยากให้พิสูจน์เอง..แล้วมนต์เสน่ห์จากหนังจะพาคุณ"บิน"

5 ข้อควรรู้ก่อนไปดู Man of Steel

1.หนังเรื่องนี้ดำเนินเรื่องค่อนข้างเร็ว และต่อเนื่อง ไม่ควรพลาดตั้งแต่ฉากแรกของหนัง ช่วง20นาทีแรกจะมีผลต่อหนังทั้งเรื่อง ถ้าเข้าช้าอาจไม่เข้าใจหรือเข้าไม่ถึงเนื้อหาส่วนที่เหลือก็เป็นได้ และ 40 นาทีสุดท้ายของหนัง ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งเช่นกัน เพราะมันอาจทำให้หัวใจคุณรัวกระหน่ำพอๆกับดนตรีประกอบในเรื่องก็เป็นได้

2.หนังต้องการความเรียลตามวิสัยทัศน์ของผู้กำกับ แซ๊ค สไนเดอร์ จึงเลือกใช้การถ่ายแบบ Handheld มาใช้ในหลายๆฉาก ทำให้ภาพที่เห็นอาจจะสั่นๆกระตุกๆ แต่สำหรับผมผู้ซึ่งไม่ค่อยชอบเทคนิคนี้ในหนังซะเท่าไหร่ กลับรู้สึกรับได้ และไม่วิงเวียนหัวจนเกินไป เพราะมันดูเข้ากับเรื่องดีสำหรับเรื่องนี้ แต่ท่านก็อย่าตกใจไป หากมีการซูมเข้าซูมออกอย่างบ้าคลั่งในบางเวลา

3.การรับชมในระบบสามมิตินั้น และถ้าเป็นไอแมกซ์จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการชมได้มากยิ่งกว่าเดิม ถ้าต้องการจัดหนัก จัดเต็ม ก็ไม่ควรพลาดในระบบนี้ แต่ควรระวังอย่างนึงคือ ไม่ควรนั่งใกล้จอจนเกินไป เพราะการเคลื่อนไหวของภาพที่รวดเร็ว อาจทำให้เราเก็บรายละเอียดจากหนังไม่ทันก็ได้

4.นี่คือหนังแอ๊คชั่น ย้ำว่าแอ๊คชั่น ซึ่งอาจมีแนวอื่นๆปะปนอยู่ด้วยเพื่อเติมเต็มให้หนังออกมาครบรสมากขึ้น แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะเหมือนภาคที่แล้ว ที่เนือยๆเอื่อยๆนี่ไม่มีให้เห็นแน่นอน เพราะนี่คือซุปเปอร์แมนในฉบับที่รีรันใหม่เหมือนไม่เคยสร้างหนังเรื่องนี้มาก่อน ทุกอย่างจะรันไปตามเรื่องราวอย่างไม่รอช้า จะว่าไปมันคือ ซุปเปอร์แมน บีกินส์ ดีๆนี่เอง ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมัน

5.จากข้อที่แล้ว บางคนที่ต้องการเข้าไปถวิลหาความคลาสลิคในแบบฉบับเก่า อาทิเพลงธีม หรือ กกน. แม้แต่ตู้โทรศัพท์ จะไม่มีมาให้เห็นอีกต่อไป มีนักวิจารณ์เมืองนอกบอกว่า เรื่องนี้ทำดีนะ แต่เสียรสชาติหนังดั้งเดิมที่เคยสร้างมาแล้วอย่างสิ้นเชิง แต่กระนั้น ผู้สร้างหนังรอบนี้กลับไม่ใช่โนเนมที่ไหน แต่เป็นผู้กำกับจอมบ้าพลังอย่าง แซ๊ค สไนเดอร์แห่ง 300 และ Watchmen ผนึกกำลังกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่มาในฐานะโปรดิวซ์เซอร์ แต่เคยกำกับหนัง The Dark Knight ทั้งสามภาคล่าสุดที่โด่งดังเป็นพลุแตก จะว่าไปถ้าเรื่องนั้นมันออกดาร์คๆ เรื่องนี้โทนจะสว่างๆ แต่เนื้อเรื่องก็เปี่ยมไปด้วยความเข้มข้นไม่แพ้กันเลยทีเดียว

หวังว่าเพื่อนๆจะได้รับความสนุกจากหนังเรื่องนี้กันนะครับ และในอีกสักพักผมจะเขียนรีวิวฉบับเต็มเพื่อมาพูดถึงเนื้อหนังและวิเคราะห์เรื่องราวในหนัง รวมถึงตัวละครกันอีกทีครับ เพราะมีอะไรน่าพูดถึงหลายอย่างมาก มีคำพูดดีๆน่าเก็บมาคิดหลายฉาก ขอไปดูต่ออีกรอบก่อนแล้วพบกันใหม่ครับ


ปล.สุดท้ายนี้ ขอฝากคลิปไวรัลตัวใหม่และหนังตัวอย่างทีเซอร์ "หนังซอมบี้-ไซไฟ" ผลงานเรื่องใหม่ของผมไว้ด้วยนะคร้าบ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ




คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ




อันนี้ตัวอย่างหนัง "Man of Steel" ครับ จริงๆชอบทุกตัวอย่างที่ออกมานะ แต่ผมชอบตัวอย่างนี้ที่สุดแล้วครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ




มีเบื้องหลังงานสร้างมาให้ชมกันด้วยครับ ผมหาแบบที่มีซับไทยที่มีแฟนๆใจดีได้แปลไว้มาโพสจะได้ชมกันเข้าถึงมากขึ้นครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



แถมดนตรีที่สุดยอดมากๆจากหนังโดยนักประพันธ์ดนตรีดีกรีชนะเลิศออสการ์อย่าง Hans Zimmer ครับ ลองฟังกันดู นี่แค่ตัวอย่างจิ๊บๆของดนตรีทั้งหมด แล้วจะรู้ว่ามัน...ขนาดไหน

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ






ติดตามผลงานรีวิวอื่นๆและผลงานหนังสั้นต่อได้ที่นี่ครับ

ใครชอบอ่านรีวิวหรืออยากติดตามเรื่องราวข่าวสารดีๆจากผม

ผมจะไป"แชร์"ให้ทุกท่านโดยตรงในเพจด้านล่างนี้นะคร้าบ มาLikeเยอะๆนะคร้าบ คลิกไปแล้วไม่ผิดหวังครับ!!


https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans

https://www.facebook.com/S.L.Studios.Ent

ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่