บทนำ
บทที่
1 2 3 4
หนึ่งในสิ่งที่ยากของการแปลเรื่องนี้คือ ภาษาจูนิเบียว.....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทที่ 5 บทสนทนาจูนิเบียวและจูนิเบียวแบทเทิล
“เฮ้ โทงาชิ! ชั้นมีสิ่งที่นายอยากจะดูแน่ๆ! ผลจัดอันดับนี่ไง!”
เช้าที่สามนับตั้งแต่เริ่มติวให้ริกกะ ผมกำลังเดินไปโรงเรียน ก็ได้ยินกระดิ่งจักรยานของอิชชิกิจากข้างหลัง เราไม่ได้ไปโรงเรียนด้วยกันบ่อยนัก แต่นี่ก็เป็นอีกวันนึง ปกติผมจะเดินไปทุกวัน ส่วนอิชชิกิบางครั้งก็จะขี่จักรยานมา ซึ่งมักจะเป็นวันที่มีงานพิเศษหลังเลิกเรียน ท่าทางวันนี้จะเป็นวันที่อิชชิกิต้องทำงานพิเศษสินะ
อิชชิกิลงจากจักรยานแล้วลงเดินข้างๆผม
“อะไรเนี่ย!? เสร็จแล้วงั้นเหรอ! เอามาดูด่วนเลย!”
“หึๆๆ รอเดี๋ยว ใจเย็นก่อน เดี๋ยวก็ให้ดูน่า ผลที่ออกมาสุดยอดมาก! ชั้นประทับใจในการทำอันดับสาวน่ารักครั้งนี้มาก ประทับใจสุดๆ! วันนี้เราได้คุยกันเรื่องผลอันดับนี่กันทั้งวันแน่ๆ แต่จากที่ชั้นดูมาแล้วเนี่ย นายคิดบ้างรึเปล่าว่าห้องเราเนี่ยมีสาวๆน่ารักมากกว่ามาตรฐานเยอะเลยน่ะ? แถม ท่าทางชั้นคงต้องตรวจดูสิ่งที่จดบันทึกไว้ใหม่ซักหน่อยแล้ว เพราะมีข้อมูลใหม่ๆจากทุกๆคนมามากเลยจากการจัดอันดับนี่ หึหึ อยากรู้ผลแล้วล่ะสิ? หือ อยากรู้แล้วใช่มั้ยล่ะ?”
ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะครับ ตอนนี้อิชชิกิเข้าโหมดโรคจิตเต็มพิกัดแล้ว ก็รู้อยู่นะว่าชอบเรื่องเกี่ยวกับสาวๆน่ะ แต่วันนี้นี่ดูจะพล่ามเยอะเกินปกติมากเลย แต่ก็นะ ผมเองก็ผู้ชายเลยพอเข้าใจอยู่
“เอามาให้ดูได้แล้วน่า! ไม่งั้นก็บอกมาได้แล้ว!”
“เอ้าฟังนะ! ชั้นจะเริ่มจากผลจัดอันดับก่อน แล้วจะต่อด้วยข้อมูลใหม่ที่ได้มา!”
หลังจากตอบกลับด้วยอารมณ์เร่าร้อน อิชชิกิก็เอากระดาษที่มีเขียนลายมือหวัดๆ ไว้ว่า ‘ห้อง 1-4! ที่สุดแห่งอันดับสาวน่ารัก! – นางฟ้าของคุณจะอยู่ที่เท่าไรกันแน่ –' ออกมา
พอเห็นแล้วก็รู้สึกแหยงๆยังไงชอบกล ถึงขนาดลืมตบมุกกลับเลย แต่ก็อย่างที่บอก ผมก็ผู้ชาย เพราะงั้นก็ต้องอยากรู้เรื่องแบบนี้อยู่แล้ว
เริ่มจากอันดับ 1 ก่อนเลย
“อันดับที่ 1 ก็คือ…แน่นอน นิบุทานิ เพราะยังงี้เธอถึงได้เป็นสาวที่ชั้นแนะนำเป็นอันดับแรกๆเลย แต่ถ้าดูเฉพาะภายนอกล่ะก็ ชั้นเลือกคันนางิซังมากกว่า นี่เลยค่อนข้างน่าแปลกใจสำหรับชั้นน่ะนะ”

คิดย้อนกลับไปเมื่อวาน ผมพึ่งจะอยู่คุยกับสาวแนะนำของอิชชิกิไปเอง ถ้าผมบอกว่านิบุทานิไม่ใช่สาวที่น่าแนะนำพร้อมเหตุผลไปล่ะก็หมอนี่คงจะประหลาดใจน่าดู เพราะเมื่อวานเธอเริ่มต้นแบบพวก S แล้วจู่ๆ ตอนหลังก็กลายเป็นศัตรูของเหล่าจูนิเบียวทั้งปวงเลย
“ไม่ขนาดนั้นหรอกมั้งน่ะ”
อิชชิกิยังคงสานต่อความเร่าร้อน
“ก็นะ ถึงชั้นจะบอกว่าเธอเป็นสาวน่าแนะนำ แต่ก็ต้องบอกว่าชั้นแปลกใจจริงๆ คิดว่าน่าจะเพราะความเป็นผู้นำของเธอนี่ล่ะที่ทำให้เธอได้อันดับแรก เป็นจุดแข็งที่สุดของเธอเลย คันนางิซังอาจจะน่ารักมีเสน่ห์ที่สุด แต่สาวงามไม่ได้วัดกันแต่รูปลักษณ์ผิวพรรณ! ชั้นรู้ว่าทุกคนคงบอกเหมือนกันแหละว่าเธอน่ารัก แต่มันมีสิ่งที่มากกว่านั้นที่ช่วยเสริมให้สาวสวยน่ารักมีความสง่างามได้! สังคมทุกวันนี้ ผู้ชายอย่างเราๆมักจะขี้อาย! เป็นพวกสัตว์กินพืชนั่นไงล่ะ! ต้องขอบคุณคนที่คิดคำที่เข้าใจง่ายดีแบบนี้ขึ้นมาจริงๆ! เพราะงั้นมันเลยเป็นเรื่องปกติที่จะมองคนอย่างนิบุทานิเป็นคนมีเสน่ห์ที่สุด! ไม่ใช่แค่พูดลอยๆด้วย! ลองดูเวลาที่เธอทำตัวเป็นกันเองเวลาพูดคุยกับพวกเราที่แสนต่ำต้อยดูสิ ความสง่างามแบบนั้นเป็นของคู่กาลเวลามาเนิ่นนานนัก! เป็นสิ่งหอมหวานที่เหล่าชายสมัยนี้โหยหาอย่างแท้จริง!”

ครึ่งแรกก็ดูเร่าร้อนดีนะ แต่ครึ่งหลังนั่นนี่ไม่ไหว หมอนี่พูดอะไรของมันกันแน่เนี่ย?
อิชชิกิพูดออกมายาวมากจนผมไม่มีจังหวะจะตบมุกเลย ตามไม่ทันเลยจริงๆ แถมนี่เป็นครั้งแรกที่เห็นคนบอกว่าดีใจที่ถูกจัดให้เป็นพวกสัตว์กินพืชด้วย
“เข้าใจแล้วน่า ชั้นก็เห็นด้วยว่ารอบตัวเธอให้บรรยากาศแบบนั้นจริง ทุกคนในห้องทั้งผู้ชายผู้หญิงคงพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า เธอพึ่งพาได้แน่นอน”
นั่นเป็นข้อดีเกี่ยวกับเธอที่ผมคิดออก
“หือ? หรือนายมีข้อโต้แย้งอะไรงั้นเหรอ?”
“เปล่าๆ ก็ไม่ได้จะโต้แย้งอะไรหรอกนะ…ก็แค่ชั้นไม่มั่นใจว่าจะจัดให้นิบุทานิเป็นคนประเภทนั้นได้จริงรึเปล่า”
“อืม คิดว่าเธอเป็นคนเข้าใจยากงั้นสินะ”
“ก็ ไม่ขนาดนั้นหรอก”
ผมเริ่มก้าวเท้ายาวขึ้นเหมือนพยายามจะหนีห่างออกจากอิชชิกิ ผมอยากจะจบเรื่องที่คุยกันอยู่นี้ซะ เพราะผมไม่เข้าใจตัวนิบุทานิเลย ไม่เข้าใจจริงๆ
อิชชิกิตามผมขึ้นมาด้วยจักรยานนั่น แถมทำหน้ายิ้มมีเลศนัยเหมือนคิดอะไรออกมาได้
“ฮะฮ่า หรือจะเป็นเพราะเรื่องอื่น? หรือนายจะผิดหวังที่เป็นคนเดียวที่โหวตให้ทาคานาชิซังล่ะ?”
“บ้าเรอะ!? ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย ไม่ใช่แม่แต่นิดเดียวเลย”
ผมตอบกลับไปแบบแทบไม่ทันได้คิดอะไรเลย แต่ตอบปฎิเสธทันทีแบบนี้ด้วยแล้ว อิชชิกิคงจะไม่เชื่อผมแน่ๆ
ก็ไม่ได้จะบอกว่าไม่รู้สึกผิดหวังนะ ที่มีผมโหวตให้เธอคนเดียวน่ะ แต่ผมก็อุตส่าห์คิดนะว่าน่าจะมีใครคนอื่นอีกที่มองว่าเธอน่ารักเหมือนกันน่ะ ถ้ามีจริง ผมอาจจะคุยถูกคอกับคนคนนั้นก็ได้ แต่ว่านะ นั่นก็อาจจะทำให้มีเรื่องบาดหมางกันเองด้วย ผมอาจจะมีคิดว่า ‘เฮ้ย! คนที่จะบอกว่าเธอน่ารักได้มีชั้นคนเดียว’ อะไรแบบนี้ แต่ก็อีกแหละ การที่มีผมคนเดียวที่โหวตให้เธอนี่มันไม่ใช่เรื่องที่จะรู้สึกดีได้เลย
ถ้าให้พูดก็ ผมรู้สึกทั้งดีใจและโดดเดี่ยวปนกันไปมาตั้งแต่เมื่อครู่แล้วล่ะ
คงเป็นเพราะผมเริ่มสนิทกับเธอมากขึ้น ความรู้สึกต่อตัวเธอที่เคยมีเลยเริ่มเปลี่ยนไป อย่างตอนแรกๆที่ผมคิดว่าเธอก็แค่เด็กสาวจูนิเบียวบ้าบอนั่นก็เรื่องนึงล่ะ เพราะงั้นพอเห็นผลการโหวตออกมาแบบนี้แล้ว เลยรู้สึกแย่ขึ้นมาหน่อยๆก็ได้มั้ง
“โอ๊ะ แต่แบบนั้นก็ดีนี่ ทาคานาชิซังจะได้เป็นของโทงาชิคนเดียวไง! เป็นโอกาสที่ดีแล้วนา จะได้ปักธงได้อย่างสบายใจคนเดียวไม่ต้องดิ้นรนแข่งกับใคร ไม่คิดงั้นเรอะ? จริงสิ วันนี้พวกนายก็จะติวหนังสือกันหลังเลิกเรียนด้วยใช่มั้ยละ?”
“อะไรนะ! เมื่อกี้พูดว่าชั้นทำอะไรนะ?”
“เขาลือกันไปทั่วทั้งห้องแล้ว เมื่อวานมีเมล์ส่งหากันไปทั่วเลยล่ะ ถึงชั้นจะไม่รู้ว่าทำไมถึงมาติวด้วยกันได้ก็เถอะ แต่ก็ไม่คิดจะสอดรู้สอดเห็นหรอกนะ! ที่ลลือกันก็ประมาณว่า ‘รู้รึเปล่า! ท่าทางทาคานาชิซังกับโทงาชิมีดื่มชากับติวหนังสือด้วยกันหลังเลิกเรียนด้วยล่ะ’ ไม่แน่ว่าตอนนี้ทั้งห้องน่าจะรู้เรื่องนี้กันหมดแล้วล่ะ” [Note: เข้าใจว่าล้อ K-ON! เพราะ หลังเลิกเรียน (Houkago) กับชา (Tea)]
“ใครมันคนเริ่มส่งข้อความกันเนี่ย!? ยังงี้มันต้องคุยกันหน่อยแล้ว แล้วพวกเราก็ไม่ได้ไปดื่มชาด้วยกันซะหน่อย! เข้าใจผิดกันไปแบบนั้นมันยิ่งทำให้ชั้นมีปัญหานะ!”
“ก็ที่พูดกันมันแบบนั้นนี่นา โอ๊ะ แล้วชั้นก็มีข่าวดีเกี่ยวกับเธอมาบอกด้วย สนใจฟังมั้ย?”
ข่าวดี?
ผมไม่คิดว่าจะมีข่าวอะไรที่ดีเกี่ยวกับริกกะที่เป็นจูนิเบียวเท่าไรหรอกมั้ง แถมจะว่าไปดูเหมือนวันนี้อิชชิกิพยายามจะยัดเยียดเรื่องทาคานาชิซังอย่างนั้น ทาคานาชิซังอย่างนู้นให้ผมอยู่นั่นแหละ
แล้ว มันเรื่องอะไรกันงั้นเรอะ?
“ก็ไม่ได้สนใจขนาดนั้นหรอกนะ ตะ แต่ถ้าอยากบอกก็บอกมาเลยก็ได้”
ผมอยากจะฟังเรื่องที่อิชชิกิจะบอก แต่ทำตัวเหมือนกับไม่อยากได้ยินอะไรทั้งนั้น รู้สึกว่าตัวเองดูทุเรศยังไงไม่รู้ที่ทำตัวแบบซึนเดเระเนี่ย
“เรื่องก็ เกี่ยวกับสาวที่สวมหน้ากากที่เล่าให้ฟังวันก่อน! ดูเหมือนนั่นจะไม่ใช่ทาคานาชิซังนะ เพราะท่าทางจะเป็นคนจากกลุ่มวิจัยอนิเมะที่สวมหน้ากากแล้วเล่นไปทั่วแม้แต่ในห้องพักครูก็ไม่เว้น มีทั้งพูดประโยคน่าอายจากเกมอะไรพวกนั้นด้วย ขอบอกว่าข้อมูลนี่เชื่อถือได้ค่อนข้างแน่ และนี่ก็เป็นข้อมูลจากเมล์ข้อความที่ส่งต่อๆกันมาเหมือนกัน บางทีนี่อาจจะทำให้ข่าวลือเรื่องเธอเป็นจูนิเบียวหมดไปก็ได้นะ เพราะเธอไม่ใช่คนที่สวมหน้ากากนั่นนี่ ถือเป็นข่าวดีสำหรับนายเลยล่ะเพื่อน!”
“……….”
บังเอิญว่าผมรู้ชัดแล้วนี่สิว่าเธอเป็นจูนิเบียวจริงแท้แน่นอน แบบนี้เลยไม่รู้จะพูดอะไรดีเลย
ถ้าให้พูดก็ คงดีใจที่ริกกะไม่ใช่คนที่สวมหน้ากากนั่นล่ะมั้ง มันทำให้โล่งใจหน่อยที่เธอไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องที่ใครบางคนไปก่อไว้ ผมรู้สึกว่าคนสวมหน้ากากอะไรนั่นคงเป็นการแกล้งกันเล่นซะมากกว่า แล้วก็ค่อนข้างมั่นใจว่าคนของกลุ่มวิจัยอนิเมะนั่นแหละที่มีท่าทีจะทำเรื่องแบบนั้นมากกว่าตัวริกกะ
“ก็อย่างที่เล่าไปล่ะนะ เอาเป็นว่าโชคดีกับช่วงดื่มชาละกันนะ ชั้นล่ะอิจฉานายจริงๆ อิจช้า~อิจฉา!”
“อ๊ะ นั่นก็แค่เธอไม่เก่งวิชาเลข แล้วชั้นก็แค่ช่วยสอนให้เธอต่างหาก…”
ระหว่างทางไปโรงเรียนอิชชิกิยังคงพูดเรื่องผลอันดับอย่างเมามัน พูดไปเรื่อยทั้งด้านดีของสาวๆแต่ละคน ผมทำได้แค่พูดตอบรับไปงั้นๆ เพราะในหัวผมตอนนี้มีแต่เรื่องวุ่นวายเกี่ยวกับริกกะกับนิบุทานิเต็มไปหมด โอ๊ะ พอพูดถึงนิบุทานิแล้ว…
“นี่อิชชิกิ มันดูแย่นะที่นายแผ่ออร่าหื่นกามวิปริตลามกออกมาชัดเจนแบบนั้นน่ะ”
“หา?”
อิชชิกิทำหน้างง
ผมก็ไม่อยากจะพูดอะไรต่อเพราะมันดูน่าสงสารกับหมอนี่ไปหน่อย มันจะดีกว่าถ้าเจ้าตัวรู้สึกตัวเองกับเรื่องบางเรื่องน่ะนะ
“เอ้ย! ที่พูดเมื่อกี้มันอะไรกัน!? ทำไมพูดกับชั้นแบบนั้นกันล่ะเนี่ย!?”
อิชชิกิลืมเรื่องจัดอันดับไปหมด กลายเป็นมาซักไซ้ถามผมเกี่ยวกับเรื่องเมื่อกี้แทน หลังจากหันไปมองอิชชิกิด้วยสายตาเวทนาแล้ว ผมก็รีบตรงไปโรงเรียนทันที

-------------------------------------------------------------------------------------------------
(Chuunibyou LN) บทที่ 5.....บทสนทนาจูนิเบียวและจูนิเบียวแบทเทิล
บทที่ 1 2 3 4
หนึ่งในสิ่งที่ยากของการแปลเรื่องนี้คือ ภาษาจูนิเบียว.....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้