ขอรีวิวแบรนด์ที่ใช้แล้ว ในความคิดเห็นส่วนตัวเราเห็นว่าดีนะคะ
กระเป๋าสตางค์หนังของผู้หญิง แบรนด์ Gian Ferrante (เจียน เฟอเรนเต้)
เริ่มที่กระเป๋าสตางค์หนังของผู้หญิง แบรนด์ Gian Ferrante ค่ะ เป็นแบรนด์ที่หาซื้อได้ตามห้างทั่วไปนะคะ ปกติเราเป็นคนที่ชอบใช้กระเป๋าเงินแบบผู้ชายค่ะ ก่อนหน้านี้ใช้อีกยี่ห้อ (GLR) ค่ะ เพราะคนแนะนำมา ปรากฏว่า ใช้ๆไปแล้ว ช่องใส่บัตรไม่พอดีเหมือนเดิม ทำให้บัตรหล่นบ่อยมาก แล้วก็ช่องน้อยเกิน ใส่ไม่จุใจ เราเลยหาซื้อใบใหม่เป็นใบนี้ ปรากฏว่าถูกใจมากเลยค่ะ ข้างนอกเป็นลายโมโนแกรมของแบรนด์ ชอบตรงที่ช่องใส่บัตรด้านในมีเยอะ และมีความฟิตกำลังดี ไม่หล่นหายเลย ฟังก์ชั่นเต็มมากๆ สรุปแล้วชอบค่ะ
กระเป๋าสะพายผู้ชาย Gian Ferrante (เจียน เฟอเรนเต้)
กระเป๋าสะพายใบนี้เป็นของคนใกล้ตัวใช้ค่ะ(ฝาชี) แบรนด์เดียวกับใบด้านบน แต่เป็นของผู้ชายค่ะ ขนาดกว้างยาวจะเล็กกว่าเอ 4 นิดนึงนะคะ ก่อนหน้านี้ไปดูที่ห้างหลายรอบแล้วก็ตัดสินใจซื้อค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะซื้อใบใหญ่ แต่คิดว่าอยากได้อะไรคล่องตัวมากกว่า ไม่ได้เน้นใส่เอกสารสำคัญ ก็เลยซื้อไซส์นี้ค่ะ ฝาชีบอกว่ากำลังพอดีเลย หยิบของได้อย่างถนัดมือ เพราะความกะทัดรัดของช่องกระเป๋า ใส่ Tablet ขนาด 8 นิ้วได้สบายๆ เลยค่ะ แล้วก็ช่องเยอะดี เหมือนเป็นสไตล์ของแบรนด์นี้ไปแล้วเรื่องของฟังก์ชั่นถูกใจมากค่ะ
แชมพู (Black Shampoo) และครีมนวดผม (White Conditioner) แบรนด์ THLOS
จขกท เคยมีปัญหาผมร่วง พอใช้ไปสักระยะ ปัญหาผมร่วงน้อยลงไปเยอะเลยค่ะ เพราะแบรนด์นี้เค้าไม่มีสาร SLS (สารเพิ่มฟอง) ที่สำคัญคือ ใช้ไม่เปลือง เพียงนิดเดียวผมก็สะอาดแล้วค่ะ
คลีนเซอร์ล้างหน้า Cetaphil
ผิวหน้า จขกท เป็นผิวผสม คือ มันช่วงทีโซน แต่ไม่มันมาก เราใช้ Cetaphil เพียงอย่างเดียวล้างหน้าทุกวัน ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางชนิดอื่นๆ เลยค่ะ ตอนแรกก็กลัวว่าจะไม่สะอาด แต่ลองใช้ดูแล้ว ไม่มีปัญหาที่น่าหนักใจเรื่องสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้านะคะ สิวผด สิวเม็ดเล็กๆ ก็มีขึ้นบ้างตามปกติค่
Cetaphil Moisturising Cream
ครีมนี้ จขกท ใช้ทาปีกจมูกค่ะ เพราะเรามีปัญหาโรค seb derm (เซ็บเดิร์ม) ที่ร่องข้างปีกจมูก เป็นตลอดปี ไม่ว่าอากาศจะร้อน เย็น แห้ง ชื้น ยังไง เราก็มีปัญหานี้ ซื้อมาใช้โดยบังเอิญ ใช้นิดเดียวจริงๆ ค่ะ ทาตรงร่องข้างปีกจมูกทั้งสองข้าง เคยลองไม่ใช้ต่อประมาณสัปดาห์เดียว มีปัญหาเซ็บเดิร์ม เลยต้องซื้อมาใช้ต่อค่ะ จขกท ไม่ใช้ทาหน้า ทาแค่บริเวณที่มีปัญหาเซ็บเดิร์มเท่านั้นค่ะ
ครีมทาผิว Jergens (Shea Butter)
จขกท มีปัญหาผิวแห้งที่บริเวณเท้า แห้งเป็นขุย คัน มือแห้ง (ทั้งจากอากาศเย็น และการใช้น้ำยาล้างจาน) แต่พอใช้ Jergens (แบบ Shea Butter ราคาจะสูงกว่าชนิดอื่นๆ) แล้ว ผิวชุ่มชื้นมากๆ เลยค่ะ ใครผิวแห้งระดับเทพนี่ แนะนำครีม Shea Butter ของ Jergens นะคะ เอาอยู่จริงๆ
ครีมกันแดด SmoothE
ใช้หลอดนี้เป็นหลอดที่ 3 แล้วค่ะ เนื้อครีมข้น แต่ทาแล้วหน้าไม่มันวาว (ไม่ต้องใช้เยอะมากนะคะ) เนื้อครีมเป็นสีเนื้อค่ะ
วิธีใช้สะดวกกว่าแบบที่เป็นน้ำ คือ ไม่ต้องเขย่าก่อนใช้
แป้งเด็ก Reis Care
ทำจากแป้งข้าวเจ้า (ไม่ได้ทำจาก talcum) จขกท ทาหน้าด้วยแป้งนี้ทุกวันทำงาน หรือวันที่ต้องออกนอกบ้านค่ะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ วิธีใช้ก็เหมือนแป้งเด็กทั่วไป
แป้งทานาคา
เป็นของฝากจากพม่า ต้องหยอดน้ำใส่แป้นหินกลม แล้วใช้แก่นไม้ทานาคาถูให้เป็นฝุ่นปนกับน้ำ จขกท ทาหน้าในวันหยุด ไม่ได้ใช้ในวันทำงาน เพราะทาแล้วหน้าจะค่อนข้างแห้ง และตัวแป้งมีสีเหลืองอ่อนๆ พอเปียกน้ำ จะเกลี่ยยากค่ะ
[CR] * * * รีวิวไอเทม ทั้งกระเป๋า และเครื่องสำอาง ที่ใช้แล้วเห็นว่า “ดี” ค่ะ * * *
กระเป๋าสตางค์หนังของผู้หญิง แบรนด์ Gian Ferrante (เจียน เฟอเรนเต้)
เริ่มที่กระเป๋าสตางค์หนังของผู้หญิง แบรนด์ Gian Ferrante ค่ะ เป็นแบรนด์ที่หาซื้อได้ตามห้างทั่วไปนะคะ ปกติเราเป็นคนที่ชอบใช้กระเป๋าเงินแบบผู้ชายค่ะ ก่อนหน้านี้ใช้อีกยี่ห้อ (GLR) ค่ะ เพราะคนแนะนำมา ปรากฏว่า ใช้ๆไปแล้ว ช่องใส่บัตรไม่พอดีเหมือนเดิม ทำให้บัตรหล่นบ่อยมาก แล้วก็ช่องน้อยเกิน ใส่ไม่จุใจ เราเลยหาซื้อใบใหม่เป็นใบนี้ ปรากฏว่าถูกใจมากเลยค่ะ ข้างนอกเป็นลายโมโนแกรมของแบรนด์ ชอบตรงที่ช่องใส่บัตรด้านในมีเยอะ และมีความฟิตกำลังดี ไม่หล่นหายเลย ฟังก์ชั่นเต็มมากๆ สรุปแล้วชอบค่ะ
กระเป๋าสะพายผู้ชาย Gian Ferrante (เจียน เฟอเรนเต้)
กระเป๋าสะพายใบนี้เป็นของคนใกล้ตัวใช้ค่ะ(ฝาชี) แบรนด์เดียวกับใบด้านบน แต่เป็นของผู้ชายค่ะ ขนาดกว้างยาวจะเล็กกว่าเอ 4 นิดนึงนะคะ ก่อนหน้านี้ไปดูที่ห้างหลายรอบแล้วก็ตัดสินใจซื้อค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะซื้อใบใหญ่ แต่คิดว่าอยากได้อะไรคล่องตัวมากกว่า ไม่ได้เน้นใส่เอกสารสำคัญ ก็เลยซื้อไซส์นี้ค่ะ ฝาชีบอกว่ากำลังพอดีเลย หยิบของได้อย่างถนัดมือ เพราะความกะทัดรัดของช่องกระเป๋า ใส่ Tablet ขนาด 8 นิ้วได้สบายๆ เลยค่ะ แล้วก็ช่องเยอะดี เหมือนเป็นสไตล์ของแบรนด์นี้ไปแล้วเรื่องของฟังก์ชั่นถูกใจมากค่ะ
แชมพู (Black Shampoo) และครีมนวดผม (White Conditioner) แบรนด์ THLOS
จขกท เคยมีปัญหาผมร่วง พอใช้ไปสักระยะ ปัญหาผมร่วงน้อยลงไปเยอะเลยค่ะ เพราะแบรนด์นี้เค้าไม่มีสาร SLS (สารเพิ่มฟอง) ที่สำคัญคือ ใช้ไม่เปลือง เพียงนิดเดียวผมก็สะอาดแล้วค่ะ
คลีนเซอร์ล้างหน้า Cetaphil
ผิวหน้า จขกท เป็นผิวผสม คือ มันช่วงทีโซน แต่ไม่มันมาก เราใช้ Cetaphil เพียงอย่างเดียวล้างหน้าทุกวัน ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางชนิดอื่นๆ เลยค่ะ ตอนแรกก็กลัวว่าจะไม่สะอาด แต่ลองใช้ดูแล้ว ไม่มีปัญหาที่น่าหนักใจเรื่องสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้านะคะ สิวผด สิวเม็ดเล็กๆ ก็มีขึ้นบ้างตามปกติค่
Cetaphil Moisturising Cream
ครีมนี้ จขกท ใช้ทาปีกจมูกค่ะ เพราะเรามีปัญหาโรค seb derm (เซ็บเดิร์ม) ที่ร่องข้างปีกจมูก เป็นตลอดปี ไม่ว่าอากาศจะร้อน เย็น แห้ง ชื้น ยังไง เราก็มีปัญหานี้ ซื้อมาใช้โดยบังเอิญ ใช้นิดเดียวจริงๆ ค่ะ ทาตรงร่องข้างปีกจมูกทั้งสองข้าง เคยลองไม่ใช้ต่อประมาณสัปดาห์เดียว มีปัญหาเซ็บเดิร์ม เลยต้องซื้อมาใช้ต่อค่ะ จขกท ไม่ใช้ทาหน้า ทาแค่บริเวณที่มีปัญหาเซ็บเดิร์มเท่านั้นค่ะ
ครีมทาผิว Jergens (Shea Butter)
จขกท มีปัญหาผิวแห้งที่บริเวณเท้า แห้งเป็นขุย คัน มือแห้ง (ทั้งจากอากาศเย็น และการใช้น้ำยาล้างจาน) แต่พอใช้ Jergens (แบบ Shea Butter ราคาจะสูงกว่าชนิดอื่นๆ) แล้ว ผิวชุ่มชื้นมากๆ เลยค่ะ ใครผิวแห้งระดับเทพนี่ แนะนำครีม Shea Butter ของ Jergens นะคะ เอาอยู่จริงๆ
ครีมกันแดด SmoothE
ใช้หลอดนี้เป็นหลอดที่ 3 แล้วค่ะ เนื้อครีมข้น แต่ทาแล้วหน้าไม่มันวาว (ไม่ต้องใช้เยอะมากนะคะ) เนื้อครีมเป็นสีเนื้อค่ะ
วิธีใช้สะดวกกว่าแบบที่เป็นน้ำ คือ ไม่ต้องเขย่าก่อนใช้
แป้งเด็ก Reis Care
ทำจากแป้งข้าวเจ้า (ไม่ได้ทำจาก talcum) จขกท ทาหน้าด้วยแป้งนี้ทุกวันทำงาน หรือวันที่ต้องออกนอกบ้านค่ะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ วิธีใช้ก็เหมือนแป้งเด็กทั่วไป
แป้งทานาคา
เป็นของฝากจากพม่า ต้องหยอดน้ำใส่แป้นหินกลม แล้วใช้แก่นไม้ทานาคาถูให้เป็นฝุ่นปนกับน้ำ จขกท ทาหน้าในวันหยุด ไม่ได้ใช้ในวันทำงาน เพราะทาแล้วหน้าจะค่อนข้างแห้ง และตัวแป้งมีสีเหลืองอ่อนๆ พอเปียกน้ำ จะเกลี่ยยากค่ะ